ตอนที่ 591 ใจเต้นแต่กลับแสดงออกไปไม่ได้
“ไม่รีบ เรายังนั่งกันได้อยู่” ซย่าเสี่ยวหร่านพูดพร้อมกับสายตาที่มองไปในจุดที่อยู่ไม่ไกล ฟังจือหันกับลู่เสวี่ยเฉินกำลังพูดคุยกันอยู่
ผู้ชายสองคนโดดเด่นขนาดนั้น อยู่ที่ไหนล้วนเป็นจุดเด่นอย่างที่ปฏิเสธไม่ได้ นั่งเงียบอยู่ดูสง่างาม บรรยากาศเย็นชา
ซย่าเสี่ยวหร่านยิ้มและพิงกับโซฟาพร้อมกับพูดกับเหอสือกุย “คุณรู้ไหม ฉันตกใจหมดเลย”
หลังจากที่สายตาของเหอสือกุยมองจ้องเธอไม่กี่วินาทีก็เอ่ยถามขึ้นมาเบาๆ คำหนึ่ง “หือ?”
“คุณไม่ได้บอกฉันว่าแฟนของกานกานมีเบื้องหลังยิ่งใหญ่ขนาดนี้?” ตอนนี้ซย่าเสี่ยวหร่านแสดงท่าทางว่าตนเองประหลาดใจ แววตาที่มองเหอสือกุยเต็มไปด้วยการค้นหา “คุณอย่าบอกฉันว่าคุณไม่รู้ว่าสองคนนั้นเป็นใครนะ”
“พวกเขาเป็นใครสำคัญมากเหรอ” แววตาของเหอสือกุยมองเธอลึกซึ้งพลางย้อนถามด้วยเสียงเรียบ
“บอกว่าไม่สำคัญจะว่าไม่สำคัญ แต่บอกว่าสำคัญก็สำคัญมาก เพียงแต่คนฐานะแบบนี้กลับหมั้นกับกานกาน คุณไม่กลัวว่าเขาจะทำร้ายกานกานเหรอ ต่อไปถ้า…” ซย่าเสี่ยวหร่านขมวดคิ้วน้อยๆ คล้ายกับเป็นกังวล
“เรื่องหลังจากนี้ใครจะรู้กันได้ล่ะ ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้พวกเขาอาจจะเลิกกันแล้ว” เหอสือกุยพูดแทรกคำพูดซย่าเสี่ยวหร่าน เป็นประโยคที่แฝงความหมายลึกๆ เอาไว้
“ก็ใช่” ซย่าเสี่ยวหร่านยิ้มขี้เล่น สายตามองจ้องเหอสือกุยไม่วาง “ถ้าเป็นฉัน ฉันจะเลือกคุณ”
เหอสือกุย “…”
เสียงที่พวกเขาพูดคุยกันเบามาก เจียงฉี่ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เธอถือแก้วน้ำผลไม้จากพนักงานที่กินไปเกือบครึ่ง ยิ่งดื่มยิ่งรู้สึกไม่อร่อยจึงลุกไปหาอวี๋กานกาน
พอดีกับที่เยี่ยซีและอวี๋กานกานก็คุยกันเสร็จแล้ว เห็นเจียงฉี่ออกมาเขาจึงปั้นยิ้มชั่วร้ายให้อวี๋กานกานพร้อมกับโบกมือ “พวกเธอคุยกันเถอะ ฉันเข้าไปกินเหล้าละ”
หลังจากอวี๋กานกานมองตามเยี่ยซีจึงถามเจียงฉี่ด้วยรอยยิ้มกว้าง “เสี่ยวฉี่ เธอออกมาทำไม ไม่ร้องเพลงเหรอ”
คืนนี้เอาแต่รู้สึกว่าเจียงฉี่หน้านิ่วคิ้วขมวด ท่าทางเศร้าสร้อย
“ฉันร้องเพลงไม่เพราะ”
“วันนี้เธอเป็นอะไรไป ฉันเห็นเหมือนกับอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่หน่อยๆ” อวี๋กานกานจูงมือเจียงฉี่พร้อมกับถาม
เจียงฉี่หลุบตาลง คิดแล้วจึงพูดอย่างเชื่องช้า “อาจเป็นเพราะต้องกลับไปแล้ว”
“กลับไป?”
“สุขภาพของคุณปู่ไม่เป็นอะไรมากแล้ว ฉันก็ควรกลับมหาวิทยาลัยไปเรียนวิชาที่เหลือให้เรียบร้อย” เสียงของเจียงฉี่เบามาก ในความอ่อนโยนนั้นเจือความเศร้าใจอยู่เล็กน้อยและเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ “คาดว่าเจอหน้าอีกทีคงหลังจากนี้หลายเดือนเลย”
“อย่าเศร้าไป ตอนนี้การเดินทางเจริญขนาดนี้ คิดถึงเราก็บินกลับมาได้ทันทีแล้ว ตั๋วเครื่องบินให้พี่ชายเธอจ่ายเงินให้ก็ได้ ถ้าพาแฟนมาด้วยแล้วล่ะก็งั้นไม่จ่ายให้แล้ว” อวี๋กานกานพูดหยอก
ระหว่างที่ถูกอวี๋กานกานอบรมพร้อมกับหยอกเล่น เจียงฉี่ก็อารมณ์ดีขึ้นมากแล้ว
“งั้นพวกเราเข้าไปร้องเพลงด้วยกันเถอะ แม้จะร้องไม่เป็น แต่พวกเราไม่ต้องใช้ไมโครโฟนร้องคู่กันก็ได้”
“พี่สะใภ้ พี่เข้าไปก่อน ฉันจะโทรหาเพื่อนแล้วค่อยเข้าไป”
“ได้”
หลังจากที่รอให้อวี๋กานกานเข้าไป คิ้วของเจียงฉี่ก็ขมวดเล็กน้อย เดินไปที่ดาดฟ้าด้านข้าง ไกลจากเสียงดังรบกวนจากห้องวีไอพี
เหมือนกับความรักของเธอยังไม่ทันเริ่มก็ต้องจบลงแล้ว ว่าแล้วตัวเธอเองก็รู้สึกตลก เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเธอแค่คิดว่าผู้อาวุโสคนนี้เป็นคนหนึ่งที่ไม่เลวเลยทีเดียว”
เป็นแค่ผู้อาวุโสชัดๆ เขายังโตกว่าพี่ชาย เขาเลี้ยงพี่สะใภ้จนโต เธอควรเคารพเขาเป็นผู้อาวุโส แต่เธอกลับหวั่นไหว
เธอชอบชายหนุ่มที่สุภาพเรียบร้อยให้ความรู้สึกอบอุ่นในใจ
แต่ว่าเขา…
ตอนที่ 592 โฉมหน้าที่แท้จริง รอให้ถูกเปิดเผยเถอะ!
เจียงฉี่ยืนอยู่ที่ดาดฟ้า ก้มลงมองแสงไฟนับร้อยพันในเมืองหลวง ลมเย็นพัดมาครู่หนึ่ง ความคิดที่ว้าวุ่นค่อยๆ สงบลง
ผ่านไปไม่นาน ในใจก็รู้สึกผ่อนคลายและใจเย็น อารมณ์แปรปรวนในส่วนลึกของจิตใจต่างมลายหายไปหมด
ในตอนนี้เธอเพิ่งจะรู้สึกว่าเหมือนกับหนาวขึ้นมานิดหน่อยจึงรีบดึงเสื้อเตรียมจะกลับไป
พอผลักประตูเปิดก็เห็นข้างหน้าไม่ไกลซึ่งซย่าเสี่ยวหร่านกำลังคุยต่อหน้ากับชายหนุ่มรูปหล่อสวมชุดสูท
จากมุมของเธอเห็นพวงแก้มแดงน้อยๆ ของซย่าเสี่ยวหร่านได้ การมองเห็นไม่ชัดเจน
เจียงฉี่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
นั่นคือพี่ชาย ฟังจือหัน เมื่อก่อนซย่าเสี่ยวหร่านกับพี่รู้จักกัน?
ดูแล้วไม่เหมือน!
เป็นอาจารย์เหม่ยเหรินที่พาซย่าเสี่ยวหร่านมาชัดๆ ตอนนี้ทำไมถึงได้ดูประหม่าปนเขินอาย มองพี่ด้วยความรู้สึกลึกซึ้งกันล่ะ
นี่คือจะอ่อยพี่เหรอ
เจียงฉี่เผลอรู้สึกว่าอาจารย์เหม่ยเหรินถูกซย่าเสี่ยวหร่านหลอก เขานิสัยดีเกินไปจริงด้วยจึงนึกว่าใครก็นิสัยดีกันหมด ใครจะรู้ว่าผู้หญิงมีหลายหน้า
แต่เธอก็กลัวว่าตนเองจะคิดมากไปจึงหลบไปด้านหลังบอนไซต้นใหญ่โดยสัญชาตญาณ
“คุณฟัง เมื่อก่อนเราเคยเจอกันครั้งหนึ่ง ไม่รู้ว่าคุณยังจำได้ไหม” ซย่าเสี่ยวหร่านมองฟังจือหันไม่วางตา นัยน์ตาคล้ายกับฉายแววยั่วยวน ต้องการนำวิญญาณของฟังจือหันไปอย่างนั้น
ฟังจือหันมองเธอแวบหนึ่งอย่างเย็นชา ตอบเเธอเรียบๆ ไปสามพยางค์ “จำไม่ได้”
ซย่าเสี่ยวหร่านตะลึงอยู่นิดหน่อย สีหน้าค่อนข้างประหม่า “แต่ว่าฉันกลับจำคุณฟังได้ตลอดเลย คิดไม่ถึงเลยว่าคุณฟังจะเป็นคู่หมั้นของกานกาน ฉันยังนึกว่ากานกานเป็นแฟนของเหอสือกุยมาโดยตลอด ที่แท้ฉันเข้าใจผิดไป”
แววตาเย็นชาของฟังจือหันสบเข้ากับเธอ
“ฉันนึกว่าคุณฟังเป็นคนที่ทะนุถนอมอ่อนโยนมาโดยตลอด แต่ตอนนี้แววตาที่คุณฟังมองฉันเย็นชามากจริงๆ แต่ถ้าคุณชอบมองแบบนี้ เราสามารถหาสักที่นั่งลงค่อยๆ มอง คุณอย่างมองยังไงก็มองไปเรื่อยเลย อีกทั้งจะเริ่มมองจากไหน” ซย่าเสี่ยวหร่านพูดเสียงอ่อนแต่นัยน์ตาดำขลับคล้ายกับมีสระน้ำใสแจ๋ว
คำพูดนี้ถือว่าเป็นการบอกใบ้นัยๆ ค่อนข้างชัด
“ไม่อยากให้ผมโยนคุณออกไปก็ช่วยอยู่ให้ห่างจากผมหน่อย”
เสียงของฟังจือหันคล้ายกับปกคลุมไปด้วยความหนาวเหน็บ เย็นชาเหมือนตบหน้าเธอเข้า
ซย่าเสี่ยวหร่านอึ้งไปพักหนึ่งคล้ายกับตกใจ อีกทั้งคล้ายกับว่าไม่ตกใจ พูดพร้อมกับยิ้ม “คุณฟังพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร ฉันแค่อยากจะคุยกับคุณไม่กี่ประโยค ทำไมคุณถึงได้โมโหล่ะ นี่คุณกำลังเข้าใจอะไรฉันผิดเหรอ”
เข้าใจผิด?
นี่มันจะเข้าใจผิดได้ยังไงกัน เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเธอกลับกลอก ต้องการจะอ่อยพี่ชาย แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะเตะถูกแผ่นเหล็กเข้า…เจียงฉี่ซึ่งแอบฟังอยู่โมโหจนเกือบจะกระทืบเท้า
เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าซย่าเสี่ยวหร่านคนนี้กลับเป็นผู้หญิงที่หน้าไม่อายแบบนี้ รู้อยู่ชัดๆ ว่าวันนี้เป็นงานเลี้ยงหลังจากการหมั้นหมายยังอ่อยคู่หมั้นคนอื่นเขา
อาจารย์เหม่ยเหรินชอบผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไงกัน?!!
ขณะที่คิดจะเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้ยังไงดี ซย่าเสี่ยวหร่านก็เดินไปเหลือแค่ฟังจือหัน
ตาคมเหลือบมองไปทิศทางของบอนไซ ฟังจือหันสาวเท้าเข้าไปหลุบตาถามเธอ “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้”
เจียงฉี่ก้มหน้าลง ตอบด้วยเสียงอ่อย “เมื่อกี้ยืนอยู่ที่ระเบียงครู่หนึ่ง ไม่คาดคิดว่าจะเจอพวกพี่เข้า…”
ฟังจือหันตอบอย่างเย็นชา “อย่าบอกพี่สะใภ้เธอ”
เจียงฉี่รับคำโดยไม่รู้ตัว เธอไม่บอกพี่สะใภ้ได้ แต่เธอต้องบอกอาจารย์เหม่ยเหรินแน่ จะต้องกระชากหนังแกะที่ซย่าเสี่ยวหร่านห่มอยู่บนตัวออกมาอย่างแน่นอน!