ตอนที่ 1700 อดีตของอวิ๋นลั่วเฟิง (3)
สตรีงดงามหัวเราะเยาะ “แกไม่เคยได้ยินหรือว่า ‘เงินทำให้ปีศาจหนักใจ’ แต่ว่าพวกเราต้องขอบคุณที่พ่อแม่แกทิ้งทรัพย์สมบัติจำนวนไว้ให้พวกเรา จนทำให้พวกเราอยากจะทำอะไรก็ได้”
“สบายใจได้ หลังจากที่ส่งแกไปที่บ้านเด็กกำพร้าแล้ว ข้าจะจ่ายเงินจ้างให้เขียนข่าวว่าแกเป็นคนไร้เหตุผลและป่าเถื่อนมากถึงขั้นทำร้ายลูกพี่ลูกน้องของแกเอง ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเรากลับมาทัน ลูกพี่ลูกน้องของแกคงตายด้วยน้ำมือแกไปแล้ว”
“ส่วนเงินที่ได้มา…ฉันก็แค่บอกว่าจะเอาไปบริจาค ส่วนความจริงจะมีใครรู้กันล่ะ”
ไหล่ของเด็กหญิงสั่นอย่างต่อเนื่อง ไม่รู้ตัวเธอสั่นเพราะความโกรธหรือความเศร้า
“อ้อ จริงสิ…” ดวงตาของสตรีใบหน้างดงามเป็นประกายก่อนจะยิ้มเยาะ “ให้ฉันได้บอกอะไรแกสักเรื่อง แกรู้ไหมว่าตอนนั้นแม่แกแท้งได้ยังไง เพราะว่าลุงแกกับฉันยังไงล่ะ! ถ้าเกิดหล่อนมีลูกชาย ทรัพย์สมบัติก็ไม่มีทางตกเป็นของพวกเรา แต่ฉันก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าพวกมันจะตายเร็วแบบนี้! ฮะ ฮะๆ พวกมันตายก็ดีแล้ว!”
เด็กหญิงตัวน้อยเบิกตากว้าง ดวงตาของเธอแดงก่ำ ทันใดนั้นเธอก็กระโจนเข้าหาสตรีงดงามแล้วกัดเข้าที่แขนเธอ
“อ้า!” เธอกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและพยายามสะบัดและผลักเด็กหญิงให้ออกไปจนทำให้ศีรษะของเด็กน้อยกระแทกเข้ากับขอบโต๊ะจนเลือดไหลไม่หยุด แต่ว่าเธอก็ไม่ได้ร้องไห้และจ้องผู้หญิงสวยคนนั้นอย่างงเคียดแค้น
“พอได้แล้ว!” ชายคนนั้นเอามือทุบโต๊ะแล้วพูดอย่างเคร่งเครียดว่า “ถึงอย่างไร ตระกูลอวิ๋นของพวกเราก็เลี้ยงแกมาสองสามปี นี่เป็นวิธีที่แกตอบแทนป้าของแกเหรอฮะ ที่สำคัญพ่อแกก็เป็นน้องชายของฉัน ฉันจะรับมรดกของเขามันผิดตรงไหน แกโทษพ่อแกที่ไม่มีลูกชายและไม่ยอมยกทรัพย์สมบัติให้หลานชายแต่กลับยืนยันที่จะยกเงินให้ลูกสาว!”
“ยกบริษัทให้ลูกสาวจะมีประโยชน์อะไรกัน มันก็ไม่ต่างกับยกให้คนนอกหรอก แทนที่ะยกผลประโยชน์ให้คนนอกสู้เอามาให้หลานชายเขาเสียดีกว่า อย่างน้อยหลานชายก็ยังเป็นคนในครอบครัว!”
ชายคนนั้นมองเด็กหญิงตัวน้อยด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธและเกลียดชังขณะที่หัวเราะเยาะอย่างเหยียดยาม
เขาไม่คิดว่าตัวเองผิด เด็กผู้หญิงก็ต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลคนอื่น กลับกันลูกชายมีนามสกุลเดียวกัน เขาไม่เคยได้ยินว่ามีใครยกทรัพย์สมบัติให้คอื่นแทนที่จะให้ครอบครัวตัวเอง
เด็กน้อยกัดปาดแน่นจนเลือดไหลแต่เธอก็ไม่ใส่ใจ สายตาเกรี้ยวกราดของเธอคมเหมือนมีดแล้วจ้องคู่สามีภรรยาคู่นี้โดยไม่ละสายตา
เจตนาฆ่าฟันในร่างของอวิ๋นเซียวไม่สามารถเก็บกดเอาไว้แล้วระเบิดออกมา เขากำหมัดแน่นขณะที่ดวงตาไร้ความปรานีของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารแต่ว่าไม่ว่าเขาจะโมโหแค่ไหน พวกเขาก็อยู่ที่อีกห้วงเวลาหนึ่งละเขาจะทำอะไรได้
ไม่แปลกใจเลย…ไม่แปลกใจเลยที่นางเป็นคนเด็ดเดี่ยวและโหดร้ายแต่ก็ให้ความสำคัญกับญาติพี่น้องเพราะว่าอดีตของนางนี่เอง…
ตอนที่หัวใจของอวิ๋นเซียวบีบรัดด้วยความเจ็บปวด ฉากตรงหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเป็นบริเวณถนนที่มีผู้คนจำนวนมากชี้นิ้วไปที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง
“เธอเห็นข่าวเมื่อวานหรือเปล่า เด็กผู้หญิงคนนี้ชื่ออวิ๋นลั่วเฟิง เธอพยายามจะฆ่าลูกพี่ลูกน้องเพราะลุงกับป้าของเธอเอ็นดูลูกของพวกเขา เฮ้อ อายุเท่านี้ก็โหดร้ายเลวทรามขนาดนี้แล้ว โตขึ้นก็ไม่พ้นไปเป็นฆาตกร คนแบบนี้ควรถูกขังไว้ในคุกและไม่ควรจะได้รีบการอภัยแม้จะยังเด็กก็ตาม”
“ฉันได้ยินมาว่า ลุงกับป้าได้รับมรดกจากพ่อแม่ของเธอ พวกเขาก็เปิดบัญชีและฝากเงินทั้งหมดไว้ใต้ชื่อเธอแล้วรอยกให้ตอนเธอโตขึ้น”
“น่าเสียดาย พวกเขาคงไม่คิดว่าเธอจะชั่วร้ายและหัวรุนแรงขนาดนี้ ลุงและป้าของเธอก็เลยบริจาคเงินทั้งหมดไปแล้ว…”
“พวกเขาสมควรได้รับแล้ว เงินนั่นไม่ควรเป็นของเธอ! ที่สำคัญคนอย่างเธอจะมีบ้านเด็กกำพร้าที่ไหนรับกัน พวกเขาไม่กลัวว่าบ้านเด็กกำพร้าจะโดนเผาเหรอ”
…………………………………..
ตอนที่ 1701 อดีตของอวิ๋นลั่วเฟิง (4)
ภายใต้สายตาเหยียดหยามของคนอื่น เด็กหญิงตัวน้อยยืนอยู่บนถนนเงียบๆ ใบหน้าเล็กๆ ซีดเผือดของนางดูสิ้นหวังและร่างเล็กๆ ของนางดูน่าสงสารมาก
หัวใจของอวิ๋นเซียวเจ็บปวดและเขาก็รีบเดินเข้าไปหาเด็กหญิงตัวน้อย
เขาแค่อยากอยู่ข้างๆ นางถึงแม้ว่านางจะมองไม่เห็นเขาก็ตาม…
แค่นี้ก็เพียงพอ
นายท่าน กลับมา!
ทันใดนั้นก็มีเสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้นในความคิดของอวิ๋นเซียวและจากนั้นภาพตรงหน้าเขาก็แตกออกทันทีและกลายเป็นสีดำ ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็เห็นเสี่ยวฉงจ้องหน้าเขาอยู่
“ข้าบอกท่านแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่าเดินออกนอกเส้นทาง ถ้าข้าหาท่านเจอไม่ทันเวลา ท่านก็ต้องติดอยู่ที่นั่นไปตลอดชีวิต
อวิ๋นเซียวยังคงสีหน้าไร้ความรู้สึก เขาคิดอยู่สักพักก็ถามว่า “นั่นเป็นโลกในจินตนาการจริงหรือ”
โลกแห่งจินตนาการที่แท้จริงจะสะท้อนความคิดที่อยู่ก้นบึ้งในหัวใจของคนคนนั้น
เขาพยายามจะตามหาอดีตของอวิ๋นลั่วเฟิงตั้งแต่ตอนที่นางบอกเขาว่านางไม่ได้เป็นคนของโลกนี้และเรื่องอดีตของนาง ดังนั้นเขาจึงได้กลับยังอดีตของอวิ๋นลั่วเฟิง…
แต่ว่า…
โลกแห่งจินตนาการที่แท้จริงอันตรายมาก ใครก็ตามที่เข้าไปจะติดอยู่ในนั้นตลอดไปและใช้ชีวิตอยู่ที่โลกนั่นเหมือนผี
“นายท่าน เมื่อครู่ท่านเห็นอะไร” เสี่ยวฉงมองอวิ๋นเซียวอย่างสงสัย เขารู้ว่าอวิ๋นเซียวติดอยู่ในโลกแห่งจินตนาการเพราะเขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของอวิ๋นเซียวดังนั้นเขาจึงสงสัยว่านายท่านไปเจออะไรที่ทำให้เขาโมโห
“ถ้า…มีสถานที่ที่ไม่ได้อยู่ในช่องว่างแห่งเวลา ข้าสามารถไปที่นั่นได้หรือไม่”
เขาจะยอมปล่อยคนพวกนั้นที่ทำร้ายเฟิงเอ๋อร์อย่างรุนแรงได้อย่างไร
“ข้าคิดว่าเป็นไปได้” เสี่ยวฉงคิดไปครู่หนึ่งก่อนพูดขึ้น “ตราบใดที่มีช่องว่างแห่งเวลาจริงๆ ก็มีทางที่จะไปที่นั่น แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าหนทางไปคืออะไร”
“ถ้าเกิด…ข้าอยากจะกลับไปในอดีตของใครบางคนล่ะ”
“อดีตเป็นสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้ ท่านสามารถไปที่ช่องว่างแห่งเวลาได้แต่ท่านไม่สามารถกลับไปในอดีตได้”
หมายความว่าเขาสามารถหาหนทางไปที่ประเทศจีนได้แต่ไม่ใช่ในอดีตของอวิ่นลั่วเฟิง อันที่จริง…
ถ้าเขาเปลี่ยนอดีต เขากับอวิ๋นลั่วเฟิงอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอกันก็ได้
“ข้าจะกลับไปในอดีตได้หรือไม่ ไม่สำคัญ ข้าแค่อยากสังหารคนพวกนั้น แค่นั้นก็พอ! ” อวิ๋นเซียวยิ้ม นี่เป็นครั้งแรกที่อวิ๋นเซียวยิ้มตั้งแต่ที่อยู่ห่างจากอวิ๋นลั่วเฟิง แต่ว่า…
เสี่ยวฉงรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายสังหารเย็นเยียบจนทำให้ร่างอวบอ้วนของเขาสั่นอย่างช่วยไม่ได้ เขาสงสัยจริงๆ ว่าใครมายั่วโมโหนายท่านของเขา ดูเหมือนว่าคนคนนั้นจะโชคร้าย!
“พ่อหนุ่ม รอข้าก่อน” จากนั้นชายชราก็ออกมา เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าตัวน้อย ขอบคุณมากที่ช่วยข้าออกมา”
ตอนที่เสี่ยวฉงรู้สึกตัวว่าอวิ๋นเซียวถูกกักอยู่ในโลกแห่งจินตนาการที่แท้จริง เขาก็ยังให้ความสนใจกับชายชราด้วย แน่นอนว่าเขาไม่ได้ทำตัวอ่อนโยนกับชายชรา เขาแค่ฝ่ามือของเขาตบชายชราให้ตื่น
เมื่อคิดอย่างนั้น เสี่ยวฉงก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มอย่างรับไม่ได้ เหตุใดมนุษย์ถึงตกอยู่ในโลกแห่งจินตนาการง่ายนัก หรือว่าเป็นเพราะพวกเขาอารมณ์อ่อนไหวเกินไปงั้นหรือ
ความจริงแล้วตอนที่เขาเห็นอวิ๋นลั่วเฟิง อวิ๋นเซียวก็สังเกตได้ว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่ว่าเพื่อที่จะได้เรียนรู้อดีตของอวิ๋นลั่วเฟิง เขาก็ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง…
แต่ว่าหลังจากที่ได้รู้อดีตของนาง เขาก็ยิ่งรู้สึกแย่เหมือนเขาโดนมีดแทงเข้าที่หัวใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากจริงๆ