ตอนที่ 1706 อวิ๋นลั่วเฟิงมาถึงแล้ว (4)
ตั้งแต่ที่นางปรากฏตัว สายตาของอวิ๋นเซียวก็จับจ้องไปที่นางเหมือนทุกสิ่งบนโลกนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่านาง
สักพักชายหนุ่มก็ขยับริมฝีปากบางแล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เป็นเจ้าจริงหรือ…”
“ใช่แล้ว ข้ามาที่นี่เพื่อหาเจ้า” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม ดวงตาสีนิลของนางเต็มไปด้วยความรักใคร่ ดูเหมือนว่านางจะไม่กลัวฉินลั่วเลยแม้แต่น้อย
ถูกแล้ว ตราบใดที่มีเขาอยู่ข้างๆ พวกเขาก็สามารถเผชิญหน้าได้กับทุกปัญหา!
ฉินลั่วทำหน้าบึ้ง “อวิ๋นลั่วเฟิง เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ จิ่นอวี้ทำพลาดใช่หรือไม่ นางสังหารเจ้าไม่ได้งั้นหรือ”
อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตาลงเล็กน้อย และส่งยิ้มเย็นมาให้ “ข้าได้ยินว่าเจ้าอยากได้สามีข้างั้นรึ”
ฉินลั่วส่งเสียงขึ้นจมูก “ถ้าใช่แล้วจะทำไม”
“ฮะๆ” อวิ๋นลั่วเฟิงยักไหล่ “ถ้าอย่างนั้นข้าก็มั่นใจว่าเจ้าจะต้องเสียใจ”
ใบหน้าของฉินลั่วมืดครึ้ม “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“ข้าก็หมายความว่า…จิ่นอวี้กำลังไปที่พระราชวังของเจ้าเพื่อตามหาไป๋ซู่ ถ้าเจ้าไปช้าไม่แน่ไป๋ซู่อาจจะถูกนางพาไปแล้วก็ได้”
ได้ยินอย่างนั้นฉินลั่วยิ้มอย่างเหยียดหยาม “ไป๋ซู่รักข้ามากจนจากข้าไปไม่ได้”
อวิ๋นลั่วเฟิงส่ายหน้า “ข้าให้ยาที่ทำให้ไป๋ซู่หมดสติกับจิ่นอวี้ไป ดังนั้นการที่นางจะพาเขาออกไปก็เป็นเรื่องง่ายดาย”
นางให้ยากับจิ่วอวี้เพื่อพาตัวไป๋ซู่ออกไปขณะที่นางจะดึงความสนใจของฉินลั่วเอาไว้ ส่วนจิ่วอวี้จะพาไป๋ซู่ไปได้ก่อนฉินลั่วกลับไปหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของนางแล้ว…
แน่นอนว่าทันทีที่ฉินลั่วได้ยินคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิงนางก็หันหลังกลับไปมอง นางดูฉุนเฉียวแต่ไม่นานนางก็สะกดกลั้นอารมณ์ไว้ได้
“ถึงแม้ว่าไป๋ซู่จะหนีไปได้ ข้าก็มีวิธีพาเขากลับมา แต่ถ้าจักรพรรดิปีศาจหนีไป ข้าเกรงว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะจับเขาอีกครั้ง!” ฉินลั่วยิ้มเยาะ แล้วเชิดหน้าขึ้นอย่างโอหังเล็กน้อย “อีกอย่างคือเจ้าต้องตาย!”
ถ้าอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้อยู่ที่นี่ นางอาจจะต้องทิ้งอวิ๋นเซียวไปตามจับไป๋ซู่แต่ในเมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงอยู่ที่นี่ นางก็ต้องอยู่ที่นี่เพื่อสังหารนางก่อน
ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นประกายดำมืด นางเดินไปหาอวิ๋นเซียวแล้วถามว่า “ท่านคิดว่ามีโอกาสสังหารนางสักเท่าไหร่”
อวิ๋นเซียวมองฉินลั่วเงียบๆ แล้วพูดว่า “กึ่งหนึ่ง”
“แต่ว่า…” อวิ๋นเซียวคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “ถึงแม้ว่านางจะใช้วิชาลับเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งแต่ก็ต้องมีเวลาจำกัด ตอนที่เวลาหมดลง ข้ามั่นใจว่าสามารถสังหารนางได้”
ก่อนที่นางจะเพิ่มพลังฉินลั่วไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอวิ๋นเซียว ถ้าอวิ๋นเซียวไม่ได้บาดเจ็บ เขาก็คงสังหารนางได้อย่างง่ายดาย
อวิ๋นลั่วเฟิงหันไปหาเสี่ยวฉง
เสี่ยวฉงสั่นไปทั้งตัว เขาก้าวถอยหลังไปสองก้าวอย่างขี้ขลาดและพูดอย่างอ่อนแรงว่า “อย่ามองข้านะ ข้าเอาชนะนางไม่ได้หรอก…”
“เจ้าเป็นบรรพบุรุษของเผ่ามังกร เหตุใดเจ้าถึงไร้ประโยชน์ขนาดนี้” อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้ว “ถ้าอย่างนั้นข้าก็เอาเจ้าไปย่างแล้วกินซะ”
เสี่ยวฉงมองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างหวาดกลัว สตรีผู้นี้เป็นปีศาจงั้นหรือ
“ไม่จริงนะ ข้ามีประโยชน์ ข้ามีประโยชน์จริงๆ นะ”
“เจ้ามีประโยชน์งั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นเหตุใดอวิ๋นเซียวถึงบาดเจ็บ”
อวิ๋นลั่วเฟิงเหน็บแนม
นางเข้าใจได้ว่าเสี่ยวฉงเอาชนะสตรีผู้นี้ไม่ได้แต่เรื่องก่อนหน้านี้ล่ะ อวิ๋นเซียวก็ยังถูกไป๋ซู่ทำให้บาดเจ็บแม้จะมีเขาอยู่ก็ตาม!
“ข้า…” เสี่ยวฉงตั้งใจจะแก้ต่างให้ตัวเองแต่ก็หาข้ออ้างไม่ได้
ถูกแล้ว เขานี่มันไร้ประโยชน์จริงๆ! เขาทำแค่นั่งดูนายท่านบาดเจ็บแต่เขาก็ขึ้ขลาดเกินกว่าจะออกไปต่อสู้กับใคร…
“ข้าจะให้เวลาเจ้าสิบห้านาทีเพื่อหาทางจัดการกับสตรีผู้นี้ อย่างพึ่งรีบปฏิเสธข้า ข้ารู้ว่าเจ้ามีวิธี ข้ากับอวิ๋นเซียถ่วงเวลานางไว้สิบห้านาที! ถ้าเจ้าหาทางไม่ได้ก็หมายความว่าเจ้าคงทำประโยชน์อะไรไม่ได้แล้วข้าก็จะเอาเจ้าไปย่างกิน”
…………………………………..
ตอนที่ 1707 ฉินลั่วพ่ายแพ้ (1)
สีหน้าของเสี่ยวฉงเปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้แค่ขู่ให้เขากลัว ถ้าเขาหาทางไม่ได้ นางก็จะเอาเขาไปทำเป็นอาหารและกินจริงๆ
อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกสนใจเสี่ยวฉงและหันไปมองฉินลั่ว ตอนนั้นเองนางก็ไม่ปกปิดพลังของตัวเองและเรียกผู้ติดตามทั้งหมดของนางออกมา…
หั่วหั่ว เสี่ยวซู่ ฉาฉา…เสี่ยวโม่ อวิ๋นอี้ กองทัพโครงกระดูกและหนูหาทอง….
เมื่อฉินลั่วเห็นกองทัพโครงกระดูกนางก็โมโหและจ้องหน้าอวิ๋นลั่วเฟิง
“เจ้านี่เองที่ขโมยกองทัพโครงกระดูกของข้า”
อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้ว กองทัพโครงกระดูกเคยเป็นของฉินลั่วนี่เอง…
“ฮึ่ม!” ฉินลั่วส่งเสียงขึ้นจมูกด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเดือดดาล “ในเมื่อเจ้าเรียกผู้ติดตามทั้งหมดของเจ้ามาแล้ว ข้าก็จะสังหารพวกมันทั้งหมด!”
ตอนที่ฉินลั่วพูดก็มีฟ้าร้องและฟ้าผ่าลงมา เส้นผมยาวสีดำของนางปลิวไปตามลมและใบหน้างดงามของนางแลดูโฉดร้าย
“ชิ เด็กบ้า ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอเจ้าที่นี่ เรื่องที่ดีจริงๆ”
ผู้เฒ่าจวินหัวเราะแต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง เขากำลังคิดว่าถ้าเขาถ่วงเวลาฉินลั่วเอาไว้แล้วเฟิงเอ๋อร์กับจักรพรรดิปีศาจจะมีโอกาสหนีรอดมากน้อยแค่ไหน เขาเองก็รู้ว่าตราบใดพวกเขาหนีออกจากภูผาสุสานเทพได้ สตรีผู้นี้ก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้อีกต่อไปไม่ว่านางจะแข็งแกร่งแค่ไหน
เมื่อได้ยินเสียง อวิ๋นลั่วเฟิงมองผู้เฒ่าจวินอย่างประหลาดใจ
“เหตุใดท่านถึงมาอยู่ที่นี่”
เมื่อผู้เฒ่าจวินได้ยินคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิง เขาก็แกล้งทำเป็นเสียความรู้สึกจนเกือบจะล้ม เขามองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “เฟิงเอ๋อร์ เจ้าพึ่งรู้ว่าข้าก็อยู่ที่นี่งั้นหรือ”
เขา สิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่ข้างอวิ๋นเซียวมาตลอดแต่เด็กผู้หญิงคนนี้พึ่งสังเกตเห็นเขางั้นหรือ ล้อเล่นน่า!
อวิ๋นลั่วเฟิงลูบจมูกและยิ้มอย่างเจิดจ้า “ข้าขอโทษด้วยเจ้าค่ะ เมื่อมีอวิ๋นเซียวอยู่ตรงหน้า ข้าก็มองเห็นแค่เขาเท่านั้น ถ้าท่านไม่ได้ส่งเสียง ข้าก็คงไม่รู้ว่าท่านอยู่ที่นี่”
ตอนนี้ผู้เฒ่าจวินดูโศกเศร้ามาก เขาถึงกับต้องเอาศีรษะโขกกับกำแพง
อวิ๋นเซียวมองผู้เฒ่าจวินอย่างเย็นชา จากบทสนธนาของพวกเขา อวิ๋นเซียวก็รู้ถึงตัวตนของผู้เฒ่าจวินได้ทันที สรุปก็คือชายชราคนนี้…เป็นท่านตาที่ไม่เคยเจอมาก่อนของเขาสินะ
“อวิ๋นลั่วเฟิง ข้ารู้เจ้าพยายามถ่วงเวลา!” ฉินลั่วส่งเสียงขึ้นจมูกและกลิ่นอายของนางก็ยิ่งรุนแรงขึ้น “น่าเสียดาย ที่ข้าไม่ให้โอกาสเจ้าได้สมหวังหรอก”
อวิ๋นลั่วเฟิงยักไหล่และหันไปมองฉินลั่วอย่างแปลกใจ “ดูเหมือนว่าเจ้าก็ไม่ได้โง่นี่นา…”
“ฮึ่ม!” ฉินลั่วส่งเสียงขึ้นจมูกและปลดปล่อยพลังจำนวนมหาศาลออกมาก่อนจะยกยิ้มอย่างสบายใจ
“อวิ๋นเซียว” อวิ๋นลั่วเฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ถ้าพวกเขาถ่วงเวลาไม่ได้ พวกเขาก็ต้องสู้กับนาง
หวืด!
ร่างของอวิ๋นเซียวพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเหมือนเหยี่ยว เพียงพริบตาเดียวไปถึงข้างตัวฉินลั่ว
ขณะเดียวกัน…
สัตว์อสูรทั้งหมดก็ลงมือ
หั่วหั่วเปลี่ยนร่างไปเป็นจิ้งจอกที่แดงเพลิงที่มีเปลวไฟล้อมรอบตัว ไม่ว่านางจะผ่านไปที่ไหน พื้นดินก็ลุกไหม้และกลิ่นควันไฟก็ฟุ้งไปตามอากาศ
ฉาฉาอ้าปากกว้างและกระโจนเข้าหาฉินลั่วอย่างรุนแรง
แต่ก่อนที่เขาจะได้กัดนาง เขาก็ถูกฉินลั่วตบกลับมาแต่เขาก็ไม่ได้หยุดและยังพยายามพุ่งเข้าไปฉินลั่ว