บทที่ 399 สองหมัดปะทุ
ไม่มีใครใส่ใจความปรารถนาของหวงซี
ด้วยคำแนะนำของหลิงตู้ฉิง เย่ชิงเฉิงจึงแบกหวงซีขึ้นพาดบ่าและตีก้นหวงซีเป็นระยะ
นางพึงพอใจมากกับการที่นางสามารถรังแกองค์หญิงน้อยแห่งภูเขาฟีนิกซ์ได้โดยไม่ต้องกลัวผลที่ตามมา
จากนั้นภายใต้การนำของหลิงตู้ฉิง ทุกคนก็บินผละมาจากดาวสุริยะและไปยังดาวดวงอื่นต่อ ๆ ไปเพื่อรวบรวมวัสดุที่หลิงตู้ฉิงต้องการ
เย่ชิงเฉิงในตอนนี้ก็กลายเป็นนางมารไปแล้วเช่นกัน ตราบใดที่นางว่างและนึกสนุกเมื่อไหร่ นางก็จะตีก้นหวงซีเมื่อนั้น
ทางด้านของหวงซี ยิ่งวันเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ความโกรธแค้นที่สะสมอยู่ในใจของนางก็มากขึ้นเรื่อย ๆๆ ทุกวันร่างกายของนางจะสั่นไม่หยุดจากความโกรธแค้น นางไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการฆ่าเย่ชิงเฉิง
แน่นอนว่าคนที่นางอยากฆ่ามากที่สุดคือหลิงตู้ฉิง เพราะหลิงตู้ฉิงเป็นคนจับตัวนางและผนึกไม่ให้นางออกจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ
อันที่จริงการที่นางถูกตีก้นนั้นมันก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากสักเท่าไหร่
แต่ความอัปยศอดสูที่เกิดขึ้นจากการถูกตีก้นนั้นทำให้นางรู้สึกแย่ยิ่งกว่ามีคนเอามีดมาแทงนางเสียอีก
ในขณะนี้ทุกคนก็ได้มาถึงดาวอีกดวง จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็เอ่ยเตือนขึ้นกับพวกเขาว่า “รอข้าที่นี่ ข้าจะเข้าไปในดาวหยินทมิฬ เพื่อหาผลึกหยินสุดขั้ว”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็เข้าไปในดาวที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง
ในขณะเดียวกับที่หลิงตู้ฉิงเพิ่งเข้าไป กลุ่มของหญิงสาวสองคนและผู้ชายอีกหนึ่งคนก็มาถึงที่ด้านนอกของดาวหยินทมิฬเช่นกัน
“โชคดีของสำนักข้าแล้วจริง ๆ ในที่สุดข้าก็ได้เจอดาวหยินทมิฬดวงนี้สักที” หนึ่งในหญิงสาวพูดขึ้น “พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะเข้าไปดูก่อนว่าข้าจะเจอสิ่งที่ข้าต้องการรึเปล่า ถ้าหาไม่พบเราก็ค่อยไปที่ดาวดวงอื่นต่อ”
เมื่อพูดจบ นางมุ่งหน้าเข้าไปยังดาวหยินทมิฬทันที
สำหรับสองคนที่เหลือ พวกเขารออยู่ข้างนอกด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย คอยเป็นกำลังสนับสนุนให้กับหญิงสาวที่มาจากสำนักหยินทมิฬเร้นลับ
หลังจากรอมา 2 วัน และเห็นว่าหญิงสาวจากสำนักหยินทมิฬเร้นลับยังไม่ออกมา ทั้งสองก็เริ่มลังเลว่าพวกเขาควรจะรอต่อไปหรือไม่?
เนื่องจากพวกเขามีเวลาเพียงไม่กี่พันวันในการอยู่ในเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ หากว่าพวกเขารออยู่ที่นี่นานมากเกินไปมันก็จะกลายเป็นว่าพวกเขาเองก็จะเสียโอกาสของพวกเขาเองเช่นกัน
ในขณะที่พวกเขากำลังลังเลที่จะจากไป ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงสาปแช่งดังขึ้นในระยะที่ไม่ไกลมาก
ด้วยความสงสัย พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปยังทิศทางของเสียง และเมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า ลูกตาของพวกเขาเกือบจะหลุดออกมาจากเบ้า
พวกเขาเห็นองค์หญิงน้อยแห่งภูเขาฟีนิกซ์ถูกตีก้น นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“นังผู้หญิงชั่ว ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ! หรือไม่ถ้าเจ้าแน่จริงเจ้าก็มาสู้กับข้าอย่างยุติธรรมซะ อย่าเอาแต่รังแกคนที่โดนผนึกแบบนี้!” หวงซีตะโกนร้องด้วยความโกรธ
เย่ชิงเฉิงหัวเราะคิกคักและตีก้นหวงซีต่ออีกครั้งอย่างไร้ความปรานี ซึ่งมันทำให้หวงซีโกรธมากจนน้ำตาไหล
ซึ่งอี้ลั่วเอ๋อและหลิงเทียนหยุนก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นทั้งสองคน
แต่ในตอนนี้กลับมีบางคนที่ทนดูต่อไปไม่ได้
“บังอาจ! พวกเจ้าเป็นใครกันกล้าดียังไงถึงได้มารังแกองค์หญิงน้อยหวงซีแบบนี้?” ชายหนุ่มตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าโกรธเคือง
หญิงสาวที่มากับชายหนุ่มก็ตะโกนขึ้นเช่นกัน “พวกเจ้านี่มันน่าไม่อายจริง ๆ ถึงขนาดใช้จำนวนเข้าข่มองค์หญิงเอาไว้แบบนี้ พวกเจ้าไม่อายฟ้าอายดินกันบ้างเหรอ?”
เมื่อเห็นว่าหวงซีกำลังได้รับความทุกข์ทรมาน ชายหนุ่มคนนั้นก็เสนอหน้าออกมาแทรกแซงทันที
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับสถานการณ์ตรงหน้านี้ แต่ในความคิดของพวกเขาไม่มีสิ่งใดสำคัญเท่ากับการช่วยเหลือองค์หญิงน้อยแห่งภูเขาฟีนิกซ์ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของศัตรูของนาง หากพวกเขาทำได้สำเร็จ ภูเขาฟีนิกซ์จะต้องติดหนี้บุญคุณของพวกเขาเป็นอย่างมากแน่นอน
เมื่อเห็นคู่ชายหญิงไม่คุ้นหน้าเข้ามาวุ่นวาย เย่ชิงเฉิงจึงถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ไม่ทราบว่า เรื่องของข้ามันเกี่ยวอะไรกับพวกเจ้า?”
จากนั้นนางก็ก้มศีรษะลงและหัวเราะคิกคักกับหวงซี “สาวน้อยดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องรู้จักเจ้าแน่นอนเลย ถ้าข้าตีก้นเจ้าต่อหน้าพวกเขา ชื่อเสียงของเจ้าคงจะขจรกระจายไปทั่วแน่นอน”
“ซึ่งต่อให้ในอนาคตเจ้าจะกลายเป็นจักรพรรดินีผู้ยิ่งใหญ่ ทุกคนจะได้รู้ว่าเจ้าเคยถูกข้าตีก้นจนร้องไห้…งอแงเหมือนเด็ก 10 ขวบ! เอาล่ะ สาวน้อยตอนนี้เจ้าจะยอมทำตามที่สามีของข้าบอกได้แล้วรึยัง? ถ้าเจ้าไม่ยอมข้าจะตีก้นเจ้าอีกครั้ง!”
เมื่อได้ยินคำขู่เช่นนี้ หวงซีโกรธจนแทบหัวระเบิด ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไปจริง ๆ ศักดิ์ศรีที่นางเคยมีอยู่มันคงถูกทำลายลงอย่างย่อยยับไปตลอดชีวิต
นอกจากนี้ทำไมไอ้คนพวกนี้ถึงอยากบังคับให้นางเปลี่ยนชื่อกันนัก พวกมันพยายามจะทำอะไรกันแน่?
แต่ในขณะที่นางกำลังลังเล เย่ชิงเฉิงที่ไม่สนใจว่าชื่อเสียงเสียของนางจะย่อยยับสักแค่ไหนก็ตีก้นนางอีก 2 ครั้ง
“อ้าาาาา ไอ้หญิงชั่ว! ข้าขอสาปแช่งให้เจ้าตายอย่างสยดสยอง!” เมื่อสาปแช่งจนหอบอยู่สักพัก หวงซีก็กัดฟันและตะโกนว่า “ก็ได้! ข้าจะเปลี่ยน! ข้าจะเปลี่ยนชื่อให้! ไม่ว่าพวกเจ้าต้องการให้ข้าเปลี่ยนเป็นอะไรข้าก็จะเปลี่ยนให้!”
คนฉลาดย่อมไม่ต่อสู้เมื่อสามารถต่อรองกันได้ นางจำเป็นต้องสัญญากับเย่ชิงเฉิงก่อนเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องอับอายต่อไป
เมื่อเห็นว่าเย่ชิงเฉิงไม่เพียงแต่เพิกเฉยต่อพวกเขา และยังคงสอนบทเรียนให้หวงซีต่อไป ทั้งสองก็ตะโกนทันที “องค์หญิง ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพวกเราจะช่วยท่านเอง!”
หลังจากพูดจบ ชายหนุ่มผู้นั้นก็ชักทวนวิญญาณที่เหน็บอยู่บนหลังของเขาออกมาทันทีพร้อมกับแทงมันไปที่เย่ชิงเฉิง ส่วนหญิงสาวอีกคนก็เขวี้ยงแหวนในมือของนางไปยังเย่ชิงเฉิง ส่งผลให้แหวนสีทองวงเดียวกลายเป็นวงแหวนจำนวนนับไม่ถ้วนบินพุ่งเข้ามาหานาง
“สำนักทวนเหล็ก? สำนักแหวนหยก? ดีเลย! เร็วเข้ าพวกเจ้ารีบฆ่าหญิงชั่วคนนี้ซะ ข้าสัญญาว่าข้าจะให้รางวัลพวกเจ้าอย่างงาม!” หวงซีตะโกนอย่างรีบร้อนด้วยสีหน้าตื่นเต้น
ตอนนี้นางรู้แล้วว่าทำไมสองคนนี้ถึงรู้จักนาง ที่แท้พวกเขาก็เป็นคนของสำนักที่อยู่ไม่ไกลจากภูเขาฟีนิกซ์
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยพบกัน แต่ทั้งสองฝ่ายก็รู้ถึงการคงอยู่ของกันและกัน
ในเมื่อตอนนี้นางมีผู้ช่วยแล้ว นางจึงตื่นเต้นจนแทบจะทนไม่ไหวที่จะเห็นชายหญิงทั้งสองคนนั้นรุมสังหารเย่ชิงเฉิง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่นางจะเผยรอยยิ้มได้อย่างเต็มสุข รอยยิ้มของนางก็ต้องแข็งค้างไปซะก่อน เพราะตอนนี้คู่ชายหญิงที่เป็นดั่งความหวังของนางได้กลายเป็นหมอกโลหิตไปเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นหลิงตู้ฉิงก็บินเข้ามาหาด้วยใบหน้าที่เศร้าหมองและพูดขึ้นว่า “ไปดาวดวงต่อไปกันเถอะ”
หลิวตู้ฉิงที่อยู่ในอารมณ์หงุดหงิดอยู่แล้วที่หวงซีไม่ยอมเปลี่ยนชื่อของนาง ยังไงซะเนื่องจากหวงซีนั้นเป็นผู้หญิงและเป็นคนของภูเขาฟีนิกซ์ เขาจึงไม่สามารถทำอะไรหวงซีได้
ถ้านางเป็นผู้ชายคงถูกเขาทรมานไปนานแล้ว
น่าเสียดายที่หวงซีเป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิง เขาจึงจำเป็นต้องใช้ไม้อ่อนที่สุดเพื่อกดดันนางเพื่อให้นางเปลี่ยนชื่อของนางด้วยความสมัครใจ
และในตอนที่อารมณ์ของเขากำลังคุกรุ่นอยู่นั้น กลับมีไอ้บ้าสองคนที่ไหนก็ไม่รู้มาสร้างความรำคาญให้
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์ยังทนหมัดเพียงหมัดเดียวของเขาไม่ได้ นับประสาอะไรกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราสองคนนี้
เมื่อเห็นใบหน้าของหลิงตู้ฉิงที่ดูน่าหวาดกลัว หวงซีก็นิ่งเงียบ
แท้จริงแล้วไม่ใช่ว่าพวกเขาใจดีอะไร เพียงแต่พวกเขาไม่อยากจะฆ่านางก็แค่นั้น
เย่ชิงเฉิงอดไม่ได้ที่จะแปลกใจเมื่อนางเห็นหลิงตู้ฉิงเป็นแบบนี้ มีเพียงอี้ลั่วเอ๋อเท่านั้นที่รู้สึกตื่นเต้นและสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคย
“สามี เมื่อครู่นางตกลงที่จะเปลี่ยนชื่อของนางแล้ว…” เยว่ชิงเฉิงกระซิบกับหลิงตู้ฉิง
หลิงตู้ฉิงรู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขามองไปที่หวงซีและพูดว่า “เจ้ายอม?”
“ข้ายอม!” หวงซีตอบกลับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ก้มศีรษะลงอย่างกลัว ๆ
หลิงตู้ฉิงขมวดคิ้วและพูดว่า “สาวน้อย ข้ารู้ว่าเจ้าจะบอกว่าเจ้าไม่ได้โกหกและข้าเองก็ไม่ว่าอะไรหากเจ้าจะยังคงเล่นลิ้นกับข้าต่อไป แต่ข้าขอเตือนกับเจ้าไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาที่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับจะปิด ถ้าเจ้ายังไม่ยินยอมตกลงเปลี่ยนชื่อของเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้า!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หวงซีก็ตะคอกกลับทันที “ชื่อของข้ามันมีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้า เจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะบังคับข้าให้เปลี่ยนมันด้วย?”
“เพราะเจ้าไม่คู่ควรกับชื่อนั้น!” หลิงตู้ฉิงตะคอก “พวกเจ้าภูเขาฟีนิกซ์ พวกเจ้ามันเนรคุณ แค่เวลาผ่านไปไม่กี่หมื่นปีพวกเจ้าก็ลืมเรื่องนั้นกันไปแล้ว! ไม่ช้าก็เร็วพวกเจ้าจะต้องถูกฆ่าล้างโคตร!”
“ส่วนเจ้า! เจ้าคิดว่าภูเขาฟีนิกซ์ของเจ้าน่าทึ่งขนาดนั้นเลยเหรอ ข้าไม่สนใจหรอกว่าใครตั้งชื่อนี้ให้เจ้า แต่ถ้าข้าบอกว่าเจ้าไม่คู่ควรใช้ชื่อนี้ก็คือเจ้าไม่คู่ควรใช้มัน!”
“ข้าถือว่าข้าได้เตือนเจ้าอย่างชัดเจนแล้ว ถ้าเจ้าไม่เปลี่ยนชื่อ ไม่เพียงแต่เจ้าจะต้องตายใครก็ตามที่ตั้งชื่อให้เจ้าก็ต้องตายเช่นกัน เพื่อเป็นการย้ำเตือนให้พวกเจ้าภูเขาฟีนิกซ์ ได้รู้เอาไว้ว่ามันยังคงมีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้แตะต้อง!!”