ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1821 : ถึงเวลา

  จางหยูไม่อาจจะบอกได้ว่าเขารู้สึกยังไงกับซุนเมิ่ง แต่การที่ได้อยู่กับซุนเมิ่งมันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ หากวันหนึ่งเขาได้อยู่กับซุนเมิ่งจริงๆ จางหยูก็รู้สึกว่าซุนวูนั้นน่าจะรับได้

  อันที่จริงแล้วจางหยูก็รู้สึกเก้อเขินไม่น้อยไปกว่าซุนเมิ่งเลย แต่เขาไม่ได้แสดงท่าทีใดๆออกมา ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของซุนวู

  ตราบใดที่เขาไม่อาย งั้นก็ต้องเป็นคนอื่นที่อายแทน

    เจ้าจะฟังรึไม่ ? หากเจ้าไม่อยากฟัง งั้นข้าจะไปแล้ว  จางหยูพูดขึ้น

  เมื่อเห็นว่าจางหยูไม่แสดงท่าทีเขินอายออกมาซุนวูก็ผิดหวัง เขาอยากให้จางหยูมาเป็นพี่เขยของเขา พี่เขยแบบนี้ยากจะหาได้

    ฟัง เจ้าสำนัก ข้าอยากจะฟังท่าน   ซุนวูไม่กล้าพูดถึงซุนเมิ่งอีก เขากลัวว่าหากเล่นมากเกินไปจางหยูจะเปลี่ยนใจเอาได้

  จางหยูแสดงสีหน้าเยือกเย็นออกมาและพูดขึ้น   นั่งลง  

  ในตอนที่ซุนวูนั่งลงนั้นจางหยูก็ได้ใช้ทักษะหลอกลวงและพูดถึงเนื้อหาที่ไม่ต่างจากการบรรยายสองครั้งแรก ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่ซุนวูก็ยังตั้งใจฟัง เสียงของจางหยูราวกับมีมนต์สะกด ภายใต้การสนับสนุนของเสียงนี้แล้วซุนวูก็ได้เข้าไปถึงแก่นของการสร้าง เขาได้จมอยู่ในภาวะลึกลับ

  ทันทีที่จางหยูพูดจบ เขาก็ได้จากไปทันที

  ตอนที่ซุนวูได้สติกลับมา เขาก็ไม่เห็นร่องรอยของจางหยู

    เกือบแล้ว อีกแค่นิดเดียว !  ซุนวูรู้สึกได้ว่าการบ่มเพาะของตัวเองพัฒนาขึ้นมา ความเข้าใจของเขามากกว่า ซังหนานเทียนในอดีต เขาห่างจากราชาแค่เพียงก้าวเดียว มันคือก้าวเดียวจริงๆ เขารู้สึกว่าหากได้ฟังการบรรยายของจางหยูอีกครั้ง เขาก็มีหวังอย่างมากที่จะขึ้นเป็นราชาได้

  ในตอนนั้นซุนเมิ่งก็ได้พูดขึ้นมา   มันเพราะเจ้าไม่พยายามให้มากพอ 

  หากเทียบกับศิษย์และอาจารย์คนอื่นๆรวมถึงผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ทั่วไปแล้ว การรับรู้ของซุนวูนั้นลึกซึ้งมาก แต่เมื่อเทียบกับ ซังหนานเทียนแล้วซุนวูด้อยกว่ามาก ทุกครั้งที่เขาได้ฟังการบรรยายของจางหยูระดับของเขาก็จะเพิ่มขึ้นมา ความไม่เข้าใจที่ตกตะกอนและเนื้อหาที่ไม่ชัดเจนก็ค่อยๆกระจ่างขึ้น จนถึงตอนนี้ความเข้าใจที่ตกตะกอนอยู่นั้นก็ใกล้จะกระจ่างหมดแล้ว ดังนั้นผลลัพธ์ในแต่ละครั้งจึงมักจะด้อยกว่าก่อนหน้าเสมอ

  เขาได้พึมพำออกมา   หากข้ารู้ว่าการบรรยายของเจ้าสำนักจะส่งผลเช่นนี้ ข้าคงไม่มีทางเกียจคร้าน… 

   ในที่สุดเจ้าก็ยอมรับแล้วรึว่าเจ้าเกียจคร้านเอง ?  ซุนเมิ่งพูดขึ้นมา   ข้าจะไปฟังเจ้าสำนักเล่าเรื่องต่อ เจ้าบ่มเพาะไป อย่าหวังว่าจะมีใครมาแนะนำเจ้าได้    …

  วันต่อมาจางหยูก็ได้กลับมาบรรยายให้ซุนวูฟังอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ได้กลับไปเล่าเรื่องที่ลานสำนัก

  ในโลกตันเถียนนั้นมีโลกกำเนิดขึ้นใหม่ทุกวัน มันคือโลกขั้น 7-8

  จนกระทั่งบรรยายส่วนตัวให้ซุนวูฟังถึงวันที่เจ็ด สุดท้ายซุนวูก็ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดและทะลวงผ่านขึ้นเป็นราชา !

  การทะลวงผ่านนี้ทำให้จิตของซุนวูยกระดับขึ้นมา มันเทียบกับราชาที่อยู่ในขอบเขตการสร้างไร้จำกัด

  ตอนนี้ซุนเมิ่งและซุนวูผ่านเงื่อนไขในการเป็นจ้าวบรรพกาลแล้ว รอแค่โลกตันเถียนให้กำเนิดบรรพกาลขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่ทั้งสองคนจะก้าวขึ้นเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล

  เพื่อเติมเต็มเงื่อนไขนี้จางหยูได้ทำการบรรยายเป็นการส่วนตัวให้ซุนวู จนกลายเป็นราชาได้ จางหยูไม่ได้ทำการบรรยายซุนวูต่อเขากลับให้ซุนวูควบคุมพลังของตนให้ได้ก่อน

  ในระหว่างนั้นจางหยูก็ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของโลกตันเถียนพร้อมกับเล่าเรื่องไปด้วย

  ในพริบตาก็ผ่านไปกว่าครึ่งปี โลกตันเถียนมีโลกกำเนิดขึ้นมาใหม่เกือบ 200 ใบ โลกพวกนี้ส่วนมากเป็นโลกขั้น 7 มีส่วนหนึ่งเป็นโลกขั้น 8 และโลกขั้น 6 นั้นมีไม่มาก แม้ว่าความแข็งแกร่งของจางหยูจะไม่ได้ยกระดับขึ้นมาแต่จำนวนของโลกที่เชื่อมต่อกับสำนักคังเฉียงก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก อาจารย์และศิษย์มีตัวเลือกมากขึ้น มันยังทำให้โลกตันเถียนพัฒนาขึ้นตามไปด้วย

  พวกกุยหยวนและผู้ควบคุม แม้ว่าส่วนมากจะอยู่ในโลกบรรพกาลและโลกผนึกเทพ แต่ก็มีบางส่วนที่อยู่ในโลกผังหลงและโลกอื่นๆด้วย พวกนี้ต่างก็เดินทางไปยังโลกเหล่านั้นเพื่อหาประสบการณ์

  ด้วยจำนวนผู้ควบคุมและกุยหยวนที่เพิ่มเข้ามา โลกตันเถียนก็เติบโตด้วยความเร็วที่น่าตกใจ มันมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า

  โลกตันเถียนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก มันแทบจะเปลี่ยนไปแบบวันต่อวัน สุดท้ายหลังจากที่ผ่านมา 6 เดือน การเติบโตของโลกการผันแปรของดวงดาวก็มาถึงขีดจำกัด

  ….

  โลกการผันแปรของดวงดาวกลับสั่นไหว มันไม่ใช่เพราะไม่อาจจะแบกรับพลังในโลกได้ แต่เป็นเพราะการยกระดับของมัน กฎของมันชัดเจนขึ้นกว่าเดิมแต่การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือพลังสร้างในโลก !

  โลกการผันแปรของดวงดาวได้กลายเป็นโลกขั้นที่ 9 !

  ตูม !

  ที่ด้านนอกโลกการผันแปรของดวงดาวนั้น ตัวโลกได้แยกออกมาจากมิติเวลาอันไร้สิ้นที่สุด ความว่างเปล่าที่ห่อหุ้มโลกการผันแปรของดวงดาวนั้นก็ได้เปลี่ยนเป็นบรรพกาล และบรรพกาลนี้ก็ยังขยายตัวต่อไป ผ่านไปสักพักมันก็ขยายตัวเท่ากับครึ่งหนึ่งของบรรพกาลของโลกผนึกเทพ จากนั้นความเร็วของมันก็ลดลงอย่างมาก

  บรรพกาลแห่งที่สามของโลกตันเถียนได้กำเนิดขึ้นมาแล้ว

  ในวันนี้คนในสำนักคังเฉียงรวมถึงซุนเมิ่ง, ซุนวูและจางหยูต่างก็ไปรวมตัวกันที่โลกการผันแปรของดวงดาว

  พวกผู้ควบคุมและกุยหยวนคนอื่นเมื่อได้ยินข่าวนี้ต่างก็พากันมารวมตัวที่นี่ด้วย

  ภายใต้สายตาของผู้คนนับไม่ถ้วน โลกการผันแปรของดวงดาวก็ยกระดับตัวเองสำเร็จและให้กำเนิดบรรพกาลแห่งใหม่

  นี่มันทำให้ทุกคนต้องทึ่ง

    ถึงเวลาแล้ว  จางหยูรับรู้ถึงบรรพกาลของโลกนี้และยิ้มออกมา

    ถึงเวลาอะไรกัน ?  คนของสำนักคังเฉียงต่างก็สับสน

  ซุนเมิ่งและซุนวูพากันมองไปที่จางหยู  จางหยูมองไปที่ซุนเมิ่งและซุนวู ก่อนจะพูดขึ้นว่า   ถึงเวลาที่พวกเจ้าจะได้เป็นกึ่งจ้าวโกลาหล ! 

  เมื่อได้ยินที่จางหยูบอกมา ซุนวูและซุนเมิ่งต่างก็ตื่นเต้นโดยเฉพาะซุนวู เขาใฝ่ฝันว่าจะได้เป็นกึ่งจ้าวโกลาหลเพราะมีแค่การเป็นกึ่งจ้าวโกลาหลเท่านั้นที่จะมีหวังแก้แค้นให้กับปู่ของเขา มีแค่เป็นกึ่งจ้าวโกลาหลเท่านั้นที่จะสู้กับไห่อู่เซิงได้

    แต่ตอนนี้มีแค่พวกเจ้าเพียงคนเดียวที่จะเป็นกึ่งจ้าวโกลาหลได้ ส่วนอีกคนต้องรอไปก่อน  จางหยูไม่ได้รีบร้อน   ใครก่อน ? 

  ซุนวูลังเล   เลือกได้แค่คนเดียวรึ ? 

  จางหยูยังไม่ทันได้พูด ซุนเมิ่งก็พูดขึ้นมา   ให้ซุนวูเป็นก่อนเลย  

    ท่านพี่…  ซุนวูชะงัก

    เจ้ามั่นใจรึ ?  จางหยูมองไปที่ซุนเมิ่ง

  ซุนเมิ่งพูดด้วยสีหน้าจริงจัง   ข้าอยู่ในขอบเขตการสร้างไร้จำกัด แม้ว่าจะไม่ได้เป็นกึ่งจ้าวโกลาหลแต่ความแข็งแกร่งของข้าก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากึ่งจ้าวโกลาหล น้องชายข้าไม่เหมือนกัน เขาต้องการโอกาสนี้มากกว่าข้า  นางมองไปที่จางหยูแล้วพูดต่อ   แม้ว่าข้าจะไม่ได้เป็นกึ่งจ้าวโกลาหลในตอนนี้แต่ก็ยังมีโอกาสอยู่ไม่ใช่รึ ? 

  จางหยูพยักหน้า   ใช่ แค่ต้องรอเวลาและคงอีกไม่นาน 

    งั้นก็ให้ซุนวูก่อน  ซุนเมิ่งพูดขึ้น   ด้วยวิธีนี้ฝ่ายเราก็จะมีกึ่งจ้าวโกลาหล 5 คน หากเราร่วมมือกันแล้ว บางทีเราอาจจะเอาชนะไห่อู่เซิงได้ 

  ในตอนที่ไห่อู่เซิงยังไม่เป็นจ้าวโกลาหล ตอนนี้คือโอกาสที่ดีที่สุดที่จะฆ่าอีกฝ่าย หากพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว งั้นในอนาคตก็อาจจะไม่ได้โอกาสแบบนี้อีก

    ครั้งนี้ข้าจะช่วยซุนวูเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล  จางหยูรู้สึกว่าที่ซุนเมิ่งพูดมามีเหตุผล หากช่วยซุนเมิ่งให้เป็นกึ่งจ้าวโกลาหล งั้นมันก็เท่ากับเสียเวลาเปล่า สิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้ก็คือเวลา !

  ซุนวูสูดหายใจเข้าลึกๆและมองไปที่ซุนเมิ่ง   ขอบคุณท่านพี่ ! 

  หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองจางหยู   ขอบคุณเจ้าสำนัก ! 

  เขาไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะเขารู้ว่านี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Released: 2020 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ระบบเจ้าสำนักจางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์ หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก” เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้ ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน... ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการบ่มเพาะ ขอบเขตฉีซวน ระดับ 1-9 ขอบเขตว่อซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตันซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลิงซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตหลี่ซวน ระดับต่ำ กลาง สูง ขอบเขตตุ้นซวน ระดับต่ำ กลาง สูง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset