จากกึ่งจ้าวโกลาหลเป็นจ้าวโกลาหลนั้นไม่มีคอขวด แม้จะไม่บ่มเพาะแต่ก็สามารถขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลได้อย่างราบรื่น ตราบใดที่ไม่ตายไปก่อน พวกเขาก็จะได้เป็นจ้าวโกลาหลเอง เพียงแต่ว่ามันใช้เวลานานกว่าจะขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลได้ มันใช้เวลานานกว่าการบ่มเพาะจากราชาขึ้นมาขอบเขตการสร้างไร้จำกัดเสียอีก !
จากราชาเป็นขอบเขตการสร้างไร้จำกัดนั้นยากอย่างมาก สำหรับคนส่วนมากแล้วนี่คือกำแพงที่ไม่อาจจะข้ามได้ แต่สุดท้ายมันก็แค่กำแพงคั่น หากข้ามมาได้ก็ถือว่าสำเร็จ แต่กึ่งจ้าวโกลาหลกับจ้าวโกลาหลนั้นแม้จะดูแตกต่างกันแต่ก็ไม่ได้มีกำแพงคั่นเอาไว้ สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือการบ่มเพาะและเตรียมตัว มีแค่การบ่มเพาะและการรับรู้ที่เหมาะสมเท่านั้นพวกเขาถึงจะผ่านไปถึงขั้นนั้นได้
ยกตัวอย่างเช่นราชา หากโชคดีและมีพรสวรรค์มากพอรวมถึงมีความพยายามในการบ่มเพาะแล้ว บางทีสักวันพวกเขาอาจจะขึ้นเป็นขอบเขตการสร้างไร้จำกัดได้ แต่กึ่งจ้าวโกลาหลนั้นแม้ว่าจะพยายามมากกว่านี้เป็นพันเท่าแต่ก็ไม่อาจจะทำแบบนั้นได้
มันไม่มีทางลัดสำหรับระดับนี้ !
ตอนที่เติบโตมาเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล เหล่าศิษย์และอาจารย์ทุกคนก็รู้ว่าแม้แต่จางหยูก็ไม่อาจจะช่วยพวกเขาได้
สำนักคังเฉียงปีที่ 20,000 ก็ยังไม่มีใครเติบโตเป็นจ้าวโกลาหลเลย แม้แต่ซุนเหยียน, เสี่ยวเสีย, ซุนเมิ่งและคนอื่นๆก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะทะลวงผ่านได้ ศิษย์และอาจารย์ที่เหลือไม่จำเป็นต้องพูดถึง แต่จางหยูก็ใช่ว่าจะไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมา
อย่างแรกเลยคือบรรพกาลจำนวนมากได้กำเนิดขึ้นมารวมถึงศิษย์และอาจารย์ทั้งหมดได้ขึ้นเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล มันทำให้ความแข็งแกร่งของจางหยูเพิ่มขึ้นไปอีก
อย่างที่สองคือจางหยูยังคงเล่าเรื่องต่อ จำนวนโลกที่เขามีนั้นมากกว่า 7 ล้านใบแล้ว โลกตันเถียนยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเพิ่มระดับของมันเอง
สุดท้ายจำนวนบรรพกาลได้เพิ่มขึ้นมากว่าล้านแห่ง ร่างแยกทั้งหมดของจางหยูได้ขึ้นเป็นกึ่งจ้าวโกลาหลแล้ว
ความแข็งแกร่งของจางหยูในตอนนี้แม้แต่เขาก็ยังต้องกลัว เขาถึงกับสงสัยว่าแค่เขาตบก็สามารถฆ่าจ้าวโกลาหลได้แล้ว
จ้าวโกลาหลเหมือนกัน แต่จางหยูกลับแกร่งกว่าเป็นพันเท่ารึอาจจะมากกว่านั้น
ถึงอย่างนั้นนี่ก็ยังห่างไกลจากขีดจำกัดของจางหยู !
ตอนที่โลกทุกใบในโลกตันเถียนได้ขึ้นเป็นโลกขั้นที่ 9 ทั้งหมด บรรพกาลมีหลายล้านแห่ง และบรรพกาลทุกแห่งมีจ้าวบรรพกาล ความแข็งแกร่งอาจจะก้าวกระโดดขึ้นมาอีก
ที่ด้านนอกโลกป่า ผู้คนต่างก็พากันแห่เข้าไปสำรวจสุสานในแต่ละที่
โกลาหลเต็มไปด้วยพลังชีวิต ความกังวลที่เคยมีได้หายไปอย่างสมบูรณ์ ราวกับว่าไห่อู่เซิงไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
ต้นไม้โกลาหลไม่ได้ทำอะไรมากว่าสองหมื่นปีแล้ว
นอกจากรักษาการเติบโตของโกลาหล ต้นไม้โกลาหลก็พยายามที่จะควบคุมโกลาหลด้วย !
แม้จ้าวโกลาหลจะตายไปแล้ว แต่โกลาหลไม่ได้ถูกทำลาย สถานการณ์นี้พิเศษอย่างมาก บางทีมันอาจจะให้กำเนิดจ้าวโกลาหลคนที่สอง เมื่อต้นไม้โกลาหลควบคุมโกลาหลแห่งนี้ได้ งั้นมันก็จะกลายเป็นจ้าวโกลาหลคนที่สอง หากต้นไม้โกลาหลควบคุมโกลาหลได้สำเร็จ งั้นโอกาสที่จะเป็นแบบนั้นก็สูงอย่างมาก !
ในฐานะต้นไม้โกลาหลแล้วไม่มีใครเหนือกว่ามันในการควบคุมโกลาหล ไม่มีใครมีสิทธิ์เท่ากับมันเลย
เพราะตัวมันคือตัวตนของโกลาหล !
ในหมื่นปีแรกของโกลาหล ขั้นตอนการควบคุมโกลาหลของต้นไม้โกลาหลยังช้าอยู่ ในช่วงหมื่นปีหลังการควบคุมก็เร็วขึ้นและยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผ่านไปสองหมื่นปีต้นไม้โกลาหลก็เกือบควบคุมโกลาหลได้ทั้งหมด !
นี่ไม่ใช่ทางปกติในการบ่มเพาะแต่เป็นทางที่ดีที่สุดในการขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล !
ในวันนั้นหลังจากที่เล่าเรื่องจบ จางหยูก็ได้ถามขึ้นมา “ สถานการณ์ฝั่งเจ้าเป็นยังไง ?”
เนี่ยเวิ่นตอบกลับ “ อีกแค่ 3 ปีก็จะได้ผลลัพธ์ !”
ไม่ว่าจะหาทางขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลได้รึไม่ ผลลัพธ์ก็จะออกมาเอง ไม่แปลกเลยที่เขาจะคาดหวัง
หากต้นไม้โกลาหลกลายเป็นจ้าวโกลาหลได้สำเร็จและรวมร่างกับกึ่งจ้าวโกลาหล มันคงยอดเยี่ยมมาก!
“ ไม่ถึงสามปีรึ ?” จางหยูยิ้มออกมาและแสดงสีหน้าคาดหวัง “ งั้นก็ขอให้เจ้าทำสำเร็จ !”
เวลายังผ่านไปช้าๆเหล่าศิษย์และอาจารย์ต่างก็ยังบ่มเพาะ พวกเขายังคงจับตาดูสถานการณ์ของต้นไม้โกลาหล เมื่อรู้ว่าต้นไม้โกลาหลเกือบจะทำสำเร็จ เหล่าศิษย์และอาจารย์ต่างก็ไปที่เขตหวงห้ามและมองดูการเปลี่ยนแปลงของต้นไม้โกลาหล
ในพริบตาก็ผ่านไปอีกปี
ในวันนั้นทั้งโกลาหลก็เกิดการสั่นไหวเล็กน้อย แสงหลากสีได้ส่องประกายออกมาจากเขตหวงห้าม ในพริบตามันก็ส่องแสงสว่างทั่วทั้งโกลาหล วิถีทุกแบบได้ปรากฎขึ้นมาอย่างชัดเจน การสร้างและกฎได้แสดงตัวออกมาราวกับพบเจ้านายคนใหม่ มันราวกับบูชาเทพสูงสุด
ร่างของต้นไม้โกลาหลเต็มไปด้วยพลังลึกลับจนเรียกได้ว่าน่ากลัวอย่างมาก
นี่คือคลื่นพลังของกุศล !
จางหยูคุ้นเคยกับคลื่นพลังนี้ดี แต่เดิมโลกป่าเป็นโลกขั้นต้นได้เติบโตขึ้นมาเป็นโลกขั้น 9 เขาคือคนที่อยู่เบื้องหลัง ทุกครั้งที่เติบโต โลกป่าจะให้คลื่นพลังสีทองออกมา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงจำมันได้ทันที
ด้วยการหลอมรวมของคลื่นพลังนี้กับต้นไม้โกลาหล ทำให้แสงหลากสีก็ส่องประกายจ้ายิ่งกว่าเก่า
ตูม !
เกิดการผันผวนขึ้นมาราวกับร่างของต้นไม้โกลาหลจะระเบิด อยู่ๆร่างนั้นก็แผ่คลื่นพลังพิเศษออกมา มันคือคลื่นพลังของจ้าวโกลาหล มันเหนือกว่าราชาและกึ่งจ้าวโกลาหล ทั้งโกลาหลราวกับเป็นอาณาเขตของเขา
“ จ้าวโกลาหล !” ซุนเหยียนหรี่ตาลง “มันทำสำเร็จจริงๆ !”
ด้วยความมานะพยายาม สุดท้ายต้นไม้โกลาหลก็ทะลวงผ่านได้สำเร็จและได้รับสืบทอดโกลาหลแห่งนี้ !
ในเวลาเดียวกันคลื่นพลังของต้นไม้โกลาหลก็แผ่ออกไปที่ทะเลโกลาหล
“ ฮ่าฮ่า !” ต้นไม้โกลาหลหัวเราะออกมา “ ข้าทำได้ !”
มันข้ามจากกึ่งจ้าวโกลาหลด้วยวิธีอันชาญฉลาดและขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล ทั้งยังสืบทอดโกลาหลแห่งนี้ ความแข็งแกร่งของมันไม่ได้เป็นรองเจ้านายเลย ในอีกความหมายคือเจ้านายมันแข็งแกร่งแค่ไหน ตอนนี้มันก็แข็งแกร่งเท่านั้น
ทุกคนพากันมองไปที่ต้นไม้โกลาหลด้วยความอิจฉา ไม่คิดเลยว่าหลังจากเจ้าสำนักแล้วจะเป็นต้นไม้โกลาหลที่กลายเป็นจ้าวโกลาหลได้
ก่อนหน้านี้ต้นไม้โกลาหลยังไม่ใช่แม้แต่กึ่งจ้าวโกลาหลด้วยซ้ำ !
ในตอนที่ทุกคนอิจฉาอยู่นั้นอยู่ๆก็มีคลื่นพลังที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้นมา มันน่ากลัวและไม่ด้อยกว่าคลื่นพลังของต้นไม้โกลาหลเลย
จางหยูคิ้วขมวด “ คนจากด้านนอกรึ ?”
จากราชาเป็นขอบเขตการสร้างไร้จำกัดนั้นยากอย่างมาก สำหรับคนส่วนมากแล้วนี่คือกำแพงที่ไม่อาจจะข้ามได้ แต่สุดท้ายมันก็แค่กำแพงคั่น หากข้ามมาได้ก็ถือว่าสำเร็จ แต่กึ่งจ้าวโกลาหลกับจ้าวโกลาหลนั้นแม้จะดูแตกต่างกันแต่ก็ไม่ได้มีกำแพงคั่นเอาไว้ สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือการบ่มเพาะและเตรียมตัว มีแค่การบ่มเพาะและการรับรู้ที่เหมาะสมเท่านั้นพวกเขาถึงจะผ่านไปถึงขั้นนั้นได้
ยกตัวอย่างเช่นราชา หากโชคดีและมีพรสวรรค์มากพอรวมถึงมีความพยายามในการบ่มเพาะแล้ว บางทีสักวันพวกเขาอาจจะขึ้นเป็นขอบเขตการสร้างไร้จำกัดได้ แต่กึ่งจ้าวโกลาหลนั้นแม้ว่าจะพยายามมากกว่านี้เป็นพันเท่าแต่ก็ไม่อาจจะทำแบบนั้นได้
มันไม่มีทางลัดสำหรับระดับนี้ !
ตอนที่เติบโตมาเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล เหล่าศิษย์และอาจารย์ทุกคนก็รู้ว่าแม้แต่จางหยูก็ไม่อาจจะช่วยพวกเขาได้
สำนักคังเฉียงปีที่ 20,000 ก็ยังไม่มีใครเติบโตเป็นจ้าวโกลาหลเลย แม้แต่ซุนเหยียน, เสี่ยวเสีย, ซุนเมิ่งและคนอื่นๆก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะทะลวงผ่านได้ ศิษย์และอาจารย์ที่เหลือไม่จำเป็นต้องพูดถึง แต่จางหยูก็ใช่ว่าจะไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมา
อย่างแรกเลยคือบรรพกาลจำนวนมากได้กำเนิดขึ้นมารวมถึงศิษย์และอาจารย์ทั้งหมดได้ขึ้นเป็นกึ่งจ้าวโกลาหล มันทำให้ความแข็งแกร่งของจางหยูเพิ่มขึ้นไปอีก
อย่างที่สองคือจางหยูยังคงเล่าเรื่องต่อ จำนวนโลกที่เขามีนั้นมากกว่า 7 ล้านใบแล้ว โลกตันเถียนยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเพิ่มระดับของมันเอง
สุดท้ายจำนวนบรรพกาลได้เพิ่มขึ้นมากว่าล้านแห่ง ร่างแยกทั้งหมดของจางหยูได้ขึ้นเป็นกึ่งจ้าวโกลาหลแล้ว
ความแข็งแกร่งของจางหยูในตอนนี้แม้แต่เขาก็ยังต้องกลัว เขาถึงกับสงสัยว่าแค่เขาตบก็สามารถฆ่าจ้าวโกลาหลได้แล้ว
จ้าวโกลาหลเหมือนกัน แต่จางหยูกลับแกร่งกว่าเป็นพันเท่ารึอาจจะมากกว่านั้น
ถึงอย่างนั้นนี่ก็ยังห่างไกลจากขีดจำกัดของจางหยู !
ตอนที่โลกทุกใบในโลกตันเถียนได้ขึ้นเป็นโลกขั้นที่ 9 ทั้งหมด บรรพกาลมีหลายล้านแห่ง และบรรพกาลทุกแห่งมีจ้าวบรรพกาล ความแข็งแกร่งอาจจะก้าวกระโดดขึ้นมาอีก
ที่ด้านนอกโลกป่า ผู้คนต่างก็พากันแห่เข้าไปสำรวจสุสานในแต่ละที่
โกลาหลเต็มไปด้วยพลังชีวิต ความกังวลที่เคยมีได้หายไปอย่างสมบูรณ์ ราวกับว่าไห่อู่เซิงไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
ต้นไม้โกลาหลไม่ได้ทำอะไรมากว่าสองหมื่นปีแล้ว
นอกจากรักษาการเติบโตของโกลาหล ต้นไม้โกลาหลก็พยายามที่จะควบคุมโกลาหลด้วย !
แม้จ้าวโกลาหลจะตายไปแล้ว แต่โกลาหลไม่ได้ถูกทำลาย สถานการณ์นี้พิเศษอย่างมาก บางทีมันอาจจะให้กำเนิดจ้าวโกลาหลคนที่สอง เมื่อต้นไม้โกลาหลควบคุมโกลาหลแห่งนี้ได้ งั้นมันก็จะกลายเป็นจ้าวโกลาหลคนที่สอง หากต้นไม้โกลาหลควบคุมโกลาหลได้สำเร็จ งั้นโอกาสที่จะเป็นแบบนั้นก็สูงอย่างมาก !
ในฐานะต้นไม้โกลาหลแล้วไม่มีใครเหนือกว่ามันในการควบคุมโกลาหล ไม่มีใครมีสิทธิ์เท่ากับมันเลย
เพราะตัวมันคือตัวตนของโกลาหล !
ในหมื่นปีแรกของโกลาหล ขั้นตอนการควบคุมโกลาหลของต้นไม้โกลาหลยังช้าอยู่ ในช่วงหมื่นปีหลังการควบคุมก็เร็วขึ้นและยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผ่านไปสองหมื่นปีต้นไม้โกลาหลก็เกือบควบคุมโกลาหลได้ทั้งหมด !
นี่ไม่ใช่ทางปกติในการบ่มเพาะแต่เป็นทางที่ดีที่สุดในการขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล !
ในวันนั้นหลังจากที่เล่าเรื่องจบ จางหยูก็ได้ถามขึ้นมา “ สถานการณ์ฝั่งเจ้าเป็นยังไง ?”
เนี่ยเวิ่นตอบกลับ “ อีกแค่ 3 ปีก็จะได้ผลลัพธ์ !”
ไม่ว่าจะหาทางขึ้นเป็นจ้าวโกลาหลได้รึไม่ ผลลัพธ์ก็จะออกมาเอง ไม่แปลกเลยที่เขาจะคาดหวัง
หากต้นไม้โกลาหลกลายเป็นจ้าวโกลาหลได้สำเร็จและรวมร่างกับกึ่งจ้าวโกลาหล มันคงยอดเยี่ยมมาก!
“ ไม่ถึงสามปีรึ ?” จางหยูยิ้มออกมาและแสดงสีหน้าคาดหวัง “ งั้นก็ขอให้เจ้าทำสำเร็จ !”
เวลายังผ่านไปช้าๆเหล่าศิษย์และอาจารย์ต่างก็ยังบ่มเพาะ พวกเขายังคงจับตาดูสถานการณ์ของต้นไม้โกลาหล เมื่อรู้ว่าต้นไม้โกลาหลเกือบจะทำสำเร็จ เหล่าศิษย์และอาจารย์ต่างก็ไปที่เขตหวงห้ามและมองดูการเปลี่ยนแปลงของต้นไม้โกลาหล
ในพริบตาก็ผ่านไปอีกปี
ในวันนั้นทั้งโกลาหลก็เกิดการสั่นไหวเล็กน้อย แสงหลากสีได้ส่องประกายออกมาจากเขตหวงห้าม ในพริบตามันก็ส่องแสงสว่างทั่วทั้งโกลาหล วิถีทุกแบบได้ปรากฎขึ้นมาอย่างชัดเจน การสร้างและกฎได้แสดงตัวออกมาราวกับพบเจ้านายคนใหม่ มันราวกับบูชาเทพสูงสุด
ร่างของต้นไม้โกลาหลเต็มไปด้วยพลังลึกลับจนเรียกได้ว่าน่ากลัวอย่างมาก
นี่คือคลื่นพลังของกุศล !
จางหยูคุ้นเคยกับคลื่นพลังนี้ดี แต่เดิมโลกป่าเป็นโลกขั้นต้นได้เติบโตขึ้นมาเป็นโลกขั้น 9 เขาคือคนที่อยู่เบื้องหลัง ทุกครั้งที่เติบโต โลกป่าจะให้คลื่นพลังสีทองออกมา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงจำมันได้ทันที
ด้วยการหลอมรวมของคลื่นพลังนี้กับต้นไม้โกลาหล ทำให้แสงหลากสีก็ส่องประกายจ้ายิ่งกว่าเก่า
ตูม !
เกิดการผันผวนขึ้นมาราวกับร่างของต้นไม้โกลาหลจะระเบิด อยู่ๆร่างนั้นก็แผ่คลื่นพลังพิเศษออกมา มันคือคลื่นพลังของจ้าวโกลาหล มันเหนือกว่าราชาและกึ่งจ้าวโกลาหล ทั้งโกลาหลราวกับเป็นอาณาเขตของเขา
“ จ้าวโกลาหล !” ซุนเหยียนหรี่ตาลง “มันทำสำเร็จจริงๆ !”
ด้วยความมานะพยายาม สุดท้ายต้นไม้โกลาหลก็ทะลวงผ่านได้สำเร็จและได้รับสืบทอดโกลาหลแห่งนี้ !
ในเวลาเดียวกันคลื่นพลังของต้นไม้โกลาหลก็แผ่ออกไปที่ทะเลโกลาหล
“ ฮ่าฮ่า !” ต้นไม้โกลาหลหัวเราะออกมา “ ข้าทำได้ !”
มันข้ามจากกึ่งจ้าวโกลาหลด้วยวิธีอันชาญฉลาดและขึ้นเป็นจ้าวโกลาหล ทั้งยังสืบทอดโกลาหลแห่งนี้ ความแข็งแกร่งของมันไม่ได้เป็นรองเจ้านายเลย ในอีกความหมายคือเจ้านายมันแข็งแกร่งแค่ไหน ตอนนี้มันก็แข็งแกร่งเท่านั้น
ทุกคนพากันมองไปที่ต้นไม้โกลาหลด้วยความอิจฉา ไม่คิดเลยว่าหลังจากเจ้าสำนักแล้วจะเป็นต้นไม้โกลาหลที่กลายเป็นจ้าวโกลาหลได้
ก่อนหน้านี้ต้นไม้โกลาหลยังไม่ใช่แม้แต่กึ่งจ้าวโกลาหลด้วยซ้ำ !
ในตอนที่ทุกคนอิจฉาอยู่นั้นอยู่ๆก็มีคลื่นพลังที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้นมา มันน่ากลัวและไม่ด้อยกว่าคลื่นพลังของต้นไม้โกลาหลเลย
จางหยูคิ้วขมวด “ คนจากด้านนอกรึ ?”