จากมุมมองของเยี่ยนจ้าวเกอ ตั้งแต่วินาทีแรกที่เมิ่งหว่านเข้ามาในน้ำ สถานการณ์ก็มีบางอย่างไม่ปกติอย่างเห็นได้ชัด
เสมือนว่ามีแนวโน้มที่มารจะเข้าแทรก
นางนั่งขัดสมาธิ ทั่วทั้งร่างกายถูกน้ำเย็นของบึงห้อมล้อมไว้ ใบหน้าที่สวยสะอาดมีสีหน้าเขียวทีแดงทีสลับกันไปไม่หยุด
ดวงตาทั้งสองข้างของนางปิดสนิท คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น บนใบหน้าเผยให้เห็นถึงความเจ็บปวดทรมานอยู่จางๆ
เยี่ยนจ้าวเกอพูดในใจว่า ‘นางไม่ได้เข้ามาในบึงเย็นเพื่อฝึกฝนจริงๆ ด้วย แต่เป็นเพราะเดิมทีร่างกายมีปัญหาอยู่แล้ว จึงใช้บึงเย็นแห่งนี้มาช่วยยับยั้ง’
และในตอนนี้เอง เยี่ยจิ่งก็ได้เข้ามาในบึงเย็นเช่นกัน ก่อนจะมองเมิ่งหว่านด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง
เมื่อถูกบึงเย็นกระตุ้น ลายเปลวเพลิงบนร่างกายของเขาก็ทอประกายขึ้น เกิดเป็นความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงอย่างยิ่ง
เมิ่งหวานลืมตาขึ้น และมองไปที่เยี่ยจิ่งเช่นกัน ในดวงตากลมโตคู่นั้นเผยให้เห็นถึงความตกใจและความหวาดระแวง
สถานการณ์ในตอนนี้ นางทำได้เพียงแค่ฝืนประคับประคองไว้ให้ได้เท่านั้น ด้วยเพราะสมดุลของนางอ่อนแอนัก จึงไม่สามารถปกป้องตัวเองได้
เยี่ยจิ่งไม่จำเป็นต้องโจมตีนาง เพียงแค่รบกวนนิดเดียว นางก็ไม่มีทางฟื้นตัวได้อีก
เขาเหมือนจะรู้สภาพของเมิ่งหว่านในตอนนี้ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเข้าโจมตีนาง หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้ว เขาถึงจะเข้าไปใกล้นางอย่างช้าๆ
สุดท้าย เขาก็ยกมือบอกเมิ่งหว่านว่าตนเองไม่มีเจตนาร้าย แต่ต้องการจะช่วยนาง
เยี่ยจิ่งยื่นมือทั้งสองออกไปตรงๆ ฝ่ามือของเขาร้อนดุจไฟ แม้จะอยู่ในส่วนลึกของบึงเย็น แต่ก็คล้ายกับว่าสามารถสัมผัสได้ถึงพลังความร้อนนั้นเลยทีเดียว
เมิ่งหว่านกะพริบตาและกัดฟัน ก่อนจะยื่นมือทั้งสองออกไปเช่นกัน ฝ่ามือของนางหันเข้าหาฝ่ามือของเยี่ยจิ่งในน้ำ
นางมีจันทรากาย ส่วนร่างกายที่สร้างขึ้นใหม่ของเยี่ยจิ่ง เห็นได้ชัดว่ามีสภาพที่ร้อนรุ่มดั่งไฟด้วยเหตุผลพิเศษ ทั้งสองคนจึงเป็นสภาพที่หยินหยางช่วยส่งเสริมและยับยั้งกันได้พอดี
วรยุทธ์ของเยี่ยจิ่งในตอนนี้แม้จะยังห่างชั้นจากเมิ่งหว่านมาก แต่ตอนนี้กลับคลายความคับขันของนางได้พอดี ราวกับฝนที่ตกลงมาในเวลาที่เหมาะสม
ปราณจิตราในร่างกายของเมิ่งหว่านที่กำลังจะอยู่ในวิกฤติมารเข้าแทรกนั้น ค่อยๆ สงบลงเนื่องจากความช่วยเหลือของเยี่ยจิ่งทันที
เยี่ยนจ้าวเกอมองเหตุการณ์นี้แล้ว กลับกลอกตาขาว
“บทแบบนี้ คุ้นเคยเหลือเกิน…”
“เป็นการพบกันครั้งแรกโดยบังเอิญที่ซึ้งกินใจจริงๆ”
“แม้จะไม่ต้องถอดเสื้อรักษาบาดแผล แต่หลังจากนี้หากได้ติดต่อกันหลายครั้ง ก็จะอยู่ด้วยกันแล้วเกิดเรื่องอย่างว่าขึ้นมากมายใช่หรือไม่?”
“วาสนาเรื่องผู้หญิงของเจ้า…ข้าหมดคำบรรยายจริงๆ”
แต่ว่าเมื่อถูกปราณจิตราของทั้งสองคนกระตุ้น โครงกระดูกของมังกรน้ำแข็งเหมันต์ขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้ชั้นน้ำแข็งของก้นบึง ก็เริ่มมีแสงสีขาวอ่อนๆ วิ่งผ่านไปตรงบริเวณกระดูกส่วนหัวของมังกร
จิตมังกรน้ำแข็งเริ่มตื่นขึ้นจากการหลับใหลแล้ว!
บึงเย็นเริ่มสั่นไหว น้ำที่เย็นเฉียบของบึงก็กระเพื่อมไม่หยุด ในเบ้าตาของกระดูกส่วนหัวมังกรขนาดใหญ่บริเวณน้ำแข็งก้นบึงเย็น พลันมีแสงสีครามสว่างขึ้น!
ชั่วครู่หนึ่ง ชั้นน้ำแข็งที่ก้นบึงเย็นก็แตกร้าวออกมาในที่สุด เสียงคำรามดังสนั่นดังขึ้น บนโครงกระดูกของมังกรน้ำแข็งเกิดแสงสีขาวเป็นแฉกๆ ขึ้น
ในบึงเย็นราวกับเกิดคลื่นกระหน่ำเข้ามาในทันที
น้ำในบึงกลายเป็นน้ำวนขนาดใหญ่ ที่จะบดทุกอย่างที่ตกลงไปให้แหลกละเอียด
ในส่วนลึกของบึงเย็น ฝ่ามือทั้งสี่ของเมิ่งหว่านและเยี่ยจิ่งทาบเข้าหากัน ร่างกายหมุนไปตามแรงของน้ำวน และพยายามต้านทานแรงกดดันที่มาจากน้ำวนไปพร้อมๆ กัน
ด้านล่างของน้ำวน มังกรน้ำแข็งยื่นโครงกระดูกส่วนหัวขนาดใหญ่ออกมา ก่อนจะอ้าปากกว้างพลางคำรามไม่หยุด
การเคลื่อนไหวของกระดูกมังกรทำให้บึงเย็นสั่นสะเทือนไปทั่ว และยังขยายออกไปตามแนวพื้นดิน
ธารน้ำแข็งที่เป็นที่ตั้งของกระดูกส่วนหาง ก็ได้รับผลกระทบในทันที
ผ่านไปไม่นาน ในที่สุดเมิ่งหว่านและเยี่ยจิ่งก็ค่อยๆ คุ้นเคยกับแรงหมุนของน้ำวน จึงเริ่มหาวิธีที่จะเอาตัวรอด
ร่างกายของเมิ่งหว่านได้รับการดึงดูดจากโครงกระดูกของมังกรน้ำแข็งทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งถูกพัดไปยังส่วนหัวของมังกร และถูกมันดูดไว้
บัดนี้วรยุทธ์ในร่างกายของนางกำลังขับเคลื่อนถึงขีดสูงสุด แสงสีขาวที่ปรากฏขึ้นตรงหัวของมังกรพลันไหลเข้าร่างกายของนางในทันที
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นภาพตรงหน้าก็เข้าใจทันที “จันทรากายเป็นเงื่อนไขที่พิเศษจริงๆ…นางรั้งจิตมังกรน้ำแข็งได้อย่างที่คิด”
เมื่อได้จิตกระดูกมังกรเข้าไปในร่างกาย สีหน้าของเมิ่งหว่านที่ขาวซีด ก็เริ่มกลับมามีสีแดงระเรื่อขึ้นอีกครั้ง
เยี่ยจิ่งที่ยังคงทาบฝ่ามือทั้งสี่ไว้กับนาง ก็ถูกดูดไปที่กระดูกหัวของมังกรน้ำแข็งเช่นกัน
แม้ว่าน้ำในน้ำวนจะยังคงพัดร่างของเยี่ยจิ่งอยู่ แต่เขาก็ยังฝืนร่างกายให้นิ่งได้
ลายเปลวเพลิงไหลเวียนทั่วทั้งร่างกายของเขา เห็นได้ชัดว่าเป็นการขับเคลื่อนวรยุทธ์จนถึงขีดสูงสุดเช่นกัน
แสงสีขาวเริ่มไหลผ่านจากมือทั้งสองของเมิ่งหว่าน ไปยังร่างกายของเขาทีละเล็ก ทีละน้อย
เมิ่งหว่านไม่ถือสาอะไร แม้นางจะโชคดีที่มีจันทรากายตั้งแต่เกิด แต่คิดจะเก็บจิตมังกรน้ำแข็งเพียงลำพังคนเดียวก็ยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่ดี
แต่ในวินาทีนั้นเอง จู่ๆ ร่างกายขนาดมหึมาของมังกรน้ำแข็งก็เกิดนิ่งชะงัก
แสงสีขาวสายหนึ่งปรากฏขึ้นบนกระดูกมังกร ทะลุออกจากข้อต่อของกระดูกสันหลัง และขยายไปเรื่อยๆ จนถึงหัวมังกร
จากนั้นแสงสีขาวที่กำลังสั่นไหว ก็เริ่มเบาบางอย่างรวดเร็ว
เยี่ยนจ้าวเกอรู้ดีแก่ใจ ว่าเป็นเพราะตนเองกับอาหู่มาถึงแล้ว และเริ่มเก็บจิตมังกรน้ำแข็งจากส่วนหางของมังกร เมื่อได้รับผลกระทบเช่นนี้ ส่วนหัวมังกรเองก็จะถูกกระตุ้นด้วยเช่นกัน
หลังจากน้ำวนในบึงเย็นสงบลงเล็กน้อย จู่ๆ ก็ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงทันที
สองมือของเมิ่งหว่านและเยี่ยจิ่งที่ทาบเข้าหากันอยู่ พลันสั่นไหวจนหลุดออกจากกัน ทั้งสองคนจึงถูกน้ำวนพัดไปคนละทิศทาง
ความทรงจำของจิตมังกรน้ำแข็งปรากฏภาพทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตอีกครั้งอย่างสมบูรณ์
แต่ละภาพแล่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความทรงจำที่บันทึกไว้จบลงเพียงเท่านี้ ภาพที่เยี่ยนจ้าวเกอมองเห็นในตอนนี้ตรงกับสถานการณ์จริงในปัจจุบันแล้ว
ถึงจะเป็นการเชื่อมจิตเข้ากับจิตมังกรน้ำแข็ง แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ยังคงมองเห็นสถานกาณ์ของฝั่งตรงข้ามได้ชัดเจน
สิ่งที่ต่างกันก็คือ ดวงตาดุจน้ำใสในทะเลสาบคู่หนึ่ง บัดนี้ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้า และมองสบตากับตนเองอยู่
เมิ่งหว่านเชื่อมจิตกับจิตมังกรน้ำแข็ง
เยี่ยนจ้าวเกอมองเมิ่งหว่านด้วยสีหน้าที่นิ่งสงบ
หลังจากมาถึงโลกนี้ เมื่อได้รู้เรื่องของมงกุฎจันทรา เยี่ยนจ้าวเกอก็ยังได้รู้ถึงเรื่องที่น่าอึดอัดใจมากเรื่องหนึ่งเช่นกัน
คือสำนักเขากว่างเฉิงของตนเองไม่มีสตรีจันทรา
สำนักเขากว่างเฉิงไม่มีลูกศิษย์หญิงที่มีจันทรากาย แน่นอนว่าไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันชิงมงกุฎจันทราได้
แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่ามงกุฎจันทราตกหล่นไปยังสำนักอื่นแล้ว จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขากว่างเฉิงเลย
แต่ละดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีความสัมพันธ์อันดีและไม่ดีระหว่างกัน
และที่บังเอิญก็คือ สำนักเขากว่างเฉิงและสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน
ตนเองไม่สามารถได้มาซึ่งมงกุฎจันทรา นั่นหมายความว่าฝ่ายตรงข้ามก็ต้องไม่ได้ด้วยเช่นกัน
ดังนั้นถึงแม้จะไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวกับเมิ่งหว่านก็ตาม แต่เรื่องนี้ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแย่งชิงในระดับสูงกว่านั้น เยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่อาจมองข้ามได้
เยี่ยนจ้าวเกอมองไป ก่อนจะเห็นทางฝั่งบึงเย็นมีแนวโน้มว่าจะถล่ม เนื่องจากการสั่นไหวก่อนหน้านี้
กำแพงหินที่อยู่รอบๆ บึงเย็นพากันร้าวและถล่มลง กลายเป็นคลองมืดใต้ดินหลายสาย น้ำในบึงเย็นก็เริ่มไหลไปตามคลองต่างๆ
เยี่ยจิ่งก็ถูกน้ำพัดเอาตัวไป และกำลังจะถูกพัดไปในคลองมืดสายหนึ่ง
เมื่อเห็นว่าเขาตกอยู่ในอันตราย เมิ่งหว่านก็เลิกคิ้วสูง คิดอยากจะยื่นมือออกไปให้ความช่วยเหลือ แต่จิตมังกรน้ำแข็งดูดร่างกายของนางไว้ จึงไม่สามารถขยับได้
เมิ่งหว่านกระตุกข้อมือครั้งหนึ่ง ภายใต้ปราณจิตราที่ถูกขับเคลื่อน ผ้าแพรยาวผืนหนึ่งยื่นทะลุน้ำที่ไหลเชี่ยวในบึงไปถึงตรงหน้าของเยี่ยจิ่งราวกับเป็นเหล็กกล้าท่อนหนึ่ง
เยี่ยจิ่งจึงรีบยื่นมือออกไปจับผ้าแพรยาวสีขาวนั้น แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงปราณจิตราของเมิ่งหว่าน เขาก็สติหลุดลอยไปเล็กน้อย
จิตของเขาเชื่อมเข้ากับจิตมังกรน้ำแข็งอย่างแผ่วเบา
หลังจากนั้น ใบหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา
ดวงตาทั้งสองของเยี่ยจิ่งก็แดงก่ำทันที
“เยี่ยนจ้าวเกอ!!!“
ลายเปลวเพลิงบนตัวของเขาเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้นในพริบตา และเริ่มลุกลามอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะแผ่กระจายออกไปทั่วทั้งตัว
เมิ่งหว่านที่เห็นบึงเย็นกำลังจะพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง และอีกฝั่งก็มีการแย่งชิงจากเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยจิ่งที่เป็นผู้ช่วยของฝั่งตนเองก็สภาวะไม่มั่นคง นางจึงถอนหายใจเงียบๆ ครั้งหนึ่ง
นางตัดสินใจใช้วิชาสวนทาง ฝืนทนการกระอักเลือดไว้ และตัดความสัมพันธ์ระหว่างตนเองและจิตมังกรน้ำแข็งออกไปอย่างดื้อๆ เตรียมถอนตัวออกจากบึงเย็นก่อนแล้วค่อยว่ากัน
เยี่ยจิ่งเบิกตาโพลงด้วยความโกรธจัด ความโมโหและความไม่พอใจเปลี่ยนเป็นความแค้น ‘ข้าไปที่ไหน เจ้าก็ตามไปถึงที่นั่น จะฆ่าข้าให้ตายหรืออย่างไร’
‘ข้าขอบอกเจ้าเลย ว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!’
‘สุนัขบ้าที่คอยทำร้ายข้าไม่เลิกรา แค้นนี้ข้าต้องชำระแน่!’
เยี่ยนจ้าวเกอมองเยี่ยจิ่ง แล้วยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา ‘เจ้าเด็กน้อย เจ้าน่าจะดีใจนะ ที่ตอนนี้ข้าไม่ได้อยู่ที่บึงเย็นฝั่งนั้น’
‘เมิ่งหว่านคล่องแคล่วมาก จัดการตัดความสัมพันธ์ออกดื้อๆ แล้วรีบหนี มิเช่นนั้นข้าคงส่งคนไปดักพวกเจ้าไว้ที่บึงเย็นแน่’
‘แต่ว่าเจ้าคิดว่าเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าจะหมดหนทางจัดการกับเจ้าหรือ?’
‘จ่ายดอกเบี้ยมาก่อนสักนิดแล้วกัน’
เยี่ยนจ้าวเกอชักฝ่ามือที่วางอยู่บนกระดูกหางของมังกรกลับอย่างฉับพลัน จากนั้นก็ตบมือไปลงบนแผ่นป้ายโลหะที่ติดอยู่ระหว่างข้อต่อของกระดูกครั้งหนึ่ง!
………………..