Dual Cultivation บทที่ 643 กบในบ่อ
“อะไรนะ พวกท่านมีมีคําถามใดๆเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของข้าในฐานะเซียนเลยรึ ข้าเองกลับคาดว่าจะถูกถามอย่างท่วมท้น รู้ไหม” ซูหยางกล่าวกับพวกเขาหลังจากนั้น
“เอ่อ …”
ซีหวังและเจ้าซีสบตากันอย่างกระอักกระอ่วน เมื่อพวกเขารู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของซูหยางแล้ว พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะพูดคุยกับเขาแบบสบายๆอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าเขาเป็นเซียนที่มีประสบการณ์มากมายกว่าพวกเขา
“ข้ารู้ว่าพวกท่านมีคําถาม ถามมาได้เลย รับรองว่าข้าไม่กัด” ซูหยางกล่าว พยายามกระตุ้นให้พวกเขาถามเขาด้วยเหตุผลบางประการ
“ถ-ถ้าอย่างนั้น ข้ามีคําถามสําหรับเจ้า… “ซีหวังยกมือขึ้นราวกับศิษย์ที่เชื่อฟังในระหว่างการบรรยาย “เจ้าทําอะไรในชีวิตก่อนหน้านี้ การเป็น “เซียน” หมายความว่าอย่างไร”
“ข้าทําอะไรน่ะ คําตอบสั้นๆก็คือข้าเดินทางไปทั่วโลกในฐานะผู้ฝึกวิชาคู่ เพื่อค้นหาสาวงามที่จะฝึกฝนด้วย” เขาตอบอย่างสบายๆ
เขายังเป็นผู้ฝึกวิชาคู่ในชีวิตที่ผ่านมาด้วยรี ไม่สิ สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ใครๆก็สามารถกลายเป็นเซียนจากการฝึกวิชาคู่ได้ด้วยรี” ซีหวังร่ําร้องอยู่ในใจ ในขณะที่เขาไม่ได้คาดหวังว่าผู้ฝึกวิชาคู่จะสามารถไปได้ไกลในเส้นทางแห่งการฝึกฝน
“สําหรับความหมายของการเป็นเซียน ข้าไม่รู้จะบอกอะไรท่านจริงๆ เซียนไม่ต่างอะไรกับผู้ฝึกยุทธ ยกเว้นความจริงที่ว่าพวกเขามีอายุยืนยาวอย่างไม่สิ้นสุด”
“เจ้าต้องการจะบอกข้าว่าความเป็นเซียนที่แท้จริงนั้นมีอยู่จริงอย่างงั้นรี คนผู้นั้นจะสามารถอยู่ได้ตลอดไปอย่างงั้นรึ” ซีหวังพูดด้วยเสียงดังที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“มีเพียงไม่กี่อย่างในโลกเท่านั้นที่สามารถดํารงอยู่ได้ ตลอดไป” อย่างแท้จริง แต่ก็ไม่มีเซียนคนใดที่เสียชีวิตด้วยวัยชรานับตั้งแต่โลกได้รับการแนะนําให้รู้จักการฝึกยุทธเมื่อเป็นนานมาแล้ว และก็มีเซียนมากมายที่รอดชีวิตมาได้หลายสิบล้านปี ด้วยเหตุนี้ข้าจึงพูดว่านั่น ใกล้เคียงกับการมีอายุยืนยาวอย่างไม่รู้สิ้นสุด เพราะพวกเขาจะเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นก่อนที่จะตายจากวัยชรา” ซูหยางอธิบายให้เขาฟัง
“ถ้าอย่างนั้นต้องใช้อะไรบ้างในการเป็นเซียน ข้าต้องฝึกฝนอีกนานเท่าไหร่เพื่อที่จะได้บรรลุถึงความเป็นเซียน” ซีหวังถามเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
อย่างไรก็ตามซูหยางเพียงแค่หัวเราะเบาๆกับคําพูดของเขา และกล่าวว่า “ท่านจะตายไปนานแล้วก่อนที่ท่านจะกลายเป็นเซียนในที่แห่งนี้ เนื่องจากการขาดแคลนพลังวิญญาณของโลกนี้ อย่างไรก็ตาม ในเมื่อท่านถามมาแล้ว ข้าก็จะขยายมุมมองของท่านให้กว้างขึ้นในวันนี้ และให้ท่านได้ทราบว่าแท้จริงแล้วท่านนั้นไร้ค่าเพียงใด…”
ซูหยางกระแอมในล่าคอและพูดต่อ “ในขณะที่เขตราชันวิญญาณอาจถือได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของการฝึกฝนในโลกนี้ แต่ในโลกของข้าไม่มีอะไรน่าประทับใจเลย ในเมื่อผู้ฝึกวิชาเขตราชันวิญญาณยังคงถูกมองว่าเป็นเพียงแค่มนุษย์เท่านั้น”
“อะไรนะข้ายังเป็นแค่มนุษย์อยู่รึ” กรามของซีหวังตกลงไปที่พื้นหลังจากได้ยินคําพูดของเขา มีอีกกี่เขตที่อยู่เหนือเขตราชันวิญญาณอย่างงั้นรึ
ซูหยางพยักหน้าและกล่าวว่า “เขตราชันวิญญาณนั้นถูกจัดอยู่ใน เขตวิญญาณมนุษย์ทั้งเจ็ด นั่นก็คือ เขตปฐมวิญญาณ เขตคัมภีร์วิญญาณ เขตสัมมาวิญญาณ เขตปฐพีวิญญาณ เขตอัมพรวิญญาณ เขตราชันวิญญาณ และสุดท้ายคือเขตเทพวิญญาณ”
“เหนือเขตเทพวิญญาณก็คือ เขตเทพทั้งห้า ที่ประกอบด้วยเขตกําเนิดเทพ เขตจอมเทพ เขตราชั้นเทพ เขตมุนีเทพ และเขตจักรพรรดิเทพ การเข้าสู่เขตเทพทั้งห้าเป็นขั้นตอนแรกในการเป็นผู้ฝึกยุทธที่แท้จริง”
“หลังจากผ่านเขตจักรพรรดิเทพแล้ว ก็จะเข้าสู่เขตบรรพชนทั้งสี่ ซึ่งจะได้รับการพิจารณาให้เป็นครึ่งเซียน เขตบรรพชนทั้งสี่ประกอบด้วยเขตบรรพราชัน เขตบรรพมุนี เขตบรรพจักรพรรดิ และเขตบรรพเซียน และเพื่อที่จะกลายเป็นเซียน ก็จะต้องไปให้ถึงเขตบรรพจักรพรรดิ์ เข้าใจไหมว่าตอนนี้ท่านอยู่ไกลแค่ไหน” ซูหยางถามซีหวังซึ่งนั่งอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าว่างเปล่าและท่วมท้นไปด้วยข้อมูลที่เขาเพิ่งเรียนรู้
“เขตวิญญาณมนุษย์ทั้งเจ็ด เขตเทพทั้งห้า และเขตบรรพชนทั้งสี่… ข้าคือสิ่งที่ใครๆเรียกว่า กบในบ่ออย่างแท้จริง …” ซีหวังถอนหายใจพร้อมกับสีหน้าหมดกําลังใจ เขาไม่คาดคิดว่าเส้นทางการฝึกวิชาจะกว้างใหญ่และลึกซึ้งอย่างนี้
“ข้าใช้เวลากว่า 1 พันปีเพื่อเข้าถึงการฝึกวิชาในปัจจุบันของข้า และตอนนี้เจ้ากําลังบอกข้าว่าข้ายังไม่ถือว่าเป็นผู้ฝึกยุทธที่แท้จริงในโลกของเจ้า ข้าเป็นเพียงมนุษย์เท่านั้น นี่เป็นเรื่องตลกแบบไหนกัน” ซีหวังถอนหายใจต่อไปอีกหลายครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ สูญเสียความปรารถนาที่จะพัฒนาการฝึกวิชาของเขาอีกต่อไป
เมื่อเห็นปฏิกิริยาเชิงลบของซีหวัง ซูหยางก็ตัดสินใจที่จะเก็บง่เขตอื่นที่อยู่เหนือเขตบรรพชนทั้งสีไว้กับตัวเอง เนื่องจากการรับรู้ตอนนี้จะทําลายจิตวิญญาณการฝึกฝนของซีหวังมากขึ้นเท่านั้น
“การฝึกวิชาเป็นมากกว่าการเพิ่มอายุขัยของท่าน อย่างไรก็ตามการฝึกฝนให้มีอายุยืนยาวไม่จําเป็นที่จะต้องเป็นเรื่องเลวร้าย ในเมื่อคนส่วนใหญ่ฝึกฝนวิชาให้มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น แต่ก็มักจะมีเหตุผลอื่นๆที่ทําให้พวกเขากลายเป็นผู้ฝึกยุทธ” ซูหยางพูดกับซีหวังอีกในเวลาต่อมา
“ข้ารู้ เขารู้เรื่องนั้น … แต่เมื่อมาคิดว่าข้านั้นหลงตัวเองมาก เมื่อเข้าถึงเขตราชันวิญญาณ ทั้งที่แท้จริงแล้ว ข้า… “ซีหวังถอนหายใจอีกครั้ง
ซูหยางส่ายหน้าคิดว่าจะเป็นการดีที่สุดที่จะปล่อยให้ซีหวังอยู่คนเดียวในตอนนี้
จากนั้นเขาก็มองไปที่เจ้าซีและถามเขาว่า “แล้วเจ้าล่ะเจ้ามีคําถามอะไรไหม”
“ไม่…ไม่จริง…” ลอร์ดเซียส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว
“ถ้าเช่นนั้น ข้ามีคําถามสําหรับท่าน ซูหยาง” ซีซิงฟางพูดกับเขา
ซูหยางมองไปที่เธอและรอคําถามของเธอ
“เมื่อท่านบอกว่าท่านจะไปจากที่นี่ในอนาคต ท่านมีวิธีกลับไปยังโลกของตัวเองแล้วหรือว่าท่านวางแผนที่จะกลับไปเท่านั้น”
“มีวิธีที่ข้าจะกลับไปยังโลกของตัวเองอยู่แล้ว แต่ว่ามันไม่สามารถรับประกันได้และมีความเสี่ยงมากมายที่เกี่ยวพันกับวิธีนี้ อย่างไรก็ตาม ข้ายินดีที่จะรับความเสี่ยงเหล่านี้ หากข้าสามารถกลับไปได้เพราะข้ายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทําในโลกนั้น” ซูหยางพูดกับเธอ
“ข้าเข้าใจ…” ซีซิงฟางพยักหน้าและเริ่มไตร่ตรองอยู่อย่างเงียบๆ
ในเวลาต่อมา ซูหยางก็เริ่มป้อนยานบินด้วยปราณไร้ลักษณ์ของเขาอีกครั้ง และเริ่มเดินทางต่อไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์กลาง