ค่าโชคของบุตรฟ้าประทานลดลงไป 100 แต้ม และเขาก็ได้ค่าโชคชะตาคืนมาห้าร้อย
มันเหมือนการแลกเปลี่ยนที่หนึ่งต่อห้า
นั่นคือสิ่งที่กู่ฉางเกอคิดพอเขาฟังข้อความของระบบในใจ
เขาตัดสินใจแล้ว ตอนเขามีเวลา เขาจะใช้ค่าโชคชะตาเหล่านี้เพื่อเพิ่มค่าสถานะของเขา
ภายในโถงหลัก เย่เฉินที่หมดสติโดนศิษย์ตำหนักลงทัณฑ์พาตัวไป
สุดท้ายก็เป็นอันสรุป
แขกพากันคุยเสียงดังจอแจ
“คุณชายผู้นี้ไม่เพียงจะมีพลังเหลือล้ำ ภูมิหลังของเขายังเกินจินตนาการ”
“เหนือสิ่งอื่นใด ประมุขศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียนถึงกับมอบลูกสาวตัวเองให้เขา”
คนส่วนใหญ่ต่างกำลังคาดเดาถึงตัวตนของกู่ฉางเกอ
พวกเขาตัดสินใจแล้วว่าพวกเขาจะต้องรายงานทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้นิกายพวกเขารับรู้
ถ้ามีโอกาส ก็ต้องคอยประจบคุณชายผู้นี้ให้ได้ มันจะเป็นผลดีต่อพวกเขา
แน่นอน มันยังเดาได้ว่าแดนบูรพาจะตกอยู่ในความวุ่นวายไปพักใหญ่แน่
ไม่ช้า พิธีก็จบ
ที่งานเลี้ยง บุตรศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียน ฉู่เซวียนกำลังก้มมองคนรุ่นเดียวกับเขาภายในนิกายด้วยความภาคภูมิใจ
จากนั้น เขาก็รินสุราให้กู่ฉางเกอหนึ่งจอก“ต้องขอบคุณคุณชายที่ช่วยเหลือ ถ้าท่านต้องการอะไรจากข้าในอนาคต โปรดบอกข้า ข้าจะพยายามทำให้ท่านสุดความสามารถ”
ทุกคนที่มีสติปัญญาสามารถบอกได้ว่ามันคือการประกาศตนเป็นบริวาร
แม้ฉู่เซวียนผู้นี้จะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียนก็ตาม
เขาก็ยังยอมก้มหัว
กู่ฉางเกอรับสุรามาด้วยรอยยิ้มและยกกระดกในอึกเดียว“แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นที่พี่ฉู่ต้องใส่ใจ”
“มิได้ๆ”
ฉู่เซวียนดีใจ
“ตาแก่นี่กำลังเลียคุณชายไม่หยุด”
“สำหรับคุณชายที่ลงมายังอาณาจักรเบื้องล่างของเรา มันถือเป็นเกียรติของแดนบูรพาเรามาก”
ไม่มีผู้อาวุโสหรือศิษย์คนใดที่นี่เป็นพวกปัญญาอ่อน พวกเขาเข้าใจถึงตรรกะเบื้องหลังดี พวกเขายังเริ่มเข้าร่วมและเลียกู่ฉางเกอกันจนเปียก
ในเวลาเดียวกัน พวกเขายังสาปส่งฉู่เซวียนในความเจ้าเล่ห์
เขาไม่เคยแสดงด้านนี้ออกมาเลย
พวกเขาไม่เคยคิดว่าความสามารถด้านการประจบของเขาจะเป็นเลิศขนาดนี้
แค่พูดจาเลียไม่กี่คำ เขาก็ได้กลายเป็นสมุนของนายน้อยท่านนี้แล้ว
สำหรับศิษย์หลายคน พวกเขาชื่นชมและอิจฉาเขา
“ชิงเกอ..”
ประมุขไท่เซวียนสังเกตเห็นว่าลูกสาวตัวเองหน้าซีด
เขาขมวดคิ้ว
ไม่กี่วินาทีก่อน คุณชายกู่ดูเหมือนจะโปรดปรานลูกสาวเขา
แต่ ทำไมตอนนี้เขาถึงไม่สนใจนาง?
“ท่านพ่อ…:”
ซูชิงเกอส่ายหัว ใบหน้าของนางขาวซีด นางไม่อธิบาย
กู่ฉางเกอจะมาสนใจในตัวนางได้ไง
การแสดงก่อนหน้านั้นก็แค่เพื่อกลั่นแกล้งเย่เฉินเท่านั้นเอง
นางไม่รู้ว่าเย่เฉินกับกู่ฉางเกอมีความขุ่นเคืองอะไรกันมา เขาถึงได้จงใจทำให้เย่เฉินอับอายขนาดนั้น
แต่ทว่า นางรู้ว่าตอนนี้ มันดีสุดที่จะไม่ทำให้กู่ฉางเกอหงุดหงิด
ด้วยสถานะของเขา เขาจะขาดสาวงามที่มีพรสวรรค์ข้างกายได้ยังไง?
ซูชิงเกอฉลาดมาก นางเข้าใจดีถึงคุณค่าในตัวนาง
“เห้อ….”
ประมุขไท่เซวียนก็ไม่ได้โง่ เขาสามารถเดาได้จากสีหน้าของลูกสาวเขา
เขาแสดงความกังวลบนหน้า
พอได้ยินพ่อของนางถอนหายใจ ซูชิงเกองกลับไม่ได้รู้สึกดีอะไรเช่นกัน
นางรู้ว่าพ่อของนางเป็นคนยังไง
นางรู้ว่าเขาอาจมีเรื่องลำบากใจบางอย่าง เขาถึงทำได้ทำอะไรแบบนี้
นางเหลือบมองกู่ฉางเกอและลังเลสักพัก
สุดท้าย นางก็กัดฟันและตัดสินใจ ตอนงานเลี้ยงสิ้นสุด นางจะละทิ้งศักดิ์ศรีและไปขอโทษเขา
เหนือสิ่งอื่นใด นางคือต้นตอของเรื่องในวันนี้
แต่ทว่า กู่ฉางเกอไม่เคยเหลียวแลนางเลย เขาเดินกลับห้องเขาทันทีที่งานเลี้ยงจบ
คำพูดก่อนหน้าของเขาเกี่ยวกับดวงจันทร์และการดูมันด้วยกันเหมือนเรื่องตลกเฉยๆ
แน่นอน กู่ฉางเกอแค่พูดมันเล่นๆ
เขาไม่มีเวลามาอยู่ชมจันทร์กับซูชิงเกอหรอก
แม้การแย่งเอาเมล่อนที่สุกงอมของคนอื่นมากินจะหอมหวาน
แต่ถ้าเขาลงเอยด้วยการกินคนแบบนาง เขาอาจโดนอสูรเทพจากมิติอื่นโจมตีจนตาย
ความเสี่ยงนั้นไม่คุ้มค่า
แม้ซูชิงเกอจะสวย ชุดเดรสขาวพลิ้วไหวที่ทำให้นางดูเหมือนเทพธิดา
แต่นางก็ยังไม่คุ้มกับการให้เอาชีวิตไปแลก
พอนางเห็นกู่ฉางเกอเดินไปไกล ซูชิงเกอก็ยืนนิ่งกับที่ ตะลึงงัน นางไม่มีโอกาสจะได้พูดสิ่งที่อยากพูดสักคำ
นิสัยนางเอนเอียงไปทางด้านเงียบและเย็นชา
แม้นางจะไม่ค่อยพูดเยอะ แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่นางเจอคนที่ไม่ไว้หน้านางแบบนี้
ตรงกันข้าม ถ้าเย่เฉินได้พูดอะไรกับนางสักคำ เขาจะอารมณ์ดีไปทั้งวัน
ซูชิงเกอถอนหายใจและเตรียมจะทำสิ่งที่ไม่เป็นตัวเอง
“กู่ฉางเกอเป็นคนที่เข้าถึงได้ยากซะจริง เขา…”
“เขาน่าสนใจกว่าเจ้าเย่เฉินนั่นมาก”
ตอนนั้น ในหัวนาง เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ
แม้เสียงจะฟังดูไพเราะ แต่มันก็เต็มไปด้วยความชั่วร้าย
แต่ทว่า ซูชิงเกอคุ้นเคยกับมันมานานแล้ว
นางไม่ตอบสนองเลย
เสียงนั้นอยู่กับนางมาตั้งแต่นางเกิด
มันคือความลับที่พ่อของนางยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
สองวิญญาณในร่างเดียว
ตกดึก
ที่ห้องของกู่ฉางเกอ
ชายชราที่มองหน้าตาได้ไม่ชัดปรากฏตัวขึ้น
“การรวบรวมข้อมูลเป็นไง?”
กู่ฉางเกอนั่งสมาธิอยู่บนเตียง เขาถอนสมาธิออกจากหน้าจอระบบ ลืมตา และถาม
“นายน้อย เรื่องราวเป็นไปตามที่ท่านคิด”
“ประมุขไท่เซวียนเรียกซูชิงเกอไปหาและบอกนางถึงเหตุผลและความลำบากใจของเขา”
“มันคืออะไร?”
กู่ฉางเกอเลิกคิ้ว
ชายชราในชุดดำตอบ“ผู้อาวุโสสูงสุดที่แข็งแกร่งสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียนตายไปตั้งแต่สามร้อยปีก่อนแล้ว แค่ว่าข่าวยังไม่รั่วไหลไปโลกภายนอก ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียนจึงต้องการหาที่พึ่งใหม่”
“นอกจากนั้น ภรรยาของประมุขศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียนคือหญิงสาวสูงส่งจากอาณาจักรเบื้องบน หลายปีก่อน นางโดนพาตัวกลับไปอาณาจักรเบื้องบนโดยขุมกำลังบางแห่ง ประมุขไท่เซวียนจึงหวังใช้ซูชิงเกอเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับท่าน และใช้สายสัมพันธ์นั้นเพื่อหาตัวภรรยาเขา”
“โอ้ ไม่คิดเลยว่าข้าจะเดาถูก’
กู่ฉางเกอแสยะยิ้ม
เขาคิดถึงมันมานานแล้ว เนื่องจากซูชิงเกอคือนางเอก นางก็ต้องมีเรื่องไม่ธรรมดาติดตัว
ดังนั้น เขาจึงให้ชายชราไปรวบรวมข้อมูล
ชายชราในชุดดำนั้นคือเฒ่าหมิง
เขาคือผู้คุ้มกันส่วนตัวของกู่ฉางเกอในการเดินทางมายังอาณาจักรเบื้องล่าง เขาแข็งแกร่งมาก
ไม่ต้องพูดถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียน แม้กระทั่งทั้งแดนบูรพา ก็มีสถานที่ไม่มากที่เฒ่าหมิงไม่สามารถเข้าไป