[เคล็ดเต๋าเซียนสวรรค์] กู่ฉางเกอบ่มเพาะเคล็ดบ่มเพาะนี้
[เคล็ดเต๋าเซียนสวรรค์]คือเคล็ดบ่มเพาะสูงสุดที่มีแค่ศิษย์แท้จริงของวังเต๋าเซียนสวรรค์ถึงบ่มเพาะได้ ว่ากันว่าเคล็ดเซียนนี้คือรากฐานของวังเต๋าเซียนสวรรค์ และถือเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขายิ่งใหญ่ มันยากที่จะนับจำนวนนิกายเซียน ตระกูลเซียน และผู้มีอำนาจที่ปรารถนาในเคล็ดวิชานี้
กู่ฉางเกอได้บ่มเพาะเคล็ดวิชานี้ถึงขั้นหกแล้ว และยืนอยู่บนจุดสูงสุดในหมู่คนรุ่นเดียวกับเขาในอาณาจักรเบื้องบน ทว่า แม้กระทั่งด้วยพรสวรรค์ของเขา เขาก็ไม่ก้าวหน้ามากว่าครึ่งปีแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะทะลวงผ่านไปขั้นต่อไป
‘ในเมื่อค่าโชคชะตาสามารถเพิ่มระดับของค่าสถานะทั้งหมดได้ งั้นการเพิ่มความเข้าใจของข้าต่อเคล็ดบ่มเพาะนี้ก็ควรผลักดันฐานบ่มเพาะข้าด้วยตัวมันเอง ใช่ไหม?’
นั่นคือความคิดของเขา และเขาก็ยังมีค่าโชคชะตา500แต้มให้ใช้
‘ระบบ ลุย!’
ทันทีที่ความคิดแวบผ่านหัว กู่ฉางเกอก็รู้สึกถึงกระแสอากาศอุ่นไหลผ่านแขนขาเขา ในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในหัวเขาที่อธิบายไม่ได้ มันเพิ่มการเห็นแจ้งเกี่ยวกับ[เคล็ดเต๋าสวรรค์สวรรค์]
ในเวลาเดียวกัน ค่าโชคชะตาก็ลดลงด้วยความเร็วสูง
[ซวบ!บูม!}
สุดท้าย ด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น กู่ฉางเกอก็ทะลวงผ่านไปขั้นเจ็ดของ[เคล็ดเต๋าเซียนสวรรค์]
ทันใดนั้น พลังอันยิ่งใหญ่ก็กดทับลงมาเหนือวังที่กู่ฉางเกอกำลังพัก สภาพแวดล้อมเปลี่ยนเป็นเงียบสงัด ขณะที่ผู้คุ้มกันที่รับผิดชอบเฝ้าเวรต่างตัวสั่น
ผู้คุ้มกันทั้งสองมองเหลียวหลังและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“กลิ่นอายที่น่ากลัวนั่นมาจากไหน..”
“มันราวกับจอมมารได้ซ่อนตัวอยู่ในวังนั่น!”
“ระวังปากเจ้าด้วย!”
เหงื่อเย็นไหลชะโลมกายพวกเขาและทั้งสองก็ทำได้แค่จ้องเท้าตัวเอง
นายน้อยกำลังบ่มเพาะเหรอ?เขาน่ากลัวแค่ไหนกัน!
“นี่คือพลังของราชาเซียน?น่ากลัวมาก!”
ภายในวัง กู่ฉางเกอสูดหายใจลึกและหัวเราะ
อากาศด้านหน้าเขากระเพื่อม และแม้แต่กลิ่นอายน่ากลัวที่ห่อหุ้มตัวเขาก็ยังผสานกับสภาพแวดล้อม กู่ฉางเกอรู้สึกราวกับเลือด เนื้อ และกระดูกของเขาโดนขัดเกลา ขณะที่เขาจ้องแสงที่เปล่งจากตัวเขาเอง
มารกับเต๋าไหลผ่านหัวใจกับกระดูก ไม่เพียงการทะลวงผ่านนี้จะเพิ่มฐานบ่มเพาะของกู่ฉางเกอ แต่มันยังนำมาซึ่งความสามารถใหม่ แม้กระทั่งพลังกายของเขาก็ยังพุ่งทะยาน
[หัวใจมาร]กับ[กระดูกเต๋า] พวกมันคือของคู๋ขนาน
แน่นอน จากความทรงจำของเจ้าของร่าง เขารู้ว่าของเหล่านี้จะมีไว้สู้กับบุตรฟ้าประทานในอนาคต
อา รอเดี๋ยว ‘นาง’ควรเป็น’ธิดา’ของสวรรค์
[หัวใจมาร]เป็นของเขา [กระดูกเต๋า]ไม่ใช่
“บัดซบ [เคล็ดเต๋าเซียนสวรรค์]นี่ต้องมีระดับสูงมากถึงเลื่อนได้แค่ขั้นเดียวแม้จะผลาญค่าโชคชะตาข้าไปขนาดนั้น!”
กู่ฉางเกอหัวเราะไม่ออก แม้มันจะรู้สึกดีที่ทะลวงผ่าน และความรู้สึกของพลังและการควบคุมที่มาจากมันจะน่าตื่นเต้น เขาก็เสียค่าโชคชะตาที่ได้รับมาอย่างยากลำบากไปหมด
แต่มันก็ยังหมายความว่าเคล็ดบ่มเพาะนี้สุดยอดมาก
“ยังไงซะ ก็ยังมีกระเทียมหอม(เย่เฉิน)รอให้ข้าไปตัด ข้าจะไม่ขาดค่าโชคชะตาแน่”
กู่ฉางเกอเลิกฟุ้งซ่าน เหนือสิ่งอื่นใด จะมีแต้มมากขึ้นจากเจ้าหมอนี่ และแม้เย่เฉินจะดูน่าเกลียดในสายตาคนอื่นหลังโดนเขาทำให้อัปยศ แต่สำหรับกู่ฉางเกอ อีกฝ่ายกลับดูหอมหวานมาก
…
[ในคุกใต้ดิน]
อากาศชื้นผสมกับกลิ่นเหม็นของศพเน่ากระจายไปทั่วคุกใต้ดินมืดสลัว
ในหนึ่งในห้องขัง เย่เฉินนั่งบนพื้นด้วยสายตาเหม่อลอย ด้วยฐานบ่มเพาะเขาที่โดนผนึก และแขนขาที่โดนพันธนาการ เขายังไม่หายจากความอัปยศในวันนี้
เขาไม่เคยอับอายขายขี้หน้าแบบนี้มาก่อน ไม่แม้แต่ตอนอดีตคู่หมั้นที่ทำให้เขาอับอายเมื่อสามปีก่อน!
ไม่ว่าเขาจะเจออะไรมา หรือเจอสถานการณ์สิ้นหวังแค่ไหน เขาก็มักรอดและยืนอยู่ด้านบน!แต่วันนี้ ไม่มีอะไรที่เข้าข้างเขาเลย
“กู่ฉางเกอ..”
ดวงตาแดงก่ำของเย่เฉินจับจ้องซี่กรงขณะแหกปากเรียกชื่อศัตรูด้วยความเกลียดชัง ความไม่แยแสของกู่ฉางเกอขณะจ้องมองเขา เย่เฉิน ไม่ต่างอะไรจากสายตาตอนที่คนมองมดกำลังโดนเหยียบ
“เฉินน้อย…”
ตอนนี้เอง เสียงน่าฟังดังมาจากแหวนบนนิ้วของเย่เฉิน ดึงสติเขากลับคืน ทันทีทันใด ความโกรธและไม่เต็มใจก็ปกคลุมหน้าเขาพอเขานึกถึงสิ่งที่เกิด
“อาจารย์ ท่านไปไหน?!ทำไมท่านถึงไม่ตอบตอนข้าเรียกท่าน..”
เย่เฉินระบายความขุ่นเคืองทั้งหมดใส่อาจารย์เขา
แม้ความสำเร็จทั้งหมดของเขาในวันนี้จะล้วนมาจากอาจารย์ในแหวน แต่เหตุการณ์วันนี้ก็ทำให้เย่เฉินขาดการควบคุม
อาจารย์ของเขา ผู้มักพึ่งพาได้ตลอดกลับหายไปในช่วงเวลาวิกฤต?หรือนางเองก็กลัวกู่ฉางเกอ?
“เฉินน้อย ฟังข้าก่อน มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด+.
ร่างเลือนรางของผู้หญิงที่มีรอยยิ้มขมขื่นปรากฏจากแหวน นางไม่ใส่ใจที่เย่เฉินโกรธใส่นางเลย แต่นางก็มีเหตุผลที่ไม่ตอบสนองเขาในตอนนั้น
“มีบุคคลน่ากลัวซ่อนในเงาตอนนั้น ข้ากังวลว่าคนคนนั้นอาจเกี่ยวข้องกับขุมอำนาจที่ทำลายข้า ข้าจึงไม่กล้าเผยตัว..”
ผู้หญิงในแหวนอธิบาย นางเป็นแค่วิญญาณที่ติดในแหวน นางจึงทำอะไรไม่ได้มากอยู่แล้ว ถ้าศัตรูนางพบนางเพราะความเลินเล่อของนาง งั้นนั่นคงเป็นจุดจบของนาง นางต้องระวัง
เย่เฉินรู้ถึงต้นกำเนิดของอาจารย์เขา นางเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรเบื้องบนที่โดนคนอื่นล่าจนตาย สุดท้าย นางก็ทำได้แค่เอาชีวิตรอดในฐานะวิญญาณซึ่งตกลงมายังอาณาจักรเบื้องล่าง และติดอยู่ในแหวน ซึ่งต่อมาเขาก็ได้รับแหวน
เขาไม่เคยคิดว่าภูมิหลังของกู่ฉางเกอจะน่ากลัวขนาดนี้ เย่เฉินเงียบ หมดแรงและไม่รู้ว่าจะทำอะไร เขาต้องยอมแพ้ต่อซูชิงเกอ และทนดูนางตกลงกองไฟอย่างงั้นเหรอ?
เย่เฉินกำหมัด ไม่เต็มใจยอมรับความคิดนั้น!