หัวใจของหลินชิวหานปรารถนาจะถามคำถามพวกนี้กับหลินเทียน เหนือสิ่งอื่นใด นางคิดว่าหลินเทียนมีปัญหาจริงๆหลังได้ยินคำพูดของกู่ฉางเกอระหว่างเดินเล่น
หลินเทียนไร้พรสวรรค์หรือไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการบ่มเพาะ ต่อให้มีคนช่วยกระตุ้นเขาและเสนอตัวช่วย เขาก็ยังไม่พัฒนาสักนิด แต่ตอนนี้ ….มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากัน?
อะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงขนาดนี้?ทำไมจู่ๆเขาถึงเปลี่ยนเป็นคนน่ารำคาญและอวดดี?เขาไปเรียนศาสตร์การหลอมมาจากไหน?แล้วเขาชี้ข้อผิดพลาดในการสอนของอาจารย์ได้ไง?
ต้องมียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังเขาที่คอยสั่งสอนเขาใช่ไหม?หรือว่า…หลินชิงหานสะดุ้งและรีบไล่ความคิดเหล่านั้นออกไป
น่าเสียดาย หลินเทียนได้หายตัวไปแล้วตอนหลินชิวหานเดินกลับมา
ทั้งหมดนี่ทำให้นางตาลาย นางทำได้แค่ถอนหายใจ
‘เขาคงโกรธหลังโดนข้าตำหนิไป เขาต้องกลับไปลานบ้านเขาแน่ ข้าจะถามเรื่องเหล่านี้กับเขาวันพรุ่งนี้….ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเทียนกันแน่?’
หลินชิวหานส่ายหัว ตัดสินใจทิ้งเรื่องนี้ไว้ก่อน ตอนนี้ นางควรกลับไปพักผ่อนและดูแลธุระส่วนตัวของนาง นางยังไม่ได้ตรวจสอบการบ้านของพวกศิษย์ของนางเลย
ในเวลาเดียวกัน ความคิดที่จะได้พบคุณชายกู่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ก็ปรากฏในหัวนาง ทันทีทันใด อารมณ์ของนางสดใสขึ้นและนางก็อยากให้วันพรุ่งมาถึงเร็วๆ นางอยากจะข้ามเวลาให้เร็วที่สุด
เมื่อการโต้เถียงของหลินเทียนกับหลินชิวหานสิ้นสุดลง การแจ้งเตือนระบบก็ดังในหัวของกู่ฉางเกอตามที่เขาปรารถนา
[ติ้ง!หลินชิวหานเริ่มสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของหลินเทียน หลินเทียนเสียค่าโชคลาภ 50 แต้ม ท่านได้รับค่าโชคชะตา 250 แต้ม!]
หึ..ทุกอย่างวิ่งไปบนฝ่ามือเขา
เขาเคยอ่านนิยายมาหลายเรื่องในชาติก่อน และรู้ถึงความซ้ำซากจำเจและโครงเรื่องพวกนี้เหมือนหลังมือตัวเอง เขายังอ่านนิยายมามากที่ตัวร้ายเป็นฝ่ายกำชัย ดังนั้นกู่ฉางเกอจึงรู้วิธีบีบเค้นค่าโชคของผู้กลับชาติมาเกิดใหม่อย่างหลินเทียน
ก่อนอื่น เขาจะสร้างรอยร้าวระหว่างตัวเอกกับบุคคลที่ใกล้ชิดเขาสุด สอง เขาจะทำให้ครอบครัวหันหลังให้อีกฝ่าย และสุดท้าย เขาจะเปิดเผยเรื่องที่อีกฝ่ายมายึดร่างของหลินเทียนคนเก่าเพื่อผลประโยชน์ที่’ชั่วร้าย’…
ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของกู่ฉางเกอและหลินเทียนก็จะไม่สามารถขยับตัวได้ ถ้าเขาเดาถูก หลินเทียนจะต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เขาจะไม่มีวันยืนกับที่ ปล่อยให้คนเหยียบย่ำเขาโดยไม่ทำอะไร
ความอยากรู้อยากเห็นของกู่ฉางเกอพุ่งถึงจุดสูงสุดพอเขาสงสัยว่าหลินเทียนจะใช้วิธีการแบบไหนมาจัดการกับเขา?
จะลอบสังหารเขา?จับหัวเขากระแทกอัดเข้ากำแพงอิฐ?
หรือพยายามวางยาเขา?นั่นคงไม่ได้ผลเช่นกัน
งั้น..ก็เหลือแค่ทางเดียว’หลินเทียนจะใช้เคล็ดวิชาต้องห้ามบางอย่าง’
…
หลินเทียนกลับไปลานบ้านเขาด้วยใบหน้าดำมืด คำพูดของหลินชิวหานทำให้เขาอับอายมาก เขา ราชาเทพสังหารสวรรค์ผู้เป็นใหญ่ ปกครองลากยาวจากตะวันตกสู่ตะวันออกไม่คิดฝันว่าจะโดนดูถูกขนาดนี้
แม้กระทั่งผู้หญิงก็ยังดูถูกเขาแล้ว?
นางหมายความว่าไงที่ว่าจะไม่ต้องเป็นห่วงเขาถ้าเขาดีได้สักเสี้ยวหนึ่งของเจ้าหมอนั่น?
คำพูดนี้ทำให้หลินเทียนโกรธเลือดขึ้นหน้า และเนื่องจากเขา ราชาเทพผู้ยิ่งใหญ่โกรธ เขาก็ต้องล้างความอับอายนี้ด้วยเลือดของศัตรู
‘ดีที่ข้าเตรียมวัตถุดิบทั้งหมดไว้ตั้งแต่บ่าย..’
‘แม้พลังของมันจะไม่ถึงหนึ่งส่วนหมื่นของแต่เดิม มันก็มากพอจะจัดการกับไอคุณชายกู่บ้าอะไรนั่น’
‘ฮี่ๆ!เจ้าสารเลวกู่ เจ้าหาเรื่องใส่ตัวเอง..’
หลินเทียนคิดในใจเหมือนคนบ้า
ในฐานะคนจากอาณาจักรเบื้องบน กู่ฉางเกอคงได้รับการปกป้องของบรรพชนตระกูลหลินเรื่อยๆ เขาจึงสามารถใช้วิธีการปกติเพื่อจัดการได้ แถม พลังปัจจุบันของเขายังไม่พอจะทำร้ายกู่ฉางเกอด้วย
ดังนั้นทางเดียวที่หลินเทียนคิดได้คือใช้เคล็ดวิชาต้องห้าม!
เหตุผลที่เขามั่นใจขนาดนี้ก็เพราะมันคือเคล็ดวิชาต้องห้ามโบราณในการครอบครองของเขา!
มันคือวิชาที่พิสดารและยากจะเข้าใจที่จะชักนำปีศาจจากโลกใดก็ไม่รู้มา เขาเคยใช้วิชานี้เพื่อทำให้ราชาเทพในฐานบ่มเพาะเดียวกับเขาบาดเจ็บมาแล้ว!
แม้เขาจะไม่สามารถใช้พลังแท้จริงของเขาได้ แต่การจัดการกับเด็กอย่างกู่ฉางเกอก็คงไม่ยาก
แน่นอน วิชาต้องห้ามนี้ไม่ได้มาฟรีๆ!มันมีราคาต้องจ่าย ซึ่งก็คือการเผาไหม้พลังชีวิตของผู้ใช้เป็นการสังเวยเพื่ออัญเชิญปีศาจ
หลินเทียนไม่สนใจราคาที่ต้องจ่ายในตอนนี้ เหนือสิ่งอื่นใด เขาสามารถชดเชยอายุขัยที่เสียไปได้ง่ายๆตอนเขาประสบความสำเร็จในอนาคต
‘ด้วยการแช่[ธูปวิญญาณ99ดอก]ในแก่นโลหิตของสัตว์อสูรมีพิษแปดตัว จากนั้นก็ผสมมันเข้ากับไขกระดูกของสัตว์อสูรที่ต่างกันสามชนิด สิ่งนี้จะเปิดประตูสู่อาณาจักรเบื้องล่างนี้ ปล่อยให้ปีศาจเข้ามา เมื่อประตูเปิด ข้าจะต้องใช้[ธูปกายมนุษย์]เพื่อสื่อสารกับปีศาจและสร้างสะพานเชื่อมระหว่างเรา..’
หลินเทียนยุ่งอยู่กับการเตรียมวัตถุดิบสำหรับวิชาต้องห้ามนี้ในตอนบ่าย และนั่นทำให้หลินชิวหานหาเขาไม่เจอ
ในฐานะทายาทของตระกูลหลินโบราณ มันไม่ยากที่เขาจะออกไปและจัดเตรียมของเหล่านี้
หลังจากนั้น หลินเทียนก็นึกถึงขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อใช้วิชาต้องห้าม และวางวัตถุดิบต่างๆไว้ในส่วนต่างๆของลานบ้านเขา ไม่ช้า เขาก็เริ่มอัญเชิญปีศาจจากอีกโลก หลินเทียนหลับตา นั่งอยู่ตรงกลางและเริ่มพูดคำพูดที่คลุมเครือ
วัตถุดิบเหล่านี้ไม่ธรรมดา บ้างทำจากผิวหนังและกระดูกมนุษย์ และบ้างทำจากเผ่าพันธุ์อื่น พวกมันสามารถหาได้ในตลาดมืดของเมืองโบราณ
เจ้าของร่างนี้มีเงินเก็บค่อนข้างมาก หลินเทียนจึงซื้อมาได้โดยไม่ลำบาก
[ฮึ่ม!]
ไม่ช้า อักขระหลากสีก็ปรากฏรอบๆ และบรรยากาศน่าขนลุกก็ปกคลุมไปทั้งลานบ้าน ถ้ามีคนเข้ามาตอนนี้ พวกเขาคงตกใจจนขวัญกระเจิง
[หวือออ!]
เสียงสวดของหลินเทียนเริ่มรุนแรง ลมสีแดงพัดรอบตัวเขา จากนั้นผมสีแดงก็ปรากฏขึ้นจากอากาศธาตุและลอยเหนือพื้น แผ่กลิ่นอายเย็นชาและน่ากลัว
แต่น่าแปลกตรงที่กลิ่นอายชั่วร้ายนี้กลับปรากฏแค่ในลานบ้านเท่านั้น ไม่มีใครด้านนอกที่สัมผัสได้ คนที่มองจากด้านนอกจะพบว่าลานบ้านดูสงบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นภายใต้แสงจันทร์สลัว ราวกับมีบางอย่างแยกมันออกจากโลก
‘ตามคาด มันไม่ง่ายเลยที่จะใช้วิชาต้องห้ามระดับนี้ด้วยพลังปัจจุบันของข้า..’
เม็ดเหงื่อไหลอาบหน้าของหลินเทียน ถึงแม้ว่าสีหน้าของเขาจะยังมั่นคง แต่ก็สามารถบอกได้ว่าการใช้วิชาต้องห้ามสร้างภาระให้กับเขาอย่างมาก
วินาทีต่อมา กลิ่นอายเย็นชาและชั่วร้ายกกว่านั้นก็ปกคลุมทุกอย่างในลานบ้าน อักขระที่ก่อนไหนเปล่งแสงพลันเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท และพัวพันกันเพื่อโอบล้อมทุกสิ่ง
เงาคล้ายควันจางๆตกลงมาจากฟ้า และผุดขึ้นจากพื้นดิน
“ฆ่าเขา-ทำลายดวงวิญญาณเขาให้ข้า!”
หลินเทียนสั่งควันรอบตัวเขา ในเวลาเดียวกัน เขาก็นึกถึงหน้าตาของกู่ฉางเกอในใจ
“ข้าเต็มใจจ่ายด้วยอายุขัย 15 ปีของข้า!”
ไม่ช้า หลินเทียนก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ฉีกแก่นชีวิตเขา ในเวลาเดียวกัน การเชื่อมโยงเล็กน้อยกับสิ่งที่มองไม่เห็นก็ก่อตัวในในเขา เขาส่ายหน้าอย่างอ่อนแรง เหนือสิ่งอื่นใด เขาได้สังเวยแก่นชีวิตของเขาไปเพื่อสิ่งนี้
แต่ไม่ช้า เขาก็ฟื้นสภาพจิตและพูดอย่างมั่นใจ’ต่อให้เจ้ารอดพ้นความตายได้ เจ้าก็จะไม่มีวันรอดพ้นจากการเป็นคนพิการ!’
ปีศาจชนิดนี้จากโลกที่ไม่รู้จักนั้นรับมือได้ยากมาก การเผชิญหน้ากับพวกมันโดยพื้นฐานแล้วจะส่งผลให้วิญญาณโดนทำลาย ตายทันที
แม้เป้าหมายจะรอดตาย พวกเขาก็จะนอนเป็นผัก ไม่ได้สติไปตลอดชีวิต
ลมชั่วร้ายมาเร็วและก็หายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน!