ตอนที่ 644: เทพมารจุติ!
จี้หยางในปัจจุบัน มองไม่เห็นถึงรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาแม้แต่น้อย เปลี่ยนไปเป็นเทพสังหารโดยสมบูรณ์ มือทั้งสี่ข้างทำการกวัดแกว่งอุปกรณ์ระดับเทวะ พร้อมกับพุ่งเข้ามาราวกับปีศาจร้าย
แม้แต่ความเร็วก็ยังเพิ่มขึ้น เหนือไปกว่าก่อนหน้านี้มาก ใครจะคิดเล่าว่าจี้หยางนั้นจะมีพลังที่แข็งแกร่งได้ขนาดนี้?
“ต่อให้ท่านบรรพชนอยู่ที่นี่ ก็ไม่น่าที่จะต้านทานจี้หยางผู้นี้ได้ใช่ไหม?” พวกผู้อาวุโสลั่วพากันตกใจ พวกเขาไม่เคยเห็นเผ่าวิญญาณร้ายระเบิดพลังมาก่อน มาตอนนี้หลังจากได้เห็น ในใจก็อดสั่นสะท้านออกมาไม่ได้
ต่อให้เป็นบรรพชนของพวกเขาระเบิดพลังออกมา ก็ไม่น่ากลัวไปกว่าการระเบิดพลังของจี้หยาง ยังไงก็ตาม การระเบิดพลังของเผ่าฟีนิกซ์มีผลข้างเคียงที่น้อยมาก แต่การระเบิดพลังของเผ่าวิญญาณร้ายนั้น มีผลข้างเคียงที่ใหญ่เกินไป เหมือนกับการกินโอสถคลุ้มคลั่ง
ไม่เพียงแต่ระยะเวลาจะสั้นเท่านั้น แต่ผลข้างเคียงยังมีผลในทันทีอีก ซึ่งพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้ แต่ที่พวกเขารู้ในตอนนี้คือ จี้หยางนั้นร้ายกาจมาก พลังที่ป่าเถื่อนของเขา ไม่ใช่อะไรที่พวกเขาจะไปเทียบได้
แต่ว่าตอนนี้คนที่สู้กับเขาไม่ใช่บรรพชนเผ่าฟีนิกซ์ แต่ว่าเป็นอี้เทียนหยุน!
ยังไงก็ตาม อี้เทียนหยุนก็ดูเหมือนจะอหังการจนหาที่เปรียบไม่ได้ ในสภาพเทพมารจุติ ดูแล้วเหมือนว่าพลังของเขาจะรุนแรงอย่างมาก ทั้งหล่อเหลาและก็ทรงเสน่ห์อย่างร้ายกาจ บนหัวมีเขาสองข้า ขณะที่ด้านหลังมีปีกสีดำคู่หนึ่งที่ควบแน่นมาจากเปลวเพลิงสีดำโดยเฉพาะ เมื่อเทียบกับจี้หยางแล้ว กลิ่นอายของเขาดูแข็งแกร่งกว่ามาก
“ท่านพ่อ ระวังด้วย!” ลั่วเหยียนตะโกนเสียงดัง ขณะที่ในใจเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“วางใจเถอะ พ่อของเจ้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องผิดหวัง” อี้เทียนหยุนส่งยิ้มให้เธอ จากนั้นหันกลับไปมองยังจี้หยาง พร้อมกับพูดด้วยความเฉยชาว่า “หากว่าระดับของข้าไม่เพิ่มขึ้น มันก็คงจะเป็นเรื่องยากจริงๆ นั่นล่ะ เพิ่มพลังขึ้นหลายเท่า? หากเทียบกับตอนแรกแล้ว น่าจะเพิ่มจากเดิมสัก 4 เท่า หรือว่า 5 เท่ากัน?”
ตอนแรกที่จี้หยางยังไม่แปลงร่าง พลังรบของเขาอยู่ที่ประมาณ 2 พันล้าน แต่ตอนนี้พลังรบของเขาได้มาถึง 9.1 พันล้าน ซึ่งตัวเลขนี้ถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นระดับท้าทายสวรรค์จริงๆ
“คำราม!”
ที่มาถึงก่อนคือคลื่นเสียงอันน่าสะพรึงนั้น มันได้เข้าปกคลุมอี้เทียนหยุนในทันที แต่ก็มุ่งเป้าไปที่เขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับอีกฝ่ายแม้แต่น้อย พื้นดินรอบๆ ตัวเขาราวกับไถ พร้อมกับม้วนตลบไปรอบๆ ราวกับพายุ
พริบตา จี้หยางก็ได้เข้ามาถึงตรงหน้าอี้เทียนหยุน อุปกรณ์ระดับเทวะทั้งสี่ชิ้นในมือต่างก็ทุ่มเข้าใส่เขาอย่างไม่มีการปรานี คลื่นพลังถูกปล่อยออกมาจากอุปกรณ์ระดับเทวะทั้งสี่นี้ หนึ่งคนแต่กลับใช้งานอุปกรณ์ระดับเทวะได้พร้อมกันถึงสี่ชิ้น เพียงแค่พลังนี้ ก็เพียงพอที่จะบดขยี้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ได้แล้ว
อุปกรณ์ระดับเทวะแต่ละชิ้นต่างก็หวังผลต่างกัน อันแรก พัดเทวะถูกฟันออกไปราวกับมีดสั้น แทงเข้าตรงบริเวณหน้าอกของเขา อันที่สองคือกระบี่เทพที่มุ่งเป้ามาที่บริเวณศีรษะของเขา ที่ตัวกระบี่มีเปลวเพลิงเทียนหยินที่เย็นเยือกลุกโชนอยู่รอบๆ ให้ความรู้สึกเหมือนกับมีภาพภูตผีกำลังแยกเขี้ยวอยู่ด้านใน พร้อมกับทำการขบกัดมาที่เขา อันที่สามคือขวานยักษ์ที่สับเข้ามาตรงบริเวณกลางลำตัว ความคมของมันเพียงพอที่จะตัดบรรยากาศรอบๆ ให้แยกออกจากกัน และอันสุดท้ายก็คือหอกยาวเล่มหนึ่ง หอกเล่มนี้โจมตีเข้ามาเหมือนกับอาวุธระยะไกล และที่มันเล็งเอาไว้ก็ยังคงเป็นบริเวณศีรษะของเขาอยู่ ต้องการที่จะเสียบทะลุกะโหลกเขาออกไปในคราวเดียว!
การโจมตีอย่างต่อเนื่องจากอุปกรณ์ระดับเทวะทั้งสี่ชิ้น ทำให้พลังของมันทวีคูณขึ้นอย่างบ้าคลั่ง จนก่อให้เกิดพลังรบที่น่าสะพรึงระดับนี้ขึ้น
“หมื่นโลกาสังหาร!”
จี้หยางสองตาแดงก่ำ เงื้อง่าอาวุธฟันลงมา สีวงโคจรแสง ทำการปิดตายทางหนีทุกทางไว้ แทบจะพูดได้ว่าไร้ซึ่งที่จะหลบ มีเพียงแต่ขุดลงไปในดินเท่านั้น แต่ถึงจะขุดลงไปในดินได้ อาวุธทั้งสี่ชิ้นก็ยังคงขุดดินตามลงไปอยู่ดี
หลังจากสำแดงเคล็ดวิชาอันน่าสะพรึงออกมา ก็ก่อให้เกิดเป็นคลื่นโครงกระดูกนับไม่ถ้วนออกมาจากอาวุธเหล่านั้น พร้อมกับทำการพุ่งเข้าขบกัดอี้เทียนหยุน หากว่าถูกพวกมันกัดเข้า เกรงว่าจะคงต้องกลายเป็นอาหารมื้อใหญ่ของพวกมันอย่างแน่นอน
“ความแข็งแกร่ง ไม่ได้วัดที่ว่าใครเสียงดังกว่า และไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครมีอาวุธมากกว่า แต่ขึ้นอยู่กับพลังที่แท้จริงต่างหาก!”
ในมืออี้เทียนหยุนทำการควบกลั่นพลังของเปลวเพลิงสีดำอันน่าสะพรึง ควบกลั่นเข้าไปในหมัด จากนั้นก็ทำการต่อยลงไปที่จี้หยาง เพื่อทำลายการโจมตีที่เข้ามา ส่วนปีกสีดำด้านหลังที่ถูกควบแน่นมาจากเปลวเพลิงก็ได้ทำการผสานเข้าที่แขนของเขาในพริบตา พร้อมกันนั้นก็ปรากฏค่ายกลนับไม่ถ้วนขึ้นบนแขนของเขา
“เทพมารจุติ!”
นัยน์ตาทั้งสองข้างของเขาเปล่งแสงสีดำสว่างออกมา จากนั้นก็ต่อยหมัดออกไป พร้อมกันนั้น ก็ได้มีลำแสงสีดำเข้มทำการเข้าปกคลุมแผ่นฟ้าเอาไว้ แต่ในความเป็นจริงแล้วลำแสงสีดำนี้ก็คือหมัดของเขา หมัดทลายสวรรค์!
การโจมตีจากทั้งเขาและจี้หยางต่างก็ปะทะเข้าด้วยกัน จนก่อให้เกิดแรงระเบิดอันแสนร้ายกาจออกมา!
“เปรี้ยง!!”
เสียงดั่งสนั่นกระจายไปทั่วทั้งรังฟีนิกซ์ เทียบกับพลังที่ส่งออกมาจากในถ้ำฟีนิกซ์แล้ว ถือว่าแข็งแกร่งกว่าหลายเท่า กระทั่งคนที่อยู่ไกลออกไป ก็ยังถูกแรงสั่นสะเทือนทำให้ต้องถอยไปหลายก้าว แทบจะล้มลงกับพื้น
“เป็นพลังทีน่ากลัวจริงๆ…..”
ในใจของผู้คนหลังจากที่พูดคำนี้ออกมา ก็ไม่มีคำพูดอื่นออกมาอีก เรื่องนี้มันทำให้พวกเขาตกใจมากจริงๆ
“ท่านราชครูจะต้องชนะ จะต้องชนะอย่างแน่นอน!”
คนของแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงรู้สึกหน่วงๆ ในใจ ไม่กล้าร้องตะโกนออกไป พวกเขาไม่ปรารถนาให้ราชครูแพ้ เพราะหากแพ้ พวกเขาก็จะจบสิ้นจริงๆ
“ทูตศักดิ์สิทธิ์จะต้องชนะ!”
เผ่าฟีนิกซ์ต่างก็คาดหวังให้อี้เทียนหยุนเป็นฝ่ายชนะ ในปัจจุบันนี้ อี้เทียนหยุนคือความหวังของพวกเขา หากอี้เทียนหยุนตาย พวกเขาก็จะถึงจุดจบเช่นกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสมเพชตัวเอง เผ่าฟีนิกซ์ของพวกเขาเองแท้ๆ กลับต้องให้เผ่ามนุษย์เป็นผู้ปกป้อง
แต่หากคิดว่าเขาคือทูตศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา ก็จะไม่มีความรู้สึกนี้ เพราะพวกเขาถือว่าอี้เทียนหยุนคือพวกเดียวกัน
ภายใต้การภาวนาของผู้คน ลำแสงสีดำของเทพมารก็ได้มาถึง มันยืดขยายออกมารอบๆ อย่างรวดเร็ว ทุกชุนที่สัมผัส ล้วนแต่ถูกทำลายล้าง….. จนกระทั่งลำแสงสีดำปกคลุมในระยะ 1 ลี้นั่นล่ะ ถึงได้หยุดลงในที่สุด
หลังจากที่แสงสีดำค่อยๆ หายไป ที่ปรากฏต่อหน้าทุกคนก็คือร่างสูงใหญ่ของอี้เทียนหยุน กำลังยืนอยู่ในจุดนั้นอย่างไร้อารมณ์ แม้แต่ครึ่งก้าวก็ไม่ขยับ
ส่วนจี้หยางนั้นมองไม่เห็นแม้แต่เงา เห็นเพียงแค่ขี้เถ้ากองหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล พร้อมกับอุปกรณ์ระดับเทวะสี่ชิ้นที่ตกอยู่บนพื้น พร้อมกับรอยไหม้แถบหนึ่ง
“ระ ราชครู…..”
ในใจผู้คนพากันแตกตื่น พวกเขามองไม่เห็นตัวราชครู แต่เมื่อเห็นอุปกรณ์ระดับเทวะสี่ชิ้นตกอยู่บนพื้น ก็รู้ว่าราชครูของพวกเขาได้ตายไปแล้ว ยิ่งกว่านั้น ยังกลายเป็นขี้เถ้าที่กำลังบินไปด้วย
“ถูกเผาเป็นเถ้า ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียน ถูกเผาเป็นเถ้าไปทั้งอย่างนี้เลย……”
ผู้คนพากันสูดหายใจเฮือก แม้ว่านี่จะเป็นเปลวเพลิงนิรันดร์ แต่ก็ไม่น่าจะทำได้ง่ายๆ อย่างนี้นี่จริงไหม?
ความจริงแล้วนี่ก็คือเปลวเพลิงนิรันดร์ แต่ว่าเป็นเปลวเพลิงนิรันดร์ที่รุนแรงขึ้นหลายเท่า! ภายใต้พลังของสายเลือดราชวงศ์ฟีนิกซ์ ทำให้เปลวเพลิงนิรันดร์มีพลังเทียบเท่ากับเปลวเพลิงเทียนหยิน อีกทั้งยังสามารถแผดเผาสิ่งชั่วร้ายได้ทั้งหมด รวมกระทั่งจี้หยางนี้ด้วย
ก่อนหน้านี้อี้เทียนหยุนไม่ได้แปลงพลังสายเลือดฟีนิกซ์ออกมา แต่เมื่อตอนเผชิญหน้ากับจี้หยาง เขาก็ได้ใช้มันออกมา แต่ถึงจะไม่ใช้มัน เขาก็ยังสามารถจัดการราชครูผู้นี้ได้อยู่ดี แต่เขาก็ยังใช้มัน
เนื่องเพราะว่าเวลาของเขาเหลือไม่มาก เวลาของบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ 200 เท่าเหลืออยู่เพียงน้อยนิด การสังหารนี้ ไม่สามารถปล่อยให้สูญเปล่าได้
“ติ๊ง ท่านสังหารจี้หยางสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 2.24 หมื่นล้าน, ค่าความคลั่ง 180,000, ค่าความชั่ว 40,000, ได้รับวิชายุทธ์ เคล็ดวิชาเทพเทียนหยิน, ฝ่ามือใต้พิภพ, เคล็ดวิชาใต้พิภพ, มหาค่ายกลเทียนหยิน, เคล็ดวิชาวิญญาณร้าย! ได้รับไอเทม กระบี่เทพเอ้อร์หลิง(วิญญาณร้าย)(อุปกรณ์ระดับเทวะขั้นต่ำ), ชุดเกราะเทพเอ้อร์หลิง(ระดับเทวะขั้นต่ำ), รองเท้าศึกเอ้อร์หลิง(ระดับเทวะขั้นต่ำ), สายเลือดวิญญาณร้าย(ขั้น 2), วิญญาณวิญญาณร้าย(หายาก), กระดูกวิญญาณร้าย(หายาก), บันทึกลับวิญญาณร้าย(หายาก)!”
“ติ๊ง ท่านทำการสังหารข้ามระดับสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 500 ล้าน, ค่าความคลั่ง 100,000, ค่าความชั่ว 5,000, สิทธิ์ในการสุ่มลอตเตอรี่รุ่นปรับปรุง 1 ครั้ง!”
ในที่สุดก็ระเบิดอุปกรณ์ระดับเทวะชุดใหญ่ออกมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มี ดูท่าคงต้องเป็นระดับราชาเซียนขั้นที่ 5 ขึ้นไปถึงจะได้อาวุธระดับนี้ และในระดับนี้ อัตราดรอปก็ต่ำมากจริงๆ ต่อให้มีโชคดีอยู่ก็ไร้ประโยชน์