เขตซื่อเซียว หมู่บ้านเสี่ยวอัน
อยู่ๆก็มีการเคลื่อนไหวด้านนอกเขตซื่อเซียวทำให้ทหารพากันหันกลับไปมอง
คนกว่ายี่สิบคนได้เดินทางเข้ามาในช่องทางของหมู่บ้าน
เมื่อเห็นว่ามีคนมากมายโผล่มา ยามก็พากันตกใจ
ครั้งที่แล้วที่เห็นคนมากมายแบบนี้ปรากฏตัวขึ้นมา ก็คือตอนที่ทีมคังเฉียงเดินทางมาที่นี่
ช้าก่อน นี่มัน…เจ้าสำนักรึ ? เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นตา สือฉีก็ตื่นเต้นขึ้นมา แต่ยังไม่ทันได้ใจเย็นลงก็พบว่ามีเจ้าสำนักถึงสามคน เขาแสดงท่าทีสับสนออกมาทันที เจ้าสำนัก… 3 คนรึ ?
ยามทุกคนต่างก็พากันสับสน เจ้าสำนักสามคน นี่มันอะไรกัน?
แม้ว่าจางลู่และคนอื่นๆจะมายังเขตซื่อเซียวเป็นครั้งแรก แต่พวกเขาก็ได้รับความทรงจำเกี่ยวกับที่นี่มาจากจางหยูแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้แปลกใจอะไรกับที่นี่ พวกเขาถึงกับรู้จักสือฉีและคนอื่นๆด้วย
หัวหน้าสือฉีรึ ? จางลู่มองไปที่สือฉีที่อยู่ไม่ไกลนัก
สือฉีรีบเข้าไปต้อนรับและทำความเคารพจางลู่และคนอื่นๆ เขาไม่รู้ว่าจะเรียกคนเหล่านี้ว่าอะไรดี ท่าน ท่านคือเจ้าสำนักรึ ?
เจ้าจะคิดแบบนั้นก็ได้ จางลู่ยิ้มออกมา
แล้วอีกสองคนล่ะ ? สือฉีลังเล หากจางลู่เป็นเจ้าสำนัก แล้วเจ้าสำนักกับความว่างเปล่าล่ะ ?
จางลู่ยิ้มออกมา พวกเขาเองก็เช่นกัน
เหล่ายามต่างก็พากันแสดงสีหน้ามึนงงออกมา
ฮ่าฮ่า ข้าไม่แกล้งเจ้าแล้ว จางลู่พูดขึ้นมา เราสามคนคือร่างแยกของเจ้าสำนัก…
เมื่อได้ยินแบบนั้นสือฉีก็กระจ่างขึ้นมาทันที แต่ในใจก็ตะลึงอย่างมาก ร่างแยกของเจ้าสำนักแต่กลับเหมือนกับเจ้าสำนักทุกส่วน เจ้าสำนักนี่แข็งแกร่งจริงๆ
เพียงแต่เขาไม่รู้ว่านอกจากจางลู่, เจ้าสำนักและความว่างเปล่าแล้ว คนที่เหลือต่างก็เป็นร่างแยกของจางหยูเช่นกัน
ความแข็งแกร่งของพวกเขาทัดเทียมกับเก่อเย่ได้
ท่านเจ้าสำนัก พวกท่านจะมารับภารกิจที่นี่อีกรึ ? สือฉีถามขึ้นด้วยความสงสัย
สองภารกิจก่อนหน้านี้ได้สร้างชื่อเสียงให้กับทีมคังเฉียงอย่างมาก
หากไม่มีเรื่องไม่คาดฝัน เราก็อยากทำภารกิจสักสองสามภารกิจ จางลู่ไม่ได้ปฏิเสธและยิ้มออกมา เพราะลูกปัดดั้งเดิมที่เราได้มานั้นไม่เพียงพอ
หากซื่อเซียวรู้ว่าลูกปัดกว่าพันล้านลูกที่ให้ไปนั้นถูกใช้จนหมดแล้ว ก็ไม่รู้เลยว่าเขาจะรู้สึกยังไง
สือฉีตาเป็นประกายขึ้นมา หากไม่ใช่เพราะรู้ว่าเขาอ่อนแอ เขาคงขอเข้าร่วมทีมคังเฉียงไปแล้ว เขาอยากติดตามคนเหล่านี้ไปหาลูกปัดเพิ่ม
ใช่สิ สือฉีนึกถึงบางอย่าง เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกัดฟันแน่นและพูดขึ้นมา เจ้าสำนัก ท่านช่วยกวนได้รึไม่ ? ตั้งแต่ที่เขาเกิดปัญหา เขาก็ซึมมาโดยตลอด ข้ากลัวว่าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปแล้ว กวนคงไม่กลับมาเป็นคนเดิมอีก
กวนรึ ? เท่าที่พวกเขาจำได้ก็มีคนชื่อกวนอยู่จริงๆ
จางลู่ถามขึ้นมา เกิดอะไรขึ้นกับกวน?
หากจำไม่ผิดแล้วกวนน่าจะเป็นหัวหน้าหน่วย เขาแกร่งระดับหนึ่งและมีทหารใต้สังกัดเกือบร้อยคน
นี่ไม่ต้องนับความแข็งแกร่งของหน่วยเขาเลย แค่เขาคนเดียวก็ไม่น่าจะมีใครมาหาเรื่องเขาได้
สือฉีไม่กล้าปิดบังและบอกรายละเอียดที่เกิดขึ้นทั้งหมดออกมา สุดท้ายเขาก็พูดขึ้นมา ข้ารู้ว่าเวลาของท่านมีค่า แต่ตอนนี้ข้าได้แต่ขอร้องให้เจ้าสำนักช่วย นอกจากท่านแล้วข้าก็ไม่รู้ว่าใครจะช่วยเขาได้ ข้าหวังว่าเจ้าสำนักจะช่วยเขา ! ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรข้าก็ยอม !
กวนเคยช่วยเหลือคนในหมู่บ้านเสี่ยวอันทุกคน บอกได้ว่าหากไม่มีกวน หมู่บ้านคงล้าหลังกว่านี้เป็นสิบเท่า
สือฉีเติบโตได้ถึงจุดนี้และเป็นหัวหน้ายามก็เพราะผลงานของกวนส่วนหนึ่งด้วย
บอกได้ว่าไม่มีใครในหมู่บ้านที่ไม่เคารพกวน ไม่มีใครไม่ชื่นชมกวน มันเหมือนกับที่พวกเขาเคารพลั่วเกา
คนทรยศรึ ? จางลู่ขมวดคิ้ว ไม่คิดว่ากวนจะเจอเรื่องแบบนี้ งั้นเรื่องที่เกิดขึ้นกับกวนก็เกี่ยวข้องกับเราด้วย… หากกวนไม่พาพวกเขาไปที่หมู่บ้านฉิงเหยียนก็คงไม่ต้องเจอกับคนทรยศ เป็นธรรมดาที่จะไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับกวนนั้นเกี่ยวข้องกับพวกเขาด้วย
หากเช่นนั้นก็พาเราไปดูที… จางลู่บอกกับคนอื่นๆ พวกเจ้าคิดยังไง ?
ทุกคนต่างก็พากันพยักหน้า การหาลูกปัดและตรวจสอบเรื่องของเก่อเย่เอาไว้ทีหลังได้
เจ้านำทางไปเลย จางลู่เห็นว่าทุกคนตกลงก็บอกกับสือฉี
สือฉีหันไปพูดกับยามคนอื่นๆ ก่อนจะพาจางลู่และคนอื่นๆไปที่บ้านพักของกวน
หลังจากพักฟื้นได้สักพัก จิตของกวนก็ฟื้นฟูขึ้นมา แต่แก่นของเขาไม่อาจจะใช้ลูกปัดดั้งเดิมฟื้นฟูได้ เขาไม่อาจจะควบคุมพลังโกลาหลได้โดยตรงเช่นเดิมอีก เขาควบคุมมันได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น ความแข็งแกร่งของเขาลดลงอย่างมาก เขาหมดหวังที่จะเติบโตต่อได้อีก บนท้องถนนด้วยการมาถึงของสือฉีและคนอื่นๆก็ดึงดูดสายตาของผู้คนมากมาย
ตอนที่ทุกคนเห็นจางลู่และคนอื่นๆ พวกเขาต่างก็พากันตื่นเต้นและจ้องมองจางลู่,เจ้าสำนักและความว่างเปล่า
ในเวลาเดียวกันข่าวเรื่องหัวหน้าทีมคังเฉียงได้ปรากฏตัวในหมู่บ้านเสี่ยวอันก็เผยแพร่ไปทั่ว
ที่สวนเต็มไปด้วยใบไม้สีเหลือง บรรยากาศมันอึมครึมมีแต่ความเงียบงัน
ในห้องที่เงียบสงัดไร้ซึ่งสรรพเสียงใดๆ มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในห้องด้วยอารมณ์ที่สิ้นหวัง
กวน ! สือฉีเดินไปที่ประตูบ้านและตะโกนขึ้น เจ้าสำนักมาหาเจ้า !
แกร๊ก !
ประตูบ้านเปิดออกอย่างช้าๆพร้อมกับกลิ่นเน่าเหม็นอับลอยออกมา จากนั้นก็มีใบหน้าซีดเผือดเผยออกมาให้ทุกคนได้เห็นสายตาของเขาว่างเปล่าไร้แวว
จางลู่และคนอื่นๆพากันย่นคิ้ว ชายตรงหน้านี้ต่างจากกวนที่พวกเขาจำได้
หากไม่ใช่เพราะพวกเขาเห็นกับตาตัวเองแล้ว พวกเขาคงไม่เชื่อว่านี่คือคนเดียวกัน !
เจ้าสำนัก เสียงอันแหบแห้งของกวนดังขึ้น เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองจางลู่, ความว่างเปล่าและเจ้าสำนัก
จางลู่คิ้วขมวด เจ้าบาดเจ็บรึ ?
กวนก้มหน้า ขอบคุณเจ้าสำนักที่เป็นห่วงข้า อาการบาดเจ็บเล็กน้อยของข้าหายดีแล้ว
เมื่อได้ยินเสียงของกวน ก็รู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังที่เล็ดลอดออกมา จางลู่จึงไม่อาจจะอยู่เฉยได้
ดูเหมือนว่าแก่นที่พังลงไปนี้จะส่งผลกระทบต่อกวนอย่างมาก มันทำให้กวนตกอยู่ในสภาพนี้
บาดแผลภายนอกข้าหายดีแล้ว แต่แก่นของข้านั้นจบสิ้น จากนี้ไปข้าไม่ต่างอะไรจากขยะ เจ้าสำนักอย่าเสียเวลากับข้าเลย กวนยิ้มเยาะเย้ยตัวเองออกมา
สือฉีมองไปที่จางลู่ เขาอยากจะพูดบางอย่างแต่ก็ต้องเงียบไป
จางลู่เหมือนจะรับรู้ได้และมองไปที่สือฉี เจ้ามีอะไรจะพูดรึ ?
เจ้าสำนัก สือฉีลังเล แต่สุดท้ายก็รวบรวมความกล้าแล้วพูดขึ้นมา เจ้าสำนัก ท่านอยู่ถึงระดับแม่ทัพ แม้แต่จักรพรรดิก็ยังให้ความสำคัญกับท่าน ด้วยความแข็งแกร่งของท่านแล้ว มันน่าจะมีทางช่วยกวนให้ฟื้นฟูแก่นขึ้นมาได้ใช่หรือไม่ เขาไม่มั่นใจว่าจางหยูทำได้รึไม่ แต่เขาแค่อยากเสี่ยงโชคดู
ในประวัติศาสตร์ของเขตซื่อเซียว มีคนมากมายที่แก่นพังทลายแต่ไม่มีใครฟื้นฟูมันได้เลย
หากแม่ทัพทำแบบนั้นได้จริงๆแล้ว งั้นมันจะไม่มีข่าวเลยหรือ ? เมื่อได้ยินคำพูดของสือฉี กวนก็หวั่นไหวขึ้นมาแต่ไม่นานเขาก็กลับเป็นแบบเดิมอีกครั้ง
ฟื้นฟูแก่นรึ ?
กวนคิดว่าจางลู่ไม่อาจจะทำได้
นี่ไม่ต้องพูดถึงแม่ทัพเลย แม้แต่จักรพรรดิก็อาจจะทำไม่ได้ด้วยซ้ำ
ข้าไม่อาจจะฟื้นฟูแก่นเจ้าได้จริง จางลู่ยอมรับตามตรง
แต่ตอนที่สือฉีกำลังผิดหวังอยู่นั้นน้ำเสียงของจางลู่ก็เปลี่ยนไป แต่ข้ามีทางที่จะทำให้เขากลับมาเป็นแบบเดิม !
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นสือฉีก็อุทานออกมา ยอดเยี่ยม !
ตอนแรกกวนก็ดีใจ แต่ต่อมาก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ทำไมเจ้าสำนักถึงต้องหลอกข้าด้วย ?
เมื่อข้าบอกว่ามีทาง งั้นก็ต้องมีทางแต่มันแค่มีเงื่อนไข จางลู่พูดขึ้น
เงื่อนไขอะไร? สายตาของกวนเริ่มแสดงความคาดหวังออกมา เขายอมแลกทุกอย่างเพื่อฟื้นฟูแก่นกลับมา
จากนี้ไปเจ้าต้องภักดีต่อสำนักคังเฉียงและเจ้าสำนัก จางลู่พูดขึ้น หากสักวันสำนักคังเฉียงและเขตซื่อเซียวเป็นศัตรูกัน เจ้าต้องยืนอยู่ฝั่งสำนักคังเฉียง หากเจ้าตกลงกับเงื่อนไขนี้แล้ว ข้าจะช่วยเจ้า
ศัตรูกับเขตซื่อเซียวงั้นรึ ? กวนแปลกใจ ทำไมกัน ?
เจ้าแค่ตอบมาว่าตกลงหรือไม่ ไม่ต้องสนว่าทำไม
นี่… กวนลังเลและพูดขึ้น ข้าไม่อาจจะทำอะไรกับหมู่บ้านเสี่ยวอันและกองทัพเทียนลั่วได้