ตอนที่ 72 แอปเปิ้ลเน่าลูกเดียวในตระกูล
ทันทีที่พวกเขามาอาณาจักรเบื้องบน ซูชิงเกอก็ได้เห็นความน่ากลัวของตระกูลกู่ นางอดรู้สึกอึดอัดใจไม่ได้ เหนือสิ่งอื่นใด นางก็เป็นแค่ผู้หญิง และถึงแม้วิญญาณอีกดวงในตัวนางจะให้ความรู้บ้าง นางก็ยังอดรู้สึกอึดอัดใจไม่ได้กับสถานการณ์
นางไม่รู้ว่าจะทำอะไรถ้ากู่ฉางเกอไม่ต้องการนาง เหนือสิ่งอื่นใด คนแบบกู่ฉางเกอย่อมไม่ขาดสาวงามมากพรสวรรค์
ในทางกลับกัน นางเป็นแค่คนธรรมดาที่อาจเอาใจเขาไม่ได้
คนอย่างนาง ผู้เกิดในอาณาจักรเบื้องล่างไม่มีค่าอะไรในสายตาคนอาณาจักรเบื้องบน นางชัดเจนถึงเรื่องนี้ดีหลังความทรงจำจากดวงวิญญาณอีกดวงผสานกับนางเพิ่ม
ไม่ใช่แค่นั้น นางยังเข้าใจสถานะน่ากลัวที่กู่ฉางเกอมีด้วย!
ย้อนกลับไป ความกลัวคือหนึ่งในเหตุผลหลักของซูชิงเกอที่ยอมจำนนต่อกู่ฉางเกอ แต่หลังใช้เวลากับเขา นางก็เริ่มพัฒนาความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ต่อเขา แม้เขาจะคาดเดาไม่ได้ บางครั้งก็ไม่แยแส และยังดูถูกทุกคนและทุกสิ่งในโลก แต่เขาก็ยังปฏิบัติต่อนางอย่างดีและเอาใจใส่นาง
เมื่อมีคนทำให้หัวใจผู้หญิงลุ่มหลง ผู้หญิงย่อมไม่อยากแยกจากผู้ชาย
ตอนนี้ที่ซูชิงเกอได้ยินคำถามของกู่ฉางเกอ นางจึงรู้สึกว่าหัวสมองขาวโพลน และเผลอคิดว่ากู่ฉางเกอคงไม่ต้องการนางอีก
แน่นอน มันไม่ใช่ความผิดนาง ผู้หญิงใดที่เจอแบบนางคงคิดเหมือนกัน
คนเดียวที่นางสามารถพึ่งพาได้คือถามตัวนางถึงแผนในอนาคตของนางเอง
กู่ฉางเกอแค่คิดจะแกล้งซูชิงเกอโดยการถามเช่นนั้น เขาไม่ต้องทุ่มเทกับการบ่มเพาะเหมือนคนอื่น เขาแค่เบื่อ และมาหาความสุขโดยการแกล้งซูชิงเกอแบบนี้เฉยๆ
แต่ทว่า สิ่งที่ตอบกลับเขาเป็นดวงตาแดงก่ำของซูชิงเกอ ครั้งนี้ เขาอดหัวเราะลั่นไม่ได้
“แล้วข้าจะพาเจ้ามาอาณาจักรเบื้องบนทำไมถ้าข้าไม่ต้องการเจ้า?ข้าจะทิ้งเจ้าไว้ข้างล่างก็ได้ ปกติเจ้าก็ฉลาดจะตาย ทำไมวันนี้หัวสมองถึงตื้นเขินได้เล่า?’
กู่ฉางเกอพูดพลางหัวเราะ
ไม่ว่าเขาจะมีความรู้สึกต่อซูชิงเกอไหม แต่การแกล้งนางก็ทำให้เขามีความสุขมาก สาวงามนั้นก็เหมือนของสะสม ยิ่งมีรอบตัว มันยิ่งมองแล้วสบายตา
เขาแค่ต้องพูดคำดีๆกับนางเพื่อปลอบนาง
ซูชิงเกอตกตะลึงไปชั่วขณะหลังได้ยิน แต่ก็ยังกดริมฝีปากอย่างรู้สึกผิด”นายน้อย ท่านรำคาญ..”
“ว่าแต่ เจ้ามีอะไรจะบอกข้าไม่ใช่เหรอ?”
กู่ฉางเกอจ้องนางด้วยรอยยิ้มขี้เล่นและถาม เหนือสิ่งอื่นใด เขารู้ว่าซูชิงเกอมีเรื่องในใจ ต่อให้หลังผ่านมาหลายวัน โชคของนางก็เพิ่มไม่หยุด และมันก็เพิ่มขึ้นมาก ปรากฏการณ์ประหลาดนี้สามารถอธิบายได้อย่างเดียวคือนางซ่อนสมบัติหรืออะไรไว้
กู่ฉางเกอเดาว่าซูชิงเกอคงเป็นผู้กลับชาติมาเกิด หรือนางอาจเกี่ยวข้องกับอาณาจักรเบื้องบน หรืออะไรสักอย่าง
พอคิดแบบนี้ เขาก็ได้แต่รอคำตอบของซูชิงเกอ
“นายน้อย..ข้ารู้สึกผิดที่ปิดบังเรื่องนี้จากท่าน แต่มีเรื่องที่ข้าไม่ได้บอกท่าน”
คำพูดของกู่ฉางเกอทำให้ซูชิงเกอเงยหน้าขึ้นมองเขา ใบหน้าของเขาทำให้นางตะลึงงัน และก็เข้าใจทันทีว่าเขากำลังพูดถึงอะไร
นางมักมองหาโอกาสจะบอกกู่ฉางเกอมาตลอด แค่ว่านางไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง
“บอกข้ามาสิ ข้ารอฟังอยู่”
ในเวลาเดียวกัน เขาก็มองค่าโชคของซูชิงเกอ
มันมีถึงห้าร้อย!
ตอนเขาพบนางครั้งแรก นางมีแค่สามร้อย แต่หลังมาอาณาจักรเบื้องบน โชคนางก็พุ่ง
“เรื่องคือตั้งแต่ที่ข้าเกิด ข้าต่างจากคนปกติ ไม่เพียงข้าจะรู้อะไรมากมายตั้งแต่เกิด แต่ข้ายังรู้ว่ามีตัว’ข้า’อีกคนอาศัยอยู่ในทะเลจิตสำนึกของข้า..”
ซูชิงเกอเรียบเรียงความคิดและอธิบายให้กู่ฉางเกอฟัง
‘สองวิญญาณในร่างเดียว?น่าสนใจ มันดูเหมือนการคาดเดาของข้าจะไม่ไกลเกินไป ไม่เพียงนางจะเคยยิ่งใหญ่ในชาติก่อน แต่นางยังมีวิญญาณอีกดวง’
แน่นอน เขาไม่สามารถเดาสถานการณ์นี้ได้ หรือว่าที่โชคของซูชิงเกอเพิ่มเพราะนางเริ่มผสานกับวิญญาณอีกดวง?
คำอธิบายนี้สมเหตุสมผล
มันเพราะเหตุผลนี้ค่าโชคของกู่ฉางเกอถึงเพิ่มขึ้นด้วย เหนือสิ่งอื่นใด ซูชิงเกอเป็นของเขาแล้ว
“ความทรงจำของเจ้ากับวิญญาณอีกดวงแบ่งปันร่วมกันเหรอ?”
กู่ฉางเกอถาม
“เรามีความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกัน ข้าดูความทรงจำนางได้เพียงบางส่วน ส่วนที่เหลือดูเหมือนจะโดนหมอกผนึกไว้ซึ่งค่อยๆสลายและปลดปล่อยออกมา”
‘กู่ฉางเกอไม่ใช่คนที่เราไว้ใจได้ เจ้าไปเปิดเผยความลับของเราให้เขาฟังได้ไง?!’
ในเวลาเดียวกัน เสียงดุของวิญญาณอีกดวงก็ดังในหัวของซูชิงเกอ แต่นางเมิน
เหนือสิ่งอื่นใด นางมีสิทธิ์ควบคุมร่างกายนี้อย่างสมบูรณ์
‘ผนึก?นั่นไม่ควรใช่ มันน่าจะเป็นว่าความทรงจำนางเสียหาย มันเป็นไปได้ว่านางเคยเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรเบื้องบนที่ไม่มีทางเลือกนอกจากกลับไปเกิดใหม่ในอาณาจักรเบื้องล่าง หลังจากนั้นนางก็ถูกลิขิตให้เป็นผู้หญิงของบุตรฟ้าประทาน?’
กู่ฉางเกอเดาในใจหลังได้ยินคำอธิบาย แน่นอน มีโอกาสที่การเดาของเขาจะผิด
“นายน้อย ข้ายังฝันถึงสนามรบโบราณที่ปกคลุมด้วยความมืดบ่อยครั้ง มันมีสิ่งมีชีวิตทุกประเภทต่อสู้กัน..’
“ข้าฝันว่าข้าได้เปลี่ยนเป็นปีศาจที่สิ่งมีชีวิตมากมายเคารพบูชา!”
ซูชิงเกอตัวสั่นพอพูดถึงเรื่องนี้
ในความฝัน นางคล้ายกับสัตว์ประหลาดกระหายเลือดที่ปรารถนาจะทำลายทุกสิ่ง!
นางคิดว่ามันอาจเป็นแค่ฝันร้าย แต่พอนางอยู่ในอาณาจักรเบื้องบนนานขึ้น นางก็เห็นนิมิตเหล่านี้มากขึ้น
นางไม่ได้โง่ และเดาว่ามันคงเป็นความทรงจำจากชาติก่อนนาง หรืออาจเกี่ยวกับวิญญาณอีกดวงของนาง
นางมักอยากบอกเรื่องนี้กับกู่ฉางเกอเพราะนางเชื่อว่ากู่ฉางเกอ ผู้มีประสบการณ์มากกว่านางอาจรู้มากกว่า
ตอนนี้นางไม่ดูคล้ายปีศาจในฝันเลย
“เป็นแบบนี้นี่เอง!เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แม้ข้าจะบอกอะไรไม่ได้มาก แต่ข้าก็มีการคาดเดาบ้างในหัว”
กู่ฉางเกอปลอบนางด้วยรอยยิ้ม
คำพูดของเขาทำให้ซูชิงเกอสบายใจ
ในทางกลับกัน กู่ฉางเกอรู้สึกว่ามันอาจเป็นเรื่องดีต่อนาง ด้วยสองวิญญาณในร่างเดียว และข้อมูลมากมาย ซูชิงเกออาจพัฒนาขึ้นมากถ้านางผสานเข้ากับวิญญาณอีกดวงอย่างสมบูรณ์ ในเวลาเดียวกัน เขาก็จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ด้วย!
สำหรับความเป็นปีศาจของนาง?เขาแค่ต้องถามแม่เขาเพราะนางรู้เรื่องเหล่านี้ดีกว่า และควรมีข้อมูลบ้าง เหนือสิ่งอื่นใด สำนักเทพดั้งเดิมเคยถูกเรียกว่าสำนักปีศาจโบราณ
มันแค่ว่าความพยายามอย่างต่อเนื่องของศิษย์กับผู้อาวุโสหลายคนมันถึงเปลี่ยนชื่อจากสำนักปีศาจเป็นสำนักเทพได้ แม้การกระทำพวกเขาจะไม่เปลี่ยนไปมาก แต่ชื่อก็ฟังดูชอบธรรมขึ้น เหนือสิ่งอื่นใด คำว่าปีศาจอย่างเดียวก็จะทำให้ชื่อเสียงย่ำแย่แล้ว
อะไรอีก?มรดกวิชามารของกู่ฉางเกอดูเหมือนจะเชื่อมโยงกับสำนักปีศาจโบราณด้วย แม้จะไม่ได้เชื่อมโยงกันตรงๆ แต่ก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าต่อกัน
…
กู่ฉางเกอทิ้งสองสาวไว้หลังอธิบายรายละเอียดให้พวกนางฟัง ต่อมา เขาก็ต้องพิจารณาถึงวิธีจัดการเรื่องของเขาในตระกูล
พ่อของเขาได้บอกเขาว่าผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลได้วิจารณ์เขาลับหลัง และเหตุผลก็เพราะการกระทำขุดกระดูกของตัวเขาคนก่อนในวันวาน
แม้หลายคนในตระกูลจะสู้กัน พวกเขาก็ยังมีเส้นแบ่งและจะไม่ล้ำเส้นกัน การฆ่าสมาชิกตระกูลถือเป็นข้อห้าม และคนที่ฝ่าฝืนจะต้องรับโทษร้ายแรง
กู่ฉางเกอในตอนนั้นยังเป็นแค่เด็ก แต่ก็ขโมยพรสวรรค์ของญาติตัวเองและขุดเอากระดูกเต๋านางมาอย่างอำมหิต แม้เรื่องนี้จะถูกปิดไว้ในตอนนั้น มันก็ไม่อาจปิดจากผู้อาวุโสตระกูล
แม้พวกเขาจะไม่พูดออก หัวใจพวกเขาก็ไม่พอใจ
พล็อตเรื่องขุดกระดูก…
กู่ฉางเกอ ในฐานะผู้ข้ามโลกย่อมคุ้นเคยกับพล็อตนี้กว่าใครอื่น และเขายังต้องแบกรับภาระมันเนื่องจากเขาข้ามมาในร่างนี้
‘กู่เซียนเอ๋อร์ ญาติของข้าที่อายุน้อยกว่าสามปี..’
‘พล็อตขุดกระดูกนั้นจัดการได้ยากกว่าบุตรฟ้าประทานไร้ประโยชน์เหล่านั้นจากอาณาจักรเบื้องล่าง แน่นอน ถ้าเหตุการณ์ต่างจากไปพล็อตที่ข้ารู้ งั้นก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าญาติของเขามีเทพหนุนหลังละก็ งั้น..’
‘ข้าคอยบอกพ่อให้พาตัวนางตลอดเนื่องจากข้าสัมผัสได้ว่านางยังมีชีวิตเนื่องจากกระดูกเต๋าที่ข้าแย่งนางมา…น่าเสียดาย พ่อไม่เคยพบร่องรอยนาง นั่นหมายความว่าต้องมียอดฝีมือหนุนหลังนาง!’
กู่ฉางเกอคิดทางแก้ในใจ
เหนือสิ่งอื่นใด พวกลูกรักสวรรค์ในอาณาจักรเบื้องบนต้องต่างจากขยะแบบเย่เฉินและหลินเทียน
แถม ผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลกู่ยังรู้สึกผิดต่อญาติเขา ที่โดนเขาขุดกระดูก และรู้สึกผิดที่ไม่ปกป้องนางให้ดี
เมื่อเรื่องนี้หลุดออกสู่โลก ตระกูลกู่จะเป็นที่หัวเราะเยาะ และสมาชิกตระกูลก็จะไม่เลือกข้างเขา
ขณะที่กู่ฉางเกอคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของเขาก็หรี่ลงและคิดถึงบางอย่าง
‘ตามความทรงจำ ญาติของข้ามีปู่ที่ไปอาณาจักรอื่นเพื่อค้นหาบางสิ่ง และโดนขังอยู่ที่นั่น หลังจากนั้น พ่อแม่นางที่เป็นห่วงเขาก็พาคนกลุ่มหนึ่งจากเชื้อสายตัวเองไปช่วยเขา….สุดท้าย นางก็โดนทิ้งไว้ในตระกูลภายใต้การดูแลของคนที่พ่อแม่นางไว้ใจ’
‘ในเมื่อนางกับเขามีอายุพอๆกัน เขาจึงเผอิญพบนางและพบกระดูกเต๋านาง เขาจึงหมายจะครอบครองมันเพื่อปกปิดใจมารตัวเอง..’
แม้กู่ฉางเกอจะไม่ได้อ้างว่าเป็นคนดี แต่เขาก็รู้ว่าตัวเองชั่วมากที่ไปขุดกระดูกของเด็กสาวที่อายุน้อยกว่า
นอกจากนี้ การเล่นกับนางให้ดีและพัฒนานางให้เป็นหนึ่งในไพ่ตายไม่ดีกว่าหรือไง?
เหนือสิ่งอื่นใด ญาติผู้นั้นดูเหมือนจะถูกตัดจากบทของจักรพรรดิสวรรค์…
เห้อ!คิดไปก็เปล่าประโยชน์
“ต้องขอบคุณ สองฝ่ายไม่ได้บ้าคลั่งและพยายามเข่นฆ่ากันเอง หลังโน้มน้าวผู้อาวุโสต่างๆ ฝ่ายพวกเขาก็ยอมก้าวถอยและพ่อของข้าก็ยังแค่ขับไล่พวกเขาออกตรูล และก็มีคนไม่มากในโลกภายนอกที่กล้าทำร้ายพวกเขาด้วย..”
“ตอนนี้ที่ข้ารู้ว่าญาติข้ายังไม่ตายและหลบซ่อนในดินแดนลึกลับ ข้าสงสัยว่าอีกนานแค่ไหนกว่านางจะออกมาแก้แค้น”
“พูดก็พูด ข้าคือแอปเปิ้ลเน่าลูกเดียวในตระกูลกู่เหรอ?ไม่น่าแปลกที่ข้าจะเกิดมาพร้อมใจมาร ช่างเป็นคำสาปที่ชั่วร้าย พ่อของข้าทำทุกอย่างเพื่อปกปิดใจมารนี่”
กู่ฉางเกอพึมพำกับตัวเอง
ไม่ช้า รอยยิ้มขี้เล่นก็ปรากฏบนหน้าเขา แม้สถานการณ์จะดูลำบาก แต่ก็มีหลายวิธีให้เขาใช้