ตอนที่ 615 คำลวงของฟังจือหัน
“ไม่เอาๆๆ…”
คนที่นอนบนเตียงเหงื่อกาฬผุดเต็มใบหน้า ฝันร้ายที่เจ็บปวดยังคงออกมาราวกับว่าติดอยู่ในฝันร้ายและไม่สามารถออกมาได้
ฟังจือหันตื่นขึ้นมาก็เห็นอวี๋กานกานเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
ห้องที่มืดสนิทเปิดไฟส่องสว่าง เขารีบยื่นมือเขย่าตัวอวี๋กานกานพักหนึ่งจนเธอรู้สึกตัว จู่ๆ ก็เบิกตาขึ้นตื่นจากฝันร้าย
เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียงหอบหายใจเฮือกใหญ่
ฟังจือหันยื่นแขนโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมอก “ไม่เป็นไรแล้ว ก็แค่ฝัน”
อวี๋กานกานมองไปข้างหน้าอย่างหวาดกลัว ดวงตาไม่ประสาน ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะผ่อนคลายลงถึงพบว่าตัวเองแค่ฝันไป
เธอหายใจเข้าอย่างหนักและเอนตัวลงในอ้อมแขนของฟังจือหันแล้วทรุดตัวลงพูดว่า “ฉันฝันร้าย ในความฝันสัตว์ประหลาดพูดได้เอาแต่พูดว่าฉันสมควรตาย”
“นั่นมันก็แค่ความฝัน คุณทำงานจนเครียดไปหรือเปล่า คุณอยากให้…”
“ไม่ใช่ วันนี้แม้จะฝันถึงสัตว์ประหลาด แต่มันพูดได้ แต่ฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นคน เพียงแต่ว่าฉันลืมแล้วว่าหน้าตาเป็นยังไง ฉันก็เลยฝันว่าเขากลายเป็นสัตว์ประหลาด อีกอย่างภาพความฝันเหมือนที่ฉันเคยฝันไว้เมื่อก่อน ฉันมักจะรู้สึกเหมือนลืมสิ่งสำคัญมากอะไรไปสักอย่างเลยค่ะ”
อวี๋กานกานเล่าออกมาอย่างกลุ้มใจ เธอยกมือขึ้นมานวดขมับแล้วเอ่ยถาม “ใช่สิ คราวก่อนเราคุยกันไว้ไม่ใช่เหรอว่ารอกลับปักกิ่งก่อน คุณจะหาหมอรักษาอาการนอนไม่หลับให้ฉัน คุณติดต่อให้หรือยังคะ”
“ช่วงนี้ยุ่งๆ เลยลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลย” ฟังจือหันกล่าวขอโทษ
“คุณลืมหรือคุณยังไม่ได้ติดต่อให้ฉันกันแน่” อวี๋กานกานมองเขาอย่างสงสัย เขาไม่ใช่คนที่จะลืมเรื่องอะไรง่ายๆ ความจำดีขนาดนั้น
เธอคิดว่าเขาคงกลัวการรักษาอาการนอนไม่หลับจะเกิดผลข้างเคียงก็เลยไม่ยอมไปหาให้ “คุณสบายใจเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วง คุณรีบติดต่อให้ฉันนะคะ ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าฉันฝันมาหลายปีแบบนี้สรุปแล้วเป็นเพราะอะไรกันแน่”
ฟังจือหันขยับตัวชะงักคำพูด ตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ต้องกลืนคำพูดลงไป
เขาตระกองกอดเธออย่างปลอบประโลมและตบหลังเธอเบาๆ “โอเค ผมจะจัดการให้เอง”
อวี๋กานกานเน้นย้ำ “คุณพูดจริงนะคะ อย่าโกหกฉันนะ”
ฟังจือหันยกมุมปาก “ครับ”
…
ฝันร้ายนั้นทำให้อวี๋กานกานตื่นสายในวันต่อมา
ก็ดีเธอจะได้พักผ่อน หัวสมองมึนงงเล็กน้อย เธอเองก็อ่านหนังสือข้อมูลไม่ได้ พอจะอยากจะกลับไปนอนแต่กลับต้องรับสายซ่งฉาไป๋ที่ชวนเธอออกไปทานข้าวกลางวันข้างนอก
เธอไม่อยากไปแล้วปฏิเสธอยู่หลายครั้ง แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ซ่งฉาไป๋ถึงได้ตื๊อเป็นพิเศษ
มีร้านอาหารอร่อยมากไม่ว่ายังไงก็ต้องให้เธอไปเที่ยงนี้ให้ได้ เปลี่ยนเป็นตอนเย็นหรือพรุ่งนี้หรือวันอื่นก็ไม่ได้
ข้อความทางโทรศัพท์ถูกรัวส่งเข้ามาไม่ขาดสาย อวี๋กานกานไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจเธอจึงต้องตกลงที่จะไปตามนัด
เมื่อลงมาชั้นล่างก็เจอกับจูอวี้ลู่และกู้ซูหลิง จู่ๆ เธอก็นึกอยากขอบคุณซ่งฉาไป๋ขึ้นมา
ถ้าเธอไม่ออกจากบ้านสองแม่ลูกคู่นี้ต้องเข้ามาหาเธอแน่ๆ
ไม่รู้ว่ามานั่งในบ้านของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่
เมือ่เห็นอวี๋กานกานที่เดินออกมาจึงเผยรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้า “คุณหมออวี๋ สวัสดีค่ะ เราเจอกันอีกแล้วนะคะ”
อวี๋กานกานยิ้มให้ตามมารยาทแล้วพยักหน้าทักทายจากนั้นคิดจะหันตัวออกไป
แต่กลับถูกจูอวี้ลู่เรียกยื้อเอาไว้ “คุณหมออวี๋คะ ฉันจะไม่อ้อมค้อม วันนี้เราตั้งใจมาหาคุณ”
ตอนที่ 616 ดูก็รู้ว่ามีเจตนาร้าย
อวี๋กานกานหยุดก้าวขาหันกลับมามองจูอวี้ลู่ “มีธุระเหรอคะ”
ถึงแม้จูอวี้ลู่จะมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน แต่รอยยิ้มนั้นทำให้อวี๋กานกานรู้สึกถึงลางสังหรณ์
ความรู้สึกที่พูดออกมาไม่ได้ก็คือเธอรู้สึกไม่ชอบแม่ลูกคู่นี้
“คุณหมออวี๋ ไม่ทราบว่าสะดวกออกไปดื่มสักแก้วไหมคะ” จูอวี้ลู่ไม่ไว้ใจให้กู้ซูหลิงมาลองสืบคนเดียวจึงต้องมาตามสืบและยืนยันด้วยตนเองถึงจะสบายใจได้
“ขอโทษด้วยนะคะ ดิฉันนัดเพื่อนไว้แล้ว” อวี๋กานกานปฏิเสธเพื่อให้พวกหล่อนรีบพูดธุระ
จูอวี้ลู่พยักหน้าเข้าใจ “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอพูดตรงๆ เลยก็แล้วกัน วันนี้มาเพื่อขอบคุณหมออวี๋ที่วันนั้นมารักษาให้หลิงหลิงจนหายเป็นน้ำใจเล็กน้อย อย่าได้ถือสา”
กู้ซูหลิงซึ่งยืนอยู่ข้างๆ รีบนำกระเช้าผลไม้ในมือของเธอยื่นไปให้ตรงหน้าอวี๋กานกาน “ขอบคุณนะคะหมออวี๋”
หล่อนยิ้มให้แต่รอยยิ้มไม่ไปถึงดวงตา อวี๋กานกานไม่ได้รู้สึกถึงความเมตตาเลยสักนิด เธอจึงไม่รับกระเช้า “คุณนายกู้คุณเกรงใจไปแล้วค่ะ คุณจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปแล้ว นี่ไม่เห็นจำเป็นเลยค่ะ แล้วฉันกำลังจะออกจากบ้านไม่สะดวกรับไว้ พวกคุณนำกลับไปเถอะค่ะ”
จูอวี้ลู่มองตาอวี๋กานกานก็ยิ่งอ่อนโยนลงทั้งยังเมตตากรุณา “หมออวี๋ คุณกับลูกสาวฉันก็รุ่นราวคราวเดียวกัน ไว้ว่างๆ มาเที่ยวหาที่บ้านสิคะ ฉันหวังจริงๆ ว่าคุณกับลูกสาวฉันจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้”
อวี๋กานกาน “…”
เธอกับกู้ซูหลิงกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน คุณนายกู้คนนี้ความจำเสื่อมแล้วหรือ หรือว่าลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตอนเธอไปรักษาให้ที่บ้านตระกูลกู้ซะแล้ว
จกานั้นจูอวี้ลู่ก็พร่ำสอนกู้ซูหลิง “หลิงหลิง หมออวี๋เป็นคนดีแล้วเป็นผู้มีพระคุณที่รักษาลูก หากไม่มีหมอ ตอนนี้ไม่รู้ว่าลูกจะเป็นยังไงบ้าง ต่อไปลูกต้องดีกับหมอให้มากๆ นะรู้ไหม”
กู้ซูหลิงปราดตามองอวี๋กานกานด้วยสายตาแปลกๆ จากนั้นจึงแสร้งยิ้มปกปิด “หนูรู้แล้วค่ะแม่”
“หมออวี๋…” จู่ๆ จูอวี้ลู่ลากแขนอวี๋กานกานต้องการที่จะจับไว้ เมื่อผิวหนังสัมผัสแตะต้องกันกลับทำให้อวี๋กานกานตกใจรีบหลบไปข้างหลังมองจูอวี้ลู่ด้วยความเย็นชาและตกใจ
จูอวี้ลู่รีบขอโทษขอโพย “ขอโทษนะคะหมออวี๋ ฉันละลาบละล้วงไปหน่อย อันที่จริงฉันชอบคุณมากเลยนะคะ คุณเหมือนกับเสี่ยวอวี๋มากเลย ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากได้คุณเป็นลูกบุญธรรม…”
อวี๋กานกาน “…”
จะไปเหมือนกู้เหยียนอวี๋ได้อย่างไร เห็นๆ กันอยู่ว่าเหมือนเสี่ยวเหยียนภรรยาคนก่อนของกู้เชิน
ไม่ว่าภรรยาใหม่ของผู้ชายคนไหนต่างก็ไม่มีทางชอบภรรยาเก่าขึ้นมาทั้งนั้น แล้วจูอวี้ลู่ชอบเธอหรือ
ไม่ชอบมาพากล!
พอได้ฟังก็รู้แล้วว่ามีเจตนาร้าย
อวี๋กานกานยกมือขึ้นขัดคำพูดของเธอ “อย่าเลยค่ะ ฉันไม่เหมาะสมหรอก หากคุณไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวนะคะ”
“คุณอวี๋ ตอนที่คุณรักษาให้ฉัน หากมีอะไรที่ฉันทำผิดไป แต่ฉันก็ขอทาคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอ ตอนนี้แม่ฉันมาขอโทษคุณถึงบ้าน ตกลงแล้วคุณยังต้องการยังไงอีก” กู้ซูหลิงชักทนไม่ไหวแต่ไหนแต่ไหนเรื่องของอวี๋กานกานก็คั่งค้างในใจ
จูอวี้ลู่จ้องเธอเย็นแล้วเอ่ยปราม “ทำอะไรของลูก ขอโทษเดี๋ยวนี้”
กู้ซูหลิงสงวนท่าทีแล้วเอ่ยกับอวี๋กานกาน “ขอโทษ ฉันไม่ได้มีเจตนาไม่ดี เพียงแค่คิดว่าคุณรักษาฉันจนหายดีแล้ว ถึงแม้เราจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้แต่ก็ไม่ควรเป็นศัตรูกัน ไม่งั้นพี่หันในฐานะคนกลางจะอึดอัด”
อวี๋กานกาน “…”
จนถึงตอนนี้ยังจะเอาฟังจือหันมาเป็นข้ออ้างอีก เชื่อเขาเลย เชื่อเขาเลยจริงๆ