บทที่ 178 เข่นฆ่า ! (ปลาย)
…พวกคนที่มาเหล่านี้ล้วนกล้าแกร่ง อันที่จริงพวกเขามิได้อ่อนด้อยแต่อย่างใด เพียงแต่โชคร้ายที่คิดแอบซุ่มจู่โจมและยังประมาทสมรรถนะในการต่อสู้ของกระบี่บินของเยี่ยฉวนด้วย !
เป็นที่แน่ชัดว่า ถ้าเป็นการสู้กันซึ่งหน้า ไม่ง่ายเลยที่เยี่ยฉวนจะสังหารคนทั้งหมด น่าเห็นใจไม่น้อยเมื่อเยี่ยฉวนเพียงลำพังกลับเป็นฝ่ายจู่โจมให้พวกมันไม่ทันตั้งตัวอย่างประหลาดใจ พวกมันลอบดักซุ่มโจมตี แต่กลับต้องตายเพราะความประมาทในสัญชาตญาณเฝ้าระวังของเยี่ยฉวนโดยแท้ !
ทันใดนั้น ชายหนุ่มหยุดฝีเท้า
อันตราย !
เขาย่นหัวคิ้วดกหนา สายตาฉายแววระแวดระวัง
ด้วยประสบการณ์ในการปะทะกับคู่ต่อสู้บนเทือกเขาสูงมานานหลายปี ก่อเกิดสัญญาณกระตุ้นเตือนอันตรายตามสัญชาตญาณ
ขณะที่ฝีเท้าหยุดนิ่ง สายตากวาดมองไปรอบบริเวณ ภาพที่เห็นคือต้นไม้ขวางทางต้นหนึ่ง มีอีกต้นที่ใกล้ที่สุดห่างออกไปราวสี่จั้งเศษ และก็มีต้นไม้ที่อยู่เบื้องหน้าไกลออกไปราวสามจั้งกว่า เขาต้องการเหินตรงเข้าไปหาต้นไม้ แต่ก็เกรงว่าจะมีคนซุ่มจู่โจมขณะกำลังเหิน… จึงลอยตัวนิ่งอยู่บนอากาศเหนือหนองน้ำ
อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้ ชายหนุ่มไม่สามารถผลักออกพลังชี่ หรือดึงพลังแห่งปฐพีได้ในทันทีทันใด ทั้งจะทำให้พลังถูกลดทอนลงได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ หากในขณะที่ลอยตัวอยู่นั้นต้นไม้หายสูญไปเล่า ?
ถ้าเขาเหินข้ามไป คงต้องจบชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย !
แต่ถ้าถอยล่ะ ?
เขาไม่อาจถอยหนีในตอนนี้ ด้วยใครก็ตามที่ตั้งค่ายกลต้องคิดป้องกันทางหนีทีไล่ไว้แล้วอย่างดี ดังนั้นไม่ว่าเขาจะเหินไปทางใด คนเหล่านั้นย่อมตามมาเจอจนได้ !
บนต้นไม้นั่น ภายหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เยี่ยฉวนตัดสินใจกระโดดขึ้นไปบนนั้น ขณะที่ลงไปยืนทรงตัวบนต้นไม้เบื้องหน้า ทันใดนั้นพลันมีเสียงวัตถุแตกทำลาย ขณะเดียวปรากฏเงาวูบไม่อาจระบุทิศทาง ชั่วพริบตาเงานั้นพลันปรากฏอยู่เหนือศีรษะของเยี่ยฉวนอย่างรวดเร็ว ฉับพลันชายผู้หนึ่งผลักออกฝ่ามือกระแทกมาจากเบื้องบนอย่างรุนแรงใส่ร่างของเยี่ยฉวนเบื้องล่าง !!
แสงสว่างพุ่งวาบออกจากฝ่ามือ !
ข้างใต้ฝ่ามือ ร่างของเยี่ยฉวนถูกพลังแสงผลักกระเด็นลงไปที่หนองน้ำ แต่เขากลับสงบนิ่งจนน่าแปลกใจ เมื่อร่างของชายหนุ่มเกือบจะถึงหนองน้ำ กระบี่หลิงซิ่วในมือพลันแปรเปลี่ยนเป็นลำแสง ก่อนที่รัศมีแห่งแสงจะทะยานเข้ารองรับใต้ฝ่าเท้า !
เยี่ยฉวนควบคุมกระบี่ได้และลุกขึ้นยืน !
ขณะยืนอยู่บนกระบี่ เขากำหมัดข้างขวาเกร็งแน่น จากนั้นจึงผลักออกพลังหมัด !
“หนึ่งหมัดดับชีพ !”
เขาออกหมัดไม่ใช่เพียงพลังหมัดทลายภูผาเท่านั้น แต่ผนวกเข้ากับเคล็ดวิชาต่อสู้อีกด้วย !
และหลังจากที่เยี่ยฉวนผลักออกพลังหมัดครานี้ เสียงระเบิดก็ได้สนั่นดังเสียดแทงทั้งลานกว้าง !
เปรี้ยง !
ทันทีที่เสียงระเบิดสนั่น ร่างคนที่อยู่ทางเบื้องบนของเยี่ยฉวนถูกกระแทกจนกระเด็นลอยไกลออกไปในอากาศ ส่วนร่างของเยี่ยฉวนก็จมลึกสู่หนองน้ำลงไปพร้อมกับกระบี่ ทว่าในเวลาไม่ช้าไม่นาน กระบี่หลิงซิ่วก็ได้พาเยี่ยฉวนโผล่ขึ้นมาจากหนองน้ำ !
เยี่ยฉวนยังไม่ขยับออกจากที่ แต่ยังควบคุมกระบี่ให้ลอยเหนือหนองน้ำ สูงขึ้นไปบนอากาศห่างจากเยี่ยฉวนสามจั้งเศษ ชายผู้หนึ่งยังคงลอยตัวนิ่งอยู่เช่นนั้น สายตาของคนจับจ้องมองตรงมาที่เยี่ยฉวน เสียงพึมพำแผ่วเบา “ควบคุมกระบี่เหิน เหลือเชื่อจริง ๆ”
ชายหนุ่มไม่โต้ตอบแต่จ้องเขม็งคนในอากาศ ทันใดนั้น กระบี่ใต้ฝ่าเท้าแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงกระบี่อีกครา ทั้งยังพุ่งวาบเข้าหาร่างคนที่ลอยสูงอยู่ข้างบน ความว่องไวของลำแสงประดุจสายฟ้า !
สีหน้าของชายคนในอากาศเปลี่ยนไปสิ้นเชิง ปฏิกิริยาตอบสนองฉับพลันเขาเบี่ยงกายหลบออกไปด้านขวา ทว่าขณะนั้นกระบี่หลิงซิ่ววกกลับทันควัน พร้อมกับฟาดฉับลงตรงหน้าคน !
เมื่อเห็นเช่นนั้น ชายในอากาศหรี่ตาลงพร้อมกับผลักออกฝ่ามือข้างขวา เสี้ยววินาทีนั้นสายฟ้าฟาดและประกายแสงพุ่งวาบออกทางใจกลางฝ่ามือ ฉับพลันนั้นเขาสะบัดฝ่ามือออกอย่างแรง
เปรี้ยง !
ฝ่ามือกระแทกเข้ากับกระบี่หลิงซิ่วอย่างจัง ทำให้ในทันทีนั้น… เกิดประกายแสงแห่งกระบี่แตกกระจายออกทุกทิศทาง !
ขณะนั้นเองสีหน้าของชายในอากาศเปลี่ยนแปลงบิดเบี้ยวด้วยเยี่ยฉวนโผล่กระทันหันมาทางด้านหลัง ! ชายในอากาศจึงได้แต่หันขวับทันทีและฟาดฝ่ามือใส่เยี่ยฉวน !
ทันใดนั้น สายฟ้าและแสงวาบกระจ่างจ้าใจกลางฝ่ามือพุ่งพรวดราวกับแม่น้ำทั้งสายทะลักหลากออกจากฝ่ามือของคน !
หมัดออกตรงของเยี่ยฉวนพุ่งถึงเป้าหมายแล้ว ! พลังปะทะแห่งหมัดแสนธรรมดา !
ทว่าด้วยพลังปะทะแห่งหมัดที่ว่านี้ ทั้งสายฟ้าและแสงสว่างของชายในอากาศกลับถูกแรงปะทะจนแหลกละเอียด ขณะเดียวกันร่างของเขาก็กระเด็นหวือราวกับถูกจับเหวี่ยงออกไปในอากาศ !
ตามด้วยลำแสงกระบี่พุ่งวาบตามติดร่างที่ลอยในอากาศ เมื่อเหลือบเห็นว่าอะไรเป็นอะไร ชายในอากาศที่หน้าถอดสีพลันพลิกกลับร่างหวังเลี่ยงหลบรัศมีแห่งแสง
ฉัวะ !
แม้ว่าเขาจะสามารถเลี่ยงหลบพลังปะทะแห่งกระบี่ แต่แขนข้างขวาไม่อาจรอดพ้นด้วยถูกคมกระบี่ตวัดขาดสิ้นทั้งท่อนแขน
กระบี่หลิงซิ่วไม่ปล่อยผ่าน พลันวกฉับพลันก่อนฟาดฉับเข้าที่คนในอากาศ ทว่าในขณะนั้นเบื้องบนอากาศในระยะไกลออกไป ปรากฏร่างของชายชราอีกผู้หนึ่ง เขาส่งเสียงร้องห้ามมาดังลั่น “หยุด… โปรดหยุดก่อน พวกเรา…”
ฉับ !
ศีรษะของคนในอากาศปลิวหวืดไปเสียก่อนที่ชายชราจะทันพูดจบประโยค !
เห็นเช่นนั้น พลันสีหน้าของชายชราเปลี่ยนเป็นดุดัน เขาจ้องมองเยี่ยฉวนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ… “ไอ้ฉิบ…”
ขณะที่ชายชรากำลังอ้าปากกับจะผลักออกพลังปะทะ ทว่าในตอนนั้น จู่ ๆ ไหน้ำเต้าลูกก็ได้หนึ่งตกลงมาจากฟ้า ส่งผลให้สุราสาดกระเซ็นออกมาทางปากขวด
ชายชราหน้าตาบิดเบี้ยว เขาประกบฝ่ามือสองข้างกระแทกเข้าหากันอย่างแรง ทันใดนั้น บังเกิดแสงสว่างวาบกับสภาวะที่ช่องอากาศเบื้องหน้าบังเกิดบิดเบือน !
เขาสามารถบิดเบือนอากาศ ! ชายชราผู้นี้เป็นยอดยุทธ์ในขั้นสุดยอดผนึกยุทธ์ !
ณ เบื้องบนอากาศ ความเงียบเข้าครอบคลุม ฝอยกระเซ็นของสุราหยุดลงฉับพลัน
ทว่าต่อมาฝอยกระเซ็นของสุรากลับซัดสาดเข้าหาช่องอากาศและสาดซัดลงที่ร่างของชายชราจนชุ่มโชก
เปรี้ยง ! เปรี้ยง ! เปรี้ยง ! เปรี้ยง ! เปรี้ยง !
บนอากาศ เสียงระเบิดสนั่นต่อเนื่อง ขณะร่างคนชราร่วงลงมาจากฟากฟ้าในคราวเดียวกัน
เพียงครู่เดียวเขาก็หล่นลงสู่หนองน้ำเบื้องล่าง แต่แล้วร่างคนที่เพิ่งหล่นลงกลับทะยานขึ้นสู่อากาศแทบในทันที ทว่าร่างของคนผู้หนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของชายชรา
อาจารย์ใหญ่จี้ !
อาจารย์ใหญ่กระทืบฝ่าเท้าลงที่ชายชรา จนอีกฝ่ายจมดิ่งลงสู่หนองน้ำอีกครั้ง สีหน้าของอาจารย์ใหญ่ยามนี้ดุดันน่าเกรงขาม และต่อให้เป็นชายชราที่มีพลังกล้าแข็งเพียงใด ก็คงไม่อาจต้านทานความแข็งแกร่งของคนผู้นี้ได้ไหว !
เขายกไหสุราขึ้นซดอึกหนึ่ง จึงหันมาพูดกับเยี่ยฉวน “ข้าจัดการไอ้แก่นี่เอง”
เยี่ยฉวนนิ่งเพียงนิดหนึ่ง ก่อนจะหันกลับและเร่งออกไปจากสถานที่ทันที
อาจารย์ใหญ่จี้มองตามหลังคนที่เพิ่งออกไป จากนั้นจึงหันไปมองในที่ไกลสุดขอบฟ้า ในความเงียบงัน น้ำตาเอ่อท่วมนัยน์ตา “อาจารย์… ต่อไปนี้ข้าจะไม่ปล่อยให้ศิษย์ถูกใครรังแกอีกแล้ว เหมือนในอดีตที่ท่านก็เคยปกป้องข้า…”