ตอนที่ 619 จดจำไม่ลืม ต้องมีการตอบรับ
ถ้าก่อนที่เธอจะสูญเสียความทรงจำ เธอชอบฟ่านอวี่จริงๆ ด้วยนิสัยของเขาแล้ว เขาจะต้องใช้กำลังจะตัว ฉุดกระชากลากถู ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องได้ตัวเธอมาก่อน
ทำไมเธอถึงมีเสี่ยวลิ่วลิ่วกับอวี๋เยว่หาน ในขณะที่ชอบฟ่านอวี่อยู่ล่ะ…
ไม่ถูกต้อง ต้องมีตรงไหนไม่ถูกต้องแน่
“คุณบอกว่ารักกันตั้งแต่เด็ก หมายถึง…” เหนียนเสี่ยวมู่ถามอย่างระมัดระวัง
ทว่าเพิ่งพูดได้แค่ครึ่งเดียว เธอก็กลืนน้ำลายอย่างแรง ราวกับกำลังสงสัยว่าต้องใช้คำพูดแบบไหนถึงจะเหมาะสมกว่า
“คุณชอบเรียกผมว่าพี่ฟ่านอวี่ ตอนนั้นคนที่คุณชอบเกาะติดมากที่สุด ก็คือผม” ฟ่านอวี่ขยับริมฝีปากเล็กน้อย ราวกับกำลังหวนรำลึกถึงวัยเด็กของพวกเขาทั้งสองคน บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยน
เขามองเหนียนเสี่ยวมู่ จนหัวใจของเธอกระตุกวูบเป็นระลอก
ขณะที่เธอเกือบจะหัวใจหยุดเต้นเพราะความคิดเรื่อยเปื่อยของตัวเอง ฟ่านอวี่ก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
“ผมเห็นคุณเป็นน้องสาวมาตลอด พอไม่ได้เจอคุณ ผมก็เป็นห่วงคุณมาก เลยตามหาคุณมาโดยตลอด”
“น้องสาว…”
เหนียนเสี่ยวมู่สะอึก
ไม่รู้ว่าดีใจหรือตกใจกันแน่
เธอเพียงรู้สึกว่าหอบหายใจขณะพูด จนน่าตกใจเสียจริงๆ
เพราะเธอคิดมาโดยตลอด ว่าเธอเป็นคนทิ้งฟ่านอวี่ ถึงได้ทำให้เขาต้องตามหาเธอให้เจอเสมอมา
รักกันตั้งแต่เด็กอะไร พูดมั่วซั่วไม่ได้จริงๆ
อย่าหาว่าเธอใจเสาะเลย แต่เธอเกือบจะตกใจตายแล้ว
ถ้าอวี๋เยว่หานได้ยินคำพูดเมื่อกี้นี้เข้า น่าจะหึงจนหน้าดำไปหมดแน่ๆ
น่ากลัว!
เหนียนเสี่ยวมู่พึมพำกับตัวเอง จนไม่ได้สังเกตเห็นความผิดหวังที่ฉายผ่านใบหน้าของฟ่านอวี่ไป
เมื่อได้ยินเขาเรียกเธอว่าน้องสาว เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
จากนั้นเธอก็นึกอะไรขึ้น จึงเงยหน้ามองเขาอย่างรีบร้อน “คุณโตมาด้วยกันกับฉัน แล้วครอบครัวของฉันล่ะ พวกเขายังอยู่ดีไหม”
ทันทีที่เหนียนเสี่ยวมู่ถามออกมา หัวใจของเธอก็รู้สึกตื่นเต้น
หญิงสาวมองไปที่ฟ่านอวี่อย่างไม่วางตา
เธอเห็นเขาอยากจะพูด อต่ก็หยุดไป จึงอดไม่ได้ที่จะจับมือของเขา “บอกความจริงกับฉัน ฉันเหมือนคนที่ตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ไม่มีอะไรที่ฉันรับไม่ได้แล้ว!”
ลูกตาของฟ่านอวี่หดตัวเล็กน้อย เสียงทุ้มต่ำลงบ้าง
“วันที่คุณหายตัวไป พวกเขาก็ไม่อยู่กันแล้ว”
“…”
ไม่อยู่กันแล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่คลายมือที่จับเขาไว้ทันที
เธอเคยคิด ว่าเธอเรื่องลืมเรื่องราวทุกอย่างไป จึงจำครอบครัวของตัวเองไม่ได้
แต่ผ่านไปสามปีแล้ว ครอบครัวของเขาไม่เคยตามหาเธอเลย เธอก็เคยคาดเดามาก่อนเหมือนกัน ว่าพวกเขาอาจจะไม่อยู่แล้ว
เมื่อได้ยินเขาพูดอย่างนั้น หัวใจของเธอก็เหมือนถูกใครบีบเค้น…
เจ็บปวดจนหายใจไม่ไออก
“เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของฉัน พวกเขา…”
“เรื่องในอดีต มันเป็นอดีตไปหมดแล้ว ขืนไปคิดถึงมันอีก นอกจากจะทำให้คุณเจ็บปวดมากขึ้น ก็ไม่มีความหมายอะไร” ฟ่านอวี่เอ่ยปากในทันใด ขัดจังหวะคำพูดของเธอ
ชายหนุ่มเห็นเหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง เขาพลันหรี่ตาสีน้ำตาลเข้มลง ราวกับกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง
ก่อนจะเอ่ยเสียงเบาอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“บางทีสวรรค์ให้คุณลืมเรื่องราวทุกอย่างไป เพราะหวังให้คุณลืมความเจ็บปวดในอดีต เริ่มต้นใหม่ ไม่ว่าผมหรือครอบครัวของคุณ ได้เห็นคุณมีความสุขทุกวันนี้ ก็ดีใจกับคุณมากเลยทีเดียว”
“…”
“ถ้าคุณเป็นห่วงพวกเขาจริงๆ ก็ควรจะมีชีวิตอย่างมีความสุขต่อไปเหมือนตอนนี้ เข้าใจไหม”
ฟ่านอวี่มองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน
ใบหน้าเรียบเฉยนั้น ดูไม่ออกว่าในใจกำลังดิ้นรน
มือที่วางอยู่ใต้โต๊ะ กำเป็นหมัดจนแน่น
เด็กสาวที่เขาลืมไม่ลง อย่างไรก็ไม่ใช่ของเขา
อย่างนั้นก็ให้เขาปกป้องความสุขของเธอ อย่างไรก็ไม่เสียแรงเปล่า เพราะเธอเคยเชื่อใจเขา…
ตอนที่ 620 ฉันหวงแหน
“ลืมแล้วก็ลืมแล้วกัน…” เหนียนเสี่ยวมู่พึมพำเสียงเบา คล้ายกับกำลังครุ่นคิดถึงความหมายในคำพูดของเขา
ที่เธอปล่อยวางไม่ลงที่สุด ก็คือครอบครัวของเธอ
แต่คิดไม่ถึงว่าครอบครัวของเธอจะไม่อยู่แล้ว…
เหนียนเสี่ยวมู่อยากถามเขาอย่างมาก ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่ของเธอ แล้วเธอมีพี่น้องหรือเปล่า
ทว่าพอเธอคิดถึงเรื่องในอดีต ในหัวกจะปรากฏภาพไฟไหม้ครั้งใหญ่
เปลวไฟโหมกระหน่ำแผดเผาทุกสิ่งอย่าง
เซลล์ทั้งร่างกายเหมือนกำลังต่อต้าน
“สีหน้าของคุณดูไม่ดีเลย ไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้ว!” ฟ่านอวี่จับมือเธอไว้ในทันที เสียงเย็นชาขัดจังหวะการคิดถึงอดีตของเธอในทันที
เธอเงยหน้าขึ้น สายตาสดใสที่มองเขาดูตะลึงไปเล็กน้อย
ชายหนุ่มยังไม่ปล่อยมือที่จับเธอไว้ เสียงของเขาอ่อนโยนขึ้นแล้ว
“ถ้าคุณยังเชื่อผม ก็ฟังผมพูด ใช้ชีวิตตอนนี้ให้ดี เรื่องในอดีตน่ะ ในเมื่อลืมไปแล้ว ก็หมายความว่าไม่ควรค่าให้คิดถึง…” ฟ่านอวี่ชะงักไป ในสายตาของเขาปรากฏความอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย แต่ไม่นานเขาก็ปิดบังมันไว้
“ผมตามหาคุณ เพราะอยากแน่ใจว่าคุณมีชีวิตที่ดี ในเมื่อตอนนี้คุณมีความสุขดีแล้ว ผมก็สบายใจ”
“…”
“ต่อไปผมจะเป็นพี่ชายฟ่านอวี่ของคุณ ถ้าอวี๋เยว่หานรังแกคุณ ผมจะช่วยคุณสั่งสอนเขาเอง” แววตาของเขาฉายแววการปล่อยวาง มือใหญ่ลูบหัวของเธออย่างแผ่วเบา
ท่าทางสนิทสนม ไม่ได้เจ้าชู้เลยสักนิด
เพียงแต่รักและเอ็นดูก็เท่านั้น
ตอนที่เหนียนเสี่ยวมู่มา เขารู้สึกตื่นเต้นมาก ด้วยกลัวอยู่ตลอดว่าจะได้ยินข่าวอะไรที่ไม่ได้ แต่ในวันที่ ในที่สุดก็ได้ปล่อยวางเสียที
เหนียนเสี่ยวมู่ดื่มกาแฟตรงหน้า ก่อนจะเลียฟองที่เลอะอยู่ตรงมุมปาก แล้วยิ้มตาหยี “อวี๋เยว่หานไม่กล้ารังแกฉันหรอก เขาให้ฉันรังแกอยู่คนเดียว”
เมื่อได้ยินดังนั้น มือของฟ่านอวี่ก็ชะงักค้างไปเล็กน้อย
ความรู้สึกอันซับซ้อนปรากฏขึ้นในแววตา
ราวกับคิดไม่ถึง ว่าผู้ชายบ้าอำนาจอย่างอวี๋เยว่หาน จะมีเวลาที่ถูกหญิงสาวรังแกจนเกือบตายกับเขาเหมือนกัน
แต่พอคิดอีกที คนคนนั้นคือลิ่วลิ่วของเขา จึงรู้สึกว่าไม่มีอะไรแปลก
ทั้งสองคนไม่ได้คุยกันนาน คนขี้หึงก็โทรศัพท์มาหาเหนียนเสี่ยวมู่
หญิงสาวใช้ไหล่หนีบโทรศัพท์มือือไว้ คุยไปพร้อมๆ กับกินเค้ก
“ไม่ต้องหรอก อีกเดี๋ยวฟ่านอวี่จะไปส่งฉัน..ฉันได้ใหม่ลืมเก่า ไม่หวงแหนคุณอย่างนั้นเหรอ ฉันหวงแหนสิ ฉันแค่ทนไม่ได้ที่คุณต้องลำบาก ก็เลยจะติดรถ…”
“ไม่ให้ติดรถมาเหรอ แม้แต่ทางบริษัทตระกูลฟ่านก็ไปตรวจสอบมาแล้วเหรอ”
“เป็นผู้ชายขี้น้อยใจแบบนี้ไม่ได้นะ…ได้ๆ คุณไม่ขี้น้อยใจก็ได้ ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงฉัน งั้นฉันจะไปรายงานตัวที่ห้องทำงานของคุณทันทีที่ถึงบริษัทเลย ดีไหม”
“…”
ปากบอกไม่สนใจ และเมินเฉยอยู่ตลอด แต่หลังจากวางสายไปแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่กลับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
จากนั้นเธอก็เงยหน้ามองฟ่านอวี่
“ฉันบอกว่าติดรถคุณไปได้ แต่เขาจะมารับฉันให้ได้เลย”
“เขาเป็นห่วงคุณมากเลยเหรอ” ฟ่านอวี่เอ่ยเสียงเรียบ
หญิงสาวกินเค้กคำสุดท้ายเข้าปาก ก่อนจะยิ้มเบิกบานใจ “อืม ก็ทั่วๆ ไปน่ะ เป็นคนขี้หึงคนหนึ่ง”
“เขาทำให้คุณกดดันหรือเปล่า” ฟ่านอวี่ถามอีก
เขาจำได้ ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าไม่ชอบผูกมัด
ถ้ามีใครบางคนไม่ให้เธอทำนู่นนี่อยู่ข้างๆ ตลอด เกรงว่าเธอจะโมโหเอาได้
แต่ตอนนี้เธอกลัวโอ๋อวี๋เยว่หานอย่างกับอะไรดี
“ไม่หรอก พวกเราเป็นห่วงกันไปมา ถ้าเขากล้าไปกินข้าวกับผู้หญิงคนไหนลำพัง ฉันคงหึงจนตายไปเลย!”