[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร – ตอนที่ 163

 「…..อิลเชีย แกนี่ ทำตัวแปลก ๆ ตั้งแต่ออกมาแล้ว เป็นอะไรไป?」

 

 จู่ ๆ อดอล์ฟก็โพล่งออกมา

 วิธีพูดจาติด ๆ ขัด ๆ เหมือนกำลังเลือกคำที่จะพูดอยู่

 

 ผมเองก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าอีกฝั่งเอะใจในตัวผมแล้ว แต่ตั้งแต่ตอนที่เราออกมาเลยเหรอเนี่ย?

 ท่าทางตอนนั้นจะตื่นเต้นเกินไปหน่อยสินะ

 

 เอาล่ะ ทีนี้จะทำไงดี

 จะจบเรื่องกับอดอล์ฟตอนนี้เลยก็ย่อมได้

 แต่ถ้าจู่ ๆ มังกรแห่งโรคภัยนั่นเข้ามาแทรกกลางระหว่างสู้ก็น่าเบื่อพอดี

 ผมคิดจุดจบของอดอล์ฟไว้แล้ว แถมยังอุตส่าห์ลงแรงไปตั้งเยอะด้วย

 ถ้าแผนเสียขึ้นมาไม่สนุกหรอก

 

 แต่ผมเองก็อยากทรมานเจ้ามังกรนั่นช้า ๆ ด้วยเหมือนกัน

 นอกจากนั้น มันยังมี [เสียงจากพระเจ้า]

 ผมอาจจะดึงข้อมูลเกี่ยวกับ [เสียงจากพระเจ้า] ที่บาทหลวงเวรนั่นเก็บไว้มาก็ได้

 ลองทรมานมันหลาย ๆ วิธีดีกว่า

 

 「ฮะ เฮ้ย เฮ้ย! เป็นอะไรไป! อย่าเงียบสิ พูดอะไร….」

 

 น่ารำคาญจริง

 คิดว่าอยู่ใกล้แค่นี้ผมไม่ได้ยินรึไง?

 

 「….ขอโทษด้วยครับ เมื่อกี้ผมเหม่อไปหน่อย รู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเองเลย บางทีอาจจะเป็นเพราะพิษจากมังกรนั่นก็ได้?」

 

 ผมเอามือกุมหัวตัวเอง แล้วส่ายหน้าไปมา

 ไอ้โง่นี่ผมจะหลอกอีกกี่รอบก็ได้

 ตอนนี้เอาเป็นให้คิดแบบนั้นไปก่อนก็แล้วกัน

 

 ในสายตาของอดอล์ฟยังคงมีความเคลือบแคลงอยู่

 กำลังนึกถึงตัวผมในอดีตมาเทียบกับตอนนี้อยู่หรือเปล่านะ

 ถ้าอยากจะให้อดอล์ฟกลับมาเชื่อใจอีกครั้ง ผมควรจะพูดถึงเรื่องที่พูดไปก่อนหน้านี้รึเปล่า?

 หรือว่าเราจะคิดมากเกินไป

 

 เอ…ดูจากนิสัยของอดอล์ฟแล้ว ถ้าทำแบบนั้น….ไม่สิ จะให้มีคนที่สงสัยในตัวผมอยู่ฝั่งเดียวกันไม่ได้หรอก

 

 「เฮ้อ— พอแล้วดีกว่า ทำต่อก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา」

 

 「อิลเชีย?」

 

 อดอล์ฟทวนชื่อผมอีกครั้งเพราะไม่เข้าคำที่ผมพูดออกไป

 ผมเมินเสียงเรียกของอดอล์ฟ แล้วชี้ดาบไปที่เขา

 

 「คุณอดีตหัวหน้าอัศวิน ช่วยประลองดาบกับผมอีกสักครั้งได้มั้ยครับ? หยิบดาบที่วางตกอยู่ตรงนั้นขึ้นมาสิ」

 

 ผมเอียงหัวเล็กน้อยเพื่อยั่วยุ

 

 「จะ จู่ ๆ ก็พูดอะไรของแก」

 

 อดอล์ฟพูดขึ้นก่อนจะก้าวถอยไป

 ชักช้า นี่ต้องให้ผมสอนตั้งแต่หนึ่งถึงสิบใหม่เลยรึไง

 

 「จริง ๆ แล้วคือผมอยากให้คุณอดีตหัวหน้าอัศวินได้เห็นการเติบโตของผมครับ อันที่จริงผมอยากจะบดขยี้คุณต่อหน้าฝูงชนเหมือนที่คุณทำกับผมเมื่อสี่ปีก่อน แต่คุณนักบวชไม่ค่อยจะปลื้มกับเรื่องนั้นสักเท่าไหร่

 ถ้าจะทำก็อยากให้ผมเป็นคนถูกแล้วฝ่ายผิดคือท่านอดีตหัวหน้าอัศวินมากกว่า….」

 

 อดอล์ฟกัดฟันกรอดพร้อมกับเบิกตากว้าง

 ต่อให้เป็นคนหัวทื่อแค่ไหนก็คงจะพอเข้าใจสินะ

 

 「เพราะอย่างนั้นผมถึงฆ่าคุณคู่หมั้นกับคุณน้องชายแล้วโยนความผิดให้คุณอดีตหัวหน้าอัศวินยังไงล่ะ พออยู่ในคุกแล้วผมจะใช้อำนาจของผู้กล้ายังไงก็ได้ โอกาสถมเถอยู่แล้ว

 ต้องบอกว่าใส่ความง่ายด้วยซ้ำ เวทมนตร์ของผมสร้างหลักฐานเท่าไหร่ก็ได้ แถมมีคนรู้จักที่เก่งด้านนี้ด้วย ยังไงก็ไม่มีใครในประเทศนี้ที่สงสัยตัวผมอยู่แล้วด้วยนี่นะ

 ไอ้พวกโง่ในโบสถ์ก็ไม่ชอบคุณหัวหน้าอัศวินอยู่แล้ว เพราะงั้นเลยไม่ตรวจสอบเรื่องนี้ให้ดีเท่าไหร่」

 

 อดอล์ฟได้แต่จ้อมผมเงียบ ๆ

 เยี่ยม ต้องแบบนี้สิที่ผมอยากเห็น

 

 ตอนนี้หมอนี่คงคิดอยากจะฆ่าผมอยู่เต็มแก่แล้วแน่ ๆ

 แต่ยังไงก็ไม่มีทางทำได้หรอก

 อดอล์ฟโจมตีไม่โดนผมอยู่แล้ว ต่อให้โดนเข้าผมก็ไม่เป็นอะไรอยู่ดี

 

 ความอับอายที่เคยได้รับเมื่อสี่ปีก่อน ผมจะเอาคืนเป็นร้อยเท่าเลย

 เท่านี้ อดีตอันเลวร้ายเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตผมก็จะหายไปสักที

 

 พอมองดูสีหน้าของอดอล์ฟในตอนนี้ ผมก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก

 อา ผมรอคอยเวลานี้มานานแค่ไหนแล้วนะ?

 

 ขอบคุณมาก อดอล์ฟ

 ถ้าไม่มีแก ผมคงพยายามดิ้นรนเพื่อเพิ่มเลเวลมากถึงขนาดนี้หรอก

 และคงไม่มีวันที่ผมจะได้รู้สึกดีขนาดนี้อีกด้วย

 และเพื่อเป็นการตอบแทน ผมจะให้แกได้ตายอย่างทุกข์ทรมานที่สุด

 ถ้าแค้นกันนักก็ไปโทษตัวเองในอดีตก็แล้วกัน

 

 อดอล์ฟค่อยๆเดินเข้าไปหาดาบใหญ่ที่ปักอยู่บนพื้น

 พอเขาดึงออกมา ก็ตวัดดาบหนึ่งรอบแล้วชี้มาทางผม

 

 「….ข้าขอถามแค่อย่างเดียว」

 

 「หืม?」

 

 「ที่แกฆ่าน้องข้ากับซิลฟี่ ก็เพราะแกอยากจะเอาชนะข้างั้นเรอะ?」

 

 「ซิลฟี่?」

 

 พอผมถามกลับไป ดวงตาของอดอล์ฟก็เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

 อ้อ คู่หมั้นนี่เอง ไม่รู้ชื่อหรอก ไม่ได้สนใจ

 ให้ตายสิ ตกหลุมรักกับผู้ชายแบบนี้ได้ไงนะ

 

 「ไม่มีทาง แน่นอนว่าต้องไม่ใช่อยู่แล้วสิครับ ผมดูเหมือนไอ้โง่ขนาดนั้นเลยเหรอ?」

 

 ผมหยุดคำพูดไปเล็กน้อย

 

 「ในฮาเรเนเนี่ย มันมีกฎที่ว่าถ้ามีนักโทษหลบหนีไป คนในครอบครัวก็จะโดนประหารแทนใช่มั้ยล่ะครับ ถึงจะแค่มีไว้เพื่อไม่ให้คนหนีก็เถอะ」

 

 ถึงผมจะเคยบอกไว้ว่าจะรับผิดชอบ แต่จริง ๆ ผมไม่ต้องแบกรับอะไรทั้งนั้น

 

 ถ้าจะผิด เหล่าคนที่ยอมเปิดทางให้ผมเดินผ่านเมื่อตอนนั้นก็ไม่ต่างกันหรอก

 

 「ถ้าสมมติว่าผมกลับฮาเรเนไปโดยที่ไม่มีคุณอยู่ด้วย คิดว่าผมจะรายงานไปว่ายังไงเหรอครับ? คุณอดอล์ฟโดนมังกรแห่งภัยพิบัติสังหารไปแล้ว~ อย่างงั้นเหรอ?」

 

 เยี่ยม เยี่ยมมาก

 รู้สึกดีสุด ๆ ไปเลย

 

 อันที่จริง พอมาคิดๆดูแล้ว ไม่ว่าผมจะรายงานไปแบบไหน ผลมันก็ไม่ต่างกันหรอก

 ผมให้โพกี้ปล่อยข่าวไปว่าคอบครัวอดอล์ฟสงสัยในตัวโบสถ์ไปแล้ว

 

 เจ้าบาทหลวงนั่น

 คงยินดีปรีดาได้ประหารครอบครัวอดลอ์ฟแน่

 

 สมบูรณ์แบบ

 เท่านี้ ไม่เพียงแค่น้องชายกับคู่หมั้น ครอบครัวอดอล์ฟก็ต้องตายไป

 แน่นอนว่ารวมไปถึงเหล่าคนที่อดอล์ฟรักที่สุด

 สำหรับอดอล์ฟ นี่ถือเป็นศึกที่แพ้ไม่ได้เด็ดขาด

 

 แต่อดลอ์ฟไมม่มีทางชนะผมได้

 ด้วยสเตตัสที่ต่างกันขนาดนี้ จะให้ผมแพ้ยังยากกว่าเลย

 จงตายอย่างสิ้นหวังซะเถอะ

 

 「เอ้า เข้ามาสิอดอล์ฟ! ผมจะจัดการทหารคร่ำครึของฮาเรเนแบบไม่ใช่เวทมนตร์เอง」

 

 ผมยกดาบธรรมดาที่ฮาเรเนแจกจ่ายให้ทหารขึ้นมา

 

 ไม่จำเป็นต้องใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์หรือดาบต้องสาปทั้งนั้น

 

 「อิลเชียยย!」

 

 อดอล์ฟตะโกนขึ้นพร้อมวิ่งตรงเข้ามา

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร

[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร
Status: Ongoing
เปรี๊ยะ ข้างหน้าชั้นตอนนี้มีรอยร้าวอยู่ โลกที่เคยมีแต่ความมืดก็มีแสงส่องเข้ามา ชั้นแลตามองออกไปดูรอยร้าวที่กำลังใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หืม นี่มันป่าเหรอ? เหมือนว่าจะอยู่บนยอดต้นไม้ซะด้วย พอชั้นลองยืนขึ้น ก็ได้ยินเสียงอะไรแตกอยู่ใต้เท้า เอ ชั้นเหยียบอะไรอยู่ล่ะเนี่ย แบบว่า เหมือนมันกำลังแตกอยู่เลยอะ ทันทีที่คิดอย่างนั้น ก็มีอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายเกมก็ปรากฏขึ้นในหัว —————————————————————

Comment

Options

not work with dark mode
Reset