ชั้นเร่งสปีดขึ้นจากที่เสียไปเพราะหักโค้งกลับคืนมา
「กิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิ!」
ระหว่างที่ไต่ขึ้นเนินกลับไป เสียงร้องของตะขาบยักษ์ก็เข้าใกล้ขึ้น
พริบตาต่อมา ส่วนหัวของตะขาบยักษ์ก็ปรากฏตรงหน้า
พอมันเห็นชั้นที่ก่อนหน้านี้เอาแต่หนีอยู่ตลอดกลับวิ่งสวนกลับมาหาก็สับสนจนหยุดนิ่งไปชั่วครู่
ตอนนี้ล่ะ โอกาสโจมตี
ชั้นเอาหางฟาดพื้นที่ยอดเนินเพื่อเป็นแรงส่งให้ตัวเองลอยขึ้นไปพร้อมกับยกเลิก [กลิ้ง] ไปด้วย
กางปีกทั้งสองออกและกระโดดขึ้นไป
ส่วนสูงของสายตาในตอนนี้เท่ากับเจ้าตะขาบยักษ์
มองใกล้ ๆ แบบนี้แล้วมันน่ากลัวจริง ๆ
ไม่เอาน่า อย่าเพิ่งมากลัวเอาตอนนี้สิ!
「กรรรรรรรรร!」
「กิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิ!」
ชั้นลองยิง [คาไมทาจิ] ไปตรงตาของมัน
คิดว่าน่าจะพอทำอะไรได้บ้าง แต่เหมือนว่าจะไม่ระแคะระคายสักนิด
อย่างน้อย ๆ แค่ลดการมองเห็นของมันได้สักนิดนึงก็ยังดี
ชั้นบินเลียบไปตามข้างหัวของตะขาบยักษ์
จริงๆก็อยากจะบินไกลกว่านี้ แต่ถ้าไกลไปก็จะโดนบีมเล็งเป้าเอาได้
แถมถ้าคิดจะใช้แผนต่อไปของชั้น เลี่ยงได้ก็เลี่ยงจะดีกว่า
ตะขาบยักษ์อ้าปากออกแล้วใช้เขี้ยวทั้งสองของมันพุ่งเข้ามากัดชั้น
แหงะ น่ากลัวเฟ้ย
เป็นสกิล [เขี้ยวอัมพาต] รึเปล่านะ?
พอมาลองคิดดู สกิลนี้น่าจะเป็นสกิลที่รับมือง่ายที่สุดแล้ว
เทียบกับสกิลลมหายใจ สกิลนี้แทบไม่มีระยะโจมตีเลยสักนิด
แต่พลังทำลายนั้นน่ากลัวไม่ผิดแน่ ถ้าโดนเข้าสักทีคงนอนยาวแน่นอน
ดูเหมือนว่ามันอยากจะใช้ท่าที่รุนแรงปิดเกมเลย มากกว่าท่าที่โดนง่ายแต่พลังทำลายต่ำ
คงจะแค้นกันน่าดูเลยล่ะสิ
แต่ก็ดี จะได้ยั่วง่ายขึ้น
ตะขาบยักษ์เลื่อนตามองตามตัวชั้น แล้วก็หันหัวตามมา
เร็วอย่างที่คิด ถ้าเป็นปกติคงหลบไม่พ้นแน่
ตั้งสติไว้ ถ้าพลาดก็คือจบ
เราจำลองภาพในหัวมาหลายรอบแล้ว
คราวนี้จะไปถึงหางมันยังไงดีนะ?
เขี้ยวกำลังเข้ามาหา
ชั้นใช้ปีกรั้งเขี้ยวมันไว้ ก่อนจะใช้หางฟาดลงไประหว่างปีกทั้งสองก่อนจะดีดตัวเองไปข้างหน้า
「กรรรร…….」
ความเจ็บปวดแล่นไปทั้วทั้งปีกอย่างรวดเร็ว แต่อย่างน้อยก็หลุดจากเขี้ยวของมันมาได้
ตอนนี้ไม่ต้องบินขึ้นสูง แต่บินตรงไปที่หางอย่างเดียวก็พอ
อดทนไว้ ถ้าร่วงลงไปก็คือจบเหมือนกัน
จะให้มันเห็นว่าชั้นกำลังอ่อนแรงไม่ได้เด็ดขาด
ชั้นหันไปมองข้างหลัง มองตะขาบยักษ์ที่กำลังหันหัวกลับมา
ตรงจุดนี้ในแผนคือต้องให้มันยิง [ลำแสงความร้อน] ออกมา แต่การยั่วส้นตึกของชั้นไม่สัมฤทธิ์ผล
อันที่จริงตอนที่บินผ่านมาเมื่อกี้ ชั้นควรจะแหย่มันอีกสักหน่อย แต่ที่ทำได้แค่นั้นก็สุดกำลังแล้ว
บีมตะขาบของมันเองก็ใช้ MP ไม่น้อยเหมือนกัน
แปลว่ามันจะยิงไม่ยิงก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของมันงั้นเหรอ?
บ้าจริง ก็รู้อยู่หรอกว่าตอนนี้คือแย่แล้ว แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่ ๆ
แต่ถึงยังไงมันก็มีแค่วิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น…..
ลำดับมั่วหมดแล้ว
เดิมทีโอกาสชนะก็บางราวเส้นด้าย
คงไม่มีทางอื่นนอกจากต้องหนีแล้วสินะ
ถ้าอย่างน้อยชั้นมีสกิลที่ยั่วโมโหมันได้ อย่างน้อยสถานการณ์ก็น่าจะดีกว่านี้แล้วแท้ ๆ …แต่ยังไงก็คงเป็นไปไม่ได้อยู่ดี
เปลือกของมันหนาผิดปกติเกินไป
แค่ไปจิ้ม ๆ เบา ๆ คงไม่มีผลหรอก
ขนาดใช้ [คาไมทาจิ] อัดหน้าไปมันยังไม่ตอบสนองอะไรเลย
ไม่สิ….อะไรสักอย่าง ชั้นรู้สึกว่ามีอะไรสักอย่างที่ชั้นยังไม่ได้ลอง
ก่อนอื่น ชั้นทำดาเมจไม่ได้ งั้นถ้าไม่ใช่สกิลสร้างความเสียหายล่ะ?
หนึ่งสกิลที่ชั้นไม่ได้ใช้ [ผิวปาก]
ชั้นรู้วิธีใช้ได้โดยสัญชาตญาณ แค่อ้าปากแค่เล็กน้อยใส่พลังเวทลงไป แล้วก็พ่นออกมาเบาๆ ง่าย ๆ ก็ผิวปากนั่นล่ะ
สกิลที่ไม่เคยคิดว่าจะมีประโยชน์ ถ้าอยู่ในป่ามันอาจจะล่อมอนสเตอร์เข้ามาหาได้ ก็เลยไม่ได้ใช้
งั้นมันก็น่าจะใช้ล่อตะขาบยักษ์ได้เหมือนกัน
เจ้านี่เป็นความหวังสุดท้ายที่จะยั่วให้มันใช้ [ลำแสงความร้อน] แล้ว
ชั้นหันไปจ้องหน้ากับตะขาบยักษ์ และใช้งานสกิล [ผิวปาก]
ปิ๊ว~ปิ๊
เป็นเสียงงี่เง่าแต่ก็ฟังดูดีไม่น้อย
หวังว่ามันคงไม่ล่อมอนสเตอร์ประหลาดไม่หรอกนะ
เอาเถอะ คงไม่มีอะไรประหลาดไปกว่าตะขาบยักษ์ตรงหน้าแล้วล่ะ…..
「กิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิ!」
ตะขาบยักษ์เงยหน้าขึ้นแล้วเริ่มรวบรวมแสงสีแดงเข้าในปาก
สำเร็จ! งับเบ็ดแล้ว!
โอ้ーโอ้ー โกรธซะแล้ว โกรธซะแล้ว
ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่
ถ้าโจมตีพลาดไปแล้วอีกฝั่งหันมาผิวปากใส่ เป็นใครใครก็โมโห
ชั้นเองถ้าเกรย์วูล์ฟมันทำใส่คงวิ่งไล่ยันปลายเหวนู่นแหง
ชั้นเพิ่มระดับบินให้สูงขึ้นอีกนิด พร้อมกับชะลอความเร็วลง
แล้วก็ไปอยู่ตรงแถว ๆ เหนือปลายหางมันเล็กน้อย
พอมันล็อคเป้าชั้นด้วยสายตาเสร็จ ก็ขยับเขี้ยวทั้งสองไปมาด้วยความตื่นเต้น
เข้ามาสิ
ความเร็วของบีมมันนั้นสูงมาก
ถ้าจะหลบโดยดูทิศทางของบีมเอาไม่ทันการแน่
ต้องหลบให้เหนือยิ่งกว่าการเล็งของมันด้วยซ้ำ
ระยะใกล้แบบนี้ ชั้นสามารถคาดเดาจากสายมันได้ไม่ยาก
คราวนี้ต่างจากตอนที่วิ่งหนี เพราะคราวนี้ชั้นตั้งสมาธิกับการหลบบีมอย่างเดียวได้
แต่ถึงจะตั้งใจหลบยังไง ลิมิตก็น่าจะอยู่ที่ห้าวินาทีอยู่ดี
「กิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิจิ!」
ทันใดนั้น ชั้นก็สะบัดหางกลางอากาศเพื่อปรับศูนย์และใช้ปีกเอียงตัวไปด้านซ้ายเพื่อหนีจากระยะมองเห็นของมัน
แล้วบีมตะขาบก็พุ่งผ่านไปด้านขวาพร้อม ๆ กัน
รู้สึกถึงความร้อนสูงไปรอบทั้งตัว
ขนาดไม่โดนยังระดับนี้ อาวุธชีวภาพชัด ๆ
ชั้นบินหักไปด้านขวาโดยที่มีบีมตะขาบไล่จี้หลังมา
เทียบกับระยะปกติแล้วแบบนี้หลบง่ายกว่ากันเยอะ
แต่หลบได้เท่านี้คงถึงขีดจำกัดแล้วล่ะ
「กรรร!」
ชั้นสูดหายใจเข้า แล้วพ่น [ลมหายใจแห่งโรคภัย] ออกมาปกคลุมร่างไว้
เท่านี้เจ้าตะขาบยักษ์ก็มองไม่เห็น แต่ของแบบนี้อีกเดี๋ยวก็คงหาย
ชั้นรีบลงไปที่พื้นตรงใกล้ ๆ กับลำตัวของมัน
ใช้กรงเล็บทั้งสองข้างจับตัวมันไว้ รวมกับใช้เขี้ยวที่มีกัดมันแน่น
แล้วชั้นก็ใส่แรงลงไปที่ขาเพื่อกระโดดขึ้นฟ้า พร้อมใช้หางฟาดพื้นเป็นแรงช่วยอีก
「กรรรรร!」
ชั้นกางปีกออกแล้วยิง [คาไมทาจิ] ลงพื้นไปด้วย
ส่วนหลังของเจ้าตะขาบยักษ์ถูกยกลอยขึ้นอย่างรุนแรง
ถึงชั้นจะอยู่ในหมอกบังตา แต่ก็ยังมองเห็นบีมตะขาบได้อย่างชัดเจน
เป็นเหมือนกับก้อนแสง
ชั้นยกร่างของตะขาบยักษ์ไปตรงเส้นทางที่บีมของมันจะวิ่งผ่าน
ต่อให้เป็นเจ้าตะขาบยักษ์ แต่ถ้าโดนบีมตะขาบเข้าไปก็คงทนไม่ไหวเหมือนกันนั่นล่ะ
ไอ้เปลือกที่แสนจะภูมิใจนั่นก็คงจะทลายลงไปด้วย
ที่เหลือก็แค่โจมตีตรงจุดที่มันไม่มีเกราะบังก็พอแล้ว
ในที่สุดก็จะทำดาเมจเข้าได้สักที
รู้สึกได้ยืนอยู่ระดับเดียวกับแกสักที จากนี้ไปก็คงจะเป็นศึกอันแสนดุเดือดแล้วล่ะนะ
เสียง “ฉัวะ” ดังขึ้น
เหมือนว่าบีมจะเข้าเป้าหมายเรียบร้อย
「กิจิเจี่ยยยยยยยาาาาาา!!」
ตะขาบยักษ์สะบัดร่างกายขนาดยักษ์ไปมาพร้อมกับร้องออกมาเสียงดัง
ชั้นโดนมันเหวี่ยงไปมาจนเขี้ยวที่กัดอยู่เกือบจะหลุดออก
แย่ล่ะสิ เขี้ยวมันติด ดึงไม่ออก
เจ้าตะขาบยักษ์มันอาละวาดอยู่ ขืนเป็นแบบนี้ต่อคอหลุดแหง
เนื่องจากยังมีควันล้อมรอบตัวอยู่ ชั้นเลยไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
บีมตะขาบทำดาเมจใส่ตัวเจ้านั่นไปเท่าไหร่กันนะ?
ก่อนที่หางของตะขาบยักษ์จะฟาดลงพื้น ชั้นก็สามารถดึงเขี้ยวออกมาจากเปลืองของมันได้
ออกแรงถีบหางของมันเพื่อดีดตัวลงพื้น ใช้หางรองแล้วเปลี่ยนเป็นท่า [กลิ้ง] เพื่อลดแรงกระแทกพร้อมกับหนีหางตะขาบยักษ์ไปด้วย
ตะขาบยักษ์หล่นกระแทกพื้นอยู่ข้างหลังชั้น
「กิจิ เจี่ยยยยยยย!」
ตะขาบยักษ์ส่งเสียงร้องขึ้นมาอีกครั้ง
ครั้งนี้เสียงดังกว่าครั้งก่อนมาก
หืม ทำไมเสียงมันอยู่ไกล ๆ ?
เอ๊ะ เดี๋ยวนะ?
เกิดอะไรขึ้นกัน?
ชั้นเงยหน้าขึ้นไปมองหาหัวของตะขาบยักษ์
พอควันเลือนหายไป ภาพของตะขาบยักษ์ที่ลำตัวหายไปหนึ่งในสามที่กำลังอาละวาดอยู่ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้น
ของเหลวสีเขียวเข้มพุ่งกระฉูดไปทั่วทุกบริเวณ
ขาทั้งหลายต่างก็ขยับไปมาพร้อมๆกัน
มองแล้วทำให้นึกถึงคนที่กำลังจะจมน้ำ พยายามไขว่คว้าหาที่เกาะไว้
ขาของมันก็ชักจะทำให้นึกถึงแขนคนแล้วสิ
ชั้นส่ายหน้าไปมาเพื่อเอาภาพหลอน ๆ ออกจากหัว
แผนบีมตะขาบดันได้ผลดีกว่าที่ชั้นคิดไว้ซะอีก
ไม่ใช่แค่ช่วยเจาะทะลวงเปลือกของมันได้ แต่ถึงขั้นตัดร่างของมันออกเป็นสองส่วนเลย
สกิลนี้มันแรงขนาดไหนกันแน่นะ? โล่งอกไปทีที่ชั้นไม่โดนยิงเข้า