ตอนที่ 510
ปกติดี
“นี่มันอะไรกัน”หลี่เย่และสาวๆคนอื่นๆต่างไม่เชื่อสายตาเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า บอกตามตรงว่าพวกเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าสมควรรู้สึกอย่างไรกับภาพตรงหน้า
“อย่าคิดมากสิ แต่เดิมการมีภรรยาน้อยมันก็เรื่องปกติไม่ใช่เหรอ”ชางซีว่าพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา ปกติผู้ชายที่มีฐานะหน่อยก็มักจะมีภรรยากัน 2 – 3 คนหรือมากกว่านั้นกันอยู่แล้ว แค่ไป๋จูเหวินไม่เคยมีเรื่องพวกนี้พวกนางก็เลยประหลาดใจเท่านั้นไม่ใช่หรือ
“แต่เด็กคนนั้นพลังวิญญาณอ่อนมากเลยนะ น่าจะเป็นเด็กสาวอายุน้อยด้วย”ต้าเฉียนตอบพลางมองไปที่หญิงสาวที่กำลังกอดแขนไป๋จูเหวินเดินเล่นในตลาดอย่างไม่เอียงอายกับสายตาคนรอบข้าง
“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นา เรื่องอายุมันไม่ค่อยมีผลกับผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณอยู่แล้วนี่นา”ต้าหวานว่าพลางหลบสายตาไปทางอื่น แต่ถึงพวกนางจะหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ยังมีท่าทีไม่อยากจะเชื่อภาพตรงหน้าอยู่ดี
“เดี๋ยวสิ บางทีนางอาจจะไม่ได้เป็นคนรักก็ได้นี่นา”หลี่เย่เริ่มหาเรื่องมาค้านพลางหันไปมองทางไป๋จูเหวินช้าๆ แม้จะเดินกอดกันเช่นนั้นก็อาจจะไม่ได้เป็นคนรักกันก็ได้ บางทีอาจจะเป็นลูกของสหายหรือ….
“…….”ขณะกำลังคิดเข้าข้างไป๋จูเหวินอยู่นั้น อยู่ๆหญิงสาวที่กอดแขนไป๋จูเหวินอยู่ก็พลันหัวเราะออกมาก่อนจะเขย่งตัวขึ้นมาจูบไปที่แก้มของไป๋จูเหวินทันที ทำเอาสี่สาวถึงกับหาข้อแก้ตัวเรื่องนี้ไม่ออก ทั้งสองดูรักกันดีขนาดนี้จะเป็นอื่นไปได้อย่างไร
“ก็อย่างที่บอก ผู้ชายจะมีภรรยาน้อยก็ไม่แปลกนี่นะ”ชางซีว่าพลางถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีปล่อยวาง ตัวนางเคยเดินทางทำการแสดงมาหลายต่อหลายเมือง พวกคนใหญ่คนโตก็มีภรรยากันหลายคนทั้งนั้น แม้แต่ท่านน้าราชสีห์เองก็มีภรรยาตั้งหลายตนไม่ใช่หรือ แค่ไป๋จูเหวินจะมีภรรยาเพิ่มอีกคนจะเป็นไรไป
“มันก็…..”พวกต้าเฉียนกับต้าหวานพากันถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เรื่องไป๋จูเหวินรักเดียวใจเดียวอยู่กับเหม่ยหลินนั้นเป็นเรื่องที่เล่าต่อกันมาจนทำเอาสาวๆพากันถอดใจกันไปหลายอาณาจักรแล้ว พอมาเห็นภาพแบบนี้ตรงหน้าก็เลยรู้สึกประหลาดใจเท่านั้นเอง
“ว่าแต่ น้องจูล่งจะรู้หรือยัง..”ทันทีที่ต้าหวานถามออกมา ทั้งสามสาวก็พลันเงียบกริบทันที
“คงไม่หรอก ท่านถึงกับแอบเดินทางมาคนเดียวแบบนี้อาจจะยังไม่มีใครรู้ก็ได้”ชางซีว่าพลางทำสีหน้ากังวลออกมา เรื่องไป๋จูเหวินจะมีภรรยาน้อยนั้นพวกนางไม่มีสิทธิ์ไปต่อว่าอะไรอยู่แล้ว แต่พอนึกถึงน้องจูล่งแล้ว พวกนางก็พลันเป็นห่วงความรู้สึกของจูล่งขึ้นมาทันที
“ถ้าจูล่งรู้เข้าอาจจะรับไม่ได้เลยก็ได้นะ”หลี่เย่ทำสีหน้ากังวลออกมาไม่ต่างจากคนอื่นๆ หากจูล่งรู้เข้าอาจจะเสียใจมากก็ได้ที่พ่อของตนนอกใจแม่เข้า
“เราจะให้น้องจูล่งมาเห็นภาพนี้ไม่ได้”ต้าหวานพูดด้วยท่าทีหนักแน่น ตอนนี้จูล่งกำลังเทียวไปมาเพื่อหลอมโลหะอยู่ โอกาสที่จะเจอกับไป๋จูเหวินในตลาดคงมีสูงมาก
“ตอนนี้น้องจูล่งน่าจะไปขายโลหะที่ปราสาทเจ้าเมือง ข้าจะ….”ต้าเฉียนยังไม่ทันจะไปไหน สายตาของนางก็มองไปเห็นจูล่งที่กำลังเดินทางผ่านตลาดมาทางพวกนางเสียอย่างนั้น ที่พวกนางเลือกมานั่งที่ร้านน้ำชาตรงนี้ก็เพราะมันเป็นเส้นทางที่จูล่งจะไปซื้ออาวุธมาหลอมนั่นเอง ทำให้พวกนางสามารถเฝ้ามองได้เวลาจูล่งกำลังทำงานเช่นนี้
“นะ น้องจูล่ง รอข้าก่อน”ต้าเฉียนรีบวิ่งออกจากร้านไปทันที ทำให้ทั้งต้าหวาน ทั้ง หลี่เย่เองก็รีบตามไปเช่นกัน
“เดี๋ยว รอข้าด้วย”ชางซีที่ลุกช้าที่สุดกำลังจะตามพวกนางไป แต่มือของนางกลับโดนหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งรั้งตัวเอาไว้เสียก่อน
“xxxxxxx”หญิงคนนั้นพูดกับชางซีด้วยภาษาอาณาจักรไชน์ ทำเอาชางซีที่ดันเป็นคนเดียวที่ไม่รู้ภาษาไชน์ได้แต่กะพริบตาปริบๆ
“เอ่อ……”ชางซีมองท่าทีของหญิงวัยกลางคนผู้นั้นด้วยท่าทีงุนงง ทำไมนางถึงต้องมารั้งตนเองไว้ด้วย หรือว่านางทำอะไรผิดกัน
“อะ อ๋อ”เหมือนชางซีจะพึ่งนึกออกว่านางมาจับตัวตนเองไว้ทำไม แม้ไม่เข้าใจภาษา แต่พวกนางก็นั่งอยู่ที่ร้านของอีกฝ่ายมาได้สักพักแล้ว อยู่ๆคนอื่นๆก็วิ่งหนีไปหมดนางคงเข้าใจผิดว่าพวกตนคิดจะชักดาบเป็นแน่ ทำให้ชางซีต้องรีบเอาเงินส่งให้อีกฝ่าย ทำให้นางยิ้มออกมาพลางเดินไปหยิบเงินทอนมาให้
.
.
“มีอะไรกันหรือขอรับ”หลังจากทั้งสี่สาวมาหยุดจูล่งเอาไว้ก่อนจะต้องไปเจอภาพบาดตาบาดใจ จูล่งที่โดนทั้งสี่สาวขวางไม่ยอมให้เดินเข้าตลาดก็ได้แต่ทำหน้างงๆ
“มะ ไม่มีอะไรหรอก พวกเราว่าจะชวนเจ้าไปหาอะไรกินกันก่อน เจ้ายังไม่ได้กินมื้อกลางวันเลยไม่ใช่หรือ”ต้าเฉียนว่าพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา หวังว่าจูล่งจะยอมเชื่อพวกนางง่ายๆนะ
“ไม่ได้หรอกขอรับ ข้าพึ่งตกลงกับท่านน้าว่าจะช่วยงาน เอาไว้เสร็จงานแล้วข้าจะไปกินกับพวกท่านนะขอรับ”จูล่งตอบพลางยิ้มออกมา เมื่อครู่มันพึ่งตกลงช่วยงานรูบี้มาหมาดๆ มันก็เลยอยากจะทำงานให้เสร็จก่อนค่อยพักทีเดียว
“เอ๊ะ งานงั้นเหรอ ไม่ใช่ว่าเจ้าแค่จะหลอมโลหะไปขายหรอกหรือ”หลี่เย่ทำสีหน้างุนงงออกมา แล้วท่านน้าที่จูล่งพูดถึงนี่คือใครกัน
“เป็นงานเดียวกันขอรับ ข้าก็เลยจะรีบไปเอาอาวุธที่โกดังนี่ไงขอรับ”จูล่งตอบพลางยิ้มออกมา มันทำท่าจะเดินต่อไปทางโกดัง ทำให้สาวๆพยายามจะห้ามไม่ให้มันเดินไปทางนั้นเพราะหากเดินต่อไปก็เป็นตลาดที่ไป๋จูเหวินกำลังควงเด็กสาวเดินชมอยู่นะสิ
“ล่งเอ๋อ นั่นเจ้างั้นหรือ”ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรมากกว่านั้น อยู่ๆเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังของพวกนาง ทำเอาทั้งสี่สาวสะดุ้งโหยงเพราะไม่คิดว่าไป๋จูเหวินจะเข้ามาทักจูล่งทั้งๆที่ยังควงแขนกับสาวน้อยคนนั้นอยู่
“ท่านน้าสวัสดีขอรับ”จูล่งพูดพลางประสานมือไปทางเพิร์ลทันที
“เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง แล้วพ่อเจ้าไม่มาด้วยงั้นหรือ”เพิร์ลถามพลางเดินเข้ามาหาจูล่งด้วยท่าทียิ้มแย้ม
“ข้ามาทำงานคนเดียวขอรับ ท่านพ่อยังอยู่ที่เขตอสูรไม่ได้มาด้วยขอรับ”จูล่งตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีร่าเริง แต่สี่สาวด้านหลังกลับมองตากันไปมาด้วยความงุนงง
“งานงั้นเหรอ?”เพิร์ลเลิกคิ้วด้วยท่าทีสงสัย งานอะไรกันที่ทำให้บุตรชายของไป๋จูเหวินต้องเดินทางมาทำถึงไชน์เช่นนี้
“ตอนแรกข้ากะจะมาขายโลหะเฉยๆขอรับ แต่ข้าได้เจอกับท่านน้ารูบี้ก่อนท่านก็เลยบอกให้ข้าช่วยหลอมอาวุธทั้งหมดให้เป็นโลหะให้หมดเลยขอรับ”จูล่งตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา ตอนนี้รูบี้ให้ป้ายคำสั่งกับจูล่งมา แค่มันยื่นให้กับคนคุมโกดังมันก็จะได้อาวุธทั้งหมดในนั้นมาทันที ที่เหลือก็แค่เอาไปหลอมที่โรงหลอมของเจ้าเมืองก็พอ โดยรูบี้จะจ่ายเป็นค่าแรงก้อนเดียวไปเลยไม่ต้องให้จูล่งเทียวไปเทียวมาแบบที่ทำอยู่ก่อนหน้านี้
“เจ้านี่เก่งจังเลยนะ อายุน้อยกว่าแท้ๆแต่ทำงานทำการเก่งกว่าเด็กบางคนเสียอีก”เพิร์ลชมพลางหันไปมองเด็กสาวข้างตัว ทำเอาเด็กสาวคนนั้นทำแก้มป่องทันที
“ก็ท่านพ่อบอกให้ข้ามาเที่ยวได้นี่นา วันพักผ่อนแบบนี้ข้าไม่ยอมทำงานหรอก”หญิงสาวคนนั้นพูดพลางกอดแขนของเพิร์ลเอาไว้แน่น
“ท่านน้ารูบี้บอกว่าพี่ไดแอนช่วยงานท่านอยู่นี่ขอรับ พี่เองต้องเก่งกว่าข้าแน่นอน”จูล่งว่าพลางยิ้มกว้างออกมา
“ว่าแต่ พวกนางเป็นผู้ติดตามของเจ้าสินะ”เพิร์ลถามพลางหันไปมองพวกสี่สาว
“ชะ ใช่เจ้าค่ะ”ต้าหวานตอบด้วยท่าทีอึ้งๆ เพิร์ลและรูบี้ย้ายมาอยู่อาณาจักรไชน์นานมากแล้ว แม้จะกลับมาบ้างแต่ก็ไม่เคยได้เจอกับพวกนางมาก่อน ในพิธีแต่งงานของไป๋หลิน พวกนางก็มัวแต่สนใจเรื่องของจูล่งก็เลยไม่ได้พบกับเพิร์ลเลย ทำให้พวกนางไม่ทราบว่าในโลกนี้ยังมีคนใบหน้าเหมือนไป๋จูเหวินราวกับแกะอยู่อีก
“พวกเจ้าคงเข้าใจผิดว่าข้าคือไป๋จูเหวินสินะ ถึงได้มองข้ามาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว”เพิร์ลถามพลางยิ้มออกมาอย่างรู้ทันทำเอาสี่สาวได้แต่หัวเราะเจื่อนๆออกมาเท่านั้น สุกท้ายเพิร์ลก็แก้ไขข้อข้องใจของพวกสาวๆ แถมยังคุยอวดอีกด้วยว่านอกจากหน้าตาจะเหมือนไป๋จูเหวินแล้ว ทั้งฝีมือและเรื่องรักเดียวใจเดียวนั้นมันก็ไม่ต่างจากไป๋จูเหวินเลยแม้แต่น้อย ทำเอาทั้งสี่สาวได้แต่ก้มหน้าสำนึกผิดกับทุกอย่างที่คิดไม่ดีกับไป๋จูเหวินไป
.
.
“เจ้าจะหลอมอาวุธพวกนี้ทั้งหมดทีเดียวเลยงั้นหรือ”รูบี้ถามด้วยท่าทีประหลาดใจเมื่อจูล่งนำอาวุธกลับมาจากโกดังแล้วเอามาวางรวมกันที่โรงหลอมจนมันกลายเป็นภูเขาอาวุธย่อมๆเลยทีเดียว
“เอ๋ ข้าหลอมมันพร้อมกันเลยไม่ได้หรือขอรับ”จูล่งถามด้วยท่าทีงงๆ หรือว่าการหลอมอาวุธพวกนี้ทีเดียวจะเป็นเรื่องไม่ควรทำกัน?
“ก็ไม่ใช่ไม่ได้หรอก แต่มันสิ้นเปลืองพลังไม่ใช่หรือไง”รูบี้ถามด้วยท่าทีกังวล ยิ่งของที่ใช้หลอมมีจำนวนมากก็ยิ่งต้องใช้พลังสร้างไฟมากขึ้นและควบคุมยากขึ้นไม่ใช่หรือ
“ถ้าแค่นี้สบายมากขอรับ”จูล่งตอบพลางยิ้มกว้างออกมาด้วยท่าทีใสซื่อ
“งะ งั้นเหรอ”รูบี้หันไปมองกองอาวุธตรงหน้าครู่หนึ่งก่อนจะนึกถึงเรื่องที่ไป๋จูเหวินบอกในพิธีแต่งงานของไป๋หลิน ดูเหมือนจูล่งจะมีพลังที่แข็งแกร่งมากๆ ชนิดที่ว่าแม้แต่ตัวไป๋จูเหวินเองยังไม่ทราบเลยว่าพลังของจูล่งนั้นมีมากมายเพียงไร
“งั้นข้าลงมือเลยนะขอรับ”จูล่งว่าพลางเดินไปที่กองอาวุธตรงหน้า ก่อนจะบอกให้คนอื่นๆถอยออกห่างให้มากที่สุดเพราะไปมันร้อนมากทีเดียว
วูบ…. ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงหรือรวบรวมพลังให้เสียเวลา จูล่งเรียกเปลวเพลิงออกมาคลุมอาวุธทั้งกองในพริบตา ทำเอาภายในโรงหลอมสว่างจ้าไปด้วยเปลวเพลิงทันที พริบตาเดียวกองอาวุธจำนวนมากก็เริ่มหลอมละลายแล้วลอยขึ้นไปบนอากาศช้าๆจนกลายเป็นลูกไฟทรงกลมเหมือนมีดวงอาทิตย์กำลังลอยอยู่ในโรงหลอมไม่มีผิด
เคร๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่นานแท่งโลหะ แท่งทองเดง และแร่ชนิดต่างๆจากการหลอมอาวุธก็ตกลงมาบนพื้นราวกับฝนกำลังตกลงมาเป็นแท่งโลหะไม่มีผิด ทำเอาเหล่าช่างตีเหล็กพากันอ้าปากค้างกันเป็นแถว
“เสร็จแล้วขอรับ”จูล่งว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีสบายๆ ทำเอารูบี้กับเพิร์ลได้แต่ถอนหายใจ จะว่าไงดีล่ะจูล่งก็สมกับเป็นลูกชายของไป๋จูเหวินจริงๆละนะ