ตอนที่ 1822 องค์หญิง วิ่ง! (5)
“พี่หญิงมู่ สนมของฝ่าบาทรังแกท่านหรือเจ้าคะ” ฉีหลิงมองมู่เสวี่ยซินอย่างกังวล
ตอนที่อยู่เมืองจักรพรรดิ เมื่อท่านป้าอวิ๋นจากไป นางและพี่ชายก็ตกอยู่โชคชะตาที่เลวร้าย มีแต่มู่เสวี่ยซินเท่านั้นที่ยังปฏิบัติตัวกับพวกนางเหมือนเดิม นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฉีหลิงชอบนาง
ดวงตาของมู่เสวี่ยซินดำมืด “ฉีเจิ้งไปที่พระราชวังเพื่อมาสู่ขอข้าให้ฉีมั่ว คนพวกนั้นก็ตกลง”
“อะไรนะ” ฉีหลิงตะโกนขึ้นอย่างตื่นตระหนกและรีบเข้าไปจับแขนของมู่เสวี่ยซิน “พี่หญิงมู่ ท่านแต่งงานกับเขาไม่ได้นะ! เขาเป็นคนชั่วช้า! เขาทำแม้กระทั่งทำร้ายข้าด้วย!”
หัวใจของมู่เสวี่ยซินบีบรัด นางสำรวจร่างกายของฉีหลิงอย่างกังวล “ฉีมั่วทำร้ายเจ้างั้นหรือ เขาตีเจ้าที่ไหน เจ้าเจ็บมากหรือไม่”
“ข้าไม่เจ็บเจ้าค่ะ แต่ข้าเกลียดเขา” ฉีหลิงทำหน้ายู่ แต่จู่ๆ นางก็นึกบางอย่างออกแล้วหันไปหาอวิ๋นลั่วเฟิง “พี่หญิงอวิ๋น พวกเราช่วยองค์จักรพรรดิได้ไหมเจ้าคะ ถ้าองค์จักรพรรดิตื่นขึ้นมา พี่หญิงมู่ก็ไม่ต้องแต่งงานกับคนชั่วร้ายมากคนนั้น”
ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นประกายก่อนจะพยักหน้า “ฉีมั่วตั้งใจจะเดินทางไปนครจักรพรรดิเพื่อความรุ่งเรือง ถึงตอนนั้นพวกเราจะไปเจอเขาที่พระราชวัง”
“เยี่ยม” ในที่สุดฉีหลิงก็ยิ้ม ในสายตาของนาง อวิ๋นลั่วเฟิงเป็นคนที่เก่งกาจมาก นางต้องช่วยองค์จักรพรรดิให้หายประชวรได้แน่
มู่เสวี่ยซินไม่พูดอะไรกับคำตอบรับของอวิ๋นลั่วเฟิง นางส่ายหน้าแล้วยิ้มบิดเบี้ยวพร้อมดวงตาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า
แพทย์ที่มีชื่อเสียงจำนวนมากในอาณาจักรหลิวเฟิงเคยมาตรวจเสด็จพ่อแล้วแต่พวกเขาก็ไม่สามารถรักษาพระองค์ได้ เขากินสมุนไพรพลังฌานเข้าไปนับไม่ถ้วนแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ไม่ว่าอาจารย์ของฉีหลิงจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็คงช่วยพระองค์ไม่ได้…
มู่เสวี่ยซินถอนหายใจเบาๆ
เสด็จแม่เป็นคนที่เสด็จพ่อรักมากที่สุดแต่พระองค์ก็สิ้นใจไปขณะคลอดบุตร แต่ว่าเสด็จพ่อก็ไม่ได้โทษนางที่ทำให้เสด็จแม่สิ้นพระชนน์แต่กลับรักและเอ็นดูนางมาก เสด็จพ่อไม่ได้แต่งตั้งองค์จักรพรรดินีขึ้นอีกเลยตลอดหลายปีมานี้จนทำให้ผู้คนต่างริษยา
ถ้าเสด็จพ่อสิ้นพระชนม์ นางก็จะไม่เหลือครอบครัวอีกต่อไป ถ้าอย่างนั้นแล้วนางจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม
ยิ่งไปกว่านั้น คนพวกนั้นยังต้องการให้นางแต่งงานกับฉีมั่ว…
“ในเมื่อไม่มีหญ้าเสวียนซินที่นี่ พวกเราก็กลับพระราชวังกันเถอะ ฉีหลิงถ้าเจ้าได้เจอพี่ชายอย่าลืมบอกทักทายเขาให้ข้าด้วย” มู่เสวี่ยซินขอร้องอย่างจริงจังขณะที่มองฉีหลิง “แต่อย่าบอกเขาเรื่องสถานการณ์ของข้า ข้าไม่อยากให้เขากลับมาช่วยเหลือข้า”
เขาไม่มีทางเอาชนะตระกูลฉีโดยเฉพาะตอนนี้ที่ตระกูลฉีมีราชวงศ์หนุนหลัง…
“พี่หญิงมู่ไม่อยากเจอท่านพี่หรือเจ้าคะ” ฉีหลิงกัดปากและมองมู่เสวี่ยซินตาไม่กะพริบ
นิ้วมือของมู่เสวี่ยซินสั่น นางส่ายหน้าแล้วยิ้มเหยเก “ข้าจะอยากเจอเขาไปทำไม เขาช่วยข้าไม่ได้หรอก”
ถึงอย่างไรนางก็ไม่อยากดึงเขาเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้…
“ถ้าท่านว่าอย่างนั้น” ฉีหลิงก้มหน้าอย่างผิดหวัง แต่เมื่อนางนึกขึ้นได้ว่าอีกไม่นานพวกนางก็จะเดินทางไปที่นครจักรพรรดิแล้ว นางก็รวบรวมกำลังใจกลับมา
“พี่หญิงมู่ ข้าและท่านพี่จะไปหาท่านนะเจ้าคะ”
มู่เสวี่ยซินตัวแข็ง นางต้องการจะพูดบางอย่างแต่สุดท้ายก็ไม่มีเสียงออกมา
อวิ๋นลั่วเฟิงเงยหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะหันไปหาฉีหลิง “ตอนนี้ก็สายมากแล้ว พวกเราควรเดินลงเขาไม่อย่างนั้นพี่ชายเจ้าจะคิดว่าข้าลักพาตัวเจ้าไปขาย”
ฉีหลิงพยักหน้าแล้วจับมืออวิ๋นลั่วเฟิงก่อนจะเผยรอยยิ้มกว้างที่ใสซื่อจนเต็มใบหน้า “พี่หญิงอวิ๋น ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็รีบออกจากที่นี่กันเถอะ ข้าคิดถึงท่านพี่”
นี่เป็นครั้งแรกที่นางอยู่ห่างจากพี่ชายนานขนาดนี้…
อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้พูดอะไรอีกก่อนจะอุ้มฉีหลิงแล้วกระโดดขึ้นไปในอากาศ ร่างของนางเปลี่ยนเป็นลำแสงแล้วพุ่งออกไปทันที…
…
นครเฟิงหลิน
ภายในจวน ซืออวี่ยืนอยู่ด้านนอกห้องทำงาน หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ผลักประตูเข้าไปด้านใน
…………………………
ตอนที่ 1823 องค์หญิง วิ่ง! (6)
ซืออวี่เปิดประตูเข้ามาก็เห็นเด็กหนุ่มนั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะ นางกัดริมฝีปากแล้วพูดขึ้น “นายน้อยเจ้าคะ ท่านยอมให้สตรีแปลกหน้าพาคุณหนูไป ท่านไม่กังวลสักนิดเลยหรือเจ้าคะ ตอนนี้ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วแต่คุณหนูก็ยังไม่กลับมา ข้าน้อยมีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับคุณหนูนะเจ้าคะ!”
ดวงตาของซืออวี่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล นางไม่เข้าใจจริงๆ ว่า พวกเขาไม่เคยสตรีผู้นี้มาก่อนในชีวิตแต่เหตุใดนายน้อยถึงเชื่อใจนางมากขนาดนี้
ฉีซูขมวดคิ้วแล้วเงยหน้ามองซืออวี่ “ข้อแรก นางไม่ได้เป็นคนแปลกหน้า ข้อสอง…เสี่ยวหลิงเป็นน้องสาวของข้า! ในฐานะพี่ชาย ข้าจะไปทำร้ายนางได้อย่างไร”
“นายน้อย ข้าน้อยไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” ซืออวี่เหงื่อออกท่วม “ข้าน้อยแค่กังวลว่าสตรีผู้นั้นจะหลอกนายน้อยต่างหากเจ้าค่ะ ท่านจิตใจดีและเชื่อคนง่ายไม่แน่ตระกูลฉีอาจจะตั้งใจหาสตรีที่คล้ายนายหญิงเยว่ชิงเพื่อจับตัวคุณหนูก็ได้”
ปัง!
เด็กหนุ่มวางพู่กันกระแทกกับโต๊ะอย่างแรงแล้วพูดด้วยเสียงเย็นเยียบว่า “ซืออวี่ อย่าลืมว่าเจ้ามีฐานะอะไร เจ้ากำลังข้ามเส้นไม่รู้หรือ”
เขาจะไม่กังวลเรื่องของฉีหลิงได้อย่างไร แต่ว่าการที่เขากังวลเกี่ยวกับฉีหลิงไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เชื่อใจอวิ๋นลั่วเฟิง เขาก็แค่กลัวว่าพวกนางจะตกอยู่ในอันตราย
ตอนนั้นอวิ๋นเยว่ชิงก็บอกว่านางจะออกไปแค่หนึ่งปีแค่ผ่านไปสามปีแล้วนางก็ยังไม่กลับมา
“นายน้อย ท่านเปลี่ยนไปนะเจ้าคะ”
ซืออวี่ถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วจ้องหน้าฉีซูอย่างไม่เชื่อ “ท่านเคยยกคุณหนูไว้เหนือสิ่งอื่นใดและก็ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของคุณหนู ตอนนี้นางหายตัวไปสามเดือนแต่ท่านกลับยังเชื่อใจสตรีผู้นั้นอีกหรือเจ้าคะ ข้ามั่นใจเลยว่าสตรีผู้นั้นต้องพาคุณหนูไปแล้วไม่กลับมาแน่นอน!”
ฉีซูโกรธจัดแล้วใช่กำปั้นทุบโต๊ะ “ซืออวี่ เจ้า…”
“นายน้อย ท่านทำให้ข้าผิดหวังมาก” ซืออวี่มองฉีซูอีกครั้งก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป “ถ้าท่านไม่ไปออกตามหาคุณหนู ข้าน้อยจะไปเอง! ข้าจะพาคุณหนูหลิงเอ๋อร์กลับมาเอง!”
ฉีซูชักสีหน้าไม่พอใจ ถ้าเขาไม่รู้ว่าซืออวี่จงรักภักดีกับเขามากแล้วกล้าเถียงกับเขาเพราะเป็นห่วงฉีหลิง เขาก็คงตบนางให้ตายไปแล้ว!
“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ! ข้าเชื่อในตัวแม่นางอวิ๋น ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าออกไป!”
ซืออวี่หยุดฝีเท้าแล้วสายตาของนางก็แสดงความผิดหวังมากขึ้น นางไม่คิดเลยว่านายน้อยจะเสียสติไปเพราะสตรีคนหนึ่ง และสุดท้ายก็ทำให้คุณหนูถูกทอดทิ้ง
“นายน้อย ข้าเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองเจ้าค่ะ นางจะไม่กลับมาแน่ ถ้าข้ากล่าวหานางผิด ข้าจะยอมเป็นทาสนางไปตลอดชีวิตเพื่อชดใช้ความผิดที่ข้าทำ!” ซืออวี่เงยหน้ามองตรงไปที่สวนตรงหน้านาง เสียงของนางทรงพลังและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
แต่ว่าตอนนั้นเอง…ร่างที่คุ้นเคยสองร่างก็โผล่เข้ามาในสายตาของพวกเขาท่ามกลางท้องฟ้า
ชุดสีขาวราวหิมะของสตรีผู้นั้นปลิวไปตามลม นางอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยน่ารักไว้คนหนึ่งและพุ่งมาหาพวกเขาด้วยความรวดเร็ว
“คุณหนู?” ซืออวี่ส่งเสียงออกมาโดยไม่ตั้งใจเมื่อเห็นร่างทั้งสองที่บินอยู่ท้องฟ้าใกล้เข้ามา
คำพูดที่นางพูดก่อนหน้านี้งสะท้อนไปทั่วสวนราวกับมีมือมาตบหน้านางอย่างแรง ช่างเป็นเรื่องที่น่าอับอายยิ่งนัก
เมื่อทั้งสองเข้าใกล้ ในที่สุดหลังจากผ่านสามเดือนมาอย่างกระวนกระวาย หัวใจของนางก็สงบ
“ท่านพี่ ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ…”
ทันทีที่เท้าของอวิ๋นลั่วเฟิงแตะพื้น เสียงหวานและอ่อนโยนของฉีหลิงก็ดังขึ้น
ฉีซูที่กำลังก้มหน้าทำงานอยู่ก็ทำพู่กันร่วงเมื่อได้ยินเสียงของเด็กหญิงตัวน้อย ก่อนเขาจะรีบพุ่งออกมาจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว