บทที่ 14 – ออกเดินทางโลด!
บลาๆ นั่นคือสิ่งที่เจ้าพ่อของอนาสตาเซียพูดกับฉัน ซึ่งในฐานะที่เป็นคนอายุสามสิบฉันต้อง… เมินไปซะให้หมด
ก็แบบคำพูดที่เจ้าหมอนี่พูดมันมีแต่คำพูดที่ดูใจร้ายกับอนาสตาเซียสุดๆ นี่น่า.. ขืนฉันจับใจความขึ้นมาคงโมโหแทนอนาสตาเซีย
แล้วก็ต่อยหน้ามันสักหมัดน่ะนะ แต่โชคยังดีที่ฉันมีความเป็นผู้ใหญ่มากพอ.. เพราะถ้าฉันต่อยออกไปกลายเป็นลูกเนรคุณแน่นอน
และตั้งแต่มาอยู่ที่โลกนี้ ฉันก็ได้ยินชื่อเสียงอนาสตาเซียไม่สิ ตอนนี้คือฉัน.. ฉันได้ยินชื่อเสียงแย่ๆ ของตัวเองมาเยอะพอสมควร
ดังนั้นจะทำให้แย่กว่าเดิมไม่ได้
อีกอย่างเดี๋ยวมันก็ผ่านไปเองแหละเนอะ
“นี่เจ้าฟังข้าอยู่ไหม อนาสตาเซีย?!”
“ข้าฟังอยู่”
จู่ๆ เจ้าหมอนี่ก็เหมือนสังเกตเห็นว่าข้าไม่ฟังแล้วก็ตะโกนออกมาซะอย่างนั้น ก็นะควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีเท่าฉันล่ะสิ
ก็นะ เจ้าหมอนี่อายุแค่ยี่สิบกว่าๆ เกือบสามสิบเอง ซึ่งเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ข้าจะเป็นผู้ใหญ่กว่าน่ะ พอฉันทำหน้าภูมิใจออกมาสกาเล็ตก็พูดขึ้น
“ข้าว่าเจ้าไม่ต้องมาภูมิใจกับเรื่องอะไรแบบนี้จะดีกว่านะ แบบนั้นมันดูเหมือนเด็กนะนั่น”
“เธอไม่ต้องพูดเลย”
ยัยสกาเล็ตเองก็เหมือนจะรู้จักฉันดีจรเหมือนอ่านใจฉันได้แล้วเนี่ย.. ก็นะตลอดหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ได้เจอเธอ
พวกเราก็อยู่ด้วยกันตลอด แหงล่ะ เพราะเธอสถิตอยู่ในจี้นี้นี่นะ ออกไปไม่ได้หรอก.. อีกอย่างถึงจะบอกว่าเธอต้องการตามหาความทรงจำที่หายไป
แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะมีอะไรที่ทำให้ความทรงจำเธอกลับมา ด้วยเหตุนี้เธอจึงเป็นเหมือนกาฝากที่เกาะติดฉันเป็นตังเม
“เจ้าเองก็เป็นถึงขุนนาง พอไปถึงที่นั่นอย่าได้แสดงกิริยาที่ไม่สมกับเป็นขุนนางแถมอย่าได้ลืมว่าเจ้าเองก็เป็นว่าที่ภริยาองค์ชาย”
“เจ้าควรจะขอบคุณข้าที่ข้ามีสัมพันธ์ไมตรีกับองค์ราชา และพวกเราได้สัญญากันไว้ตั้งแต่ก่อนที่เจ้าจะเกิดทำให้เจ้าได้มีวาสนาได้ครองคู่กับองค์ชาย”
“ใช้โอกาสนี้ในการสนิทสนมกับองค์ชายให้ได้มากที่สุด”
“อย่าทำตัวไร้ค่าเหมือนมารดาเจ้า”
โอ้ เป็นครั้งแรกที่เจ้าหมอนี่พูดถึงแม่ของอนาสตาเซียเลยแฮะ.. จะว่าไปในเกมก็ยังไม่เคยพูดถึงแม่ของอนาสตาเซียเลยแฮะ
แม้ในเกมภาคแรกจะไม่มีการกล่าวถึงแม่เลยก็จริง แต่ในเกมภาคสองอธิบายว่าเพราะทะเลาะกับบิดาของอนาสตาเซียทำให้เธอจากไปโดยทิ้งลูกๆ ไว้ข้างหลัง
ทำให้หมอนี่ต้องเลี้ยงอนาสตาเซียคนเดียวทำให้เขาเกลียดผู้หญิงคนนั้นเข้าไส้ และเกลียดอนาสตาเซียเข้าไส้เพราะเป็นสายเลือดของผู้หญิงคนนั้น
ถ้าไม่ติดที่ว่าทำสัญญากับองค์ราชาไว้ เขาคงจะโยนอนาสตาเซียทิ้งไปแล้วละมั้ง.. เท่าที่ฉันเข้าใจก็ประมาณนี้
ในมุมมองของฉันทั้งพ่อทั้งแม่ยองอนาสตาเซียก็แย่ทั้งคู่ แม่ทะเลาะกับพ่อก็ทิ้งลูกไปอยู่ที่อื่นเฉยเลยด้วย
ถ้าพิจารณาจากการที่ในภาคสองมีน้องของอนาสตาเซียโผล่มา.. ฉันมั่นใจว่าแม่ของอนาสตาเซียหลังจากทิ้งไปก็ได้สามีใหม่ทันที และตั้งท้องลูก
ส่วนพ่อก็สาเหตุที่เลี้ยงไว้เพราะสัญญากับองค์ราชาว่าจะให้แต่งกับบุตรสาวคนแรกของตน ซึ่งคืออนาสตาเซีย
หากขัดขืนคงจะเป็นการไม่ดีมากกว่า.. เป็นครอบครัวที่เฮงซวยจนถึงที่ยุดจริงๆ ฉันละสงสารอนาสตาเซียจริงๆ
“ช่างเถอะ ไปได้แล้ว ข้าจะให้เจ้าเอาเมดรับใช้ไปหนึ่งคนไปเลือกมาได้เลย”
“เอ๊ะ เมดรับใช้ไม่ใช่ว่าที่โรงเรียนไม่ให้เอาไปด้วยหรอกเหรอ..?”
“ข้าขอร้องทางโรงเรียนเป็นกรณีพิเศษแล้ว เพราะเจ้าชอบทำตัวตามอำเภอใจ ข้าจะให้คนไปคอยคุมเจ้า”
“…..”
ไอ้หมอนี่ มันรู้ทันข้าอีก.. แต่หึๆ .. ก็อย่างที่คาดเอาไว้ว่าจะมาไม้นี้.. เพราะฉันรู้ว่ะว่าตัวเองจะมีเมดส่วนตัว
เพราะเล่นเกมมาแล้วเว้ย!ฮ่าๆ เพราะงั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาฉันจึงไปทำตัวสนิทสนมกับคุณเมดไว้หลายๆ คน
เพราะรู้ว่าวันนี้ต้องมาถึง.. แต่ไม่นึกว่าจะให้เลือกเอง เพราะถ้าเลือกเองฉันคงเลือกคนที่สนิทสนมที่สุดอยู่แล้ว
รอบนี้ไม่ได้กินฉันหรอกนะ เจ้าบ้าเอ๊ย! ฉันลำพองใจแต่ใบหน้าก็ยังแสดงออกถึงความขมวดคิ้วเล็กน้อย
“รีบๆ ไปได้แล้ว ข้าจะทำงานแล้ว”
ว่าแล้วเจ้าหมอนี่ก็ไล่ฉันออกเหมือนหมู เหมือนหมาเลยก็ว่าได้ แต่นั่นก็ไม่ทำให้อารมณ์ฉันบูดลงแม้แต่น้อย
เพราะในที่สุด.. ฉันก็ได้ออกจากบ้านหลังนี้สักที
ส่วนเลือกคุณเมด ฉันเลือกเรียบร้อยแล้ว คุณเมดที่ฉันจะเลือกเธอมีชื่อว่า เลล่า อื้อ.. เธอคือเมดที่น่ารักที่สุด.. ฉันหมายถึงเมดที่สนิทที่สุดน่ะ
อ่ะแฮ่ม แล้วก็เธอมีชื่อเหมือนกับผู้กล้าในอดีตด้วยนะ.. ผู้กล้าที่พิชิตดินแดนทิศใต้ซึ่งเป็นถิ่นปกครองของอสูรต่างดินแดน
อสูรต่างดินแดนนั้นไม่เหมือนอสูรในดินแดนนี้ แต่พวกมันเป็นเหมือนเผ่าปีศาจ แต่มีลักษณะทางกายภาพที่เหนือกว่าทุกอย่าง
และรูปร่างของมันก็ไม่ค่อยดูเป็นคน.. แม้จะยืนสองขามีสองแขน.. แต่ผิวของมันสีซีดเทา.. มีปีกสองข้าง.. มีเขาและไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์
ต่างดินแดนในที่นี้คือหมายถึงมาจากทวีปอื่นอะนะ..
แล้วผู้กล้าเลล่าก็จัดการพวกนั้นและยึดครองทวีปกลับมาเป็นของมวลมนุษย์ได้อีกครั้ง เรียกได้ว่ามีประวัติที่ค่อนข้างโชกโชน
ซึ่งถามว่าทำไมถึงพูดถึงเรื่องนี้.. นั่นเป็นเพราะไอ้พื้นที่ที่ว่าเนี่ย.. คืออาณาจักรไซลอปแห่งนี้ไงล่ะ
แต่ก็นะเรื่องเล่าแบบนั้นน่าจะเป็นเหมือนนิทานหลอกเด็กซะมากกว่า เพราะฉันรู้จักเรื่องนี้ก็ตอนมาอยู่ที่นี่ ซึ่งฉันพิจารณาได้ว่าไอ้ที่อาณาจักรอื่นไม่มีเรื่องเล่าแบบนี้หรอก
กลับมาที่เลล่า… เธอเป็นเมดที่น่ารัก.. ฉันหมายถึงสนิทที่สุดสำหรับฉันเพราะเธออายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉันนั่นเอง
อีกอย่างถึงเธอจะเป็นเด็กแต่ความสามารถในการเป็นเมดของเธอนั้นไร้ที่ติ แม้ไม่อาจเทียบกับยอดฝีมือชั้นสูงได้
แต่ก็ยังเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างน้อยแหละ.. เธอมีผมสีขาวบริสุทธิ์และมีผมที่ไม่ยาวมาก ผมยาวถึงแค่คอเท่านั้น
ส่วนด้านหน้าเธอปัดผมให้ปิดตาข้างหนึ่งเอาไว้.. เธอบอกว่าตาซ้ายเธอมันถูกแผลไฟไหม้จนน่าเกลียดเธอจึงไม่อยากให้ใครเห็นหน้าไงล่ะ
อืมๆ .. ฉันเข้าใจความรู้สึกนั้นดีเลยล่ะ
เพราะงั้นฉันจึงไม่คาดคั้นเธอให้เปิดให้ดู.. แต่ถึงแบบนั้นความสัมพันธ์พวกเราใช่ว่าจะไม่สนิทกัน
ฉันไปคุยกับเธอและบอกเรื่องที่ว่าจะพาเธอไปโรงเรียนด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรมาก ก็นะ ปกติก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว
เมดโลลิผมขาวสุดคูล.. เป็นอะไรที่เพอร์เฟคมากสำหรับฉัน!
“ฝากที่โรงเรียนด้วยนะ เลล่า”
“เข้าใจแล้วค่ะ คุณหนู”
“งั้นไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ เจ้าคงต้องเดินทางตามมาทีหลังแหละ!”
“ค่ะ”
ฉันบอกไปแบบนั้น เพราะเลล่าต้องเตรียมตัวเสียก่อน อีกอย่างเธอต้องไปลาครอบครัวและอื่นๆ อีกมากมายด้วย
ซึ่งฉันเองก็ไม่ได้บอกก่อน เพราะไม่คิดว่าจะสามารถเลือกเมดที่ไปโรงเรียนได้ด้วยตัวเอง.. แต่ถ้าจำไม่ผิดตอนเป็นเกมคนที่อนาสตาเซียเลือกไปด้วยจะเป็นเลล่าเหมือนกันละมั้ง
แต่เอาเป็นว่าช่างเรื่องหยุมหยิมแล้วก็ออกเดินทางกันโลด!!!