ตอนที่ 68 พ่อของเขาคือใคร?
เมื่อรับรู้ถึงความอ่อนไหวทางอารมณ์ของเธอโย่วโย่วก็อดไม่ได้ที่จะกังวล “แม่เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”
“ไม่เป็นไรจ่ะ! ไม่ต้องห่วงนะโย่วโย่ว แม่จะปกป้องหนูไม่มีใครพรากหนูไปจากแม่ได้!”
เขาตกตะลึงไปชั่วขณะและดูประหลาดใจ แต่ก็ฟื้นตัวได้รวดเร็วและยิ้มให้เธออย่างมั่นใจ
“แม่พูดอะไร โย่วโย่วเป็นลูกของแม่และจะเป็นลูกของแม่ตลอดไป!”
เธอรู้สึกตื้นตันและโล่งใจมาก
เธอจับแก้มสองข้างของลูกชายและหอมแก้มทั้งสองข้าง และพูดว่า “ลูกรัก แม่รักลูกมากนะ!”
“ แม่ครับ รีบเข้าบ้านเร็ว!”ลมหนาวอยู่นอกหน้าต่าง เมื่อเห็นจมูกของหยุนซือซือเป็นสีแดงด้วยความเย็นโย่วโย่วก็อดไม่ได้ที่จะมองเธอเอียง ๆ และรีบเดินเข้าไปที่ประตูเพื่อเตรียมรองเท้าแตะให้เธอทันที
เธอเดินเข้าประตูและโยนกระเป๋าเป้ลงบนโซฟาก็เห็นนิตยสารบนโต๊ะกาแฟที่มีใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของมู่หย่าเจ๋ออยู่บนหน้าปก ใบหน้าของเธอก็ซีดลง
“โย่วโย่ว อะไรอยู่บนโต๊ะ?”
“แค่นิตยสารบันเทิงที่ผมซื้อติดมือมาน่ะครับ” เขาตอบและหยิบนิตยสารลงในกระเป๋านักเรียนอย่างใจเย็น
เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก “โย่วโย่ว ต่อไปอย่าซื้อนิตยสารประเภทนี้อีกนะ โลกของผู้ใหญ่มันวุ่นวายมาก”
ได้ยินแบบนี้เขาก็หัวเราะโดยไม่ได้ตั้งใจ
เขายังเด็กแต่ประสบการณ์กับโลกของผู้ใหญ่ก็มีไม่น้อยไปกว่ากัน
เขารู้ดีว่าผู้ใหญ่สกปรกและไม่ยุติธรรมขนาดไหน
โย่วโย่วจัดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร จัดจาน จัดตะเกียบและตักข้าวพร้อมวางอาหารจานโปรดของเธอไว้ต่อหน้าเธอ เป็นการบริการที่ไร้ที่ติที่สุด!
หัวใจของเธอท่วมท้นไปด้วยความพึงพอใจและความสุขอย่าง
“แม่ครับ กินข้าวเร็ว!”
หยุนซือซือหยิบชามขึ้นมาแล้วตักข้าวอย่างไม่สงวนท่าที
เขามองดูเธอด้วยท่าทางเย็นชาพร้อมกับดูถูก ในสายตาเธอดูเรียบร้อยเมื่ออยู่ข้างนอก แต่ตอนนี้กลับดูไม่ดีนัก… เธอสามารถทำให้คนอื่นตกใจได้ด้วยวิธีที่เธอกิน
“ แม่ครับ เป็นผู้หญิงต้องปฏิบัติตามมารยาทบนโต๊ะอาหาร! เคี้ยวและกินช้าๆสิครับ”
เธอไม่ได้ใส่ใจกับการดุของเขา เธออยู่บ้านและไม่รู้สึกว่าต้องฝืนตัวเอง “อยู่บ้านไม่เห็นต้องกังวลขนาดนั้นเลย” เธอตอบ
โย่วโย่วเรียนรู้ที่จะทำอาหารตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เขาเรียนรู้เก่งมากและสามารถทำอาหารอร่อย ๆ ได้โดยดูจากตำราอาหาร
จนตอนี้เขาสามารถปรุงอาหารฝรั่งเศส อาหารยุโรปหรืออาหารจีนได้อย่างง่ายดาย ทักษะของเขาเทียบได้กับเชฟระดับดาว
เธอได้รับการดูแลจากเขาและในบางครั้งการทำอาหารของเขาทำให้เธอคิดว่าอาหารของเชฟในโรงแรมห้าดาวนั้นจืดชืด!
สิ่งนี้ทำให้เธอกังวลมากขึ้นและเธอไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเขา!
จากมุมมองหนึ่งเธอถือได้ว่าเป็นแม่ที่ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงดูลูกให้กตัญญูและเชื่อฟัง
แต่ในอีกมุมหนึ่งเธออาจถือได้ว่าล้มเหลวในฐานะแม่ที่มอบหมายงานบ้านส่วนใหญ่ให้กับลูกชาย
โย่วโย่วไม่ได้หยิบขยับตะเกียบของเขา เขาเกยคางบนนิ้วที่สอดประสานกันและจ้องมองไปที่แม่ด้วยรอยยิ้มที่รู้ใจ
“แม่ครับ โย่วโย่วขอถามอะไรได้ไหม?”
เธอกลืนข้าวเต็มปากแล้วตอบว่า ” อึ้ม! ว่าไงลูก?”
เขาถามอย่างยิ้ม ๆ ว่า “พ่อของโย่วโย่วคือใคร…”
ก่อนที่เขาจะถามคำถามเสร็จใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เธอสำลักข้าวในทันที เขาส่งน้ำซุปอุ่นชามให้เธออย่างใจเย็นแล้วลูบหลังเธออย่างระะมัดระวัง