บทที่ 5 – โรสกับสองพันปีต่อมา (2)
พอมีความรู้สึกแปลกๆ ชั้นเลยเปิดไปที่หน้าจอสเตตัสตรวจสอบข้อมูล.. นั่นไหงล่ะ ชั้นเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้นทันที.. เพราะว่าอะไรคงไม่ต้องถามนะ.. สเตตัสชั้นมันพุ่งสูงเลขเฟ้อสุดๆ แล้ว!
…………………..
ชื่อ : โรส โอเรียนน่า เบลล่า ชาล็อตเต้ เกรซ อนาสตาเซีย
เผ่าพันธุ์ : แวมไพร์
เพศ : หญิง
อายุ : 2038 ปี
ระดับ (Level) : 1
MP 500/500
พลังกาย : 99,999
พลังโจมตี : 99,999
พลังเวทย์ : 99,999
พลังป้องกัน : 99,999
ต้านทานเวทย์ : 99,999
โชค :???
เสน่ห์ : ∞ (ไร้ขีดจำกัด)
ความฉลาด : #&%฿@฿& (ไม่สามารถวัดได้)
[ทักษะ]
ดูดเลือดเพิ่มมานา, ควบคุมร่างกายระดับสูง, ควบคุมเลือด, เพิ่มสเตตัส ×2, เข้าใจภาษา, รังสรรค์, นัยน์ตาเทพระบบ, กายามังกร, มังกรคำราม, ปีกมังกร, นัยน์ตามังกร, กรงเล็บมังกร, ร่างมังกร, ควบคุมแสงสว่างและความมืด, ควบคุมธาตุสิ้นเชิง
…………..
นั่นไง.. เห็นไหมตอนนี้ชั้นกลายเป็นตัวโกงไปแล้วเลขสเตตัสเหมือนจะตันที่ 99,999 แฮะ แค่อีกหนึ่งแต้มก็ไม่ให้มันถึง แสนเลยนะ แล้วก็สกิลติดตัวนี่จะมีเพิ่มเยอะเกินหน้าเกินตาไปแล้ว
เอาจริงๆ ประเด็นอีกประเด็นคือ อายุของชั้นมันสองพันปีเลยนะเฮ้ย! เวลาโลกนี้มันบัคหรือไรกันถ้ามีคนบอกว่าตั้งแต่มาที่โลกนี้ผ่านมาแค่ 5 ปี ชั้นยังเชื่อได้ทันทีเลยนะ
พอลองนึกถึงตั้งแต่เริ่มอ่านหนังสือจริงๆ มองดูข้อมูลหลากหลายในหัว .. หรือว่าชั้นจะมาแล้วสองพันปีจริงหว่า.. ไม่แปลกใจที่ชั้นอ่านหนังสือเยอะขนาดนี้หมด
แต่มันเร็วไปไหม!?
แล้วก็นะช่างมันแล้วกันสองพันปีเหรอ นี่ชั้นเป็นระดับตำนานเลยนะเนี่ยแก่ปูนนี้แล้วยังไม่มีคู่ครองเนี่ย.. ช่างมันเถอะ.. สองพันปีเหรอ
ใช่สองพันปีที่ผ่านมาต้องมีเรื่องเกิดขึ้นมากมายนี่แหละเยี่ยมเลย! ถ้าชั้นออกไปได้ชั้นสามารถแสวงหาหนังสือใหม่ๆได้ นั่นเป็นความคิดที่ดีมาก!! หนังสือยังมีอีกเยอะแน่ๆ สองพันปีที่ผ่านมากับห้าทวีป..
มันสุดยอดจริงๆ! เป้าหมายในต่างโลกของชั้นได้กำหนดแล้วคือตามล่าหาขุมสมบัติหนังสือทั่วทุกมุมโลก
“ฮ่าๆ ๆ”
ชั้นหัวเราะเบิกบานด้วยน้ำเสียงของเด็กผู้หญิงก่อนจะสงบสติลงก้มมองสเตตัสข้างหน้าอีกครั้งอย่างจริงจัง “ดูเหมือนเลเวลจะไม่เพิ่มก็จริง แต่สเตตัสค่าต่างๆ ไปถึงจุดสูงสุดซะแล้วเหรอ”
ชั้นพึมพำออกมา เคยได้ยินคำว่า พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับภาระอันใหญ่ยิ่ง จากลุงเบนหรือเปล่า ชั้นกลัวว่ามันจะเป็นแบบนั้นน่ะสิ หวังว่าถ้าออกไปได้จริงๆ ขอให้พบแต่ความสงบสุขเถอะนะพระเจ้า
นอกจากนี้ยังมีสกิลเกี่ยวกับมังกรชั้นคิดว่าเป็นเพราะชั้นทานเนื้อของมันหากปกติทานเนื้อมันคงไม่มีสกิลเพิ่มแบบชั้นหรอก เพราะสกิลติดตัวที่เพิ่มขึ้นใหม่ในภายหลังค่อนข้างหายาก
อาจจะเป็นเพราะว่าสกิล รังสรรค์ นี่ล่ะที่ทำปฏิกิริยารังสรรค์สกิลติดตัวขึ้นหลังจากชั้นทานเนื้อมังกร.. สกิลมาใหม่ทั้งหมดคือทักษะของมังกรสวรรค์ทั้งสิ้นชั้นมีสกิลติดตัวเยอะกว่าคนอื่นซะแล้ว
แต่มานาเหมือนจะไม่เพิ่มเลยแฮะ.. สงสัยคงต้องเพิ่มเลเวลแล้วพลังโจมตีอันเยอะโขของชั้นเนี่ยมันจะต่อยหินเป็นรูไต่ขึ้นไปได้ไหม ไม่สิแรกเริ่มเดิมทีชั้นไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ ด้วยซ้ำนะ
“พักเรื่องนั้นไว้ก่อนละกัน”
ชั้นตัดสินใจแบบนั้นแล้วตรวจสอบสกิลติดตัวใหม่ที่ได้มา มีแต่สกิลโกงๆ ทั้งนั้น กายามังกร คือทักษะที่ทำให้ชั้นมีเกล็ดมังกรมีเขามังกร แต่ยังอยู่ในรูปร่างมนุษย์ ทั้งยังแปรงแค่บางส่วนได้ พลังโจมตีและป้องกันจะเพิ่มขึ้นจากเดิมแค่ครึ่งหนึ่งของร่างมังกร
มังกรแวมไพร์เหรอ..แค่นี้ก็โกงแล้วไม่ใช่เรอะ.. ต่อมาคือมังกรคำราม ทักษะการโจมตีที่รุนแรงของมังกร ทักษะนี้แบ่งออกเป็นสองแบบคือ การส่งเสียงวงกว้างและการปล่อยพลังเวท
ถ้าส่งเสียงมันจะแผ่ขยายครอบคลุมไปทั่วรัศมี แต่ถ้าคำรามปล่อยพลังเวทมันจะยิงบีบขนาดใหญ่..
ปีกมังกรคือทักษะที่ใช้ลอยตัว ถึงจะรู้สึกเคืองๆ แต่น่าจะมีประโยชน์ นัยน์ตามังกร คือทักษะกดดันศัตรูด้วยกลิ่นอายมังกรทั้งมังกรสวรรค์ด้วย ทำให้คนฉี่ราดได้เลย ทั้งมันยังใช้ในตอนต่อสู้ช่วยเร่งปฏิกิริยาในการตอบสนองได้เร็วขึ้นด้วย
กรงเล็บมังกร.. ก็ตามชื่อ.. ร่างมังกรก็คือเปลี่ยนตัวแวมไพร์เนี่ยเป็นมังกร. ไม่อยากจะเชื่อว่าแค่ทานเนื้อมังกรเปลี่ยนได้ขนาดนี้ รังสรรค์ จะโกงเกินไปแล้ว
ควบคุมแสงสว่างและความมืด กับ ควบคุมธาตุสิ้นเชิง นี่แหละตัวดีที่มีแค่มังกรสวรรค์ ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ, สายฟ้า, แสง, มืด เจ็ดธาตุกฎเกณฑ์ของสวรรค์
นี่จึงเป็นสาเหตุที่เรียกมันว่าคือมังกรสวรรค์ หากมันระเบิดพลังเจ็ดธาตุนี้ออกมาเท่ากับว่าจะได้พลังทำลายล้างทุกสิ่ง คือเจ็ดธาตุคือพื้นฐานสวรรค์และจักรวาล
ถ้ามันอยู่ด้วยกันพลังจึงพอที่จะลบทุกสิ่งได้.. แต่ว่ามันแค่ตำนานนะที่ว่าการโจมตีที่ไม่สามารถป้องกัน เพราะไม่มีตำราไหนว่าเคยเห็นมันใช้เลยแม้จะตกตาย
แต่ที่ว่ามันควบคุมได้ทั้งเจ็ดธาตุคือความจริงๆ
ช่างมันละกัน ชั้นเลิกสนใจไม่ใช่ว่ามันน่าเบื่อหรืออะไรทำนองนั้น เขาอยากจะทดลองทำเลยด้วยซ้ำแต่ว่าเขาทำไม่ได้นี่สิ เลยปล่อยมันเลยตามเลย
แต่เรื่องนั้นก็ช่างมันปะไร ตอนนี้ชั้นต้องไปแสวงหาความสุขแล้วอย่าเข้าใจผิดว่าชั้นทำอะไรอย่างช่วยตัวเองล่ะ แสวงหาความสุขหมายถึงหาหนังสือมาอ่านตั้งหากละ
ชั้นเดินออกไปจากห้องทานอาหารและเดินไปทางที่เป็นประตู ถึงจะบอกว่าเป็นประตูแต่เปิดออกไปแล้วก็เป็นทางตันนะ
เนื่องเพราะชั้นมีมานาน้อยเกินเลยไม่คิดที่จะใช้เวทมนตร์ที่สูบมานาเยอะชั้นหันมาใช้สกิล ถึงจะต้องใช้มานาแต่มันไม่มากพอกับใช้เวท…
“แต่ก่อนอื่นต้องทดสอบพลังสินะ”
ชั้นต้องรู้ก่อนว่าค่าเฉลี่ยเลขตอง 9 เนี่ยสูงขนาดไหนกัน ชั้นเลยถอนหายใจยาวออกมาหลับตาปี๋ก่อนที่จะออกแรงชกออกไป ในขณะที่คิดว่า เกิดมาไม่เคยคิดที่จะชกกำแพงให้ดูเท่
แต่ตอนนี้ชั้นกำลังจะชกผนังใต้ดินให้เป็นรูเหรอ ถ้าคนในโลกเดิมรู้คงหัวเราะว่าชั้นบ้าแน่ๆ และในตอนนั้นเอง “ปัง!!!” ชั้นลืมตาขึ้นทันทีหันหน้ากลับไปทางคลังหนังสือ.. หมัดของชั้นยังชกไม่ถึงเลยเสียงเมื่อกี้ไม่ใช่เสียงหมัดชั้น
“มันดังขึ้นจากคลังหนังสือของเทพธิดาหลงตัวเอง!”
ชั้นอยู่ที่นี่เงียบสงบมานานไม่มีกระทั่งสิ่งมีชีวิตใดๆ นอกจากชั้น.. มันเกิดอะไรขึ้น ชั้นไม่รู้แต่ถ้าหากหนังสือชั้นเป็นอะไรไป….