บทที่ 12 – โรสกับการร้อนเงิน
หลังจากบอกลาคุณทหารยามหมีแล้วชั้นกับลิลิซก็เดินในเมืองโดยลิลิซจ้องชั้นด้วยสายตาแปลกๆ
“ไม่คิดว่าโรสจะแสดงเก่งขนาดนี้เลยค่ะ”
“ถ้าเธอมีอายุเยอะเดี๋ยวก็คงเข้าใจ”
ชั้นตอบกลับไปแบบขอไปทีเพราะไม่อยากพูดถึงเรื่องน่าอายพรรค์นั้น ว่าแต่ว่าถึงจะบอกว่าหาหนังสือก็เถอะจะหาจากไหนกันล่ะ
“ลิลิซ ชั้นจะหาหนังสือได้จากที่ไหน”
“อืม.. ซื้อละมั้งคะ?”
“ซื้อ?”
“ใช่ค่ะ หนังสือราคาเฉลี่ยโดยราวๆ หนึ่งเหรียญเงินหรือสิบเหรียญทองแดงค่ะ”
..ชีวิตไม่เรียบง่ายจริงชั้นเกลียดเงินกะอีแค่หนังสือทำไมไม่ยกให้ชั้นเลยนะยุ่งยากจริงๆ! แล้วจะไปทำอะไรดี
“แล้วหาเงินยังไงอ่ะ”
“อืม.. ชั้นคิดว่าถ้าไม่ลงแข่งขันในโครอสก็ไปเป็นนักผจญภัยค่ะ แต่ก็มีพวกอาชีพที่ไม่ต้องใช้กำลังแต่ต้องใช้เวลานานค่ะ”
“ยุ่งยากจริงๆ แล้วเธอไม่มีเงินเลยเหรอ”
“ไม่มีค่ะ.. ชั้นเป็นทาสนะคะ”
“เป็นคู่หูที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ เลยให้ตายสิ”
“โทษชั้นเหรอคะ!?”
ไม่มีทางอื่นเลยหรือไงถ้าชั้นไปเป็นนักผจญภัยรับภารกิจละก็มันคงได้เงินน้อยแต่ถ้ารีบทำภารกิจยากๆ ตั้งแต่เป็นนักผจญภัยก็จะดูดความสนใจอีก
เลวร้ายสุดๆ ในโลกนี้ถ้าไม่มีเงินก็อยู่ไม่ได้เหมือนโลกเดิมแฮะ.. อ๊ะ จริงสิถ้าขายเนื้อมังกรสวรรค์ อินฟินิตี้ นี่ละก็คงรวยเละแน่ๆ!
ก็อยากจะทำแบบนั้นหรอกนะ แต่ลองแล้วคือมันมีระบบป้องกันอย่างดีเลยทุกคนบนโลกนี้ยกเว้นชั้นสามารถกินเนื้อมังกรสวรรค์ได้เพียงหนึ่งครั้ง ถ้าเอาจากชั้นน่ะ
เพราะว่าหลังจากที่ลิลิซกินรอบแรกแล้วเวลาจะกินรอบสองนั้นกลับกินไม่ได้ พอกลืนลงมันจะกลายเป็นเถ้าสีดำจนอ้วกออกมา
เทพธิดานั่นเตรียมพร้อมอย่างดีกลัวว่าจะมีบัคในโลกตัวเองหรือไงไม่รู้ แต่ที่ชั้นตรวจสอบสเตตัสของลิลิซนั้นค่าทุกอย่างเธอเพิ่มขึ้นมาถึง 0.20% เลยทีเดียว
แต่ชั้นเนี่ยเหมือนจะกินได้คนเดียว สำหรับอาหารแบบสุ่มมันก็มีแต่อาหารจากโลกเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้เทพธิดาส่งชั้นเปลี่ยนไปอีกโลกเพราะทำโลกแปลกจากที่ควรจะเป็นเหมือนครั้งก่อนเลยไม่คิดที่จะเอามาขาย
“เฮ้อ.. ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงสนใจแต่เงินกันนะ..”
“ถ้าแบบนั้นทำไมไม่เอาหนังสือที่อ่านแล้วไปขา—”
“เธอจะบ้าเหรอ! ขายหนังสือมีความผิดมหันต์”
“ง…งั้นเหรอคะ..”
ให้ตายสิเด็กไม่รู้จักคุณค่าของหนังสือเลยจริงๆ คิดว่าประโยชน์ของหนังสือมีมากขนาดไหนเคยรู้ไหมทั้งฝึกภาษา ได้ความรู้ ได้สนุกไปกับหนังสือ
เอาเถอะถึงจะพูดไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร เหลือแค่การแข่งขันโครอส คือการแข่งขันชิงอันดับในโครอสเซียมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
เป็นวิธีการหาเงินแบบรวดเร็วและต้องใช้พลังในการต่อสู้ละนะ เนื่องจากการแข่งขันโครอสนั้นมีคนเข้ามาแข่งขันเยอะมาก
ดังนั้นจึงมีรอบคัดเลือกที่สู้กันชิงสถานะที่จะขึ้นไปต่อสู้ชิงอันดับในโครอส ในแต่ละวันจะมีคนลงสมัครมากกว่าพันคน แต่คนที่ได้ขึ้นเวทีจริงๆ มีไม่ถึงร้อยคน
อันดับ 1~3 ได้รับเงินรางวัลถึง 100,000 เหรียญทอง และทุกๆ วันจะได้เงินรางวัลที่คงอยู่ในอันดับราวๆ วันละ 1,000 เหรียญทอง
อันดับ 4~10 ได้รับเงินรางวัล 50,000 เหรียญทอง และทุกๆ วันจะได้รับ 500 เหรียญทอง
อันดับ 11~100 ได้รับเงินรางวัลถึง 500 เหรียญทอง ไม่มีเงินรายวัน
อันดับ 101~1,000 ได้รับเงินรางวัล 100 เหรียญทอง
ขอบอกไว้ก่อนเงินจำนวนเท่านี้เห็นดูเลขสูงๆ แต่เงินก็ไม่เฟ้อเลยนะ 1 เหรียญทองมันเยอะมากพอที่จะไม่ให้อดขาวตายหนึ่งปีได้เลยล่ะ
แน่นอนล่ะว่าอันดับ 1~10 เนี่ยไม่ใช่ได้มาง่ายๆ แน่นอน ถามว่าทำไมชั้นถึงรู้ก็เพราะข้างๆ มีหนังสือมีชีวิตเดินอยู่ด้วยน่ะสิ ไม่ต้องถามนะว่าหมายถึงใคร ก็ลิลิซไงล่ะ
“ลิลิซเธอพอจะสมัครเป็นนักผจญภัยได้ไหม”
“ก..ก็ได้อยู่หรอกค่ะ แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไร?”
ชั้นเห็นลิลิซทำท่ากังวลหรือว่าเธอเป็นพวกขี้กลัวอะไรแบบนั้น
“ชั้นไม่มีอาวุธน่ะ”
“…”
ที่ไหนได้ก็ไม่มีอาวุธนี่เองชั้นคิดครู่หนึ่ง ในโลกนี้มีการเซ็นสัญญาให้ยืมก่อนจ่ายหรือเปล่านะ.. หวังว่าจะมีนะ
ชั้นกับลิลิซเดินบนถนนหาร้านอาวุธ อ๊ะ..ชั้นรู้สึกว่าสายตาทุกคนกำลังมองมาทางนี้ เป็นเพราะลิลิซแน่ๆ!
ลิลิซสวยขนาดนี้ก็ต้องตกหลุมรักอยู่แล้วล่ะ.. อันที่จริงถ้ามีคนมาขอเอาลิลิซไปมันก็จะดีอยู่หรอกนะแต่วางใจไม่ได้แฮะเดี๋ยวกลายเป็นทาสอีก
“ลิลิซ คนมองลิลิซใหญ่เลยนะชั้นไม่ชอบเอาซะเลย..”
“เอ่อ… ชั้นคิดว่าคนไม่ได้มองชั้นแต่มองโรสมากกว่านะ..”
“เอ๊ะ.. เป็นงั้นเหรอ ชะ..ชั้นมีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ?”
ชั้นเริ่มกังวลคิดว่าตัวเองไม่อยากสร้างจุดสนใจแต่พอเข้าเมืองมาก็ตกเป็นเป้าสายตาซะแล้ว อะไรจะซวยขนาดนั้น
“ไม่ใช่ว่าผิดปกติ… แต่น่ารักเกินไปตั้งหากละ”
“ห๊ะ..? หมายความว่าไง”
“ก็ผมสีทองยาว สวมชุดทูตปีศาจแห่งศาสนจักรดาร์คเฟลม (Dark Flame) ดวงตาสองสีตัดกัน ตัวเล็กน่ารักแบบนี้ต่อให้เป็นตาแก่หนังย่นก็กลายร่างเป็นพวกชอบเด็กได้ค่ะ”
“ปะ..เป็นงั้นเหรอ!?”
แย่แล้ว นี่มันแย่แน่ๆ ชั้นไม่อยากเปลี่ยนคนในโลกนี้ให้เป็นหมีหมดนะ ไม่งั้นโดนยัยเจ๊เทพธิดาจับเปลี่ยนโลกอีกแน่
ว่าแต่ทูตปีศาจที่ว่าใส่ชุดโกธิคสีดำแดงแบบนี้เหรอ มัน.. มันทูตแน่เรอะ.. ช่างเรื่องนั้นแล้วชั้นต้องทำยังไงละทีนี้
ชั้นใช้มือดึงชายเสื้อของลิลิซแล้วพูดว่า.. “นี่.. ทำอะไรสักอย่างหน่อยสิ” ชั้นไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหน
แต่ลิลิซยกนิ้วโป้งขึ้นแล้วทำหน้าเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้นเก้าและมีเลือดไหลออกจากจมูก.. อ๊า.. ยัยนี่หนักแล้ว หมีขั้นร้ายแรงเลยแฮะ
“ข.. เข้าใจแล้วค่ะ!”
เธอตอบรับอย่างขึงขัง ชั้นคิดว่าอาวุธที่ร้ายแรงของชั้นคือรูปร่างโลลินี่ล่ะ จริงสิพูดถึงรูปร่างแล้วถ้าชั้นเปลี่ยนร่างเป็นผู้ใหญ่ไปแข่งเอาเงินแล้วก็สิ้นเรื่อง!
ใช่แบบนี้ล่ะ.. แต่ว่าถ้าลิลิซเห็นคงจะตะลึงตาค้างแน่ๆ งั้นชั้นให้เธอไปทำภารกิจแต่เดี๋ยวชั้นจะไปไต่อันดับ นี่คือแผน!
ชั้นตัดสินใจ เลิกสนสายตาที่จับจ้องชั้นลากลิลิซเข้าไปในร้านขายอาวุธแล้วกระซิบบอกลิลิซ “ฟังนะลองไปขอร้องเจ้าของร้านว่าเอาของก่อนค่อยจ่ายได้ไหม”
“แบบนั้นมัน..”
“ไปๆ รีบจัดการ”
ชั้นผลักลิลิซไปข้างหน้า ถ้าเป็นโลกเดิมมีคนแปลกหน้ามาขอของค่อยจ่ายก็คงไม่มีใครให้อ่ะนะ.. แต่ว่าถ้าคนสวยอย่างลิลิซละก็
ห้านาทีต่อมา.. ลิลิซเดินคอตกออกมา ชั้นเลยถามว่า
“เป็นไงมั้ง..”
“เป็นไงซะที่ไหนละ! มันก็ต้องไม่ให้ทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ!? ชั้นไม่ใช่โรสสักหน่อยนะ!!?”
“ชั้นทำไมงั้นเหรอ?”
“….”
เธอมองชั้นเหมือนจะบอกว่านี่ไม่รู้จริงๆ เหรอ ชั้นเลยทุบมืออย่างเข้าใจ “เข้าใจแล้ว.. แน่นอนว่าต่อให้สวยแค่ไหนแต่ถ้าเป็นคนบ้าคงไม่มีคนให้ยืมละนะ”
“ม..หมายความว่าไงคะ ที่ว่าบ้าน่ะ!?”