บทที่ 19 – โรสกับคุณพนักงานกิลด์
สุดท้ายคุณคนขายปิ้งกิ้งก่าไฟก็ไม่ได้เอาเงินกับชั้น ถึงจะยัดเยียดให้แค่ไหนก็ไม่เอาอ่ะ.. เอิ่ม คนในโลกนี้ใจดีกันเกินไปแล้วนะ
เริ่มแรกก็คุณชายหน้าตาหล่อเหลาให้ข้าวกินฟรี คราวนี้ก็ให้ของซื้อของขายฟรี มันแปลกเกินไปแล้ว โลกแฟนตาซีมันต้องแบบนั้นใช่ไหมแบบที่ใช้กฎป่าน่ะ
เก่งคือรอด อ่อนแอก็แพ้ไป อย่างเรื่องกริมการ์อะไรสักอย่างที่แค่ตีกับก็อปลินก็ยากมากแล้ว และคนในโลกนี้ก็มีแต่พวกเจ้าเล่ห์มีเล่ห์กลมากมาย
แต่นี่ถึงจะเจอคนไม่ดีอยู่บ้างแต่คนดีมีเยอะกว่าซะงั้น.. ชั้นคิดว่าโลกนี้มันเหมือนทุ่งลาเวนเดอร์อ่ะ แต่ก็ดีนะชั้นจะได้ไม่ต้องไปบวกอะไรกับจอมมารแบบนั้น
ก็แบบว่านั่นไง มีบ่อยๆ ไม่ใช่เหรอนิยายต่างโลกที่ตัวเอกข้ามโลกไปเป็นตัวประกอบไม่เด่นอะไรเลย แค่ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ไปวันๆ แต่ดันได้เข้าอีเว้นท์ปราบจอมมารซะงั้น
อย่างน้อยชั้นก็คิดว่าสงบสุขดีนะ ตอนนี้น่ะนะ แค่ตอนนี้นะ.. โดยไม่รู้ตัวชั้นก็เดินมาถึงหน้ากิลด์นักผจญภัยแล้ว ประตูทางเข้าเหมือนบาร์ในหนังคาวบอยน่ะ
นั่นล่ะแถมบรรยากาศดูไม่ดีสุดๆ .. ถึงชั้นจะชอบบรรยากาศเงียบๆ แต่เงียบแบบจิตสังหารลอยฟุ้งไปทั่วแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ.. เป็นไงเป็นกัน!
ชั้นกัดฟันเดินเปิดประตูเข้าไปภายในก็มีที่นั่งรอเพื่อ และกระดานภารกิจด้านข้างกระดานภารกิจมีเคาท์เตอร์ที่มีคุณพนักงานยืนอยู่..
น่าเสียดายที่คุณพนักงานไม่น่าปลื้มสักเท่าไหร่ ก็เห็นๆ กันอยู่มีกล้ามเป็นมัดๆ สวมชุดแบ๊วๆ แต่งหน้าหนาเต๊อะ.. ไม่ต้องสืบว่าคืออะไรเลยใช่ไหม
ไม่ได้นินทานะ.. แค่คิดตามความจริง พอชั้นเดินเข้ามาสายตาก็จับจ้องมาที่ชั้นทันที จะมองกันทำพระแสงเลเซอร์อะไรกันนะ
ถึงจะเคยโดนมองจากบนเวทีแล้ว แต่มาอยู่ในกิลด์นักผจญภัยนี่ต่างกันมากเลยนะ น่าแปลกใจที่นักผจญภัยมองมาที่ชั้นแล้วก็เลิกสนใจในทันที.. มันน่าตกตะลึงที่คนพวกนี้ปกติ!
เอ่อ.. จะว่าปกติคงไม่ได้นะเพราะสายตาเหมือนจะฆ่ากันเนี่ยคงไม่ปกติแล้วละ.. ชั้นเดินมาถึงหน้าเคาท์เตอร์คุณพนักงานก็พูดขึ้นทันที
“อุ๊ยตาย หนูน้อยมาทำอะไรที่กิลด์นักผจญภัยเหรอจ๊ะ หลงทางกับคุณพ่อคุณแม่งั้นเหรอ”
“ชั้นไม่ใช่เด็กนะ! แล้วก็ชั้นมาตามหาคน เธอน่าจะพึ่งมาสมัครเป็นนักผจญภัยวันนี้”
“หืม.. มาหาคุณแม่งั้นเหรอ.. งั้นรอสักครู่นะ”
“ไม่ใช่แม่นะ!!”
ชั้นรู้สึกปวดหัวจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าชินที่จะอยู่ในร่างโลลินี้ชั้นแปลงร่างกลับเป็นตอนโตแล้วล่ะ.. แต่ถ้าเปลี่ยนมันจะเคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่วตัวเล็กๆ สิสบายตัว ชั้นคิดแบบนั้นนะ
เขาไม่สนใจชั้นหันไปเรียกพนักงานอีกคน “เชลก้า! วันนี้เธอรับหน้าที่เป็นพนักงานหน้าเคาท์เตอร์มาตรวจสอบหาคุณแม่ให้หนูน้อยคนนี้หน่อยนะ”
“ทราบแล้วค่ะ กิลด์มาสเตอร์”
“ชั้นบอกว่าไม่ใช่แม่ไง!”
ชั้นตะโกนตอบไปทันที .. ห๊ะ.. เดียวนะ.. กิลด์มาสเตอร์.. เจ้าผู้ชายที่เป็นผู้หญิงคนนี้เนี่ยนะ.. ไม่ๆ ออร่ามันไม่ใช่เลยนะ คุณกิลด์มาสเตอร์ต้องแบบว่า
เอ่อ.. คุณนักกล้ามสุดโหดเปี่ยมไปด้วยพลัง ไม่ก็ นักรบฝีมือดีในคราบของเด็กผู้หญิงสุดแสนจะน่ารัก.. แต่กิลด์มาสเตอร์ดันเป็นผู้ชายในคราบผู้หญิง
ทั้งยังไม่มีกลิ่นอายถึงความเป็นผู้นำเลย.. โลกนี้มันแปลกจริงๆ ด้วย… ขณะที่ชั้นกำลังคิดแบบนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมา
เธอสวมแว่นมัดผมขึ้นไว้บนศีรษะ สวมชุดพนักงานต้อนรับมีผมสีดำเงางามเหมือนกับเทพธิดา สวยกว่าชั้นอีกมั้งเนี่ย! เอ่อ.. ชั้นก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองสวยอะไรขนาดนั้นหรอกนะ (จริงๆ นะ)
“ดิชั้นชื่อ เชลก้า วิลเนสต้า (Celga Vilnesta) ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ.. เอ่อ..”
“ชั้นชื่อ โรส ยินดีที่ได้รู้จัก.. เอ่อ ที่ต้องการถามคือเด็กผู้หญิงที่ตัวประมาณนี้ผมสั้นถือหอก ท่าทางบ้าๆ บอๆ”
ชั้นเริ่มทำการอธิบายคุณลักษณะเด่นของลิลิซ.. ซึ่งพออธิบายไปสักพักคุณพนักงานเชลก้า ที่สวยงามก็พูดขึ้น
“อ๋อ หมายถึงคุณลิลิซสินะคะ”
“เอ๊ะ.. รู้จักชื่อด้วยเหรอ?”
“แน่นอนค่ะ การสมัครเป็นนักผจญภัยที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือชื่อและเลขส่วนตัวค่ะ”
“แล้วชั้นจะอธิบายลักษณะทำไมเนี่ย… เอ่อ.. แล้วไอ้ที่ว่า เลขส่วนตัวนั่นคืออะไรอ่ะ”
“เอ๊ะ..? เลขส่วนตัวคือเลขที่ทุกคนในทวีปนี้ต้องมีกันหลังจากกำเนิดแล้วตัวเลขส่วนตัวจะถูกบันทึกไว้ในผลึกเหมันต์ ที่เมืองหลวงของราชอาณาจักร ซึ่งเป็นเลขที่บอกจำนวนคนในทวีปว่าปัจจุบันมีเท่าไหร่ด้วยค่ะ แม้จะตายไปแล้วแต่เลขก็ไม่ถูกเปลี่ยนแปลง..”
เธออธิบาย.. แล้วทำไมไม่เห็นมีบอกในหนังสือเลยล่ะ.. แล้วยัยลิลิซทำไมไม่บอกชั้น แล้วชั้นไม่ได้เกิดในโลกนี้จะมีตัวเลขส่วนตัวไหมเนี่ย..
“แล้วถ้าไม่มีเลขนั่นล่ะ…”
“คงถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏต่อมวลมนุษยชาติค่ะ”
“ขนาดนั้นเลยเรอะ! .. เอ่อ.. ไอ้ตัวเลขนี่มีตั้งแต่เมื่อไหร่”
“โรสจังคงเป็นลูกคุณหนูอะไรทำนองนั้นสินะคะ ฮิๆ .. เลขส่วนตัวมีมาตั้งแต่กำเนิดคริสต์ศักราชเวทมนตร์เลยค่ะ แม้จะมียุคก่อนหน้าคริสต์ศักราชเวทมนตร์อยู่แต่ทว่าตัวเลขนี้ไม่ได้นับคนเหล่านั้นค่ะ จะนับแค่คนที่มีชีวิตอยู่ในยุคกำเนิดศักราชเวทมนตร์เท่านั้นค่ะ.. ถ้าจะให้อธิบาย ถ้าหากในปีนั้นมีคนอายุห้าสิบปีเพียงคนเดียว ก็จะได้กลายเป็นหมายเลขหนึ่งไปโดยทันทีค่ะ”
“ยังงี้นี่เอง…”
ชั้นพยักหน้า แต่เหมือนว่าคุณเชลก้านี่จะเข้าใจผิดอะไรไปนะ คิดว่าชั้นเป็นลูกคุณหนูเหรอ เปล่าเลย! แต่ชั้นคิดง่าที่เธอคิดแบบนั้นเป็นเพราะว่าชั้นไม่รู้เรื่องอะไรที่น่าจะเป็นความรู้พื้นฐานพวกนี้
คุณหนูไม่ใช่สามัญชนแถมชั้นนังดูเหมือนเด็กเธอเลยคิดว่าชั้นเป็นลูกคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์เลี้ยงมาอย่างดีละมั้ง.. คงไม่มีคนคิดหรอกว่าชั้นอยู่ใต้ดินหลายปี
ชั้นจึงไม่แก้ไขความเข้าใจผิดเลย
“เอ่อ.. แล้วลิลิซไปทำภารกิจอะไรเหรอ?”
“ค่ะ ถ้าดิชั้นจำไม่ผิดน่าจะเป็นล่าหมูป่า ในป่าทางด้านทิศตะวันตกของเมืองค่ะ”
“งั้นเหรอ ขอบคุณนะ”
ชั้นพยักหน้าขอบคุณแล้วรีบจากไป ชั้นคิดว่าถ้าอยู่มีหวังซวยแน่ๆ ชั้นไม่ได้เกิดอยู่ในโลกนี้แต่เหมือนย้ายร่างมากกว่าเพราะงั้นชั้นไม่มีเลขส่วนตัวแน่ๆ ถ้าแบบนั้นละก็ชั้นคงโดนไล่ฆ่ากุดหัวแน่ๆ
ไม่เอานะชีวิตอันแสนสงบสุขของชั้น ชั้นจะอ่านหนังสือ!
“เดี๋ยวก่อนค่ะ..”
“อะไรเหรอ?”
เหงื่อชั้นไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“จะไปคนเดียวงั้นเหรอคะ?”
“ก็ใช่น่ะสิ..”
“แบบนั้นไม่ได้นะคะ!? มันอันตรายนะคะรู้ไหม เอาแบบนี้ค่ะเดี๋ยวชั้นจะไปเป็นเพื่อนเอง”
“เอ๋… แบบนั้น..”
“ไม่เป็นไรค่ะ ถึงเวลาเลิกงานของชั้นแล้ว และถึงจะเห็นแบบนี้ชั้นก็มีทักษะใช้มีดพอตัวนะคะ!”
เธอทำท่าเบ่งกล้ามเหมือนนักกล้าม.. เอ่อ.. ไม่ใช่แบบนั้นนะที่ชั้นกังวลคือเธอตั้งหาก.. มาพาเข้าป่ากับคนที่พึ่งรู้จักกันเนี่ยแปลกไม่ใช่เหรอ..
เอ่อ.. ลืมไปว่าชั้นเหมือนเด็กนี่น่า ผู้ใหญ่จะช่วยก็ไม่แปลกจริงไหม โลกนี้มีแต่คนดีกันจริงๆ ถึงโลลิค่อนจะเยอะก็เถอะแต่ว่าคนดีมีเยอะมาก ชั้นรักโลกนี้ซะแล้ว
ถึงจะรองจากหนังสือก็เถอะนะ ชั้นจึงพยักหน้า “เข้าใจแล้ว…” เอาจริงๆ ชั้นก็ไม่รู้จักทางด้วยนะ..
ชั้นกับเชลก้าจึงออกจากกิลด์นักผจญภัยหลังจากที่ เชลก้าเธอไปบอกกับกิลด์มาสเตอร์เสร็จ เอาจริงๆ เวลานี้ก็ไม่ใช่เวลาทำงานของเธอแล้วนะ.. จะว่าไปเนี่ยลืมสังเกตเลยแฮะ
เชลก้านี่ปกติมากเลยนี่น่า มีประติสัมพันธ์ที่ดี ไม่เป็นโลลิค่อน ไม่มีจิตสังหาร.. เพื่อความแน่ใจชั้นเลยก้มไปมองกระโปรงเธอ.. แน่ะ.. ไม่เหมือนองค์หญิงคนนั้นด้วย
ค.. คนปกติล่ะ ชั้นเจอคนปกติแล้ว!!! พระเจ้าช่วย อ๊า!!! เหมือนค้นพบขุมสมบัติในเศษหินอย่างงั้นแหละ อย่างน้อยชั้นก็คิดว่าเธอปกติ ในตอนนี้ละนะ..
…………..