บทพิเศษ : ภาคสาระตามใจรีด (ละมั้ง)
“กรรม!” เสียงของโรสดังขึ้นในขณะที่อักษรรูนปรากฏขึ้นแต่ฉับพลันทุกสิ่งทุกอย่างก็หยุดนิ่งลงไป
“เย้ สวัสดี… ชั้นจะมาอธิบายให้พวกเธอเข้าใจเอง” โรสอีกคนปรากฏตัวขึ้นมาเดินในทุกสิ่งทุกอย่างหยุดลง
“ในตอนที่ชั้นใช้เวทกรรม พวกเธอคงจะพากันงงว่า กรรมคืออะไร ใช่หรือไม่?” โรสเดินอ้อมตัวเองที่หยุดนิ่ง
“คือถ้าจะอธิบาย ต้องย้อนกลับไปก่อนหน้าอีกสักนิดหน่อย”
พูดแล้วภาพรอบๆ ตัวก็ย้อนกลับไปช่วงที่อัศวินคนนั้นดึงบางอย่างในร่างของโรสและกำลังจะบีบมัน ภายในตัวของโรสมีเส้นใยนับไม่ถ้วนมากมาย
“นี่คือเหตุและผล”
โรสชี้ไปยังเส้นใยหนึ่ง
“เหตุและผล ก็คือสิ่งที่ยืนยันว่าเรามีตัวตนในโลกแห่งนี้ ยกตัวอย่างเช่นถ้าเกิดว่าชั้นเกิดขึ้นมาจากท้องแม่และน้ำลามกของคุณพ่อ คุณแม่และคุณพ่อ ก็จะสร้างเหตุจนคลอดชั้นออกมาซึ่งก็ผลกระทบที่เกิดจากต้นเหตุโดยคุณพ่อกับคุณแม่”
โรสเดินไปดึงเส้นใยหนึ่งออกจากตัวเธอเองยืดออกมา เส้นใยนั้นแม้จะเล็กแต่ภายในกลับมีภาพของเหตุและผลที่เกิดขึ้นในตอนที่เกิดขึ้นมา
“ใช่ นี่คือเหตุและผล… เอาล่ะชั้นจะถามพวกนายว่า ถ้าเกิดชั้นมีเหตุผลเพียงแค่อย่างเดียวนั่นคือ แม่และพ่อคือเหตุ ชั้นคือผล.. แล้วเหตุและผลที่ว่าของตัวชั้นหายไปจะเกิดอะไรขึ้น?”
โรสว่าแล้วก็ดึงเหตุและผลของตัวเองที่เกิดจากท้องพ่อและแม่และบดขยี้มันให้ดู ที่เกิดขึ้นคือตัวโรสอีกคนที่หยุดอยู่ความทรงจำเกี่ยวกับพ่อและแม่ในโลกเดิมหายไป
ไม่ทราบว่าทำไมตัวเองเกิดมาในโลกเดิมได้ และตัวตนก็เกือบจะกระจัดกระจายหายไปในความว่างเปล่า แต่เส้นใยที่พึ่งถูกทำลายก็ฟื้นกลับมาในทันที
“ใช่ พวกนายคงเข้าใจกันแล้ว.. หรือเปล่า? ถ้าเกิดว่าชั้นทำลายเหตุและผลของชั้นไป จะทำให้เหตุและผลในความเป็นจริงนี้ถูกลบหาย สิ่งที่เกิดขึ้นกับชั้นคือ ในความเป็นจริงนี้ตัวตนของชั้นก็เบาบางลง”
โรสพูด
“หรือง่ายๆ ก็คือ ถ้าเกิดชั้นไปต่อยพระราชาของประเทศนี้ แล้วชั้นสร้างต้นเหตุด้วยการชก ผลกระทบก็ทำให้พระราชาเจ็บ และในเมื่อเจ็บก็จะจำตัวชั้นไว้ในความทรงจำว่าครั้งหนึ่งชั้นต่อยมัน เพียงแค่นี้เส้นใยเหตุและผลของชั้นก็เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างแล้ว”
โรสดึงเส้นใยมากมายของตัวเองอีกคนที่หยุดอยู่ออกมาให้ดู
“กล่าวเรียบง่ายก็คือ เหตุและผล คือสิ่งที่เรามีเหตุและผลเกี่ยวข้องกับเรา ไม่ว่าเราจะเป็นต้นเหตุ หรือเป็นผลกระทบ มันก็จะสร้างเส้นใยขึ้นมา ยิ่งชั้นสร้างเส้นใยมากเท่าไหร่ก็ยิ่งยากต่อการตัดเหตุผลของชั้นออกจากความเป็นจริงนี้”
โรสพูดและชี้เส้นใยที่มีความทรงจำเหตุและผลนับไม่ถ้วน
“ดังนั้นในเมื่ออัศวินโนตมจะทำร้ายเหตุและผลของชั้น เหตุและผลก็จะไม่มั่นคงตัวตนของชั้นอาจจะถูกลืมได้ง่าย และในเมื่อเหตุและผลไม่มั่นคงในความเป็นจริงนี้ชั้นก็ยากที่จะสร้างผลกระทบด้วยเช่นกัน”
โรสว่าแล้วก็เดินไปที่โครอสเซี่ยมแล้วต่อยหมัดออกไป โครอสเซี่ยมหายไปเพราะแรงกระแทกแต่ด้วยแนวคิดในหมัดที่ไม่คิดจะทำร้ายผู้คน ผู้คนจึงไม่บาดเจ็บ
แต่โครอสเซี่ยมหายไป
“นี่คือผลกระทบของหมัดธรรมดาของชั้น แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจากสเตตัสแต่ขอบอกพลังที่ชั้นใช้ไปเมื่อกี้ไม่ถึงหนึ่งในล้านเลย”
อาจจะเป็นเพราะว่าอยู่ในภาคอธิบายโรสเลยสามารถควบคุมทุกอย่างได้ดั่งใจนึก ละมั้ง?
“แต่เหตุผลหลักก็คือ.. เหตุและผลของตัวชั้น.. ตัวชั้นนั้นในโลกนี้เกิดขึ้นมาจากเหตุที่ชั้นตาย และผลคือเทพธิดาชารอนใหโอกาสชั้นมาเกิดใหม่”
“และเหตุคือชั้นที่ตายเพราะความทรงจำเลยทำให้ชั้นเกิดมาใหม่.. หมายความว่ามีเหตุและผลเกี่ยวกับตัวชั้นและเทพธิดาที่น่าจะเก่งมากๆ”
“ดังนั้นตัวตนของชั้นจึงสำคัญมากภายใต้ความเป็นจริงนี้ จึงสร้างผลกระทบที่เกิดขึ้นในความเป็นจริงได้มากกว่า และการจะตัดชั้นออกจากความเป็นจริงนี้ ต้องมีพลังมากกว่าเทพธิดาชารอน เหตุผลก็คือถ้าเหตุและผลของชั้นเกี่ยวกับเทพธิดาหายไปความทรงจำของเธอเกี่ยวกับชั้นก็จะหายไป.. แล้วคิดว่าเทพธิดาที่สร้างโลกนี้เองกับมือจะมีคนเก่งกว่าเธอได้จริงๆ? และเมื่อพูดถึงความสำคัญของเธอ เธอแทบจะเป็นคนสร้างความเป็นจริงบนโลกใบนี้ ชั้นที่เกี่ยวข้องกับเธออย่างลึกซึ้ง พวกนายคิดว่าเพียงพอที่ชั้นจะสร้างผลกระทบต่อความเป็นจริงนี้ได้มากกว่าคนอื่นไหมล่ะ”
แน่นอนว่าคำตอบคือไม่ ในเมื่อเธอสำคัญกับความเป็นจริงมาก จึงเป็นที่แน่นอนที่ยากจะตัดเธอออกจากความเป็นจริงและประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเธอทั้งหมด
“นี่แน่นอนว่ายังไม่พูดถึงแนวคิดของความเป็นไปได้ที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์อันมากมายที่ชั้นยังไม่อธิบาย.. แต่มันไม่เกี่ยวข้องกันชั้นจะขอยังไม่อธิบาย”
โรสกล่าว
“พวกเธอเคยได้ยินทฤษฎีควอนตัม ที่บอกไว้ว่า.. ความเป็นจริงคืออะไร? เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดแล้วว่านี่คือความเป็นจริง หรือแท้จริงแล้วความเป็นจริงเกิดจากสิ่งที่คนหลายคนเชื่อ..? ยกตัวอย่างเช่นมีสัตว์บางชนิดสามารถมองเห็นสีได้มากกว่ามนุษย์เรา สีที่มันเห็น มันจะเชื่อว่านั่นคือความเป็นจริงสำหรับมัน แต่เราก็ไม่อาจเห็นหรือรับรู้ จึงเขาใจว่านี่คือความเป็นจริงในโลกนี้ไม่มีสีสันแบบนี้อีก..”
“หรือยกตัวอย่างเช่น ต้นไม้ล้มลงกลางป่า ที่ไม่มีใครอยู่ คำถามคือ มันมีเสียงไหม? ถ้าเกิดว่ามีแล้วได้ยินได้ยังไง? เอาเครื่องสื่อสารไปวางไว้? นั่นอาจจะเป็นความจริงแค่สำหรับมนุษย์ แต่สำหรับสัตว์ที่ไม่ประสาทรับเสียง อาจจะมองว่าความเป็นจริงมันไม่มีเสียง.. ดังนั้นแท้จริงและ ความเป็นจริงอาจจะเป็นแค่ ‘มุมมองของสิ่งมีชีวิต’ ”
ใช่ ตามที่โรสพูด แต่แล้วมันเกี่ยวข้องกันยังไง?
“แล้วมันเกี่ยวข้องกันยังไง พวกเธออาจจะสงสัย? ในเมื่อมุมมองของพวกเธอเห็นชั้นอยู่ในความเป็นจริง นั่นคือความเป็นจริงสำหรับพวกเธอ แต่ถ้าตัดเหตุและผลก็จะเหมือนตัดชั้นออกจากมุมมองของพวกเธอให้ความเป็นจริงนี้กลับกลายเป็นว่าชั้นไม่มีตัวตนอยู่ และชั้นก็จะหายไปจากความเป็นจริงนี้ดังเช่น พวกเธอที่รู้จักสีชมพูแต่สีชมพูถูกตัดทิ้งจากความเป็นจริงนี้ มุมมองของพวกเธอในโลกนี้ก็จะไม่มีสีชมพูอีกต่อไป”
โรสว่าแล้ว โครอสเซี่ยมก็คืนกลับมาเวลาไหลเดินจนไปหยุดตอนที่โรสใช้วิธีการย้ายผลกระทบ
“ในเมื่อพวกนายเข้าใจกฎแห่งกรรมที่ชั้นอธิบายให้เข้าใจง่าย (?) กันไปแล้ว ต่อมาการย้ายผลที่จะเกิดจะง่ายต่อการอธิบายขึ้นอีก”
“ในเมื่อ เหตุการณ์นี้คือ อัศวินโนตมจะโจมตีชั้นด้วยการทำลายเหตุและผลของตัวชั้น ชั้นขอถามพวกเธอว่าอะไรคือเหตุและผลที่กำลังถูกสร้างในตอนดังกล่าว ถ้าพวกเธอเข้าใจเบื้องต้นที่ชั้นอธิบายก็จะเข้าใจได้.. ชั้นให้เวลาคิด”
….
…
..
.
“หมดเวลา.. จริงๆ โกงก็ได้ จะรีบเลื่อนลงมาทำไมไวจัง ซื่อตรงๆ จริงๆ .. แต่สำหรับใครที่โกงนี่ช่างใจเด็ดจริงๆ ไม่กลัวชั้นอัดเอาเลยเนอะ”
“เอาล่ะ.. มาต่อดีกว่า พวกนายคงรู้แล้วว่าอัศวินคือต้นเหตุและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากต้นเหตุ (ที่โจมตี) ก็คือตัวตนของชั้นก็จะสั่นคลอนจากความเป็นจริง แต่ชั้นย้ายผลกระทบที่จะเกิดจากชั้นเป็นส่งผลกระทบไปหาเธอคืนนั่นเอง”
“แม้ความเป็นจริงที่เธอบดทำลายเหตุและผลของชั้น แต่ผลที่เกิดกลับไม่ได้เกิดที่ตัวชั้น แต่เกิดขึ้นที่ตัวเธอเอง นั่นคือการย้ายผลกระทบของตัวชั้นกลับสู่เธอ”
ภาพรอบๆ เลื่อนไปตอนอัศวินถูกสวนคืนด้วยการย้ายผลกระทบไปใส่
“เปรียบเทียบก็เหมือนเวทที่สะท้อนการโจมตี แต่นี่โกงกว่าคือการย้ายผลทั้งหมดไปใส่คนอื่น ถ้าอีกฝ่ายไม่มีตัวตนทุกที่ทุกเวลาหรือรู้อนาคต แล้วหยุดต้นเหตุของตัวเองก่อนหน้าก็คงยากจะหลบเลี่ยงการย้ายผล เพราะความเป็นจริงนี่ มีเหตุต้องมีผล ถ้าคิดจะทำลายผลโดยมีเหตุอยู่แล้ว ก็เหมือนทำลายครึ่งหนึ่งของความเป็นจริง.. มันเป็นไปไม่ได้”
“อ่ะ แน่นอนว่ามีการหลบเลี่ยงมากมายเช่นย้ายผลกระทบนี้ เช่นส่งไปให้คนอื่นต่อ หรือหลอกล่อความเป็นจริงว่า ผลกระทบเกิดแล้ว…. อ่ะ แค่นี้คงเข้าใจกันล่ะ จบแค่นี้แหละ บัยบาย”
ว่าแล้วก็สลายตัวหายไปทุกอย่างดำเนินต่อไปเป็นปกติ จบภาคอธิบาย