บทที่ 49 – โรสกับการสอนเด็กแบบผิดๆ
เห๊ะๆ.. คิดไปเองน่า.. ไม่น่าใช่ๆ.. ไม่น่าใช่หรอกที่ชั้นต่อยหายไปน่ะ.. ไม่ใช่แดนปีศาจนะ ..
ใช่ๆ.. ไม่เกี่ยวกับชั้นนะ เฮะๆ……..
…..
…
.
… แงงง!! ชั้นทำลายหนังสืออ่ะ ผิดไปแล้วค่าาา ผิดไปแล้วจริง ม่ายยยยย .. ชั้นโวยวายในใจด้วยความรู้สึกสูญเสียสิ่งสำคัญไป
ก็ชั้นน่ะทำลายหนังสือไปเลยนะเป็นการล่าแม่มดที่สำคัญมากนะ นี่ชั้นเป็นคนเลวแบบนั้นได้ยังไง ขอตายได้ไหม ชั้นอยากตายยยย อ๊าาา
แต่ในตอนนั้นเองจอมมารโลลิก็เปิดเปลือกตาขึ้นฉับพลัน พร้อมกับมองมาที่ชั้นด้วยความประหลาดใจและสงสัย
“คือ.. ?”
อืมมม… ดูเหมือนจะเสียความทรงจำสินะ ถึงจะใช้เวทตราบนิรันดร์ใส่ก็แค่ดึงวิญญาณกลับมาเชื่อมต่อกัน แต่ลากความทรงจำกลับมาด้วยไม่ได้
ถ้าไม่ใช่ตัวชั้นอ่ะนะ.. ว่าแต่นี่มันความผิดใครกันนะ.. ที่ทำให้แม่หนูคนนี้ความทรงจำหาย
ชั้นแค่ต่อยนะ ไม่ได้ทำอะไรอย่างลบความทรงจำสักหน่อย อย่ามาป้ายความผิดให้กันนะ!
แต่ถ้าจะให้ชั้นเป็นคนผิดจริงๆ ก็ควรบอกว่าผลข้างเคียงมากกว่า ขนาดยายังมีผลข้างเคียง แค่ต่อยหมัดจนมีผลข้างเคียงอย่างความทรงจำหายก็มีได้เช่นกัน(?)
ฉะนั้นนี่คืออุบัติเหตุ ไม่ใช่เจตนา เข้าใจไว้ด้วย! แล้วที่วิญญาณกระจุยก็เพราะผลข้างเคียง เรื่องแบบนี้มีเป็นธรรมดาอยู่แล้วล่ะ! (???)
แต่ก็นะ จะปล่อยทิ้งแบบนี้ก็ไม่ได้สิ.. ให้ตายสินี่มันยุ่งยากขึ้นมาอีกกว่าเดิมไม่ใช่หรือไง ปัญหาก็วิ่งเข้าหาจริงๆ ชั้นรู้สึกเหนื่อยใจ
“ ชั้นชื่อโรส โอเรียนน่า”
“โรส ? โรสเป็นมะม๊า ?”
“ห๊ะ…?”
เดี๋ยวๆๆ ไหงชั้นกลายเป็นมะม๊าละเนี่ย ใจเย็นๆ และครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้หน่อยสิ แม่หนูจอมมาร แต่เธอความทรงจำหายนี่น่า—
“เอ่อ.. ชั้นไม่ใช่มะม๊าสักหน่อยนะ”
“แต่โรสคือมะม๊านะ?”
อืม… นอกจากความทรงจำหายดูเหมือนจะปัญญาอ่อนลงด้วยสินะเนี่ย.. รูปร่างก็เหมือนเด็กแล้วยิ่งทำท่าทางเหมือนเด็ก มันก็ไม่ต่างจากเด็กเลยนี่น่า
แต่เป็นจอมมารอ่ะ..
“ไม่ใช่มะม๊าสักหน่อย อืม.. นั่นสิ ดูรูปร่างชั้นสิ.. ไม่ต่างกับเธอเลยใช่ไหม ?”
“แต่อายุมะม๊าคือสองพันปีนะ หรือจะให้เรียกคุณย่าของคุณย่าของคุณย่าอีกที?”
“….”
ชั้นพูดไม่ออก.. มานึกๆดู ถ้าชั้นเชื่อมต่อกับจอมมารน้อยนี่ หมายความว่าจอมมารน้อยนี่ ก็เชื่อมต่อกับชั้น.. สรุปง่ายๆว่าเธอก็รู้จากความทรงจำชั้น
ไม่สิ.. ถ้าจะพูดก็คงรู้แค่อายุจากสเตตัสมากกว่าเพราะมีการเชื่อมต่อกันชั้นเลยปิดสเตตัสต่อหน้าจอมมารน้อยไม่ได้สินะ
แต่ว่าพูดได้เนี่ย.. แสดงว่าไม่ได้หายทั้งหมดสินะ งั้นก็..
“แล้วเธอชื่ออะไร ?”
“ชื่อเหรอ… ? ไม่มี.. มะม๊าตั้งให้ที”
“ก็บอกว่าไม่ใช่มะม๊า”
“แต่มะม๊าก็คือมะม๊านะ”
“เอาที่สบายใจเลย!”
ชั้นรู้สึกปลงเลยช่างมันละกัน.. แต่ว่าชื่อก็เหมือนจะลืมไปด้วยสินะแบบนี้แย่เลยแฮะ ถึงเมื่อกี้พึ่งจะเห็นความทรงจำมา
แต่ก็มันมีหลายอย่างที่ไหลเข้ามานี่น่า แถมคนที่เรียกชื่อยัยจอมมารน้อยนี้มีไม่เยอะด้วย ประมาณ 1 ใน 100 เลยอ่ะ แล้วใครจะไปจำได้กัน
“ส่วนเรื่องชื่อ…”
“ให้มะม๊าตั้งให้!!”
“นั่นสินะ.. งั้นริต้าละกัน”
“ริต้า.. ริต้า.. ริต้า!!!”
ว่าแล้วริต้าก็กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข รู้สึกผิดขึ้นมาหน่อยๆเลยแฮะ ก็แบบคิดชื่อที่สำคัญแบบขอไปทีเนี่ย ดูไม่ดีใช่ไหมล่ะ
แล้วทำไมชั้นไม่เปิดสเตตัสเจ้าตัวตรวจสอบตั้งแต่แรกล่ะ ? พูดอีกก็ถูกอีก ชั้นก็เลยตรวจสอบสเตตัสของแม่หนูจอมมารแต่ก็ผงะเล็กน้อย
…ชื่อกลายเป็นริต้าไปแล้วอ่ะ เดี๋ยวนะ คิดจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนง่ายงี้เลยเรอะ ทำไมชั้นรู้สึกถึงความไม่สงบสุขกำลังจะมาเยือนอีกแล้วนะ
“เอ่อ.. ว่าแต่ริต้า”
“อะไรเหรอคะ มะม๊า”
พอเธอเรียกแบบนั้นคิ้วชั้นก็กระตุกหน่อยๆ ชาตินี้ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีลูก แถมตอนนี้กลายเป็นผู้หญิงไปแล้วด้วย
แต่นี่ต่อยหมัดเฉยๆ ก็ได้รับลูกมาเฉยเลย โลกนี่มันจะง่ายไปแล้วนะ!
“เธอยังพอจำหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การล่าแม่มดได้ไหม ?”
“มันคืออะไรอ่ะ ??”
ริต้าเอียงคออย่างสงสัย เหมือนจะจำไม่ได้โดยสิ้นเชิงสินะ แล้วความทรงจำสรุปมันหายไปหมดเลยสินะ
“เปล่า ไม่มีอะไร”
ชั้นตอบไปแบบนั้นพลางเดินไปหาลิลิซที่ทุกอย่างกำลังหยุดนิ่งอยู่ แล้วฟื้นฟูร่างกายให้ลิลิซ พอมองลิลิซก็รู้สึกปลงอนิจจังหน่อยๆ เธอนี่มันกระสอบทรายชัดๆเลยนะลิลิซ
“มะม๊า ทุกคนทำไมยืนแข็งทื่อกันหมดเลยล่ะ ?”
ว่าแล้วริต้าก็เอามือจิ้มแก้มปีศาจตนหนึ่ง ชั้นก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ใครมันจะไปกล้าบอกว่า ‘ข้าคือผู้คุมกฎแห่งกาลเวลา’ บ้างล่ะ จูนิเบียวชัดๆ
“เอ่อ.. นั่นสินะ ชั้นหยุดเวลาไว้น่ะ”
“โอ้.. งี้สินะ มะม๊าหยุดเวลาได้ด้วยสินะ.. แปลกจริงๆ”
เดี๋ยวนะ.. บอกไปแบบนี้คงไม่คิดว่าชั้นเป็นตัวประหลาดใช่ไหม เดี๋ยวก่อนสิ ถ้าเธอไม่รู้เรื่องอะไรชั้นก็แถได้นี่…. ใช่ๆ
“เอ่อ.. ถึงจะบอกหยุดเวลาทุกๆคนก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ”
“เอ๋.. เป็นงั้นเหรอ ? ทำไมริต้าหยุดเวลาไม่ได้ล่ะมะม๊า”
“นั่นเป็นเพราะว่า ริต้าเด็กเกินไปยังไงล่ะ ถ้าขยันฝึกการควบคุมเวลาก็ไม่ใช่เรื่องยากหรอกนะ”
“งั้นหมายความว่า มะม๊าสามารถควบคุมเวลาได้ ย้อนเวลา ข้ามเวลาได้ ?”
“อืม.. ถูกแค่ครึ่งหนึ่งนะ”
ว่าแต่เธอไปมีความรู้แบบนี้ได้ไง เพราะความทรงจำหายไปหมดแล้วจะรู้จักการข้ามเวลาได้ไง.. ถ้าบอกว่าวิเคราะห์เองจากคำว่าเวลานี่คง.. อัจฉริยะเกินไป
สมองสามารถวิเคราะห์และประมวลออกมาได้เองแม้ได้ยินครั้งแรก นี่คนป่ะเนี่ย… เอ่อ.. จอมมารนี่
เอ่อ.. ถึงจะอัจฉริยะยังไงก็วิเคราะห์ว่าสามัญสำนึกปกติไม่ได้สินะ ฮ่าๆ …. พอชั้นตอบริต้าไปแบบนั้น เธอก็ถามกลับมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า
“หมายความว่ายังไงคะ ?”
“อืม… ไว้ริต้าควบคุมเวลาแล้วชั้นจะบอกนะ”
ชั้นตอบไปส่งๆ เพราะขี้เกียจอธิบาย ก็แหมจะมีใครบ้างฝึกหนักจนควบคุมเวลาได้ ไม่ใช่นิยายกำลังภายในสักหน่อยนะ อย่างน้อยก็ทำลายเวลาได้แค่นั้นแหละ(ใครเขาทำได้กันบ้างนะ ?)
ริต้าคอตกเพราะความสลด แต่ที่ชั้นไม่รู้คือริต้ากำลังมีความมุ่งมั่นบางอย่าง ชั้นเลิกสนใจริต้าแล้วยกลิลิซขึ้นด้วยเทเลคิเนซิส
ก่อนจะหันหน้าไปมองยังทางหนึ่ง เห็นมังกรแก้วนภาที่กำลังบินมาพร้อมในมือถือหนังสือเล่มหนึ่ง แต่ถูกหยุดเวลาไว้
ชั้นเลยไปเก็บเอาหนังสือเล่มนั้น แล้วเขียนกระดาษบอกว่า ‘ชั้นได้รับหนังสือเล่มนี้แล้ว ขอบคุณ’
อืม.. แล้วจะเอายังไงกับจอมมารน้อยนั่นดี.. ขณะกำลังครุ่นคิดอยู่นั่นเองก็ เวลาที่หยุดนิ่งก็ถูกเร่ง อืม ถูกเร่งจริงๆนะ
ไม่ใช่เวลากลับมาเดิน แต่มันถูกเร่งร่างของคนที่ควรหยุดนิ่งก็ถูกทำให้เคลื่อนไหวแต่เวลาไหลเร็วกว่าเดิมเป็นสองเท่า
“ห๊ะ..?”
ชั้นอ้าปากค้าง.. ก่อนที่เสียงแว่วๆจะดังมาแต่ไกล
“มะม๊าาาา ริต้าควบคุมเวลาได้แล้ว ริต้าเร่งเวลาได้แล้ว ดูสิๆ”
“…..”
“…..เอาจริงดิ..”
…….
[ไปหมดแล้ววว ขาดสามัญสำนึกเป็นโรคชนิดหนึ่งที่แพร่กระจายเป็นโรคติดต่อได้นะขรั่บ พี่น้อง]