หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.374 – กำลังเสริมที่ทยอยกันมา
หลังจากการพิพากษาได้สิ้นสุดลง ตลอดทั้งโลกก็เดือดพล่านไปด้วยความตื่นเต้น!
ทั่วทุกมุมโลก เริ่มที่จะค้นพบเครื่องพิพากษาความปรารถนาตู้แล้วตู้เล่า
มันได้แยกร่าง กระจายตัวงออกไปอย่างรวดเร็ว ตามแต่ละเมือง ตามแต่ละสถานที่ๆผู้คนอาศัยอยู่ ไม่ว่าที่ใด ก็จะมีเจ้าเครื่องจักรดังกล่าวถูกวางเอาทิ้งไว้
สำนักข่าวจากประเทศต่างๆได้เริ่มรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว
นักวิทยาศาสตร์และรัฐบาลก็เริ่มที่จะให้ความสนใจกับมัน
ผู้คนพยายามที่จะสื่อสารกับเจ้าสิ่งแปลกประหลาดนี้
หลังจากที่ได้รับชมการพิพากษา กลุ่มต่อไปที่ได้พบเจอกับมันก็คือกลุ่มนักโทษ
——
ในช่วงเวลานั้นเอง ภายในเรือนจำ เสียงนกหวีดได้ถูกเป่าดังขึ้น
และเหล่านักโทษก็ถูกปล่อยตัว ทยอยกันเดินออกมายังลานกิจกรรมของพวกเขาอย่างช้าๆ
ทันใดนั้นเอง พลันบังเกิดเสียงปัง! ดังขึ้นอย่างกระทันหัน
ภายนอกรั้วลวดหนาม ปรากฏเครื่องจักรพิพากษาความปรารถนาขึ้น
ทุกคนตกใจจนผงะไป
สายตาของเหล่านักโทษจับจ้องไปยังเครื่องพิพากษาด้วยความตกตะลึง
และทันใดนั้นเอง จู่ๆก็มีนักโทษคนหนึ่งรีบวิ่งตรงไปยังรั้วลวดหนาม
เขาคว้าจับรั้ว ใช้สองมือแยกแหวกรูรั้วออกโดยไม่สนว่าหนามจะบาดหรือทิ่มแทงหรือไม่ จากนั้นก็พยายามที่จะเอื้อมมือออกไป
‘ในที่สุดก็ได้เจอกับมันแล้ว!’
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่านักโทษคนนั้นจะไม่รู้วิธีใช้งานมัน เขาจึงทำได้เพียงปัดๆฝ่ามือลงบนเครื่องพิพากษาเท่านั้น
“เบิร์ด .. หัวหน้าตำรวจเบิร์ด!!” นักโทษรีบกล่าวอย่างรวดเร็ว
และเวลานี้ มันจะแตกต่างกันไปจากในครั้งแรก
ผู้พิพากษาที่ได้รับเชิญมา – เพชฌฆาตตัวตลกได้รับรางวัลของตนเองและจากไปแล้ว
คราวนี้สิ่งที่มาแทนเขา กลับกลายเป็นร่างเงาเสมือนของตาชั่งแทน
ร่างเงาปรากฏขึ้นเหนือเครื่องจักรพิพากษา
ตามด้วยเสียงของเครื่องจักรพิพากษาที่ดังกึกก้อง “‘เริ่มทำการทดสอบว่าหัวหน้าตำรวจเบิร์ดจะเป็นคนบาปจริงๆหรือไม่”
ทันใดนั้นบนจานที่ชั่งทั้งซ้ายและขวาก็ปรากฏหัวใจขึ้นข้างละดวง ข้างหนึ่งเป็นสีขาวน้ำนม ขณะที่อีกข้างเป็นสีดำสนิท
ทันทีที่หัวใจทั้งสองถูกวางลงบนตาชั่ง หัวใจสีขาวก็เอียงสูงขึ้น ขณะที่หัวใจดำเอนลงไปจนถึงล่างสุด … ฉากนี้แลคล้ายกับไม้กระดกในสนามเด็กเล่นที่หากข้างหนึ่งหนักกว่า อีกข้างย่อมยกถูกสูงขึ้นไปโดยปริยาย
“ชายผู้นี้มีความผิดบาปที่ไม่สามารถให้อภัยได้จริงๆ – กล่าวได้ว่ามีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขเข้ารับการพิพากษา”
“‘งั้นก็เริ่มกันเลยสิ เร็วเข้า!” นักโทษตะโกนออกมาอย่างร้อนรน
ในะระยะไกลออกไป สองผู้คุมเรือนจำที่เห็นเหตุการณ์กำลังวิ่งตรงเข้ามา
“โปรดทำการจ่ายเลือดด้วย”
“ต้องการเลือดของฉันงั้นหรอ?” นิ่งงันไป
“หากคิดจะให้ผลลัพธ์คือเลือดของอีกฝ่าย มันก็ต้องจ่ายด้วยเลือด – เลือดแลกด้วยเลือด … โปรดทำการจ่ายเลือดด้วย”
“เท่าไหร่? ต้องการเท่าไหร่บอกมาเร็วเข้า!” นักโทษกัดฟันกล่าว
“ 200 มิลลิลิตร”
“งั้นก็เอามันไปเลย!”
ทันทีที่กล่าว นักโทษคนนั้นก็ถูกล็อคตัวไว้โดยสองผู้คุม และถูกรั้งตัวฉุดลากกลับมาทันที
มือข้างหนึ่งของนักโทษยังคงคว้าจับลวดหนามอย่างแน่นหนา ขณะที่อีกข้างยังคงวางลงบนเครื่องพิพากษาอย่างไม่ยินยอมจะจากไป
สองผู้คุมพยายามสุดกำลัง และสุดท้ายก็สามารถดึงนักโทษกลับมาได้ในที่สุด
ผู้คุมผลักตัวเขาล้มลงกับพื้น และหยิบกระบองขึ้นมาทุบตีตามตัวเขาอย่างแรง
ข้อตกลงบรรลุแล้วใช่รึเปล่า?
นักโทษคร่ำครวญโหยหวนด้วยความขมขื่น แต่วิสัยทัศน์ของเขากลับไม่ยอมละไปจากเครื่องพิพากษาเลย
ฮู้มมม!
น้ำเสียงอันขึงขังจริงจังของเครื่องพิพากษาดังขึ้น “ได้รับเลือดมาแล้ว จะเริ่มต้นทำการพิพากษา ณ บัดนี้”
ทันใดนั้นเสียงของมันก็ดังขึ้นในจิตใจของมนุษย์ทุกคน
“มนุษญ์เอ๋ย เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกคุณหลับตาลงทำสมาธิ พวกคุณจะสามารถรับชมการพิพากษาของเครื่องจักรจากในจิตใจได้ตลอดเวลา”
“อาชญากรในครั้งนี้คือหัวหน้าตำรวจเบิร์ดแห่งสาธารณรัฐฟูซี .. การพิพากษาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!”
และฉากใหม่ก็ปรากฏขึ้น มันเป็นภาพการติดสินบน ปลอมแปลงหลักฐาน ยักยอกสิ่งของ และใส่ร้ายคู่แข็งทางธุรกิจ สุดท้ายคือเป็นตัวแทนจำหน่ายยาเสพติดซะเอง ทุกภาพได้ปรากฏสู่สายตาของทุกคน
“ดูสิ! เห็นนั่นไหม!”
นักโทษที่ถูกทุบตีอยู่บนพื้นร้องตะโกนออกมา
มันเป็นฉากที่หัวหน้าตำรวจเบิร์ดยัดถุงยาลงในกระเป๋าของเขา และทำการจับกุมเขา
ฉากถัดไป คือหัวหน้าตำรวจเบิร์ดได้รับรางวัลเป็นวิลล่าหลังเดี่ยวซึ่งเป็นของกลางของนักโทษที่ถูกยัดยา และจำนวนเงินอีกหลายแต้มเครดิต
สองผู้คุมเรือนจำชะงักงัน และหยุดทุบตีอีกฝ่าย
การกระทำอันชั่วร้ายของเบิร์ดได้ถูกเปิดเผยต่อหน้าต่อตาทุกคน
เสียงของเครื่องจักรพิพากษาดังกึกก้อง “สวมใส่เสื้อตำรวจที่บ่งบอกถึงความยุติธรรม ทว่าความจริงกลับปกป้องแต่ความชั่วร้าย และนำพาความทุกข์ทรมานมาสู่ผู้คนบริสุทธิ์ ชื่อของมิสเตอร์เบิร์ดได้ถูกเพิ่มลงในลิสของคนบาปแล้ว”
“ในเวลาสามนาที หากตัวเลขสีแดงถึง 10000 มิสเตอร์เบิร์ดที่ถูกตอกตรึงอยู่บนเสาแห่งความอัปยศก็จะต้องได้รับความเพลิดเพลินไปกับการถูกเผาไหม้!”
และชายที่ชื่อว่าเบิร์ดในชุดเครื่องแบบหัวหน้าตำรวจก็ปรากฏตัวขึ้นในจิตใจของทุกผู้คน
เบิร์ดรีบตะโกนทันที “มันโกหก! เจ้าเครื่องจักรนี่คือปีศาจ! มันกำลังหลอกลวงพวกคุณอยู่! ได้โปรดเถอะ ฉันบริสุทธิ์จริงๆนะ!”
“ใครก็ได้ช่วยฉันที โถ่สวรรค์!”
ไม่ต้องรีรอให้พูดมากความไปกว่านี้ หัวหน้าตำรวจพลันถูกตอกตรึงลงบนเสาต้นหนึ่งทันควัน ขณะที่บนหน้าอกของเขามีแถบตัวเลขสีแดงปรากฏขึ้น
ด้านล่างของตัวเลขสีแดง คือนาฬิกาที่ยังไม่เริ่มเดิน
“ดังนั้นตอนนี้ … เริ่มจับเวลาได้!”
นาฬิกาเริ่มเคลื่อนไหวทันที
ในความเป็นจริงแล้ว บรรทัดแจ้งเตือนก็ได้ปรากฏสู่เบื้องหน้าทุกคนก่อนแล้วเหมือนเช่นเดิม
“คุณยินดีที่จะพิพากษาการตายของหัวหน้าตำรวจเบิร์ดโดยการบริจาคเลือดหรือไม่?”
และเกือบจะในทันที ตัวเลขสีแดงก็พุ่งทะยานขึ้นมาถึง 10000
ในเวลาสามนาที ตัวเลขสีแดงก็ได้พุ่งทะยานขึ้นกว่า 20 ล้าน!
เห็นได้ชัดว่าในตอนนี้ มนุษย์ได้เข้าใจแล้วว่าเจ้าสิ่งนี้มันคืออะไร
หลังจากที่พบเผชิญกับสิ่งแปลกประหลาดมามากมาย ทุกคนจึงมีภูมิคุ้มกันบางอย่างเกิดขึ้นมาต่อสิ่งแปลกประหลาดเหล่านี้
ในหัวใจของมนุษย์ทุกคนน่ะ ขุ่นเคืองและเกลียดชังไอ้สิ่งที่เรียกกันว่าความชั่วร้ายอยู่แล้ว!
“มิสเตอร์เบิร์ด ต้องขอบอกว่าคุณได้รับแรงสนับสนุนอย่างล้นหลามจริงๆ ฉะนั้นคงถึงเวลาแล้ว ที่คุณจะได้รับโทษเป็นการถูกแผดเผาด้วยเปลวเพลิงอันร้อนแรง!”เครื่องจักรพิพากษากล่าว
และไฟก็ลุกโชนขึ้นบนเสาอย่างฉับพลัน
ตามด้วยเสียงของมิสเตอร์เบิร์ดที่ร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวดเหลือแสน
ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ทว่าตามมือและเท้าของเขากลับถูกตอกไว้อย่างแน่นหนา จึงมิอาจเคลื่อนไหวได้
อุณหภูมิที่สูงลิ่วของเปลวเพลิง ทำให้เขาค่อยๆหยุดการดิ้นรนอย่างช้าๆ
พร้อมกับชีวิตผิดบาปของเขาที่ได้สิ้นสุดลง
“การพิพากษาครั้งที่สองได้สิ้นสุดลงแล้ว” เสียงของเครื่องพิพากษาดังขึ้น
“เนื่องจากได้รับพลังแห่งความปรารถนาส่วนเกินมามากเกินไป เครื่องจักรจึงจะนำมันไปใช้ในการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินทั้งหมดของมิสเตอร์เบิร์ดให้กลายเป็นแต้มเครดิต และจะนำมาใช้ในการชดเชยพวกมันให้แก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ”
“การพิพากษานี้ได้เสร็จสิ้นลงโดยสมบูรณ์แล้ว กรุณาอย่าได้ลืมติดตามรับชมการพิจารณาคดีในครั้งต่อไปด้วย”
และภาพก็หายไป
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฉันได้แก้แค้นแล้ว! แก้แค้นสมใจแล้ว! ” นักโทษนอนแผ่ลงบนพื้น สะอื้นไห้อย่างขมขื่น
แต่แล้วทันใดนั้นเอง โซ่ตรวนในมือของเขาก็คลายออกในทันใด
และชุดคนคุกก็หายไปแล้วเช่นกัน
เวลานี้เขากำลังสวมใส่เสื้อติดแบรนด์ใหม่เอี่ยม พร้อมด้วยกลิ่นโคโลญจ์ที่ฟุ้งออกมาเล็กน้อย
เขากลับกลายเป็นคนที่ดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
นักโทษก้มลงมองตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
ทันใดนั้นเอง กระดาษแผ่นหนึ่งก็ดีดออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา และตกลงต่อหน้าผู้คุมเรือนคำหลายคน
“หลักฐานการปล่อยตัวผู้บริสุทธิ์ …”
ผู้คุมเรือนจำอ่านมันอย่างช้าๆ
“ใช่ของจริงรึเปล่า?” พัศดีก็เดินเข้ามาด้วยเช่นกัน เขาเอ่ยถามเสียงดัง
ผู้คุมเรือนจำดึงเครื่องสแกนออกมา และกวาดไปที่ใบรับรองการปล่อยตัวผู้บริสุทธิ์
“ติ๊ง!”
“นี่คือผลการพิพากษาล่าสุด ซึ่งได้รับการยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
พอได้ยิน ผู้คุมเรือนจำทั้งหมดถึงกับกลั้นหายใจ
ทันใดนั้นอุปกรณ์สื่อสารของพัศดีก็ดังขึ้น
เขารับการเชื่อมต่อและกล่าวตอบคำกลับไป “ใช่ ใช่แล้ว … อา .. รับทราบ …”
หลังจากการเชื่อมต่อถูกตัดขาดไป พัศดีก็หันไปมองนักโทษที่ราวกับได้รับชีวิตใหม่และกล่าวว่า “ปล่อยตัวเขาไป”
เขาหันไปอธิบายกับเหล่าผู้คุมว่า “เทพธิดากงเจิ้งได้ทำการอนุมัติเรื่องนี้ ดังนั้นสมเด็จพระจักรพรรดินีจึงพลอยอนุมัติมันไปด้วยโดยปริยาย”
………
หลังจากช่วงเวลานั้น ทุกๆช่วงนาที หรืออาจกล่าวได้ว่าทุกๆวินาที ตราบใดที่มีคนหลับตาทำสมาธิ พวกเขาจะสามารถรับชมการพิจารณาคดีของเครื่องจักรพิพากษาได้ตลอดเวลา
—แล้วจากนั้นการพิพากษาก็ไม่เคยหยุดนิ่งอีกเลย
ทำไมน่ะหรือ? ก็ในโลกใบนี้น่ะ มันมีความไม่เท่าเทียม ความอยุติธรรม ความผิดบาปและชั่วร้ายอยู่มากเกินไปน่ะสิ!
แต่ตอนนี้ ทุกสิ่งที่ว่ามานั้นก็กำลังจะถูกทำลายลงในที่สุด
ผู้คนนับไม่ถ้วนจากทั่วทั้งโลกเริ่มแห่กันออกจากบ้าน
ทุกคนกำลังดิ้นรนเพื่อที่จะได้รับการแก้แค้น
และในไม่ช้า พวกเขาก็ค้นพบกับสิ่งที่กำลังตามหา
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะห้ามคนอื่นๆไม่ให้ใช้เครื่องจักรพิพากษาความปรารถนา
เพราะดูเหมือนว่าเจ้าเครื่องจักรนี้มักจะปรากฏขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลกับเหล่าผู้คนที่ตกเป็นเหยื่อได้อย่างน่าประหลาดใจ
แต่เรื่องที่เกี่ยวกับเจ้าเครื่องจักรนี้ ก็ยังคงมีคำถามอีกมากมายเกี่ยวกับมัน
เพราะด้านข้างของมันมีเลข ‘1’ ขนาดใหญ่อยู่
ฉะนั้น หมายความว่าจะต้องมีเครื่องหมายเลข ‘2’ ด้วยใช่หรือไม่?
ทว่าความสงสัยนี้ของเหล่าผู้คนก็มิได้ยาวนานนัก
เพราะคำตอบดูเหมือนว่าจะมาเร็วกว่าที่คาด
——
ในพื้นที่เปิดโล่งนอกวิลล่าบนหุบเขา
สามเครื่องจักรที่มีขนาดคล้ายตู้เกมขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้ากู่ฉิงซานและคนอื่นๆ
โดยถัดจากเครื่องพิพากษาความปรารถนาสีดำสนิทก็เป็นเครื่องคีบตุ๊กตา
เจ้าเครื่องนี้ถูกทาด้วยสีฟ้าตลอดทั้งตู้ พร้อมกับมีหมายเลข ‘12’ อยู่ด้านข้าง
“สวัสดีเหล่าสหายหนุ่มผู้กล้าหาญ กระผมคือเครื่องจักรช่วยเหลือข้ามผ่านทะเลแห่งความขมขื่น” ตู้เกมคีบตุ๊กตากล่าวทักทาย
และตามต่อด้วยอีกหนึ่งเครื่องสีดำที่มาพร้อมกับหมายเลข ‘23’ ที่อยู่ข้างๆ
“มันเป็นเรื่องง่ายที่จะโกรธแค้น แต่คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรไม่ดีเพื่อระบายมันหรอกนะ! ขอเพียงแค่ตามหาตัวกระผมก็พอแล้ว” เครื่องจักรชนิดนี้กล่าว
ต่อมาก็คือเครื่องถ่ายภาพอัตโนมัติที่มีสีแดงพร้อมกับหมายเลข ‘47’ อยู่ด้านข้าง
“ดิฉันคือเครื่องจักรสำนึกบาป” มันมองไปทางกู่ฉิงซานและโค้งคารวะเล็กน้อย “แม้ว่าคุณจะฆ่าคนไปมากมายแต่คุณคงไม่จำเป็นต้องใช้ดิฉันหรอกใช่ไหมจ๊ะที่รัก?”
เหล่าเครื่องจักรยังคงทำการแบ่งร่างแยกออกไปอย่างต่อเนื่อง และร่างแยกเหล่านั้นก็หายวับไปจากสถานที่นี้ตลอดเวลา
มองไปยังปรากฏการนี้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งหมดกำลังกระจายตัวกันออกไปทั่วทุกมุมโลก
เครื่องจักรพิพากษาความปรารถนากระแอมไอเบาๆและกล่าวว่า “เอาล่ะ กระผมจะขอแนะนำแต่ละเครื่องให้พวกคุณก่อนเป็นอันดับแรก”
……
เมื่อมันแนะนำฟังชั่นก์ของเครื่องจักรทั้งสามนี้ กู่ฉิงซานและคนอื่นๆก็บื้อใบ้ กลายเป็นโง่งม
“เจ้าพวกนี้มันอะไรกัน หรือเทพวิญญาณที่อยู่ทางฝั่งปรภพจะรู้สึกเบื่อมากเกินไป?” กู่ฉิงซานกล่าวพลางครุ่นคิด
“ทางปรภพน่ะเป็นระบบระเบียบอยู่เสมอแหละ มันเลยค่อนข้างที่จะว่าง ดังนั้นเทพวิญญาณก็เลยต้องการที่จะมองหาความสนุกบ้างเช่นกัน” เครื่องจักรช่วยเหลือข้ามผ่านทะเลแห่งความขมขื่นตอบ
เย่เฟย์หยูถอนหายใจ และกล่าว “ปรภพนะนั่น ไม่ใช่สวนสนุก … ”