หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.408 – การต่อสู้ของฉานนู่
กู่ฉิงซานนั่งอยู่บนช้างยักษ์ เขาเบื่อหน่ายแทบตายแล้วตอนนี้
เพราะการต่อสู้ระหว่างราชาเผ่าอาชูร่าทั้งสี่เบื้องล่าง มันมิได้ดึงดูดความสนใจจากเขาเลย
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเขาได้รับความทรงจำจากการต่อสู้ทั้งหมดของกษัตริย์ชูร่ามาแล้วก็ได้
ในสายตาของกู่ฉิงซาน หากเทียบกับกษัตริย์อาชูร่าแล้ว สภาพของราชาเผ่าทั้งสี่ในตอนนี้ดูจะแย่กว่าเขาเล็กน้อย
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะที่ต่อสู้อยู่ตรงหน้าล้วนคืออาชูร่า ผู้ซึ่งกระหายเลือดและความรุนแรง!
สี่ราชาเผ่าเผ่าได้ทุ่มเต็มที่แล้ว
เกรงว่าอีกไม่นาน ผู้ชนะก็จักปรากฏ
“นี่มันเป็นปัญหาที่ช่างน่ารำคาญจริงๆ”
กู่ฉิงซานพึมพำเสียงกระซิบ
แต่แล้วทันใดนั้นดาบขุนเขาเทวะหกโลกาจู่ๆก็ปรากฏร่างขึ้นข้างกายเขา
ตามด้วยเสียงของฉานนู่ที่ดังขึ้น
“นายน้อย อีกประเดี๋ยวก็จะถึงทีของท่านสู้แล้วใช่หรือไม่”
“ก็อาจจะนะ”
“แต่ด้วยสภาพร่างกายเจ้าที่เป็นเช่นนี้ ข้าเกรงว่าคงจะไม่ไหว”
“ขอลองพยายามดูก่อนก็แล้วกัน”
“มันจะไม่ดีกว่าหรือถ้า … เอาเถอะ เจ้าไม่ต้องหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเองก็แล้วกัน”
“เอ๋?”
กู่ฉิงซานถูกดึงดูดด้วยคำเหล่านั้นทันที
…..
เบื้องหน้าช้างยักษ์
บทสรุปของการต่อสู้ชิงราชบัลลังก์ได้จบลง
สามคู่แข่งนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนพื้น
หนึ่งตกตาย หนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่อีกหนึ่งสิ้นสติ
คนเดียวที่ยังยืนหยัดอยู่ได้คือราชาเผ่าลั่วซุ่ย
เหมือนดั่งที่เคยเปล่งวาจามั่นอกมั่นใจ เพราะเขาคือผู้ชนะคนสุดท้ายจริงๆ
กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว
เห็นแค่เพียงร่างของราชาเผ่าลั่วซุ่ยที่อาบไปด้วยเลือด และกำลังพยายามพยุงกายตนเองโดยใช้ดาบค้ำยันเอาไว้
เขาก้าวไปข้างหน้า ตรงไปยังคทาแห่งกษัตริย์อาชูร่าเพื่อหมายจะคว้าจับมัน
เหล่าอาชูร่าเผ่าลั่วซุ่ยต่างระเบิดเสียงโห่ร้องออกมา
กู่ฉิงซานโบกมือ
แล้วคทาแห่งกษัตริย์อาชูร่าก็ลอยกลับคืนมายังช้างยักษ์
“เจ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?” ราชาเผ่าลั่วซุยเอ่ยถามเสียงแข็ง
กู่ฉิงซานวางคทาแห่งอาชูร่าลงบนหลังช้าง
เขาเอียงคอและหักมันไปมา
“ตามกฏของเผ่า ข้าจักต้องเป็นผู้ส่งมอบคทาต่อด้วยตนเอง”
“เช่นนั้นเจ้าก็จงเอามันลงมาให้ข้าเสีย!” ราชาเผ่าลั่วซุ่ยตะโกน
กู่ฉิงซานยิ้ม
ดาบขุนเขาเทวะหกโลกาผุดออกมาจากความว่างเปล่าและถูกคว้าจับโดยเขา
เขาลุกขึ้นอย่างช้าๆ
“เจ้าก็ขึ้นมารับมันไปซี” เขาเอ่ยลอยๆ
“แต่ข้าบาดเจ็บหนัก-” ราชาเผ่าลั่วซุยตะโกนออกมา
“นั่นสิ เช่นเดียวกันกับข้าเลย” กู่ฉิงซานกล่าวเห็นด้วย
ราชาเผ่าลั่วซุ่ยหุบปากลงทันที
เขาสาดสายตามองกู่ฉิงซานชนิดหัวชนฝา
ไม่คาดหวังเลยว่า แผนที่พวกตนทั้งสี่ได้วางเอาไว้ เพื่อเตรียมที่จะบังคับให้อีกฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลีกทางไปให้พ้นๆ
ในท้ายที่สุดแล้วสถานการณ์มันจะกลับกลายเป็นเช่นนี้
กองทัพอาชูร่าทั้งหมดยังคงเงียบ
ใช่ ราชาเผ่าลั่วซุ่ยน่ะบาดเจ็บหนัก
ทว่ากษัตริย์อาชูร่าก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน และในจุดนี้คำปฏิญาณสาบานแห่งสวรรค์และโลกก็เป็นพยานได้
กล่าวได้ว่าจนกระทั่งถึงตอนนี้ หากจะต่อสู้กันก็นับว่ายุติธรรมแล้ว
“ถ้าเจ้าไม่กล้าที่จะขึ้นมารับมัน เช่นนั้นข้าก็จะขอเก็บคทาแห่งกษัตริย์เอาไว้เองก็แล้วกันนะ” กู่ฉิงซานกล่าว
ราชาเผ่าลั่วซุ่ยกัดฟันกรอด
หากอิงตามข่าวที่ได้รับมา อีกฝ่ายบาดเจ็บรุนแรงยิ่งกว่าตนมากนัก
ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วล่ะก็ จะปล่อยมันไปไม่ได้!
ราชาเผ่าลั่วซุ่ยได้ตัดสินใจแล้ว
“คทากษัตริย์จะได้รับนายคนใหม่ของมันในวันนี้!”
ว่าแล้วเขาก็กระโจนสูงขึ้นไปบนหลังของช้างยักษ์
ดาบโค้งถูกวาดออกไป พร้อมด้วยประกายแสงคมกล้าที่เบ่งบาน
กู่ฉิงซานมองไปยังประกายคมแสง ทว่ามิได้เคลื่อนกายหลบเลี่ยง
ทันใดนั้นดาบขุนเขาก็พรวดออกจากมือของเขา
ดาบยาวลอยออกไปปะทะเข้ากับดาบโค้ง
ท่าทีของราชาเผ่าลั่วซุ่ยแปรเปลี่ยนเป็นถมึงทึง ประกายคมแสงแตกตัวออกในทันใด แปรสภาพเป็นคมสะบั้นต่อเนื่องกว่า 36 ครั้ง!
แต่ดาบยาวก็ไม่ยอมน้อยหน้า มันแปรเปลี่ยนเป็นภาพติดตา แล้วหวดสวนกลับไป 36 ครั้งเช่นกัน
เทคนิคดาบ ตัดสายลม!
นี่คือเทคนิคดาบของกู่ฉิงซาน!
หากมองในมุมมองสายตาของกู่ฉิงซาน คุณจะสามารถเห็นได้ว่าฉานนู่กำลังถือดาบขุนเขาเทวะหกโลกาฟาดฟันกับราชาเผ่าลั่วซุ่ยอยู่
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองสายตาของคนอื่นๆ จะสามารถเห็นได้แค่เพียงดาบยาวที่พุ่งตัดไปมาท่ามกลางอากาศที่ว่างเปล่าเท่านั้น มิอาจมองเห็นถึงร่างของฉานนู่ได้
“เทคนิคดาบเช่นนี้ มันก็งั้นๆ” ราชาเผ่าลั่วซุ่ยกล่าวหยัน
ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนยุทธวิธีอย่างฉับพลัน
เปลวไฟลุกโชนขึ้นจากตัวใบดาบโค้ง
ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ ส่งผลให้จังหวะการเคลื่อนไหวของราชาเผ่าลั่วซุ่ยหยุดชะงักลงเสี้ยวหนึ่ง
และมันก็มิอาจเล็ดลอดดวงตาอันเฉียบคมที่กำลังเปล่งประกายของฉานนู่ไปได้!
ดาบขุนเขาเทวะหกโลกาแปรสภาพเป็นรังสีดาบยักษ์สีนวลราวแสงจันทร์ กวาดข้ามออกไปทั่วฟ้า!
เทคนิคลับแห่งดาบ ตัดจันทรา!
สีหน้าของราชาเผ่าลั่วซุ่ยแปรเปลี่ยนกลับกลาย เขารีบเหวี่ยงกระบวนท่าดาบโค้งที่ยังไม่สมบูรณ์ออกไปปัดป้อง
แต่ใครจะรู้ ว่ารังสีดาบกลับถูกตัดจนแยกออกเป็นครึ่งอย่างง่ายดาย จะหวนกลับมาลอบสังหารเขาอย่างกระทันหัน!
ทั้งเนื้อทั้งตัวของราชาเผ่าราวกับถูกโยนตกลงในความสับสน ท่าทีแปรเปลี่ยนไปในฉับพลัน
ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!
‘ข้าสะบั้นกระบวนท่านั้นไปแล้วแท้ๆ’
ทั้งๆที่สามารถปัดป้องมันได้ในที่สุด
แต่ดาบอีกเล่มหนึ่งกลับปรากฏขึ้น และแทงทะลุเข้าหัวใจจากเบื้องหลังเขา!
เทคนิคลับแห่งดาบที่สอง
กลืนกินหวนกลับ!
นี่คือเทคนิคลอบสังหารแห่งดาบ
ฉานนู่ได้ใช้เทคนิคลอบสังหารแห่งดาบของกู่ฉิงซาน!
ดวงตาของราชาเผ่าลั่วซุ่ยเบิกกว้าง เขาก้มลงมองดาบที่แทงทะลุหน้าอกตนเองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“นี่มันคือ … เทคนิคดาบ … อันใดกัน .. ”เขาขยับปาก เปล่งวาจาแต่ละคนออกมาอย่างไม่ยินยอม
ในความว่างเปล่า เสียงของผู้หญิงที่ฟังดูเย็นชาก็ดังขึ้น
และเสียงนี้ ก็มีเพียงราชาเผ่าลั่วซุ่ยเท่านั้นที่สามารถได้ยินมันได้
“ก็เทคนิคดาบที่มีไว้สังหารเจ้าอย่างไรเล่า”
พอได้ฟัง รูม่านตาของราชาเผ่าก็หดวูบลงทันที
เขาชี้นิ้วไปทางกู่ฉิงซานราวกับต้องการจะเอ่ยอะไรบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม พลังชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมดกลับเหือดหายออกไปจากกายเขาจนสิ้นเสียแล้ว
ราชาเผ่าลั่วซุ่ยล้มลงกับพื้น และสิ้นใจลงไปอย่างสมบูรณ์
ดาบขุนเขาลอบกลับมา และตกลงในมือของกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานก้มลงมองดูรายละเอียดของดาบ
ตามตัวของดาบยาวเปล่งประกายสดใสราวกับหยาดน้ำค้าง
ขณะที่มีไอเย็นจางๆที่ทำให้รู้สึกสดชื่นแผ่ออกมาจากใบดาบ
นี่คือดาบ ‘อมตะ’ , ดาบที่ ‘แหกสิ้นทุกกฏเกณฑ์’ และเป็นดาบที่ ‘ทรงภูมิปัญญา!’
หัวในของกู่ฉิงซานเต้นครึกโครม เขาอดไม่ได้ที่จะย้อนคิดไปถึงฉากเมื่อครู่นี้
…..
“เจ้าหมายความว่าเจ้าสามารถเผชิญหน้ากับศัตรูได้ด้วยตนเองใช่หรือไม่?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม
“ใช่ ตัวข้าแตกต่างออกไปจากจิตแห่งดาบตนอื่นๆ ข้าสามารถต่อสู้ด้วยตนเองได้อย่างอิสระ” ฉานนู่กล่าว
ในความเป็นจริงแล้ว หากไม่มีผู้ฝึกดาบที่คอยสำแดงเทคนิคดาบ ดาบบินทั่วๆไปจักไม่อาจต่อกรกับศัตรูได้
ยกเว้นไว้แต้ว่าหากดาบบินเล่มนั้นมีจิตอาร์ติแฟค จิตแห่งดาบก็จะสามารถใช้ออกด้วยเทคนิคพื้นฐานบางกระบวนท่า ในการกวัดแกว่งต่อกรกับศัตรูได้
ก่อนหน้านี้ภายในถ้ำมืด ดาบพิภพเพียงลำพังก็สามารถต่อกรกับเผ่ามารมากมายในถ้ำได้
แต่ตอนนี้ ฉานนู่กล่าวว่าตัวเองแตกต่างกับจิตแห่งดาบตนอื่นๆ เธอมีรูปแบบการต่อสู้ที่เป็นอิสระ แตกต่างกันออกไป
“แล้วมันแตกต่างกันอย่างไร?” กู่ฉิงซานทนไม่ไหวต้องเอ่ยถาม
“ถึงจะกล่าวแบบนั้น แต่ข้าก็ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าด้วย”
“ช่วยเหลือที่ว่า ใช่ให้ข้าเป็นผู้ควบคุมดาบหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้นมิได้หมายความว่าเป็นข้าหรอกหรือที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรู?”
“ไม่หรอก อันที่จริงแล้วเป็นข้านี่แหละที่จะออกไปเผชิญกับศัตรู ส่วนเจ้าขอเพียงแค่ทำตามที่ข้าต้องการเท่านั้น-แล้วเจ้าเต็มใจหรือไม่?”
“แน่นอนว่าต้องเต็มใจอยู่แล้ว ว่าแต่จะให้ข้าทำอย่างไร?”
“ปล่อยสำนึกเทวะของเจ้าออกมา แล้วทำการเชื่อมต่อทะเลแห่งห้วงสติเข้ากับข้า”
กู่ฉิงซานทำตามที่อีกฝ่ายเอ่ยขอ
แล้วดาบขุนเขาเทวะหกโลกาก็บินเข้าไปในทะเลแห่งห้วงสติของเขาทันที
นี่คือความแตกต่างระหว่างนักดาบนิรันดร์กับผู้ฝึกดาบ
นักดาบนิรันดร์จะสามารถรับดาบเข้าไปในทะเลแห่งห้วงสติได้
เพื่อให้บรรลุเข้าสู่นักดาบนิรันดร์อีกครั้ง กู่ฉิงซานยังเคยได้รับภารกิจที่จำเป็นต้องรับเอาดาบเช่าหยินให้เข้ามาสู่ทะเลแห่งห้วงสติอีกด้วย
และในเวลานี้ ดาบที่กำลังเข้าสู่ทะเลแห่งห้วงสติของเขา … คือดาบจากปรภพ!
เห็นแค่เพียงในทะเลแห่งห้วงสติ ดาบขุนเขาเทวะหกโลกากลับกลายเป็นแสงสวรรค์เรืองรองหายไป และไม่นานนักก็ค่อยๆกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
“เอ๋?” กู่ฉิงซานยกคิ้วขึ้นสูง
บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม หลายบรรทัดข้อความเด้งแจ้งเตือนขึ้นอย่างรวดเร็ว
“คุณได้อนุญาตให้ดาบขุนเขาเทวะหกโลหาเชื่อมต่อกับทะเลแห่งห้วงสติของคุณ”
“ดาบขุนเขาเทวะหกโลกาได้รับทักษะและประสบการณ์การต่อสู้ของคุณทั้งหมดแล้ว”
“แจ้งเตือน : คุณได้ค้นพบพลังศักดิ์สิทธิ์ที่สามของดาบขุนเขาเทวะหกโลกา : ทรงปัญญา”
“ ‘ทรงปัญญา’ : ด้วยการอนุญาตของคุณ ฉานนู่จะสามารถเรียนรู้ทักษะและประสบการณ์ต่อสู้ทั้งหมดของคุณได้ และเธอจะสามารถใช้ดาบขุนเขาเทวะหกโลกาเพื่อต่อสู้ให้คุณ หรือต่อสู้เคียงข้างกันกับคุณ”
“คำอธิบาย : เมื่อฉานนู่เริ่มใช้งานพลังศักดิ์สิทธิ์นี้ เธอจะสามารถเลือกว่าจะซ่อนหรือเปิดเผยร่างของเธอแก่ใครก็ได้”
“คำแนะนำจากระบบ : ฉานนู่ครอบครองพลังอำนาจจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งคุณแข็งแกร่งเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งสามารถปลดปล่อยความแข็งแกร่งออกมาได้มากขึ้นเท่านั้น – มดแมลงเช่นคุณไม่คิดว่าควรจะรีบแข็งแกร่งให้มันเร็วๆขึ้นสักหน่อยหรือ?”
กู่ฉิงซานจ้องมองดูตัวอักษรเหล่านี้
โดยไม่รู้ตัว ดาบขุนเขาเทวะหกโลกาก็บินออกมาจากทะเลแห่งห้วงสติ และค่อยๆตกลงข้างกายเขาอย่างเงียบๆ
“นายน้อย ตอนนี้ข้าพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อท่านแล้วนะ”
กู่ฉิงซานได้สติกลับคืน
“ …. ฉานนู่ …”
“อะไรหรือนายน้อย?”
“พลังอำนาจที่เจ้าครอบครองช่างร้ายกาจเหลือเกิน พวกเทพปรภพได้ทราบถึงเรื่องนี้บ้างหรือไม่?”