หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.426 – ชีวิตใหม่
ด้วยการจากไปของมนุษย์ปีศาจหญิง ส่งผลให้เกิดความกระสับกระส่ายในหมู่คนตายมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ
เหล่าคนตายเริ่มที่จะถกเถียงกัน ในขณะที่ส่วนหนึ่งไม่ลังเลยเลยแม้แต่น้อยที่จะก้าวเข้าไปในม่านแสงอันไพศาลและหายวับไปทันที
ในเวลานั้นเอง สิบตัวตนสุดแกร่งก็ผุดลุกขึ้นและตะโกนเสียงดังว่า “พวกเจ้า! เหตุใดจึงยังอยู่ที่นี่กันอีก! เวลาแห่งการกำเนิดใหม่ได้มาถึงแล้ว หากยังดึงดันอยู่ที่นี่ เลขบุญที่มีก็จะถูกหักลงลดน้อยลงไปเรื่อยๆนะ!”
เขาตะคอกคำหนึ่ง “เครื่องจักรคำนวณบุญส่วนบุคคล!”
เห็นแค่เพียงตัวเลขบุญปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ และกำลังค่อยๆถดถอยไปด้วยความเร็วคงที่
“ทำไมจะต้องทำเพื่อคนเป็นด้วย? ทำไมจะต้องยอมเสียบุญของตัวเองเพื่อแลกเปลี่ยนกับชีวิตและความตายของพวกมัน?”
“พวกเจ้าทุกคนขอจงลองไตร่ตรองให้ดีด้วยเถอะ!”
ตัวตนสุดแกร่งกล่าวออกมา เขาหันไปมองกู่ฉิงซานด้วยรอยยิ้มจางๆ
“ท่านราชาภูติ ข้าคงต้องขออภัยด้วย ข้าคงจำเป็นต้องใส่ใจกับตนเองก่อนเป็นอันดับแรก”
ว่าจบ ร่างทั้งร่างของมันก็จมหายเข้าไปในม่านแสง ก้าวเข้าสู่กระบวนการถือกำเนิดใหม่ทันที
อีกสิบตัวตนสุดแกร่งที่เหลือก้าวออกมาข้างหน้า ปากอ้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “มีเพียงการทำลายล้างอันไร้ที่สิ้นสุดเท่านั้นจึงจะนำมาซึ่งความปิติแห่งข้า! ราชาภูติเอ๋ย ข้าขอขอบคุณเจ้ามากที่ทำให้ข้าได้ไปเกิดใหม่ เพื่อที่จะได้พบกับความสุขที่ว่านั่นอีกครั้ง!!”
“จงตายซะ! โลกมนุษย์จงถูกทำลายเสีย! นี่แหละคือฉากที่ข้ารักและใฝ่ฝันถึง”
“ข้าคงต้องขอตัวก่อน ส่วนเจ้าและมนุษย์ทั้งหลายน่ะ ตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจาก ได้-ตาย-ไป-แล้ว!”
สิ้นเสียง พวกเขาก็หายเข้าไปในม่านแสงอันกว้างใหญ่ และมิอาจพบเจอได้อีกเลย
ตัวตนสุดแกร่งอีกหนึ่งร้องตะโกนขึ้น “พวกเจ้าทุกคนลองคิดดูสิ เมื่อเจ้าเลือกที่จะไปเกิดใหม่ตอนนี้ โลกมนุษย์ก็จะถูกทำลาย ลองคิดดูสิว่านี่มันเป็นจะเรื่องที่สะใจและน่ารื่นรมย์ขนาดไหน มาเถอะ จงมากับข้า!”
แล้วเขาก็หายไปในม่านแสง
เหล่าสิบตัวตนสุดแกร่งคนอื่นๆหัวเราะเยาะหยันกู่ฉิงซานและทยอยกันจากไป
พวกมันทั้งหมดได้จากไปแล้ว
หลังจากนั้น เหล่าคนตายมากมายต่างก็เริ่มทำสมาธิ และเปล่งเสียงออกมา “เครื่องจักรคำนวณบุญส่วนบุคคล”
และเมื่อพวกเขาค้นพบว่าเลขบุญของตนเองกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งตนทั้งร่างก็เผยให้เห็นถึงสีหน้าของความหวาดกลัวทันที
อย่างรวดเร็ว พวกเขาก็หายวับไปในม่านแสงทันที
ขณะที่คนบาปบางส่วนที่มีความคิดเห็นเช่นเดียวกับสิบตัวตนสุดแกร่ง ก็หันมายิ้มเยาะให้กู่ฉิงซาน แล้วก็กลับไปเกิดใหม่ทันที
ซึ่งเรื่องนี้ไม่อาจห้ามปรามได้
ไม้เท้าแห่งการจองจำไม่สามารถควบคุมคนตายได้อีกต่อไป
เพราะว่าเวลานี้ คนตายน่ะสามารถเลือกที่จะไปเกิดใหม่ได้ตลอดเวลา ดังนั้นขณะนี้จึงกล่าวได้ว่าพวกเขาได้ตัดการเชื่อมต่อระหว่างตนเองกับนรกออกจากกันแล้ว
กู่ฉิงซานส่ายหัว ในจิตใจรู้ดีว่าตนได้พ่ายแพ้ในเกมนี้เสียแล้ว
เขาหันไปเบื้องหลัง มองไปยังเหล่าสหายทีละคน ทีละคน และเตรียมจะเอ่ยปากสารภาพกับพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย
“เทพธิดากงเจิ้ง ปล่อยตัวอาวุธสงครามทั้งหมด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงครามเฮือกสุดท้าย”
“ท่านประธานาธิบดี ท่านกรุณาพิจารณาเรื่องการระดมกำลังระดับประเทศด้วย”
สองผู้นำพยักหน้า ถอนหายใจออกมา
กู่ฉิงซานเอ่ยต่อด้วยเสียงหม่น “จากนั้น พวกเร-”
“ใจเย็นๆก่อนสิ พวกเรายังมิได้จากไปเสียหน่อย!”
ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็เอ่ยขัดจังหวะเขา
ราชันย์หมาป่า
มันคือเสียงของราชันย์หมาป่าล่ะ!
กู่ฉิงซานชะงักไป
เขาเริ่มทำการสร้างการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณอีกครั้งเพื่อดูคนตาย
แต่กลับพบว่าเจ็ดผู้คุมนรกยังคงอยู่ที่นี่ไม่จากไปไหน
ขณะที่เวลาได้ผ่านไปหลายนาทีแล้ว …
แน่นอน ว่ามีคนตายมากมายจากไปก่อนแล้วเพื่อที่จะไปเกิดใหม่
อย่างไรก็ตาม คนตายส่วนใหญ่ก็ยังคงอยู่ที่นี่
ในการเหนี่ยวนำกระแสจิตวิญญาณของไม้เท้าแห่งการจองจำ ค้นพบว่าคนตายกว่า 8 ใน 10 แม้ทั้งตนทั้งร่างของพวกเขาจะอาบอยู่ในม่านแสงอันไพศาลนี้
แต่พวกเขาก็ยังมิได้จากไป
กู่ฉิงซานกุมไม้เท้าแห่งการจองจำและทำการเชื่อมต่อกับคนตายทั้งหมด
“เหตุใดพวกเจ้าจึงยังไม่กลับไปเกิดใหม่อีก?”
เขาเอ่ยถามด้วยความสับสน
แต่คนตายส่วนใหญ่กลับยังคงปิดปากเงียบ
พวกเขาหันไปมองหน้ากันและกัน ดูเหมือนว่าจะไม่รู้ว่าสมควรตอบกลับไปเช่นไรดี
ชูร่าหญิงเชื่อมต่อกับทุกคนและกล่าวว่า “ท่านราชาภูติ โปรดมองมาที่ข้าสิ”
แล้วทุกคนก็เชื่อมต่อผ่านจิตใจ และมองไปตามคำขอที่ว่านั่น
เห็นแค่เพียงชูร่าหญิงกำลังยืนอยู่ในโถงทางเดินของโรงพยาบาล
ก่อนหน้านี้เจ็ดผู้คุมนรกแยกย้ายกระจัดกระจายกันไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อที่จะต่อสู้สังหารเผ่ามาร ส่วนอาชูร่าหญิงพึ่งจะบินผ่านมายังที่นี่
ในช่วงเวลานั้น เผ่ามารจำนวนมหาศาลได้ร่วงตกลงมา ส่งผลให้โรงพยาบาลขนาดเล็กนี้พังทลายลงไปกว่าครึ่ง
เมื่อชูร่าหญิงค้นพบถึงสถานการณ์นี้โดยบังเอิญ เธอจึงลดระดับลงเพื่อเข้าต่อสู้กับเผ่ามารทันที
เธอกำลังปกป้องสถานที่แห่งนี้อยู่
มองไปยังชูร่าหญิงที่ยืนอยู่ในโถงทางเดินเปิดโล่ง ขณะที่ในมือกำลังถือทารกแรกเกิดไว้ในอ้อมแขน
สีหน้าของเธอได้แสดงออกถึงความอ่อนโยนออกมา
“นี่คือชีวิตใหม่ตัวน้อยๆอีกหนึ่งชีวิต”
เธอกล่าว ขณะที่คนตายทั้งหมดจ้องมองไปยังการปรากฏกายของเด็กทารก
ทารกเหมือนกับจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เด็กน้อยจึงหันไปมองรอบๆด้วยความสงสัย
แต่มันก็ย่อมเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ที่เขาจะไม่สามารถมองเห็นเหล่าวิญญาณนับไม่ถ้วนในความว่างเปล่าได้
หลังจากนั้นไม่นาน เด็กทารกก็รู้สึกเหนื่อยล้าและผลอยหลับไปอย่างรวดเร็ว
เหล่าคนตายอดไม่ได้ที่จะลดเสียงของพวกเขาลง และเอ่ยสนทนากับอย่างแผ่วเบา
“โอ .. แค่เฝ้ามองดูเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้งีบหลับ แต่กลับให้ความรู้สึกสบายใจจริงๆ”
“สหายตัวน้อยผู้นี้ไม่ได้รับรู้เลยว่าโลกของตนกำลังจะถูกทำลาย”
“ไร้สาระหน่า เด็กตัวแค่นี้ จะไปเข้าใจเรื่องพวกนั้นได้ยังไงกัน”
“ถ้าโลกนี้จบสิ้น เด็กคนนี้ก็คงจะจบสิ้นลงเหมือนกันสินะ”
“ผายลมเถอะ! ท่านปู่คนนี้ยังอยู่ที่นี่แล้วโลกจะจบสิ้นลงได้อย่างไร!”
เหล่าคนตายเริ่มทะเลาะกัน
ชูร่าหญิงกล่าว “—ข้ามิได้ต้องการที่จะช่วยโลกหรืออะไรหรอกนะ แต่ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อแค่ตอบแทนความช่วยเหลือของราชาภูติ เพราะจะได้รับบุญเพิ่มขึ้นกับได้รับความโปรดปรานจากเขาก็เท่านั้นเอง”
“แต่เมื่อครู่ ข้าได้บังเอิญค้นพบชีวิตใหม่”
“และข้าหวังว่าเด็กจะได้อยู่กับแม่ผู้ให้กำเนิด … ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน สร้างสรรสิ่งดีๆให้เกิดขึ้น”
ชูร่าหญิงกำลังกล่าวผ่านกระแสจิต
“ยังไงก็เถอะ ตัวข้าน่ะคุ้นเคยกับนรกอยู่แล้ว หากจะต้องกลับไปอีกครั้งมันก็คงจะไม่เป็นอะไรหรอก”
จู่ๆเธอก็เดินมายังทิศทางของกู่ฉิงซาน ปากเอ่ยเสียงกระซิบ “ท่านราชาภูติ หากข้าจะต้องกลับลงสู่ขุมนรก ท่านจะสามารถช่วยข้าอีกครั้งได้หรือไม่?”
เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ เสียงของคนตายทั้งหมดก็ได้หายไป
เงียบงัน
เหล่าคนตายกำลังเฝ้ารอคำตอบของกู่ฉิงซานอย่างเงียบๆ
กู่ฉิงซานกำไม้เท้าแห่งการจองจำในมือแน่น “แม้ว่าจักต้องทำลายนรกทั้งหมด! ข้าก็จะต้องช่วยเจ้าออกมาให้ได้!”
ชูร่าหญิงพยักหน้า ท่าทีการแสดงออกของเธอผ่อนคลายลง
แล้วเธอก็เอ่ยถามออกมาทันใด “แล้วคนอื่นๆเล่า พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร พวกเจ้าเดิมทีก็เป็นคนบาปในนรก แล้วเหตุใดจึงยังคงอยู่ที่นี่อีก?”‘
คนตายทั้งหมดต่างพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่ทว่าไม่มีใครเลยที่พูดคุยในรูปแบบการเชื่อมต่อกับทุกคนเลย
ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไรดี
“ในสนามรบ ข้ายอมรับว่าตนเองได้สังหารผู้คนไปนับไม่ถ้วน ผลคือในชีวิตที่ผ่านมา ตนได้กลายเป็นคนบาป และข้าก็ยอมรับในจุดนี้” ชูร่าชายเอ่ยพึมพำ “ทว่า หากข้าจะต้องจากไปตอนนี้ บอกตรงๆว่าข้าคงรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย”
ราชันย์หมาป่าเอ่ยออกมา “หากข้าและพวกเจ้าไปจากที่นี่ เช่นนั้นแล้วชีวิตนับร้อยนับพันล้านที่นี่จะต้องพินาศสิ้นลงทันที … นี่มันช่างน่าลังเลเสียจริงๆ”
“ถึงแม้ว่าช่วงเวลาที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ครั้งหนึ่งข้าจะได้สังหารศัตรูมานับอนันต์ แต่ตอนนี้ นับเป็นครั้งแรกเลยที่ข้าได้เห็นตรงกับพวกเจ้าทุกคน”
เหล่าคนตายเผลอพยักหน้าออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมเจ้าถึงไม่ไปเกิดใหม่ซะล่ะ” ชูร่าหญิงเอ่ยถาม
“หากทำเช่นนั้น ข้าคงต้องคิดหนักเกี่ยวกับคำถามที่ว่า ‘แล้วคนเป็นเหล่านี้จะสามารถมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปได้อย่างไร’ ปล่อยให้พวกเขาอยู่ท่ามกลามเผ่ามารนับไม่ถ้วนเนี่ยนะ?” ราชันย์หมาป่ากล่าว
“เจ้ายังต้องคิดเกี่ยวกับมันอีกหรือ? รู้หรือไม่ว่าแต่ละนาทีที่เจ้ากำลังขบคิด เลขบุญของเจ้าก็กำลังลดลงไปเรื่อยๆนะ”
ผู้นำของมนุษย์ปีศาจเอ่ยขัด
ในตอนนั้นเอง จู่ๆเสียงร่ำไห้ของทารกก็ดังขึ้น
ทุกคนต่างมองมาเป็นสายตาเดียว
แต่กลับเห็นแค่เพียงชูร่าหญิงที่รีบนำตัวทารกน้อย ส่งกลับคืนสู่มนุษย์ผู้หญิง
มนุษย์ผู้หญิงส่งยิ้มให้เธอ
มีชูร่าหญิงคอยปกป้องเธอและทารกน้อยอยู่ ดังนั้นมนุษย์ผู้หญิงจึงไม่หวาดกลัวใดๆเลย
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าอีกฝ่ายน่ะคือคนตาย และเผ่าอาชูร่ามิใช่มนุษย์ รู้เพียงแค่ว่าหญิงงามตรงหน้าเธอแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่งก็เท่านั้น
ในตอนแรก ผู้หญิงที่ดูเหมือนว่าจะเป็นแม่คนจะเต็มไปด้วยความกังวลและตึงเครียด
แต่เธอก็ยังคงอุ้มทารกไว้ในอ้อมแขน และปากเอ่ยกระซิบปลอบประโลมอย่างแผ่วเบา
ทารกดูเหมือนว่าจะหิว
แม่ก้มลงมองลูกน้อยของเธอ ก่อนจะหันหลังและเริ่มให้นมลูก
และแน่นอน ขณะนี้แหละคนตายก็ยังสามารถเห็นถึงสีหน้าการแสดงออกของเธอได้อย่างชัดเจน
เธอดูสงบ และพึงพอใจ บนใบหน้าของแม่คนๆนี้กำลังเปล่งประกายระยับ น่าหลงไหล
เหล่าคนตายจ้องมองมาที่ฉากนี้
เวลายังคงไหลผ่านไป ทว่าคนตายทุกคนที่ยังไม่จากไปกลับยังคงเงียบ
ราชันย์หมาป่าถอนหายใจออกมาทันใด “นี่มันน่าปวดหัวเสียจริงๆ ในเมื่อตัดสินใจไม่ได้ซักทีว่าจะอยู่หรือจะไป เช่นนั้นก็ขอให้ท่านผู้นำเป็นคนตัดสินใจแทนก็แล้วกัน”
“เจ้าต้องการเวลาอีกนานแค่ไหน?”
“ราชาภูติ อีกนานแค่ไหนว่ากำแพงอุปสรรคที่ใช้ป้องกันโลกจะถือกำเนิดขึ้น?”
กู่ฉิงซานกล่าว “29นาที 17 วินาที”
ราชันย์หมาป่าพยักหน้า “อีก29.17นาทีสินะ งั้นก็ดี”
หลังจากพูดจบ เขาก็หุบปากลง
ขณะที่กระแสจิตที่เชื่อมต่อกันระหว่างคนตายนับล้านๆจมลงสู่ความเงียบ
ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใด
นอกจากนี้
ก็ยังไม่มีใครจากไปอีกด้วย