รอบๆ ผลึกน้ำแข็ง บางครั้งก็มีลวดลายของอำนาจเทวะ ปรากฏขึ้นมาเป็นครั้งคราว
ภายในผลึกน้ำแข็ง หยุนจีสิ้นสติไปแล้ว ไม่สามารถสื่อสารใดๆ กับกู่ฉิงซานได้อีก
ทว่าเมื่อกู่ฉิงซานมาหยุดยืนต่อหน้าผลึกน้ำแข็ง เทคนิคมนตราที่เธอจัดตั้งไว้ล่วงหน้าก็สำแดงผล
แสงสีดำส่องสว่างระยิบระยับออกมาจากหว่างคิ้วของหยุนจี ผลุบออกมาจากผลึกน้ำแข็ง ตกลงเบื้องหน้าของกู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานคิดเล็กน้อย ตัดสินใจเอื้อมมือไปคว้าจับมัน
ทันใดนั้นแสงสีดำก็ผลุบหายเข้าไปในมือของเขา เคลื่อนไหวไปตามแขน สุดท้ายจมลงในทะเลแห่งห้วงสติ
เสียงของหยุนจีดังขึ้นในหูของเขา
“กู่ฉิงซาน ฉันกำลังจะหมดสติลง แต่ฉันได้บันทึกทุกอย่างก่อนหน้านี้เอาไว้หมดแล้ว ดังนั้น ถ้านายมาถึงที่นี่ ไม่ว่าฉันจะมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้วก็ตาม นายก็จะสามารถรับรู้เรื่องราวทั้งหมดได้อยู่ดี”
เสียงค่อยๆ จางหายไป
ภาพอันคมชัดปรากฏขึ้นในทะเลแห่งห้วงสติของกู่ฉิงซาน
มันคือภาพที่เกิดขึ้นหลังจากเขาและหนิงเยว่ฉานออกจากสหพันธ์โลกเก้าร้อยล้านชั้น
เซี่ยเต๋าหลิงรับเอาตุ๊กตาผ้าของหยุนจีมา และกลายเป็นสาวโลลิ
เธอดูเหมือนจะยินยอมรับฟังคำแนะนำ และเลือกที่จะอยู่ในโลกของตัวเอง ตัดสินใจไม่ก้าวสู่ภายนอก
เรื่องราวต่อมา หยุนจี เฉินหวาง และตัวตนทรงอำนาจคนอื่นๆ ได้เข้าร่วมการประชุมระดับสูงของสหพันธ์โลกเก้าร้อยล้านชั้น
ในการประชุม บางคนก็สนับสนุนหอคอยสูง บางคนก็สนับสนุนให้รอดูสถานการณ์ก่อนจะดีกว่า บางคนก็บอกให้ไปดักโจมตีหยั่งเชิงมันก่อนจะถึงที่หมาย และบางคนก็สนับสนุนว่าพวกเขาสมควรที่จะล่าถอยทันทีเพราะไม่อยากเผชิญชะตากรรมเดียวกันกับปืนกลมือ
หลังจากลงคะแนนเสียง สหพันธ์โลกเก้าร้อยล้านชั้นก็ได้ข้อสรุปว่า จะส่งทีมต่อสู้ที่นำโดยท่านหญิงแบล็กซีออกไป
จากนั้น สงครามอันน่าสลดใจก็บังเกิดขึ้น
สถานการณ์สงครามเอนเอียงไปในทิศทางเดียว
ไม่มีใครสามารถทำอะไรกับมอนสเตอร์ประหลาดของสถาบันเทพได้
เมื่อมันเริ่มดูดวิญญาณ มันก็ทำลายหอคอยแห่งความรู้ทันที พันธมิตรทางฝั่งโลกเก้าร้อยล้านชั้นเริ่มจะล่มสลาย
สงครามกำลังจะมาถึงจุดสิ้นสุด
หยุนจี เฉินหวาง และคนอื่นๆ กำลังจะตาย แต่ในช่วงเวลาวิกฤติยิ่ง ทั้งหมดก็ได้รับความช่วยเหลือจากท่านหญิงแบล็กซี
ท่านหญิงแบล็กซีได้ขัดจังหวะการดูดกลืนดวงวิญญาณของมอนสเตอร์ประหลาด และส่งจ้าววงการที่ยังรอดชีวิตทั้งหมดเข้าสู่ดินแดนชิงอำนาจ
แล้วภาพก็สิ้นสุดลงแต่เพียงเท่านี้
กู่ฉิงซานหลับตาลง เฝ้าดูและกลั่นกรองกระบวนการทั้งหมด
ในตอนแรก เมื่อเซี่ยเต๋าหลิงกลายเป็นสาวโลลิ เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอยู่หรอก
แต่ทันทีที่ภาพมันเปลี่ยนไปเป็นฉากสงคราม อารมณ์ของเขาก็ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว มันมืดมนลง หนักอึ้งขึ้น
มอนสเตอร์ตัวนั้นแปลกประหลาดมากเกินไป
ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีประเภทใด ก็ไม่สามารถทำอันตรายต่อมันได้เลย
กู่ฉิงซานลืมตาขึ้น ดวงตาจ้องมองเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย ตกอยู่ในภวังค์สมาธิ
“แบล็กซี…หวังว่าคุณจะรอดชีวิตไปได้นะ…”
เขาพึมพำเบาๆ
ท้ายที่สุดนี้ หากอิงตามคำอธิบายของฉานนู่ ในช่วงเวลาคัดเลือกหน้าใหม่ ท่านหญิงได้เคยพูดอะไรบางอย่างกับตัวเขา
บางที…เธอกับเขาอาจจะมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกันใช่หรือไม่?
แต่น่าเสียดาย ที่ตอนนี้เขาไม่สามารถไปพบเธอ
ระดับของการต่อสู้ มันเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของกู่ฉิงซาน
จากภาพสุดท้าย เหมือนว่าจะไม่มีใครสามารถช่วยเหลือท่านหญิงแบล็กซีได้
กู่ฉิงซานไม่อาจข่มใจคิดไปถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
แต่สำหรับกู่ฉิงซาน เรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาก็คือ…
ท่านอาจารย์ได้ออกไปจากโลกเก้าร้อยล้านชั้นแล้ว เธอถูกส่งกลับไปยังโลกกระจัดกระจาย และไม่น่าจะออกไปไหนอีกสักพัก
เมื่อกู่ฉิงซานคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณหยุนจี
ท่านหญิงแบล็กซีน่ะไม่สามารถหยุดยั้งมอนสเตอร์ประหลาดตัวนี้
ในบรรดาสหพันธ์โลกเก้าร้อยล้านชั้น แม้ว่าผู้เข้าร่วมสงครามบางคนจะทรงพลังเช่นเดียวกันท่านหญิงแบล็กซี หรืออาจเรียกได้ว่าสามารถยืนอยู่ในจุดสูงสุดเช่นเดียวกันก็ตาม แต่กู่ฉิงซานเกรงว่าทั้งหมดจะอยู่ในสภาพเดียวกันกับท่านหญิงแบล็กซี นั่นคือไม่อาจต้านทานเจ้ามอนสเตอร์ได้
หลังจากสงครามในครั้งนี้ สหพันธ์โลกเก้าร้อยล้านชั้นคงจะล่มสลาย ที่เหลือรอดคงถอนตัวกันออกไปอย่างรวดเร็ว
มันเป็นเรื่องน่าขันจริงๆ ทั้งที่เดิมที โลกไม่ปลอดภัยสมควรจะเป็นโลกกระจัดกระจาย แต่เวลานี้มันดันปลอดภัยยิ่งกว่าในโลกเก้าล้านชั้นซะอีก
สรุปได้ว่าท่านอาจารย์ไม่น่าจะได้รับอันตรายใดๆ
ดังนั้นตอนนี้…
กู่ฉิงซานเพ่งมองผลึกน้ำแข็ง และค่อยๆ เอื้อมมือออกไป
เขาวางมือตนลงบนผิวผลึกน้ำแข็ง
บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม เส้นแสงหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ไอเท็ม ผลึกน้ำแข็งอำนาจเทวะ”
“คำอธิบาย นี่คือผลึกน้ำแข็งแห่งกฎเกณฑ์ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของอำนาจเทวะ”
“พงศาวดารวันสิ้นโลก ผลึกน้ำแข็งประกอบไปด้วยอำนาจเทวะ ซึ่งเป็นเทคนิคลับของทวยเทพ ในครั้งอดีตมันเคยปรากฏขึ้นมาอยู่หลายครั้ง โดยมีหน้าที่ปกป้องทุกสรรพชีวิตในช่วงเวลาสำคัญ”
“หากคุณต้องการดูเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับมัน โปรดจ่ายหนึ่งพันแต้มพลังวิญญาณ”
เส้นแสงหิ่งห้อยปรากฏขึ้น แล้วก็หยุดกึกลง
จากนั้น ในส่วนแถบด้านล่างของหน้าต่างเทพสงคราม ตรงปุ่มฟังก์ชัน ทุกอย่างล้วนเป็นสีเทาดำทั้งหมด
ยกเว้นก็แต่ตรง ‘วิชายุทธ์เทพสงคราม’ ที่กำลังส่องสว่าง
มันเปล่งประกายสุกใส และค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากเบื้องล่าง มาหยุดลงใจกลางหน้าต่างระบบเทพสงครามในที่สุด
เสียงจักรกลอันเย็นเยียบของระบบเทพสงครามดังขึ้น
“ค้นพบเทคนิคลับของเทพวิญญาณ”
“ตัวเลือกพิเศษได้ปรากฏขึ้น”
“ระบบขอร้องถามดังต่อไปนี้”
“ฉันขอถามว่าคุณต้องการที่จะอัปเกรดฟังก์ชันวิชายุทธ์เทพสงคราม เพื่อขยายขอบเขตในการเรียนรู้ของมัน ให้ครอบคลุมไปถึงระดับที่สามารถเรียนรู้สกิลของเทพวิญญาณหรือไม่?”
กู่ฉิงซานกล่าวทันที “แน่นอน”
“ระบบยอมรับความประสงค์ของคุณแล้ว และจะทำการอัปเกรดวิชายุทธ์เทพสงคราม เพื่อให้คุณสามารถเรียนรู้สกิลของทวยเทพได้”
“ตอนนี้ โปรดเตรียมหนึ่งล้านแต้มพลังวิญญาณ เพื่อทำการอัปเกรดวิชายุทธ์เทพสงครามให้สมบูรณ์ด้วย”
หนึ่งล้านแต้มพลังวิญญาณ!
กู่ฉิงซานสูดลมหายใจลึก
ตอนนี้เขามีแค่เจ็ดหมื่นสามพันแต้มพลังวิญญาณเอง
เดิมที เขามั่นใจว่าแต้มพลังวิญญาณเท่านี้ ก็น่าจะเพียงพอต่อการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆแล้ว
แต่ใครจะไปคาดคิด ว่าหากเขาต้องการที่จะเรียนรู้สกิลของเหล่าทวยเทพ จำเป็นต้องใช้แต้มพลังวิญญาณอีกกว่าเก้าแสนสองหมื่นเจ็ดพันแต้ม!
นี่มันคือจำนวนที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน
อย่างไรก็ตาม…
เกือบทุกคนในดินแดนชิงอำนาจ ทั้งหมดกำลังเลือกเดินไปในเส้นทางสู่ทวยเทพ
แต่ตัวเขาเองไม่ได้เป็นผู้ศรัทธา หากในอนาคตต้องต่อกรกับสาวกที่สามารถจุดประกายต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่ตัวเขายังไม่ได้ครอบครองสกิลใดๆ ที่แข็งแกร่งเลย อะไรๆ มันก็คงจะยาก
ดังนั้น การอัปเกรด ‘วิชายุทธ์เทพสงคราม’ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เขาจะต้องทำ
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลลับที่ถูกซุกซ่อนไว้ในเหตุการณ์ดังกล่าวอีก
อย่างเช่น มันชัดเจนว่าท่านหญิงแบล็กซีสามารถทำการแช่ผลึกน้ำแข็ง ช่วยเหลือให้เหล่าสิ่งมีชีวิตในสนามรบสามารถรอดชีวิตมาได้
ดังนั้นเธอก็สมควรที่จะเป็นเทพวิญญาณ!
ต่อให้ไม่ใช่เทพวิญญาณก็ตาม แต่จะต้องเป็นการดำรงอยู่ที่ใกล้เคียงกับเทพวิญญาณแน่ๆ
แล้วถ้าเธอเป็นเทพจริงๆ แล้วทำไมถึงเลือกซ่อนตัวอยู่ในโลกเก้าร้อยล้านชั้นมาเป็นระยะเวลานานถึงขนาดนี้กัน?
เธอมีเป้าหมายอะไรกันแน่?
กู่ฉิงซานคิดเกี่ยวกับมันอย่างเงียบๆ
นับว่าโชคยังดี ที่ดูจากพฤติกรรมของเธอแล้ว บ่งบอกว่าเธอกำลังช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ส่งเสริมให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นในช่วงเวลาวิกฤติ
กู่ฉิงซานคิดและเอ่ยถาม “ฉันไม่สามารถอัปเกรดได้ในตอนนี้ เอาไว้หลังจากได้รับแต้มพลังวิญญาณมากพอแล้วค่อยมาว่ากันอีกครั้ง”
“แน่นอนว่าการยกระดับวิชายุทธ์เทพสงคราม คุณจะต้องมีหนึ่งล้านแต้มพลังวิญญาณ ขณะเดียวกันระบบก็จะสามารถตรวจจับการดำรงอยู่ของเทคนิคลับบางอย่างของเทพวิญญาณได้”
กู่ฉิงซานวางมือของเขาลงบนผลึกน้ำแข็งและกล่าว “แบบอันนี้น่ะหรือ?”
“ถูกต้อง ผลึกน้ำแข็งนี้มันประกอบไปด้วยสกิลของเทพวิญญาณ ดังนั้นมันจึงสามารถกระตุ้นเงื่อนไขการอัปเกรดของวิชายุทธ์เทพสงครามได้”
“เข้าใจแล้ว ฉันจะรีบไปหาแต้มพลังวิญญาณมาให้เร็วที่สุด”
กู่ฉิงซานกล่าวจบ ก็ผละมือออก
เส้นแสงหิ่งห้อยทั้งหมดบนหน้าต่างเทพสงครามหายไป
ทุกอย่างกลับคืนสู่ปกติ
กู่ฉิงซานไม่รีบร้อนที่จะทำลายผลึกน้ำแข็ง
เนื่องเพราะอำนาจเทวะของมันที่อยู่ภายใน กำลังคอยหล่อเลี้ยง รักษาชีวิตของหยุนจีเอาไว้
หากเขาทำลายผลึกน้ำแข็ง แต่ยังไม่มีหนทางที่จะสามารถช่วยเหลือเธอได้ นั่นคงไม่ต่างอะไรกับการฆ่าเธอทางอ้อม
กู่ฉิงซานเฝ้าสังเกตผลึกน้ำแข็งอย่างระมัดระวัง
มันอุดมไปด้วยอำนาจเทวะ ที่แสนจะยิ่งใหญ่
ด้วยเหตุนี้ ในระยะเวลาสั้นๆ หยุนจีก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ
แต่สถานการณ์เช่นนี้ ไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดไป
อำนาจเทวะ ยิ่งนานวัน ย่อมต้องยิ่งเสื่อมถอย
เมื่อถึงเวลานั้น หยุนจีก็จะตายลงอย่างไม่ต้องสงสัย
กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว
หยุนจีตัวตนทรงอำนาจระดับจ้าววงการ ในโลกเก้าร้อยล้านชั้นเธอคือบุคคลที่มีชื่อเสียง
แต่ตอนนี้เธอกำลังจะตาย
แล้วตัวเขาจะต้องใช้วิธีใดกันนะ ถึงจะสามารถช่วยชีวิตจ้าววงการคนนี้เอาไว้ได้?
………………………………….