กู่ฉิงซานเคยได้เหรียญมา ทำให้สามารถโคจรพลังเยือกแข็งจากอากาศบางได้
ตอนแรก เขาคิดว่ามันคือไอเทมวิเศษที่ถูกออกแบบโดยเทพ
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาค่อยๆ พบว่าเหรียญมีหน้าที่และความลับที่แสนสำคัญมากกว่าที่คิด
เขาถึงขั้นได้เคยได้เหรียญปลอมที่สามารถกระโดดสูงได้ห้านาที
ตอนนี้เขาทราบความจริงเกี่ยวกับเหรียญแล้ว
นี่คือสิ่งที่สร้างโดยเผ่าพันธุ์มนุษย์ในยุคโบราณ มันเต็มไปด้วยความลับและพลังอันน่าทึ่ง
“ข้าว่าพวกเราเผ่าพันธุ์เทพได้เลียนแบบเหรียญจำนวนมากจากยุคโบราณขึ้นมา”
มนุษย์แสงกล่าวว่า “ใช่ หลังจากท่านตายไป ราชาเทพองค์ใหม่จะค้นพบความลับของเหรียญ ถึงตอนนั้น เหรียญจำนวนมากจึงถูกเลียนแบบ นอกเหนือจากสามเหรียญที่ข้ากล่าวถึงไปเมื่อครู่ การเลียนแบบเหรียญอื่นยังคงดำเนินต่อไป”
กู่ฉิงซานขยับคอด้วยความไม่สบายแล้วกล่าวว่า “ไม่สบายใจเลยที่ได้ยินคนอื่นพูดสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากข้าตายเนี่ย”
มนุษย์แสงกล่าวว่า “หากท่านติดตามข้าเพื่อไปดูประวัติศาสตร์ ท่านจะปรับตัวได้เองอย่างช้าๆ ”
กู่ฉิงซานถามอย่างเรียบง่ายว่า “แล้วสามเหรียญสุดท้ายอยู่ที่ไหนล่ะ”
“ตอนพวกเรามีความสัมพันธ์อันดีกับเผ่าพันธุ์บรรพกาล พวกมันยอมให้พวกเราติดต่อด้วย ทำให้มีโอกาสพบความลับของเหรียญเข้า พวกมันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งนั้น แต่เหรียญกลับอยู่ฝั่งนั้นเสียได้” มนุษย์แสงกล่าว
“เจ้าไม่ได้ลองเอาสามเหรียญนี้กลับมาหรือ” กู่ฉิงซานถาม
“เผ่าพันธุ์เทพจะถูกจับตาทันทีที่เข้าโลกบรรพกาล ดังนั้นพวกเราจึงเลียนแบบเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณเพื่อสร้างวิชาที่สามารถปลอมเป็นมนุษย์ได้ ข้าใช้วิชานี้กับท่าน พวกเราลองวิชานี้หลายครั้งจนในที่สุดก็ใช้มันได้ ทำให้ได้สามเหรียญนั้นมา” มนุษย์แสงกล่าว
“แล้วยังจะมัวรออะไรอีก เจ้าสามารถใช้พลังของเหรียญได้อย่างเต็มกำลังแล้วนี่” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยท่าทีแปลกประหลาด
“ไม่ได้” มนุษย์แสงถอนหายใจ “สามเหรียญนี้ต้องถ่ายพลังจากตัวแทนของพวกมันก่อนจึงสามารถใช้งานได้ พวกเราเชื่อมต่อกับต้นไม้หนามโบราณผ่านเหรียญ ทำให้พบสถานที่ที่ทูตสวรรค์แห่งบาปหลับใหลอยู่”
“เพราะเหรียญ ต้นไม้หนามโบราณจึงเต็มใจช่วยพวกเราหนหนึ่ง”
มนุษย์แสงกล่าวต่อว่า “ส่วนทูตสวรรค์แห่งบาป พวกเราปลุกนางด้วยเหรียญได้ แต่พอนางตื่นขึ้นมา นางจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในยุคโบราณราวกับได้หลงลืมทุกสิ่งไปสิ้น”
กู่ฉิงซานหรี่ตาแล้วกล่าวว่า “เป็นแบบนี้ได้อย่างไร หรือเป็นเพราะเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณเกรงว่านางจะจำวิธีใช้พลังของสามเหรียญนี้ได้”
มนุษย์แสงกล่าวว่า “เป็นไปได้มาก ดังนั้นพวกเราบอกไปว่านางคือผู้สร้าง จากนั้นก็ให้การดูแลอย่างดีเพื่อให้นางยอมรับตัวตนอย่างค่อยเป็นค่อยไป”
กู่ฉิงซานเงียบ
มันกลายเป็นแบบนี้นี่เอง
กลายเป็นว่านางเคยอยู่ในยุคโบราณแต่สูญเสียความทรงจำ
เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วน เด็กผู้หญิงที่ชื่อเสี่ยวซีก็บริสุทธิ์ดุจกระดาษขาวราวกับจะถูกธรรมชาติล่อหลอกเอาได้…
ดูเหมือนกองการ์ดที่นางครอบครองจะไม่ได้ถูกสร้างโดยเผ่าพันธุ์เทพ แต่เป็นพลังมรดกจากเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณ
ไม่สงสัยเลยว่าถึงมีแต่การ์ดระดับมรกตที่ทรงพลังเท่านั้น!
หากพลังของนางอยู่ในช่วงรุ่งเรือง ยิ่งไม่อาจจินตนาการถึงพลังของการ์ดที่นางครอบครองได้เลย
ด้วยตัวตนของพละกำลังของเสี่ยวซี ไม่สงสัยเลยว่านางจะถูกอิจฉาโดยเทพในท้ายที่สุด!
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างสงบว่า “ในสามกลุ่มอำนาจ เจ้าได้มาสองแล้ว เหลือเพียงราชามารแห่งอารัมภบทที่น่าจะเป็นบัญญัติของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เจ้าไม่สามารถหยิบยืมพลังของบัญญัตินี้ได้หรือ”
มนุษย์แสงกล่าวว่า “นี่คือจุดที่ยากที่สุด ราชามารแห่งอารัมภบทต้องเป็นผลผลิตจากหมื่นสวรรค์สิ้นโลกออนไลน์: บัญญัติของราชามาร เผ่าพันธุ์มนุษย์สามารถปรากฏตัวขึ้นมาได้ แต่พวกเราจะไม่ยอมให้ราชามารปรากฏขึ้นมาได้เด็ดขาด”
“ทำไมล่ะ” กู่ฉิงซานถาม
“เพราะการถือกำเนิดของราชามารเป็นตัวแทนของหมื่นสวรรค์สิ้นโลกออนไลน์: บัญญัติของราชามารที่เติบโตเต็มที่ นี่คือองค์ประกอบสำคัญในการปลุกบัญญัติอื่นขึ้นมา ตราบที่ราชามารยินยอม เขามีความสามารถที่จะปลุกบัญญัติอื่นขึ้นมาได้ พวกเราจะยอมให้สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นไม่ได้”
น้ำเสียงของมนุษย์แสงเย็นชาและเงียบขรึมขึ้นมา “ทันทีที่บัญญัติอื่นตื่นขึ้น เผ่าพันธุ์มนุษย์จะเข้าสู่ยุคที่เติบโตและมั่งคั่งอย่างรวดเร็ว การปกครองของพวกเราก็จะจบสิ้น”
กู่ฉิงซานถามกลับว่า “เช่นนั้นทำไมเจ้าถึงนำบัญญัตินี้ออกมาตั้งแต่แรกล่ะ”
มนุษย์แสงตอบว่า “บัญญัติมาจากการตระเตรียมของเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณก่อนที่จะออกมา เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้ พวกเราและเผ่าพันธุ์บรรพกาลพยายามสุดความสามารถที่จะเปลี่ยนบัญญัติที่ปรากฏขึ้นมา”
กู่ฉิงซานจมสู่ความคิด
กลายเป็นว่ารากฐานของทุกสิ่งในกระบวนการสุดท้ายมาอยู่ที่ราชามารแห่งอารัมภบทสินะ
สำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ บัญญัตินี้คือตัวตนที่ดุร้ายที่สุดในบรรดาบัญญัติทั้งหมด เพราะมีนิสัยยั่วยุและล่อหลอกของเทพอยู่กับตัว ทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์มองว่าบัญญัติของราชามารคือศัตรู
บัญญัติของราชามารไม่ควรเป็นที่ยอมรับโดยผู้คนส่วนใหญ่อยู่แล้ว เพราะสุดท้ายจะมีเพียงคนเดียวที่สามารถไปถึงบัญญัตินี้จนกลายเป็นราชามารได้
ทันทีที่ราชามารปรากฏตัว บัญญัติอื่นจะค่อยๆ ตื่นขึ้นมา เผ่าพันธุ์มนุษย์จะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
เผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณคงคาดไม่ถึงว่าหลังจากผ่านมาหลายปี บัญญัติยังอยู่ในสภาพหลับใหล พวกพ้องยังดิ้นรนกับเป็นทาสของเทพ เผ่าพันธุ์บรรพกาลหรือแม้กระทั่งเทพนิรันดร์ที่แท้จริง
นี่ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้ายิ่งนัก
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างมีนัยว่า “หลังจากข้าตาย ราชาเทพในอนาคตจะรับมือกับราชามารแห่งอารัมภบทได้อย่างไร”
“ทันทีที่มีใครใช้งานบัญญัติ ทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์และพวกเราจะตามหาเขาเจอจนฆ่าได้ทันท่วงที” มนุษย์แสงกล่าว
“พวกเราเผ่าพันธุ์เทพก็ใช้งานบัญญัติแล้วไม่ใช่หรือ”
“น่าเสียดาย แต่ยังไม่ได้ใช้งาน”
กู่ฉิงซานกล่าวอีกครั้งว่า “ถ้างั้น ข้าก็เหลือคำถามสำคัญอีกข้อเดียว ไม่ว่ายังไงก็มีเพียงราชามารที่สามารถถ่ายทอดพลังบัญญัติของราชามารไปที่เหรียญเพื่อผสานกับสองเหรียญที่เหลือได้สินะ”
มนุษย์แสงตอบว่า “ไม่ เมื่อบัญญัติวิวัฒนาการถึงขั้นที่ราชามารจุติลงมา ผู้ใช้งานบัญญัติในขั้นนั้นก็สามารถทำแทนได้ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น พละกำลังสุดท้ายก็จะอ่อนลงไปมาก”
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็มีทางคลี่คลายแล้ว”
มนุษย์แสงตกตะลึง
“ท่าน…มีทางหรือ” เขาถามด้วยอาการสั่นสะท้าน
เผ่าพันธุ์เทพพยายามอย่างหนักจนเหนื่อยล้าแต่ก็ไม่สามารถหาทางรับมือกับทุกสิ่งได้ ตอนนี้ เทพแห่งความเย็นยะเยือกผู้เป็นราชาเทพกลับกล่าวว่ามีทาง
“ฟังนะ มันเป็นแบบนี้” กู่ฉิงซานกรพแอมลำคอแล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “พวกเราต้องเลือกใครบางคนมาช่วยข้าใช้งานบัญญัติของราชามาร แต่พวกเราต้องควบคุมกระบวนการอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้คนใช้กลายเป็นราชามาร รอจนกระทั่งให้ทั้งสามพลังรวมกันได้สำเร็จจึงค่อยฆ่าทิ้ง”
มนุษย์แสงไม่พูด
เขาถึงกับผงะกับความคิดนี้
ในประวัติศาสตร์อันยาวนาน เผ่าพันธุ์เทพไม่เคยคิดที่จะยอมให้บัญญัติและมนุษย์ร่วมมือกัน พวกเขายิ่งไม่กล้าคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองแม้แต่นิดเดียว
นี่เป็นแผนที่อันตรายมาก ไม่ต่างจากการเต้นรำที่ขอบผา
ทว่า การใช้มนุษย์เพื่อให้ได้พลังของบัญญัตินั้นมา จากนั้นค่อยฆ่าทิ้ง ภัยคุกคามทั้งหมดก็จะไม่คงอยู่อีกต่อไป ในเวลาเดียวกัน เป้าหมายก็ยังบรรลุอีกด้วย
หากคิดแบบนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดูง่ายนัก
แบบนี้นับว่าทำได้จริง!
แม้กระทั่งในก้อนน้ำแข็งยักษ์ ดวงตาที่หลับอยู่ของลั่วปิงหลีก็ขยับเล็กน้อย
ฉากนี้ไม่เป็นที่สังเกตโดยกู่ฉิงซานและมนุษย์แสง
ตำหนักราชาเทพกลับมาเงียบสงัด
ผ่านไปสักพักใหญ่
มนุษย์แสงกล่าวอย่างยากลำบากว่า “ต่อให้ไม่ใช่ราชามาร แต่บัญญัติจะได้รับการพัฒนาสู่ขั้นการถือกำเนิดของมาร ผู้ฝึกฝนมนุษย์คนนั้นจะกลายเป็นผู้มีพลังที่ยากจะคาดเดาจนยากจะสังหารได้”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างสงบว่า “เทพทุกองค์ก็ต้องร่วมมือกัน”
มนุษย์แสงเงียบไปอีกพักใหญ่
ท้ายที่สุด เขากล่าวว่า “นี่เป็นการเดิมพัน ถ้าไม่ระวังก็จะล้มเหลว”
“ในอนาคต พวกเราทั้งหมดก็ต้องตาย ทำไมถึงไม่เดิมพันตั้งแต่ตอนนี้ล่ะ” กู่ฉิงซานกล่าว
มนุษย์แสงตอบว่า “ถ้าท่านอยากทำแบบนี้ ท่านก็ต้องหานักพรตมนุษย์ที่เหมาะสม คิดว่าใครกันที่จะรับหน้าที่นี้ได้”
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “แน่นอนว่าก็ต้องเป็นกู่ฉิงซานยังไงล่ะ”
มนุษย์แสงผงะก่อนถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ทำไมต้องเป็นเขาล่ะ”
“เพราะกู่ฉิงซานมาจากอนาคต เข้าใจบัญญัติและสามารถรับของแบบนี้ได้อย่างง่ายดาย”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างอดทนว่า “ตามที่เทพจินเยี่ยนว่า ในอนาคต ราชามารแห่งอารัมภบทจะยังไม่ให้กำเนิดราชามารอย่างแท้จริง บัญญัติอีกมากมายก็จะไม่ตื่นขึ้น เผ่าพันธุ์มนุษย์จะยังเกลียดราชามารแห่งอารัมภบทอยู่ดี”
“ดังนั้นเขาไม่มีทางคิดที่จะกลายเป็นราชามาร ไม่มีทางคิดที่จะปลุกบัญญัติอื่นขึ้นมาอีก เขาไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ”
มนุษย์แสงถามว่า “แล้วทำไมเขาต้องช่วยพวกเราล่ะ”
“ดาบศักดิ์สิทธิ์ ข้าสัญญาว่าจะช่วยเขาเอาดาบศักดิ์สิทธิ์มาให้” กู่ฉิงซานกล่าว
“ดาบศักดิ์สิทธิ์หรือ”
“ใช่ จินเยี่ยนกล่าวว่ากู่ฉิงซานมีดาบพิภพอยู่กับตัว ดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพทั้งสองเล่มคือการสมคบคิดของเทพนิรันดร์ที่แท้จริงและยังเป็นอาวุธที่อีกฝ่ายต้องการหลอมอีกด้วย”
กู่ฉิงซานให้เวลากับมนุษย์แสงเพื่อขบคิดสถานการณ์เหล่านี้
ผ่านไปสักพัก เขากล่าวว่า “ตอนดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพทั้งสองเล่มปรากฏขึ้น เทพนิรันดร์ที่แท้จริงจะต้องปรากฏตัวอย่างแน่นอน มันคงรอดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพอยู่ก่อนแล้ว”
“หากไม่มีพวกเราช่วย กู่ฉิงซานจะต้องตาย”
“ดังนั้นพวกเราต้องช่วยเขาใช้งานบัญญัติก่อนช่วยเอาดาบศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นผู้ใช้งานที่อยู่ในสภาพการมาถึงของราชามาร สุดท้ายใช้เขาเพื่อบรรลุการผสานสามพลังเข้าด้วยกัน พอถึงตรงนั้น”
“พอถึงตรงนั้น” มนุษย์แสงกล่าวตามโดยไม่รู้ตัว
“พอถึงตรงนั้นเขาก็สามารถไปพบกับเทพนิรันดร์ที่แท้จริงเพื่อรับความตายด้วยตัวเองได้ยังไงล่ะ”
เสียงของกู่ฉิงซานแผ่วเบา “ตอนนี้ พวกเราจะพึ่งพลังที่อยู่เหนือมิติและเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงจุดจบของยุคนี้และยังเป็นการหลีกเลี่ยงการสังหารพวกเราจากเผ่าพันธุ์บรรพกาล”
“ต่อให้การทำแบบนั้นจะดึงดูดความสนใจจากตัวตนอันน่าสะพรึงที่ไม่รู้จัก แต่นั่นคือสิ่งที่เทพนิรันดร์ที่แท้จริงและกู่ฉิงซานจะต้องเผชิญ”
“ส่วนพวกเราเผ่าพันธุ์เทพจะก้าวข้ามมิติและเวลาเพื่อไปสู่โลกอนาคตในอีกหลายหมื่นปีต่อจากนี้”
“สหายทั้งหมดของเผ่าพันธุ์เทพก็จะอยู่รอด”
“โชคชะตาของเผ่าพันธุ์เทพจะถูกเปลี่ยนไปเพราะพวกเรา”