(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki – ตอนที่ 81

“อ้า ไม่นึกเลยว่ามาเที่ยวบ้านเรียวมะแล้วจะได้พบกับโคทาโร่ด้วย……ตัดสินใจได้ดีเลยล่ะ ฉันหาโอกาสที่จะได้คุยกันแบบนี้มาตลอดเลยนะ อืม เพิ่งจะย้ายโรงเรียนมาแค่2วันด้วยใช้คำว่า’มาตลอด’มันคงดูแปลกๆสินะ”

 

……แมรี่ซังเป็นคนช่างพูด แต่คนละความหมายกับชิโฮะ

ถึงเธอจะมีส่วนที่ชอบพูดเรื่องที่ไม่ได้ถามออกมาเหมือนกัน แต่ทั้ง2คนนั้นไม่เหมือนกันเลย

 

ชิโฮะนั้นพูดไปตามอารมณ์ ถึงทั้งการออกประเด็นจะแย่ และบางครั้งก็ไม่รู้ว่าเธอจะพูดอะไร แต่ตอนที่คุยกันผมก็ไม่เคยคิดเลยว่าไม่สนุก

 

แต่ว่า แมรี่ซังนั้นพูดตามโลจิค เพราะมีความยิบย่อยเรื่องว่า เกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เวลาพูดด้วยจึงไม่สนุก ถึงจะเข้าใจว่าเธอพูดอะไร แต่ฟังแล้วไม่ชวนให้รู้สึกดีเลย

 

เธอนั้นจะต่างกับชิโฮะที่พูดไม่หยุดแบบสิ้นเชิง เพราะแบบนั้น ในจุดที่ไม่น่าดูนั่นจึงแสดงออกมาชัดเจน

 

“….น่าน่า ไม่ต้องระวังกันแบบนั้นก็ได้แท้ๆ ที่จริงฉันก็ไม่ได้แคร์อยู่แล้วว่าโคทาโร่จะรู้สึกดี หรือไม่สบายใจอยู่แล้วนะ? ก็แค่ สิ่งที่ฉะนอยากจะรู้นั้น ก็อยากจะรู้ทั้งหมด”

 

“หรือก็คือไม่สนความสมัครใจของผมหรอ?”

 

“ถ้าคิดแบบนั้น ก็อาจจะแบบนั้นก็ได้เน้อ เอาเถอะ ดูสิ…..ลีมูซีนคันนี้น่ะ คิดว่ากำลังมุ่งหน้าไปที่ไหนล่ะ? ใช่บ้านของโคทาโร่จริงๆรึป่าวน้า? อย่างเช่น ฉันอาจจะมีอารมณ์อยากจะบังคับให้นายออกจากรถไปก็ได้ ตอนนั้น นายคิดว่าจะรู้มั้ยว่าอยู่ที่ไหน?”

 

“…..ขู่หรอ”

 

ผมตกใจและมองออกไปนอกหน้าต่าง

แต่ทว่า ผมไม่รู้ว่าเธอใช้วิธีแบบไหน แต่ผมไม่เห็นอะไรด้านนอกเลย

 

แบบนี้ผมก็ไม่รู้เลยว่ากำลังอยู่ที่ไหน

ถ้าหากว่า……ผมโดนให้ลงกลางภูเขาสักที่ที่ไม่รู้จักล่ะก็……แค่คิดแบบนั้น ก็หวาดกลัวแล้ว ไม่สิ ถึงไม่น่าจะเป็นขนาดนั้น แต่ถ้าเป็นแมรี่ซังอาจจะทำได้โดยไม่คิดมาก

 

“รถคันนี้ทำมาพิเศษเลยนะ? ดูสิ ถ้าฉันรู้สึกว่าไม่อยากเห็นวิวด้านนอกละก็ ตอนนั้นก็แค่กดสวิตช์ปิด พอทำแบบนั้น ก็จะไม่เห็นนอกหน้าต่างเลย มันเรียกว่าฟิล์มควบคุมแสงน่ะ รู้จักไหม?” (คนแปลก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้เท่าไร ไม่รู้แบบเดียวกับฟิล์มกรองแสงรึป่าว)

 

ーไม่ได้การ

สัญชาติญาณบอกผมว่าอย่าขัดขืน

คนคนนี้ไม่ไหวแล้ว อันตรายมาก เพราะเป็นพวกสุขนิยมที่ถ้าตัวเองสนุก จะอะไรก็ช่าง จึงไม่มีเหตุผลให้ต่อต้านเลย สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเธอจะต้องใช้อะไร เธอก็จะเอาของที่ต้องการมาไว้ในมือให้ได้

 

แต่ว่า ถ้าลองคิดกลับกัน พวกนี้ถ้าได้รู้สิ่งที่อยากรู้แล้ว ความสนใจก็จะหายไปเองโดยเร็ว ตอนนั้นคงโดนปลดปล่อยทันที

 

ถ้าปฏิเสธไป ก็มีแต่จะทำให้เวลายืดยาวขึ้น เพราะอย่างงั้นผมเลยคิดจะทำตัวว่าง่าย

 

“เข้าใจแล้ว อยากรู้อะไร? ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากรีบกลับเร็วๆ”

 

“หืーม เข้าใจอะไรง่ายดีจังน้า อืม มองสถานการณ์ด้วยตานก(ภาพรวม)จริงๆด้วย เอาเถอะ ฉันชอบการสนทนาแบบนี้อยู่แล้วด้วย สามารถทำต่อไปได้ตลอดเลยน่ะ”

 

“……ยอมเชื่อฟังแล้วเนี่ย อย่าแหย่กันมากเลย”

 

ผมยกสองมือขึ้นให้เหมือนยอมแพ้

จากนั้นแมรี่ซังก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างพอใจ และเธอก็เอาเท้าขึ้นไปวางบนโต๊ะ

 

“นิฮิฮิ ใช่แล้ว ท่าทางแบบนั้นแหละดี……แค่ยอมเชื่อฟังฉันเงียบๆแค่นั้นก็ดีแล้ว”

 

จากนั้น เธอก็ถามคำถามมามากมาย

 

“ครอบครัว?” “พี่น้อง?” “ผลการเรียน?” “ความฝันในอนาคต?” “รักแรกตอนไหน?” “คนแบบไหนคือสเป็ค?” “เพื่อนใครบ้าง?” “คนที่สนิทด้วยที่สุด?” “กลับกันและที่เกลียด?”

 

ーเป็นต้น

บางที แม้ว่าแมรี่ซังอาจจะรู้อยู่แล้ว แต่เธอก็ถามเพื่อยืนยันข้อมูลที่เธอมี

 

พอทำแบบนั้นแล้ว เธอก็สืบค้นประーーสืบค้นเบื้องหลังของผม

เธอกำลังพยายามแทรกแซงเรื่องราวของนากายะมะโคทาโร่ยันส่วนละเอียดยิบย่อย

 

จากนั้น ความรู้สึกของเธอก็ออกมาพร้อม1คำพูด

 

“เป็น’ตัวประกอบ’โดยสมบูรณ์สินะ อดีตของโคทาโร่ น่าเบื่อจังน้า ทั้งจืดชืดและน่าเบื่อ”

 

…..ผมรู้อยู่แล้ว จึงไม่ได้ช็อคอะไร

แต่ถึงแบบนั้น คำพูดของชิโฮะที่ว่า’โคทาโร่คุงเป็นคนพิเศษขึ้น’ปรากฏขึ้นมาบนหัวผม

 

พอผมคิดถึงคนน่ารักคนนั้นแล้ว น่าแปลกมากที่ผมยิ้มออกมาได้………

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

(wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga suki

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง (wnแปล)Shimotsuki-san wa mobu ga sukiผมนั้น ก่อนที่จะขึ้นชั้นมัธยมปลาย ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองเป็นตัวประกอบ ไม่สิ ผมคิดว่าตัวเองคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า’ตัวเอก’ด้วยซ้ำ แต่ทว่า ตั้งแต่ที่ขึ้นชั้นมัธยมปลายและได้พบกับหมอนั่น ผมก็รู้ตัวทันทีว่าผมเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset