เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! – ตอนที่ 111: โซล่า เลนนอน (1)

< < 91Sec1 > >

ตรงหน้ายูจิคือ ‘โซล่า เลนนอน’ เทพธิดาผู้สร้าง ผู้ที่พลิกโฉมวิทยาการณ์เวทมนตร์ของโลกใบนี้

สำหรับวงการอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ยูจิเฝ้าติดตามมาตลอด เธอคือจุดสูงสุด คือไอดอลของทุกๆคนในวงการ หรือไม่ก็เป็นคนที่น่านับถือในความสามารถ

เทพแห่งวงการอุปกรณ์เวทย์–เทพธิดาผู้สร้าง นิยามสั้นๆก็ประมาณนี้

เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เปรียบได้ดั่งไอดอล ยูจิก็แก้มแดง ตาเป็นประกาย ตัวแข็ง ขาสั่นมือสั่นหงิกๆ

สภาพอย่างกับคนคลั่ง

“วะ วะ หวัดดีครับ คือผมชื่อยูจิ”

“ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก ชื่อโซล่า เลนนอนค่ะ”

เธอแนะนำตัวเหมือนปกติ เหมือนว่าตัวเองไม่ได้พิเศษอะไร ยูจิรู้สึกประทับใจและพยายามเก็บอารมณ์ตื่นเต้นของตัวเองไว้

“ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก คุณ..เลนนอน?”

“เรียกว่าโซล่าเถอะค่ะ”

“คะ ครับ คุณโซล่าสินะครับ”

ยูจิเกร็งไม่ไหวแล้ว ไม่ได้มองหน้าโซล่าเลย เพราะรู้ตัวว่าถ้ามองตอนนี้ ตัวเองได้ไม่เป็นอันได้พูดอะไรต่อแล้วแน่ๆ

“คะ คือ คือ..”

“หายใจเข้า หายใจออกนะค่ะ คุณยูจิ”

โดนไอดอลเรียกชื่อ—-ยูจิรู้สึกว่าตัวเองตายตอนนี้ก็ไม่เสียชาติเกิดแล้ว

แล้วก็

“ไม่ต้องกลัวหรอกนะคะ ฉันทำร้ายใครไม่เป็นหรอก ฉันทำเป็นแค่การสร้างคะ”

..นั่นสินะ

ยูจิทำตามที่เธอว่า หายใจเข้า-หายใจออก ทำอย่างนั้นซ้ำไปมา 5 รอบก็ตั้งสติได้

“ติดตามผลงานมาตลอดครับ จะเอาใจช่วยต่อไปนะครับ”

ยูจิโค้งศรีษะให้ โซล่าเห็นก็ปัดมือเหมือนบอกว่าไม่ต้องก็ได้แบบเขินอาย

“คนอาณาจักรฟัฟนิร์รู้จักฉันด้วยเหรอเนี่ย”

“ที่นี่ร้านอุปกรณ์เวทมนตร์นะครับ แถมยังเป็นร้านที่ค่อนข้างเฉพาะทางด้วย ทุกคนที่อยู่ในร้ายนี้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของคุณโซล่าดีอยู่แล้วครับ รวมถึงผมด้วย”

พอพูดแบบนั้นโซล่าก็พึ่งสังเกตุถึงสายตาคนรอบข้างที่มองมาเป็นระยะๆตลอด บางคนก็แก้มแดงก่ำ บางคนก็ตาเป็นประกาย บางคนก็ทำสีหน้าหมันไส้ใส่ แต่ส่วนน้อย

ส่วนยูจิก็อยู่กึ่งกลางระหว่างแก้มแดงกับตาเป็นประกาย

โซล่าโค้งศรีษะให้ทุกคนเบาๆ และกลับมายิ้มสวยๆให้ยูจิ

“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ”

“ไม่ขนาดนั้น? พูดเป็นเล่นครับ คุณโซล่าเป็นผู้พลิกโฉมวงการณ์อุปกรณ์เวทมนตร์เลยนะครับ  ใครจะคิดล่ะว่าอุปกรณ์เวทย์อย่างคทาที่เกิดจากการผสมระหว่างการเล่นแร่แปรธาตุกับวิชาไสยศาสตร์จะช่วยเร่งประสิทธิภาพตัวคทาไปได้มาก เทียบเท่ากับคทาชั้นสูงราคาไม่ต่ำกว่า 500,000 เหรียญอิกดราซิล (500,000บาทไทย) ทั้งๆที่ทำขายจริงๆ ขายกันแค่ 100,000 เหรียญอิกดราซิล การพัฒนาของคุณทำให้เกิดคทาที่มีคุณภาพเท่ากันคทาชั้นสูงเมื่อสิบปีก่อน ทั้งๆที่ราคาถูกกว่าตั้งหลายเท่าตัว”

ยูจิพูดออกมาไม่หยุด ความเป็นโอตาคุอุปกรณ์เวทมนตร์ของยูจิทะลักออกมาจนไม่มีใครหยุดได้แล้ว

ถ้าพวกแอนตี้โอตาคุอุปกรณ์เวทย์มาเห็นเข้า คงจะทำหน้าแหยงแล้วบอกว่า ‘เหม็นเนิร์ดว่ะ’ แหงๆ

“ทุกวันนี้มีเด็กๆที่เข้าไม่ถึงอุปกรณ์เวทย์นับแสนนับล้านชีวิต ที่เข้าถึงอุปกรณ์เวทย์ได้เพราะคุณเลยนะครับ ที่หมู่บ้านที่ช่วยเลี้ยงดูผมเองก็เหมือนกัน เครื่องอำนวยความสะดวกเวทมนตร์มากมายถูกขึ้นตั้งห้าเท่าจนชาวบ้านตาดำๆจับต้องได้ ผมในฐานะนักเรียนเองก็มีเงินพอจะจับจ่ายใช้สอยอุปกรณ์เวทย์มาเพื่อวิจัยพัฒนาตัวเองด้วยเพราะคุณเหมือนกัน ถ้าเป็นเมื่อสิบปีก่อน แม้แต่คริสตัลเวทมนตร์ผมก็ไม่มีโอกาสได้แตะ แค่ตัวไม้คทาผมก็แตะไม่ได้แล้วครับ—การสร้างของคุณมันทำให้โลกนี้ดีขึ้นนะครับ!”

“ไม่คิดเลยว่าฉันจะทำคุณประโยชน์ขนาดนี้. ..ทุกๆวันแค่นอนหมกตัวทำอุปกรณ์เวทย์แท้ๆ”

โซล่าพูดแบบซึมๆ กระนั้นก็ไม่สามารถหยุดความเร่าร้อนในใจยูจิได้

“อุปกรณ์เวทย์ที่ยืดหดได้นั่นมันอะไรน่ะครับ! เวทมนตร์สุดไฮเทคที่ไม่ต้องมีคริสตัลเวทย์ก็ได้นั่นมันอะไรน่ะครับ!! ถุงมือเวทมนตร์นั่นมันอะไรน่ะครับ!! การใช้งานคริสตัลเวทมนตร์ที่หลากหลายนั่นก็ด้วย ใครจะคิดล่ะว่าคริสตัลเวทย์สามารถเอามาใช้เป็นพลังงานให้รถไฟได้!! วะ วะ ว่าแต่!! ได้ยินข่าวลือว่ากลุ่มค้นคว้าคทาเวทย์ในสังกัดของคุณโซล่าค้นพบคทาเวทย์ในตำนาน ‘การาวิเทีย’ นี่จริงรึเปล่าครับเนี่ย!!? ไม่ใช่ว่าหลังจากยุคนี้ไป ถ้าคุณได้วิเคราะห์โครงสร้างตัวคทาแล้ว จะให้กำเนิดคทาเวทย์ที่ควบคุมแรงโน้มถ่วงมาหรอกนะครับ ถ้าทำได้ขึ้นมา นักเวทย์ได้ล้นโลกแน่ครับ!!”

‘การาวิเทีย’ คทาเวทย์ในยุคมังกรธาตุ ตัวคทาถูกใช้โดยวีรบุรุษที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับวีรสตรียูนา คทามีความสามารถในการควบคุมแรงโน้มถ่วง ว่ากันว่ามันสามารถยกภูเขาทั้งลูกได้เลย

แต่หลังจบสงครามกับมังกรธาตุ วีรบุรุษผู้ใช้การาวิเทียก็หายสาบสูญไปพร้อมกับตัวคทาเวทย์ จากนั้นก็ไม่เคยมีใครพบเห็นการาวิเทียอีกเลย จนผู้วิจัยทางประวัติศาสตร์ชี้ว่า การาวิเทีย เป็นเพียงเรื่องแต่งเท่านั้น ที่ก้อนหินลอยได้ หรือมีคนบินได้ เป็นเพราะเวทมนตร์โบราณในยุคมังกรธาตุ

ถ้าหากการค้นพบ การาวิเทีย เป็นเรื่องจริง โลกนี้ได้พัฒนาไปอีกครั้งแน่ๆ ถ้าทำคทาที่ควบคุมแรงโน้มถ่วงได้หลายชิ้น บางทีนักเวทย์อาจจะขึ้นมามีคุณภาพกว่านักดาบได้โข และยุครุ่งเรื่องของนักเวทย์ก็จะมาถึง พร้อมกับการตกงานของนักดาบหลายคน

 

ยุคสมัยแห่งเวทมนตร์อาจจะเปิดฉากเลยก็ได้—-ด้วยความเป็นโอตาคุขี้มโนเข้าไส้ ยูจิคิดถึงอนาคตได้ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้นเลยล่ะ

“ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปกปิดอะไรหรอกค่ะ ..เจอแล้วค่ะ เป็นคทาที่ยอดเยี่ยมมากๆเลย”

“———ยุคสมัยใหม่มาถึงแล้ว!”

“แฮะๆ”

โซล่าเกาแก้มกึ่งลำบากใจ เพราะยูจิดูจะดีดไปหน่อยขัดกับอิมเมจแรกพบ

“ยุคใหม่ ยุคใหม่ …อ๊ะ”

ยูจิตัวแข็งทื่อ เหงื่อตกเลย เหมือนจะพึ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังพล่ามอะไรอยู่

“ขอโทษด้วยนะครับ”

“ไม่หรอก”

ยูจิก้มหัวให้ ถอนหายใจเฮือกโตและเงยหน้าขึ้นมาดูคทาเวทย์สีเขียวเข้มและสีขาวบนมือตัวเอง

“เมื่อตะกี้บอกว่าเลือกตัวสีขาวดีกว่าสินะครับ ขอทราบได้รึเปล่าว่าทำไม”

ยูจิคนเดิมกลับมาแล้ว โซล่าพยักหน้ารับ แตะปลายจมูกตัวเองคล้ายกำลังวิเคระห์

“ให้เดา คุณยูจิเลือกตัวสีเขียวเข้ม เพราะมันเร็วกว่าตัวสิขาว และพกพาง่ายสินะคะ”

“ทำไมถึงรู้เหรอครับ”

“ชุดคุณค่ะ คุณคงจะเป็นนักเรียนจากวิทยาลัยเวทมนตร์เรดฮอต เมื่อสามปีก่อนฉันมีโอกาสเที่ยวชมโรงเรียนบ่อยๆ ที่โรงเรียนมีหลายห้องต้องเข้าใช้ในแต่ล่ะคาบเรียน เลือกได้ใช้คทาเวทย์ที่พกพาง่ายจะดีกว่า ซึ่งสีเขียวเข้มนั้นตอบโจทย์ ต่อมาคือการใช้ยาก จากที่ดูตราสัญลักษณ์คุณยูจิคงจะอยู่ห้องสายทฤษฎี ซึ่งห้องๆนี้ไม่จำเป็นต้องฝึกใช้เวทมนตร์โจมตี หรือเล็งเป้าหมายอะไรมากนัก ที่ทำก็แค่ใช้คทาร่ายเวทย์เบื้องต้นควบคู่ไปกับอุปกรณ์เวทย์เพื่อทำการวิจัย การต่อสู้ไม่ใช่เรื่องจริงจังมาก”

ยูจิพยักหน้าไปด้วยระหว่างที่โซล่าอธิบาย ตัวเธอเวลาพูดถึงอุปกรณ์เวทย์นั้นคล้ายจะหลุดอยู่คนล่ะโลก เหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง ซึ่งยูจิเข้าใจอารมณ์โซล่าอยู่ เพราะเขากับเธอก็มีปฎิกิริยาเหมือนๆกันเวลาพูดเรื่องที่สนใจ

แม้ว่ายูจิจะเลือกเพื่อพัฒนาทักษะต่อสู้ เพราะนั้นที่เดาเลยผิดหมด แต่ถ้ามองในมุมนักเรียนมันก็ถูกหมด เป็นเพราะเธอไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับยูจิ แต่หากมองในมุมนักเรียนปกติก็ต้องอย่างที่เธอว่านั่นแหละ

ทว่า

เธอกลับบอกว่าตัวสีขาวดีกว่า ทั้งๆที่ตัวสีเขียวเข้มมันดีกว่าทุกด้านในฐานะนักเรียนตั้งขนาดนั้น

ยูจิรู้สึกสนใจขึ้นมา

“พูดขนาดนี้แล้ว ตัวสีขาวมันดีกว่ายังไงเหรอครับ”

“เทียบทุกๆด้านแล้ว ในสถานะนักเรียนห้องทฤษฎี คุณยูจิควรเลือกสีเขียวเข้ม ทว่าถ้าในฐานะนักเรียนผู้แสวงหาความรู้ คุณควรเลือกสีขาว”

ยูจิงง โซล่าจึงเริ่มอธิบาย

“ตัวสีขาว เป็นอุปกรณ์เวทย์ที่ค่อนข้างใหม่คะ แต่ของที่ใช้ประกอบค่อนข้างถูก แต่ก็อยู่ในมาตรฐานที่ดีเมื่อเทียบกับราคา”

“ครับ เป็นของ Z plus ด้วย ขึ้นชื่อเรื่องความถูกกับคุณภาพ รุ่นออกใหม่ก็ตามเทคโนโลยีเวทย์ทันตลอด”

“เพราะอย่างนั้นแหละเลยต้องเลือกมากกว่า”

“ทำไมล่ะครับ ไม่เข้าใจเลย”

“ก็อุปกรณ์เวทย์รุ่นล่าสุด โดยเฉพาะของบริษัท Zplus มันสามารถดัดแปลงโครงได้นี่คะ”

ดัดแปรงโครงสร้าง หรือก็คือปรับแต่งอุปกรณ์เวทย์ได้ตามใจชอบ

ถ้าต้องการ ตัวสีขาวก็สามารถมีคุณภาพพอๆกับตัวสีเขียวเข้มได้ไม่ยาก ถึงอย่างนั้น

“แต่ฝีมือผมมัน..”

“คุณเป็นนักเรียนทุนนี่ค่ะ ฉันเชื่อในมาตรฐานนักเรียนทุนของวิทยาลัยเรดฮอต ที่สำคัญถ้าเป็นนักเรียนก็ต้องพูดถึงการศึกษา ฉันคิดว่าคทาเวทย์ที่ไม่ได้มีหน้าที่เพื่อใช้อย่างเดียว แต่มีไว้เพื่อศึกษาควบไปด้วย เป็นตัวเลือกสำหรับนักแสวงหาความรู้คะ”

ฟังถึงตรงนี้ยูจิก็เห็นด้วยกับโซล่าหมด ในฐานะนักเรียน ถ้าอยากพัฒนาตัวเอง ก็จนเลือกสีขาวที่ทันสมัยและปรับแต่งได้ ทว่า..ที่ยูจิต้องการคือพลัง แล้วเขาก็ไม่มั่นใจในทักษะการประดิษฐ์ของตัวเองด้วย

“ทักษะการสร้างของผมไม่ได้ดีอะไรมากหรอกครับ”

“แต่คุณก็พยายามศึกษาอยู่นี่?”

ใช่แล้ว ยูจิมีซื้ออุปกรณ์เวทย์มาประกอบเองบ้าง อาจไม่ใช่เรื่องที่ถนัด แต่เขาก็พยายามอยู่ ดูได้จากมือที่มีรอยแผลได้ โซล่าน่าจะสังเกตุจุดนี้ได้

ยูจิยังลังเลอยู่ ถึงจุดนี้โซล่าเลยโชว์หลังมือที่เต็มไปด้วยแผลทรงเดียวของยูจิแต่มากกว่าเป็นสิบเท่า

ยูจิถึงกับอึ้ง

“ที่สำคัญไม่ใช่ความถนัด แต่เป็นการพัฒนาค่ะ ในฐานะนักเรียนที่แสวงหาความรู้เช่นคุณ ฉันขอแนะนำตัวสีขาว” โซล่าพูดต่อด้วยรอยยิ้ม “แต่นี่เป็นคทาเพื่อการศึกษา ถ้าเป็นการต่อสู้ ตัวสีเขียวเข้มจะดีกว่า เพราะนั้นเลือกเลยนะ ว่าจะซื้อเพื่อศึกษา หรือซื้อเพื่อต่อสู้กับคนอื่น”

..ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ยูจิคิดจะซื้อคทาเวทย์เพื่อสู้? ไม่ใช่ว่ายูจิต้องการคทาเวทย์เพื่อพัฒนาการสร้างอุปกรณ์เวทย์ของตัวเองหรือไง?

ยูจิรู้สึกละอายใจและรู้สึกดีใจที่มีคนมาเตือนสติไว้ก่อน

“..เข้าใจแล้วครับ”

ยูจิยิ้มอย่างอ่อนแรง

“ขอเลือกตัวสีขาวตามคำชี้แนะนะครับ””

“ค่ะ ถ้าว่างๆฉันจะช่วยดูให้นะ ถ้าไม่ขัดข้องอะไร”

..เอ๊ะ?? ดังขึ้นในใจยูจิ

“ช่วยดู? ไม่ใช่ว่าคุณโซล่างานเยอะหรือครับ ถึงขนาดรบกวนเวลาคุณมาช่วยนี่มัน”

สู้เอาเวลาช่วยตัวเอง ไปพัฒนาวิทยาการณ์เวทมนตร์จะดีกว่า

“ฉันเองก็เป็นวัยรุ่นนะ ยังเด็กอยู่เลย เรื่องงานบางครั้งก็อยากถอนตัวเหมือนกัน ..แล้วก็ยื่นสมัครเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเรดฮอตไปแล้วด้วย น่าจะมีเวลาว่างพอมาช่วยดูนั่นแหละคะ”

ยิ่งกว่าช่วยดูอุปกรณ์เวทย์ให้ยูจิ คือ ‘โซล่า เลนนอน’ คนนั้น เข้าวิทยาลัยเวทมนตร์เรดฮอต

ยูจิตาค้าง

“เอ๊ะ นี่มันอะไร ไม่เห็นมีข่าวมาเลย”

“คาดว่าอีกสามวันจะเริ่มประกาศล่ะค่ะ ถ้าที่จักรวรรดิ์ข่าวก็เริ่มออกมาแล้ว”

โซล่ามองขึ้นฟ้าเหมือนกำลังจิตนาการเรื่องในวิทยาลัยลอยๆ 

“…นี่มัน..ข่าวใหญ่เลยไม่ใช่เหรอ”

“จะเริ่มเข้าเรียนกลางคันค่ะ สายทฤษฎีเหมือนคุณยูจิ”

“จะ จำไม่ผิดข้อสอบการเข้าเรียนการคันนี่มัน”

“ก็ไม่ได้ยากนะ”

คงจะอย่างนั้น อีกฝ่ายคือโซล่า เลนนอน ไม่มีทางที่เธอจะไม่รู้ แต่ แล้วจะเข้ามาทำไม ในเมื่อที่วิทยาลัยเรดฮอตไม่มีอะไรมอบให้โซล่าได้แล้ว

“มีเหตุจำเป็นจะต้องเข้าด้วยเหรอครับ”

“ฉันไม่ใช่อันเดดนะค่ะ ย่อมอยากพักบ้างอยู่แล้ว”

“ขะ ขอโทษด้วยนะครับ”

“ไม่หรอกค่ะ คือ..ฉันเองก็อยากจะใช้ชีวิตเหมือนเด็กทั่วไปบ้าง อ่านหนังสือกับเพื่อน เที่ยวเล่นกับเพื่อน คุยเรื่องสนุกสนานกันไม่เว้นวันตลอดสามปี แล้วก็..ความรัก”

โซล่าหรี่ตาลง มีโฉมหน้าที่งดงามคล้ายคนอยู่ในห้วงความรัก

“..ฉันตกหลุมรักคนๆหนึ่งอยู่ ..ที่วิทยาลัยเวทมนตร์เรดฮอต มีเจ้าชายในฝันของฉันอยู่”

ยูจิกลืนน้ำลายดังอึก

“..คนๆนั้น”

“เรเซอร์ ดราแคล์ ..ไม่ทราบว่าคุณยูจิรู้จักรึเปล่าคะ?”

ชื่อที่เหนือความคาดหมาย—เรเซอร์คือเป้าหมายของโซล่า เลนนอน

“รู้จักครับ เขาเป็นเพื่อนผมเอง”

เป็นเพื่อนคนสำคัญ

โซล่ารู้ได้ว่าทั้งสองสนิทกันจากสีหน้ายูจิชั่ววูบหนึ่ง จึงรุกกุมมือทั้งสองข้างของยูจิด้วยนิ้วที่เล็กและนุ่มกว่าคนวัยเดียวกัน

“ช่วยแนะนำเขาให้ฉันได้รึเปล่าคะ?”

โซล่าพูดเสียงใสอย่างตื่นเต้น

นี่แหละคนที่ตกอยู่ในความรัก ..ยูจิเห็นภาพซ้อนทับโซล่ากับเบลลามี

 

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! << 0 >> รู้สึกว่าโลกเราช่วงนี้จะฮิตต่างโลกกันสินะ? ถ้าจำไม่ผิดนวนิยายประเภทไลทโนเวลของญี่ปุ่นในยุค 2020 จะฮิตกันเอาเรื่องเลย ขนาดผมก็เคยอ่าน หรือเคยดูอนิเมที่ดัดแปลงจากนิยายมาอีกทีไม่น้อยเลย ใช่ มันค่อนข้างสนุกเลย อาจจะเป็นเพราะมันช่วยสนองนีทให้ผมก็ได้ เพราะปกติผมมักจะเป็นผู้แพ้เป็นประจำทั้งๆที่พยายามากแล้ว พอได้เห็นคนๆหนึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ซึ่งนั่นก็คือพระเอกมันก็ชวนให้รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขาด้วย พร้อมไปกับสาวๆในฮาเร็มของแกด้วยอะนะ แต่ด้วยความที่เป็นตลาดที่ใหญ่ ทำให้มีหลายความเห็นตามไปด้วย หลายครั้งที่นิยายแนวนี้จะถูกวิจารย์ในเชิงไม่ดี อาทิเช่น ส้ำซากจำเจ เดาทางง่าย ตัวละครผู้หญิงง่าย ทุกอย่างง่ายไปหมด บางเม้นต์ก็ร้ายแรงขนาดบอกว่า ‘นี่ไม่ใช่นิยายแต่เป็นสินค้า’ อืม ถ้าในมุมผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก ออกไปในทางชอบด้วยซ้ำ แต่ขอติหน่อยเถอะ ตัวร้ายส่วนใหญ่ในเรื่องแนวนี้โคตรจะไม่น่าให้อภัย คนอะไรมันจะเลวได้ขนาดนั้น เลวถึงแก่นแท้เลยพวกตัวร้ายในนิยายต่างโลกเนี่ย ไม่น่าให้อภัยที่สุด โง่ก็โง่ กระจอกก็กระจอกชิบหายเลย ไร้ความคิดความอ่าน กลับตัวก็ไม่เป็น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset