เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! – ตอนที่ 147: ขีดจำกัดคือไร้ขีดจำกัด

< < 111 > >

ภายในโลกแห่งความมืด

สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด–เอเธอร์ยืนอยู่ในโลกใบนั้นโดยที่รอบๆมีศัตรูถึงหกคนล้อมไว้

สองมหามังกรเทียมอยู่ในร่าง ‘อาภรณ์เทพมังกร’ พลังที่ช่วยดึงศักยภาพของมหามังกรมากยิ่งขึ้น ..นอกจากนั้นก็มีแวมไพร์และอาชญากรตัวใหญ่ ยิ่งกว่านั้นรากไม้ที่เรยเรียกออกมาก็มีพลังที่ร้ายกาจแฝงอยู่

เอเธอร์วิเคราะห์พลังของรากไม้ได้ง่ายๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็คิดว่ามันคือปัญหาใหญ่อยู่ดี

“โลกใบนี้มีขอบเขตุรึเปล่าครับ”

“โลกใบนี้ไร้ขอบเขตุ มันจะใหญ่ตามที่ฉันจิตนาการ เพราะอย่างนั้นต่อให้รู้แล้วก็เปล่าประโยชน์ ต่อให้เป็นตัวประหลาดอย่างแกก็ไม่มีทางทำลายโลกใบนี้ได้หรอก”

“แค่ฆ่าคุณก็หมดปัญหานี่ครับ”

“เหอะ! อยู่ต่อหน้าพลังนี้ยังกล้าพูดอีกเหรอ เอเธอร์!!”

เรนสะบัดแขนทันใดนั้นรากไม้ก็พุ่งออกจากเกราะ

“เร็ว”

เอเธอร์สบถออกมาและกระโดดถอยหลังหลบ แต่ว่ารากไม้ก็พุ่งเข้าใส่เอเธอร์ติดๆ

ขอบเขตุระยะการทำงาน?—ตามระยะสายตา

โลกที่ไร้ขอบเขตุกับพลังต้นไม้โลกที่กว้างตามระยะสายตา ผลคือบนโลกใบนี้รากไม้นี้สามารถไปได้ทุกที่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเรนว่าจะใช้งานมันยังไงเลย

ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือตัวรากไม้

เอเธอร์พยายามจะเคลื่อนที่โดยผสม [จังหวะแตะสายลม] แต่ก็ทำไม่ได้เพราะรากไม้—มีคุณสมบัติในการดูดมานา

มันสามารถยกเลิกผลการทำงานขอบทุกอย่างบนโลกได้ ไม่ว่าจะเวทมนตร์ เคล็ดวิชาดาบ ไสยศาสตร์รึการเล่นแร่แปรธาตุ ต่อหน้ารากไม้ทั้งหมดจะโมฆะ ไม่ใช่แค่นั้น แม้แต่พลังกายก็จะถูกรากไม้มันดูดไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดเหมือนกัน 

ต้องทิ้งระยะห่างเท่าไหร่? ตามระยะสายตา แต่บนโลกที่เรนสร้างไม่มีใครสามารถหลุดจากสายตาของเรนได้ มันหมายความว่าบนโลกใบนี้พลังทุกอย่างจะโมฆะ พลังกายจะถดถอยลงเรื่อยๆ—ในมุมของเอเธอร์ เขามองว่านี่คือหนึ่งในรูปแบบพลังที่ทรงพลังที่สุดบนโลก ไม่สิ ต้องบอกว่ามันทรงพลังที่สุดบนโลกไปแล้วถึงจะถูก 

ต่อให้เก่งมาจากไหน แต่ถ้าเจอท่านี้เข้าไปก็ไม่ไหว เพราะมันคือพลังที่เหมือนกับตั้งตัวเองเป็นพระเจ้า มีแต่ผู้ที่หลุดจากกฎของโลกได้เท่านั้นที่จะสู้ไหว ซึ่งคนที่หลุดจากกฎของโลกได้ ..เอเธอร์ไม่รู้เลยว่าจะมีใครทำได้บ้าง นอกซะจากจอมมาร

“ครั้งนี้ยากจริงๆครับ”

“รู้ตัวก็ดี ยอมให้ฉันคนนี้ฆ่าซะเถอะ”

“ยังเร็วไปที่จะยอมแพ้ครับ”

“หา? แล้วมีอะไรให้ไม่ยอมล่ะ บอกทีสิ?”

เอเธอร์ยิ้มให้

“กฎของคุณจะใช้ได้ก็กับสิ่งมีชิวต”

“..ทำไม”

“มันก็ง่ายๆเลยครับ แค่ทำให้ตัวเองตายก็จบแล้ว”

“หะ หา? ไอ้บ้านี่ อลิซาเบธไอ้หมอนี่มันสติแตกแล้วสินะ”

อลิซาเบธพยักหน้ารับเรน

“เจอพลังของท่านเรนเข้าไปก็ต้องมีสภาพน่าอดสู่เช่นนั้นอยู่แล้วค่ะ”

“ใช่มั้ย? นี่เอเธอร์ ยอมรับได้แล้วว่าแพ้ฉั—”

ไม่ทันที่จะพูดจบเอเธอร์ก็ควักหัวใจของตัวเองออกมา …มีเลือดไหลออกจากปากของเอเธอร์แต่เขาหาได้สนไม่ รอยยิ้มยังคงปรากฏบนใบหน้าเหมือนทุกที 

“ทำแบบนั้นไปแล้วได้อะไร?”

“อย่างน้อยพลังกายจะไม่ถูกดูดไปมากกว่านี้ แน่นอนข้อเสียคือผมจะไม่สามารถใช้เทคนิคดาบรึเวทมนตร์ได้อีก ตราบใดที่ร่างกายยังเป็นแบบนี้อยู่”

“คิดจะชนะด้วยร่างเปล่าๆเนี่ยนะ?..เสียสติไปจริงๆแล้วล่ะมั้ง ไม่อยากเชื่อเลยว่าเอเธอร์ผู้ยิ่งใหญ่จะตกต่ำได้ขนาดนี้ อืม เอาเถอะ เอาเป็นว่า—ฆ่ามันซะ”

ทันทีที่เรนออกคำสั่ง ทั้งปีเตอร์และสโนว์ก็พุ่งเข้าหาเอเธอร์ด้วยอาภรณ์เทพมังกร รากไม้ไม่ได้ดูดพลังของทั้งสองไปด้วย หมายความว่าสามารถเลือกเป้าหมายแบบเจาะจงได้

“พลังที่คุณถือครองอยู่มันคือพลังที่แหกกฎโลกใบนี้ครับ อีกนิดเดียวคุณก็จะเข้าใกล้ตำแหน่งจอมมารแล้ว” 

“ก็ตั้งใจอย่างนั้นล่ะนะ ยังไงซะเป้าหมายของฉันก็คือการขึ้นเป็นเทพ”

“บอกผมจะดีเหรอ?”

“ตายไปแล้วแกจะทำอะไรได้ล่ะ?”

รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าของเอเธอร์ เขาหยักไหล่พลางถอนหายใจออกมาด้วยท่าทางดูหน่ายใจ

“แค่เกือบนะครับ คุณน่ะ—ยังเป็นแค่มนุษย์อยู่ดี”

เอเธอร์ก้าวเท้าออก พื้นโลกสีดำได้แตกเป็นสีขาว—และพริบตาเดียว ร่างของปีเตอร์ก็ล่วงลงกับพื้น ส่วนสโนว์ก็ถูกเอเธอร์บีบคอเอาไว้

อาภรณ์เทพมังกรของปีเตอร์สลายในพริบตาเดียว ..ต้องบอกว่ายังไม่ทันกระพริบตาด้วยซ้ำ ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่มีใครที่มองเหตุการณ์ทันเลย แม้แต่เรนที่เป็นผู้คุมกฎบนโลกใบนี้ก็มองไม่ทัน..

“อั้ก!!–คะ คุณพ่อ ..ชะ ..ช่วย..ด้วย”

สโนว์พยายามดิ้นสุดแรงเกิด แรงของเธออยู่ในระดับทัดเทียมมหามังกร แต่ทั้งอย่างนั้นก็หลุดจากเอเธอร์ไม่ได้ สุดท้ายก็แพ้แรงและหมดสติไปทั้งๆที่อยู่ในอาภรณ์เทพมังกร ..เอเธอร์โยนร่างของสไนว์ลงพื้นก่อนที่อาภรณ์เทพมังกรจะสลายไปอย่างสวยงาม

ปีเตอร์ถูกเอเธอร์ต่อยครั้งเดียวก็แพ้ สโนว์โดนคว้าคอเอาไว้เพียงพริบตาเดียวก็แพ้

เอเธอร์สามารถโค่นมหามังกรเทียมถึงสองตนได้ภายในไม่กี่อึดใจ แค่นั้นไม่พอยังชนะภายใต้ข้อจำกัดที่ใช้มานาไม่ได้ ..เรนหน้าซีดเผือกในหัวมีแค่คำว่า ‘สัตว์ประหลาด’ ต่อชายผู้มีนามว่าเอเธอร์

“คุณในฐานะมนุษย์ เอาชนะผมไม่ได้หรอกครับ”

กล่าวจบเอเธอร์ก็ยิ้มสวยๆให้

“..อย่ามาล้อเล่นนะ ..แกเป็นตัวอะไรกันแน่ ..อย่ามาล้อเล่นนะเว้ย มีพลังตั้งขนาดนั้นแท้ๆแล้วทำไมยังอยู่เฉยๆล่ะ ถ้ามีพลังขนาดนี้ต่อให้คนทั้งโลกเป็นศัตรูกับแกก็ไม่มีทางแพ้หรอก ทำไมถึงพอใจจุดยืนของตัวเองกันในเมื่อแกมีพลังตั้งขนาดนั้น”

“ผมไม่ได้มีความโลภอย่างที่คุณมีหรอกนะ ..อีกอย่างก็ใช่ว่าพลังของผมจะไม่มีข้อจำกัด”

“ข้อจำกัด? พูดบ้าอะไร ตัวตนที่อย่างกับไร้ขีดจำกัดแบบแก มันเอาอะไรไปมีข้อจำกัดว่ะ?”

เรนชี้หน้าเอเธอร์ด้วยแววตาที่เคียดแค้น อลิซาเบธถือเคียวและออกตัวบังเรนเพื่อปกป้องนายของเธอจากสัตว์ประหลาดตรงหน้า

“ขีดจำกัดของผมคือไร้ขีดจำกัดไงครับ”

พูดจบเอเธอร์ก็หัวเราะพึมพำ ไม่ได้พูดจริงจังอะไรก็แค่ตั้งใจเล่นคำหยอกเรนเล่นเท่านั้น แต่ที่ทำมันสร้างความหงุดหงิดให้เรนไม่น้อยเลย

อย่างที่รู้กันดีว่าเรนคือคนที่หัวร้อนง่าย

“ไอ้บัดซบเอ้ยยยย!!!!”

เรนสะบัดแขนรัวๆปล่อยรากไม้เป็นสิบๆพุ่งเช้าใส่เอเธอร์

เอเธอร์คว้ารากไม้ไว้หนึ่งรากและดึงมัน—ทำให้ตัวเรนลอยจากจุดที่ยืนอยู่พุ่งมาหาเอเธอร์

“เซนต์การต่อสู้ของคุณ—เข้าขั้นวิบัติอย่างที่คิดเลยนะครับ”

การตัดสินใจโยนรากไม้ใส่เอเธอร์มั่วๆคือการฆ่าตัวตาย เรื่องแค่นี้ควรรู้แท้ๆ ถ้าเป็นเอเธอร์ ไม่สิ ถ้าเป็นเรเซอร์เขาจะใช้ประโยชน์จากโลกที่ไร้ขอบเขตุในการหนีจากเอเธอร์ จะพยายามไม่ให้เอเธอร์จับตัวเองได้ และรอให้เอเธอร์ตายจากการเสียเลือดเอง ถึงจะไม่มีหลักประกันว่าเอเธอร์จะเข้าถึงตัวเขาไม่ได้ แต่มันก็คือทางเลือกที่ดีที่สุดอยู่แล้ว เป็นวิธีชนะเดียวที่มี ทว่าเรนกลับเลือดขึ้นหน้าจากคำยั่วยุ และเข้าต่อสู้แบบไม่คิดหน้าคิดหลังตัวคนเดียว ไม่แม้แต่จะใช้ลูกน้องอย่างอลิซาเบธ 

แค่ปล่อยพลังที่ตัวเองถือครองไว้แบบมั่วๆ—ในมุมของเอเธอร์ เรนก็แค่เด็กน้อยที่ได้พลังโกงมาเท่านั้น เขาใช้มันไม่เป็นหรอกหรือถ้าใช้ก็จะใช้มันแบบโง่ๆ จนผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็น เขาเป็นแค่ผู้ใช้พลังขี้โกงที่แสนเสียของ

ร่างของเรนลอยมาอยู่ตรงหน้าเอเธอร์ ทั้งสองสบตากัน เรนนำมืดมาปิดหัวตัวเองและพล่ามออกมาอย่างน่าอนาถ

“หยุดเถอะ—-ได้โปร–!!”

ตู้ม!!!!!!

เอเธอร์ส่งเรนลงไปนอนกับพื้นข้างๆลูกๆมหามังกรเทียมของเขา เพียงหมัดเดียวเรนก็นอนมองฟ้าตาค้างแล้ว

คนที่ควบคุมโลกไร้ขอบเขตุหมดสติไปแล้ว หมายความว่าไม่มีคนปลดโลกใบนี้ได้ ..ยกเว้นว่าถ้าเอเธอร์ประกอบหัวใจเข้าร่างใหม่ และใช้มานาของตัวเองทำวิชาไสยศาสตร์ที่เกี่ยวกับการควบคุมร่างเรนให้ช่วยปลดให้ก็เป็นอันจบงาน

“ท่านเรนเกลียดการเจ็บตัวที่สุด ..การกระทำของคุณ ฉันจะไม่มีทางยกโทษให้เด็ดขาด”

“เข้าใจแล้วครับ ต่อไปก็ ..คุณแวมไพร์สินะครับ”

อลิซาเบธตั้งท่าต่อสู้ เหมือนว่าจะไม่เข้ามาแบบมหาปีเตอร์กับสโนว์แต่ยืนดูเชิงแทน

“คุณคือตัวอะไรกันแน่?”

“..เรื่องนั้นผมก็สงสัยเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าผมบอกไปแล้วหรือครับ”

“ทำไมถึงไม่ใช้ความเร็วเมื่อสักครู่จัดการฉันล่ะคะ?”

“ไม่ใช่ว่าผมจะทำอย่างนั้นได้ทุกครั้งเสียหน่อยครับ อย่างที่บอก ผมมีขีดจำกัดอยู่”

เอเธอร์สนทนากับอลิซาเบธไปพลางนำหัวใจที่เต้นอยู่ในมือขวาใส่กลับเข้าที่เดิมของมัน จากนั้นเอเธอร์ก็ยืดเส้นยืดสายนิดหน่อย เป็นอันกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม

เรนหมดสติไปแล้ว ไม่มีไอบ้าคนไหนใช้ต้นไม้โลกหยุดเอเธอร์ได้แล้ว ความสามารถในการใช้มานากลับมาแล้ว

พวกเรนจบแล้ว

“..จะไม่ยอมให้คุณเป็นฝ่ายชนะหรอก ฉันจะปกป้องท่านเรนเอง”

อลิซาเบธพูดอย่างหนักแน่น เธอไม่ได้กลัวเรนอย่างที่เอเธอร์กลัวเลยสักนิด ..

“พยายามเข้าล่ะกันครับ”

พูดจบเอเธอร์ก็พุ่งเข้าใส่อลิซาเบธ—อลิซาเบธหมุนตัวเหวี่ยงเคียวเข้าใส่คอเอเธอร์

เร็วมาก—แต่เอเธอร์เร็วกว่าระดับหนึ่ง

เอเธอร์เอียงคอหลบเคียวของอลิซาเบธ และเตะสะกัดขาเธอจนเสียศูนย์ จากนั้นก็อัดเวทย์เพลิงเข้าใส่ลำตัวของอลิซาเบธ ก้อนเพลิงขยายตัวขึ้นตรวเองของเธอจากนั้นมันก็ระเบิดออก

ตู้ม!!!!!!! ร่างของอลิซาเบธถูกเผาจนเกรียม แต่พริบตาเดียวก็กลับมาเหมือนเดิม เพราะขีดจำกัดสายเลือดที่มีอยู่

“จงตอบรับคำปารถนาของข้า จงกลืนกินทุกสรรพสิ่งตามที่ข้าปารถนาซะ [บาคุนาว่า]”

เคียวบนมือของอลิซาเบธส่องแสงสีม่วงออกมา—เอเธอร์จ้องเคียวอย่างนึกสงสัย

“บาคุนาว่า ..ชื่อของเทพแห่งการสูญสิ้นนี่ครับ”

ดวงตามหาปราชญ์ทำงานอีกครั้ง แต่มันไม่สามารถบอกความสามารถของเคียวออก

“แบบนี้นี่เอง ไม่ใช่แค่รากไม้ยังมีของอันตรายอย่างอื่นอีก ถ้าไม่ประมาทคงจะทำให้ผมเจ็บหนักได้เหมือนกัน”

เอเธอร์ยกมือขึ้นฟ้าและกวาดมันลงพื้น—แสงสีขาวพุ่งออกจากมือของเอเธอร์ ตรงเข้าใส่ลำตัวของอลิซาเบธจังๆ

“[เคล็ดวิชาดาบ]—-[ดาบประกายแสง]”

อลิซาเบธถึงกับหน้าเหวอ—- (ใช้วิชาดาบทั้งๆที่ไม่มีอาวุธรองรับเนี่ยนะ!? คนๆนี้คิดบ้าอะไรอยู่กัน)

ไม่สิ ..เอเธอร์คือผู้ที่มีร่างกายคงทนไม่แพ้มหามังกร กะอีแค่เอาร่างกายตัวเองรองรับวิชาดาบมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรเลย

ดาบประกายแสงพุ่งเข้าใส่ลำตัวของอลิซาเบธ—วงจรเวทย์ถูกทำให้ขัดข้อง ส่งผลให้ไม่มีมานาถ่ายไปให้ [บาคุนาว่า] คำร่ายและพลังที่จะเกิดผลเมื่อสักครู่จึงกลายเป็นโมฆะ

“ถ้าคุณอยู่ไกลกว่านี้สักสิบเมตร คงจะหลบดาบประกายแสงได้ไม่ยาก และพลังที่คุณตั้งใจจะใช้กับผมคงได้ผล ถึงจะไม่ทราบว่าพลังที่จะใช้คืออะไร แต่ถ้าเป็นพลังของเทพมีหรือที่ผมจะปัดป้องไว้ได้” เอเธอร์ยิ้มอย่างยอมรับ “ไม่มีทางที่ผมจะฝืนบัญญัติจากท่านเทพได้หรอกครับ ความเป็นไปได้ที่ผมจะแพ้เพราะพลังจากเคียวนั่นมีอยู่สูง เพราะอย่างนั้น”

เอเธอร์เดินไปเหยียบมือของอลิซาเบธที่ตั้งใจจะคว้าเคียวขึ้นมาใหม่ ..เอเธอร์หยิบเคียวขึ้นมา

“สิ่งนี้ผมขอรับไว้นะครับ มันไม่ควรมาอยู่ในมือของพวกคุณ”

“..ท่าน…เรน..” อลิซาเบธร้องไห้ออกมา “ขอโทษนะคะ ..ท่านเรน”

“เปราะบางกันจังเลยนะครับ ทั้งคุณ ทั้งเรน ..อ่อนแอกันตั้งขนาดนี้แท้ๆ อะไรทำให้คิดอยากเป็นศัตรูกับโลกล่ะครับ ..ในเมื่อรู้ว่าผลลัพธ์มันจะลงเอยอย่างนี้”

ผลลัพธ์ที่ว่าคือการถูกเอเธอร์ซัดจนหมดสภาพกันหมด.

“..ทำไมน่ะเหรอ”

เสียงดังจากข้างหลัง ..เอเธอร์หันไปมองทางเรนที่ยืนในสภาพสะบัดสะบอม

“ก็เพราะว่า—ผมคือผู้ที่จะมาปลดปล่อยผู้คนยังไงล่ะ!!!”

เรนแหกปากและชี้มือขึ้นฟ้าในสภาพร่างกายที่โซซัดโซเซ

“ผมนี่แหละ ..คือผู้ที่จะช่วยทุกคนจากโชคชะตา!!!!”

“เสียสติไปแล้วสินะครับ”

“ที่เสียสติมันแกต่างหาก!!! ไอ้สัตว์ประหลาด!!”

เรนผสานนิ้วเข้าหากัน เอเธอร์รีบพุ่งเข้าใส่เรนในทันที แต่ว่า—ไม่ทัน

“[วิชาไศยศาสตร์]—-[เคลื่อนยายต่างโลก]”

โลกแห่งความมืดไม่ได้ถูกยกเลิก

เอเธอร์คว้าร่างของเรนไว้ได้ไม่ทัน ..

“..สมกับเป็นท่านเร—”

พูดไม่ทันจะจบอลิซาเบธก็หายจากโลกแห่งความมืด ตามๆกันไปกับปีเตอร์และสโนว์ สุดท้ายก็เหลือแค่เอเธอร์ที่ถูกทิ้งไว้ในโลกแห่งความมืด

เอเธอร์แหงนหน้ามองฟ้าสีมืด

“น่าเสียดาย ..ที่เหลือคงต้องฝากให้พวกเรเซอร์จัดการสินะครับ”

ยังไงซะ สภาพของพวกเรนก็ย่ำแย่เอาเรื่อง คงวางใจได้เปราะหนึ่ง

 

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!

เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!!
Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง เกิดใหม่เป็นตัวร้ายโหลยๆแล้วทำไม? ผมจะช่วยน้องนางเอก(อวย)ของผมเอง!! << 0 >> รู้สึกว่าโลกเราช่วงนี้จะฮิตต่างโลกกันสินะ? ถ้าจำไม่ผิดนวนิยายประเภทไลทโนเวลของญี่ปุ่นในยุค 2020 จะฮิตกันเอาเรื่องเลย ขนาดผมก็เคยอ่าน หรือเคยดูอนิเมที่ดัดแปลงจากนิยายมาอีกทีไม่น้อยเลย ใช่ มันค่อนข้างสนุกเลย อาจจะเป็นเพราะมันช่วยสนองนีทให้ผมก็ได้ เพราะปกติผมมักจะเป็นผู้แพ้เป็นประจำทั้งๆที่พยายามากแล้ว พอได้เห็นคนๆหนึ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ซึ่งนั่นก็คือพระเอกมันก็ชวนให้รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเขาด้วย พร้อมไปกับสาวๆในฮาเร็มของแกด้วยอะนะ แต่ด้วยความที่เป็นตลาดที่ใหญ่ ทำให้มีหลายความเห็นตามไปด้วย หลายครั้งที่นิยายแนวนี้จะถูกวิจารย์ในเชิงไม่ดี อาทิเช่น ส้ำซากจำเจ เดาทางง่าย ตัวละครผู้หญิงง่าย ทุกอย่างง่ายไปหมด บางเม้นต์ก็ร้ายแรงขนาดบอกว่า ‘นี่ไม่ใช่นิยายแต่เป็นสินค้า’ อืม ถ้าในมุมผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอก ออกไปในทางชอบด้วยซ้ำ แต่ขอติหน่อยเถอะ ตัวร้ายส่วนใหญ่ในเรื่องแนวนี้โคตรจะไม่น่าให้อภัย คนอะไรมันจะเลวได้ขนาดนั้น เลวถึงแก่นแท้เลยพวกตัวร้ายในนิยายต่างโลกเนี่ย ไม่น่าให้อภัยที่สุด โง่ก็โง่ กระจอกก็กระจอกชิบหายเลย ไร้ความคิดความอ่าน กลับตัวก็ไม่เป็น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset