ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL – ตอนที่ 5

เมื่อไปแจ้งให้ดยุคฟอร์ซทราบแล้ว ลุยซาร์ก็เข็นวิลแชร์ของไนติงเกลไปที่ห้องรับประทานอาหาร ระหว่างทางเธอก็พยายามกลอกตามองซ้ายขวาอย่างสนใจโดยไม่ให้หลุดอาการ

ทำให้เธอก็ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาอีกว่า คนรับใช้ทุกคนในคฤหาสน์นี้เป็นเบต้ากันหมด ไม่ใช่แค่หมอที่เรียกมา

‘นี่คงต้องเป็นคำสั่งของดยุคฟอร์ซแน่’

ในฐานะผู้นำตระกูล ดยุคฟอร์ซจะต้องเป็นอัลฟ่าแน่นอน เพราะงั้นก็คงไม่แปลกที่เขาจะจ้างเฉพาะเบต้าเท่านั้นให้เข้ามาอยู่ในบ้าน

‘อัลฟ่าสองตัวอยู่ร่วมชายคาเดียวกันไม่ได้’ ดั่งคำที่กล่าวไป เพราะงั้นไนติงเกลที่เป็นอัลฟ่าเหมือนกันจึงไม่ได้รับความรักจากเขาสินะ ถ้าให้เดา ชายคนนี้คงเป็นประเภทมีครอบครัวเพื่อใช้งาน

หลังจากคิดเรื่อยเปื่อย วิลแชร์ก็แล่นมาจนถึงห้องบอสจนได้

กึก ลุยซาร์ปล่อยมือออกจากวิลแชร์ ก่อนจะเดินไปยืนอยู่ด้านหลังของไนติงเกล

‘อ้าว เดี๋ยวสิเฮ้ย ถ้าไม่เข็นแล้วฉันจะเข้าไปยังไงล่ะ!!’

ท่ามกลางความโกลาหลในจิตใจของเด็กสาว ป้าเมดก็ทำเพียงยืนอย่างนิ่งสงบอยู่อย่างนั้น ดูเหมือนว่าในสายตาของลุยซาร์ ตอนนี้คุณหนูของเธอคงกำลังเตรียมใจจะเข้าไปพบพ่ออยู่

หลังจากกรีดร้องในหัวเสร็จ ไนติงเกลก็นึกขึ้นมาได้ว่า ‘โลกนี้มีเวทย์มนต์นี่หว่า!’ ตอนนี้หัวหน้าเมดคงกำลังคอยให้เธอใช้พลังเวทย์เคลื่อนวิลแชร์เข้าไปในห้องอาหารเองอยู่แน่เลย!

‘แต่ประเด็นคือผ้มใช้เวทย์มนต์ไม่เป็นนี่สิครั้บ!’

เวลาที่ผ่านไปเพียงไม่กี่วิ แต่กลับดูยาวนานสำหรับเธอเหลือเกิน เด็กสาวพยายามนึกย้อนดูถึงเนื้อหาในนิยาย แล้วก็ต้องสบถออกมา เพราะว่านิยายห่วยแตกนี่มีแต่เนื้อหาโรแมนซ์!! 

เอ็งจะยัดเวทย์มนต์เข้ามาทำไมฟะ ถ้าคิดจะเล่นแต่เรื่องรักอย่างเดียว!

‘ช่วยไม่ได้ กราบล่ะไนติงเกล ช่วยขยับร่างกายด้วยตัวเองอีกครั้งทีเถอะ!’

มืออันสั่นเทาเอื้อมไปเคาะประตู เพื่อหวังว่าเหตุการณ์กดดัน จะช่วยให้ร่างกายตัวเองเกิดปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติอีกครั้ง!

ก็อก ๆ 

“เข้ามา”

แล้วก็เป็นดังคาด เมื่อเสียงทุ้มต่ำภายในห้องดังออกมา ร่างกายของไนติงเกลก็ทำงานด้วยตัวเอง

สัมผัสความเย็นเฉียบไหลผ่านร่างกายของเธอ เริ่มจากขั้วหัวใจ ไหลผ่านออกจากปลายนิ้ว และตรงไปยังบานประตู

แอ้ดด

ไนติงเกลกำมือของตัวเอง น่าแปลกที่แม้จะกังวลมาก แต่ก็ไม่มีเหงื่อเลยสักนิดบนฝ่ามือของเธอ

เมื่อประตูถูกเปิดอ้าจนสุด สัมผัสเย็นยะเยือกก็กลับมาอีกครั้ง คราวนี้มันไหลไปที่ปลายนิ้วเท้าของเธอ จากนั้นก็หมุนวนอยู่ที่ล้อรถ ทำให้ในที่สุดวิลแชร์ก็สามารถเคลื่อนที่ไปด้วยตัวเองได้เสียที

แต่สัมผัสหนาวเหน็บจากเวทย์มนต์ ก็ไม่อาจสู้บรรยากาศหนักอึ้งตรงหน้าได้เลย

ที่หัวโต๊ะตรงนั้น มีชายวัยกลางคนที่ดูหล่อเหลาคนหนึ่งนั่งอยู่ ต้นตอของบรรยากาศหนาวเหน็บคือตัวตนของเขานั่นเอง

‘ลุดวิก ฟอร์ซ’ 

ทันใดนั้น ชื่อ ๆ หนึ่งก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง เหมือนกับคราวของลุยซาร์

‘งั้นนี่ก็คือพ่อของเรา…ของไนติงเกลสินะ’

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ…ท่านพ่อ”

“อรุณสวัสดิ์ นั่งสิ”

เขาพูดขึ้น ทั้งที่ยังคงไม่ละสายตาออกจากเอกสาร

โต๊ะยาวเต็มไปด้วยเก้าอี้ หากแต่มีที่ ๆ หนึ่ง ที่ถูกเว้นว่างเอาไว้ วิลแชร์เคลื่อนที่ด้วยเวทย์มนต์พาไนติงเกลไปเสียบเข้าที่มุมตรงนั้นอย่างพอดิบพอดี

‘หืม คนนั้นใครน่ะ?’

ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงัด ในระหว่างที่คนรับใช้กำลังยกจานอาหารมาวางไว้ตรงหน้า ไนติงเกลก็ต้องตกใจเมื่อเพิ่งสังเกตุบุคคลอีกหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมือ

ผู้หญิงคนนั้นมีตัวตนที่จืดจางมาก หน้าตาธรรมดา ไม่ขี้เหร่ ไม่สวย และนั่นทำให้เธอนึกถึงตัวเองจากโลกเดิมไม่น้อย  ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ห่างจากตัวเธอและดยุคฟอร์ซมาพอสมควร เรียกได้ว่าอยู่ระหว่างกึ่งกลางพอดี

‘แม่ของไนติงเกลหรอ? แล้วทำไ–’

“หะ”

ระหว่างที่เธอกำลังสังเกตุอีกฝ่ายอย่างระวัง สัญชาติญาณบางอย่างก็ถูกปลุกขึ้น… มันคือสัญชาติญาณของอัลฟ่า

กลิ่นหอมจาง ๆ ที่ลอยมาตามลมทำให้ไนติงเกลขมวดคิ้ว มันเป็นกลิ่นหอมของนมผสมกับน้ำผึ้ง ในชีวิตนี้เธอไม่เคยได้กลิ่นอะไรอย่างนี้มาก่อน! 

‘ไม่ผิดแน่! ผู้หญิงคนนี้เป็นโอเมก้า’

ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL

ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBL

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ดิฉันคือนางร้ายในนิยายBLณ อพาร์ตเมนต์ที่ไหนสักแห่งบนโลก มีเสียงพลิกหน้ากระดาษดังไปทั่วห้อง ต้นเสียงคือหญิงสาวที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เธอมีใบหน้าธรรมดา ไม่ได้ขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้สวย สวมแว่นหนาเตอะ อายุประมาณ 20 มาตรฐานเด็กมหาลัย เธอกำลังอ่านนิยายที่เพื่อนสนิทแนะนำมาให้ และก็พบว่ามัน…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset