เส้นแบ่งระหว่าง ความสุข และ ความทุกข์
คนมักจะกล่าวกันว่าฝาแฝดนั้นจะมีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน แต่ว่าถ้าเป็นพ่อแม่และลูกล่ะ? แล้วหากว่า ถ้าพวกเขาที่เป็นพี่น้องกัน มันจะเกิดความรู้สึกรักใคร่กันขึ้นมาได้รึเปล่า? หรือถึงแม้ว่ามันอาจะเป็นแบบนั้น แต่สัญชาตญาณในทางชีววิทยาของเราจะทำการปฏิเสธมันหรือไม่?
และตอนนี้ ตาลุงคนนี้ ที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าของผมที่ร้านกาแฟ เขานั้นก็เป็นคนที่น่าสงสัยที่ชื่อว่า ชิอุน มิกุโมะ ซึ่งได้อ้างตัวว่าเป็นพ่อของผม แต่ว่าผมเองนั้นก็ไม่เคยพบกับเขามาก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะเคยพบกับผมมาก่อนมันก็คงจะนานมากเกินไปแล้ว คงเกินกว่าที่ผมจะนึกออกหรือจำได้ และนั่นก็หมายความว่าชายที่น่าสงสัยคนนี้ไม่มีอยู่ในความทรงจำของผมเลยแม้แต่น้อย พูดย่อๆก็คือ เขาน่ะเป็นแค่คนแปลกหน้า และถึงแม้ว่าจะมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ผมก็ไม่มีความรู้สึกอะไรต่อเขา ไม่มีความผูกพันอะไรกับเขา และผมก็ไม่ได้มีความรู้สึกเห็นใจเขาในฐานะที่เป็นพ่อหรือแม้แต่ญาติ อืมมม!
“และนั่นเป็นเหตุผล—- และในที่สุดตอนนี้ ฉันก็อยู่ในฐานะที่เป็นคนดูแลจะควบคุมบริษัทของฉันเองได้แล้ว นั่นก็เลยเป็นเหตุผลที่ฉันมาที่นี่เพื่อพบนายนะ แล้วฉันก็ยังมีลูกอีกคนนึงที่อายุพอๆกับนายด้วย ทำไมไม่ลองคิดดูให้ดีล่ะ” (ชิอุน)
ตาลุงคนนี้ดูเหมือนจะต้องการพาผมเข้าไปอยู่กับเขา แต่แม่ของผมนั้น ก็ยังคงดูแลพี่สาวและผมอยู่ ถึงสิ่งที่ผมทำได้มันก็เพียงแค่รู้สึกขอบคุณที่ทำให้พวกเรานั้นสามารถใช้ชีวิตของเราได้อย่างไม่ขัดสนอะไรก็ตาม แต่ว่าผมเองก็ไม่ใช่เด็กประถมแล้ว ตอนนี้ผมน่ะเป็นนักเรียนมัธยมปลายแล้ว และนี่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ซะทั้งหมด ถึงอย่างนั้นผมก็ต้องตกตะลึงเมื่อได้ยินสถานการณ์จากตาลุงคนนี้
“แน่นอนมันต้องไม่โอเคอยู่แล้ว ไอ้สารเลว” (ยูกิโตะ)
――เป็นจังหวะเดียวกับที่มีเสียงน้ำจากก๊อกในร้านและเสียงรอบๆคาเฟ่นั้นได้ส่งเสียงดังขึ้นพอดี
“หืม? ฉันคิดว่าฉันเหมือนจะได้ยินอะไรที่มันดูจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรสักอย่างนะ……” (ชิอุน)
“มันก็แค่คุณคิดไปเอง มีคนบอกไว้ว่าการได้ยินจะค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆเมื่อคุณแก่ตัวขึ้นน่ะ” (ยูกิโตะ)
“เปล่านา ฉันเองก็ยังไม่แก่อะไรขนาดนั้น……” (ชิอุน)
“และผมก็คิดว่าคุณน่ะคิดผิดแล้วล่ะ แล้วสิ่งที่คุณพยายามจะพูดคือเรื่องนี้สินะ คุณแต่งงานใหม่ แต่ลูกติดของคุณเข้ากันได้ไม่ค่อยดี คุณเลยอยากฉวยโอกาสนี้โดยการใช้ผม” (ยูกิโตะ)
แล้วใบที่หน้าของตาลุงก็กระตุกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“นายไม่คิดว่านี่มันจะตรงเกินไปหน่อยเหรอ?” (ชิอุน)
“ผมก็แค่พยายามทำให้มันตรงประเด็นให้มากที่สุดก็แค่นั้น” (ยูกิโตะ)
และนี่ก็คือสิ่งที่ตาลุงนั้นได้เล่ามา มันก็เห็นได้ชัดว่าตาลุงนั้นแต่งงานใหม่ไปนานแล้ว ผู้หญิงอีกฝ่ายก็หย่าร้างมาแล้วเหมือนกันและมีลูกติดด้วย จากเรื่องราวที่ได้ฟัง เธอนั้นก็เป็นนักเรียนมัธยมปลาย แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ทะเลาะกัน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ก็ดูจะตึงเครียด คงเพราะด้วยเรื่องอายุขนาดนี้ แล้วก็เลยเป็นเรื่องยากสำหรับเธอ และนอกจากนี้ ตาลุงคนนี้ได้แต่งงานไปเข้ากับครอบครัวมิกุโมะในฐานะลูกเขย ดังนั้นเขาจึงมีภาระแค่เล็กน้อย แต่นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องของผม
แล้วก็คงเพราะเขาเกิดได้ความคิดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับผมขึ้นมา เขาคงอยากจะต้องการรักษาสมดุลภายในครอบครัวด้วยการพาผมเข้าไป และนั่นก็คือการตีความที่ได้จากเรื่องราวของตาลุง ถึงแม้จะมีการวางสิ่งของสวยงามทับซื้อเอาไว้สักกี่ชั้น สุดท้ายเนื้อในมันก็ยังคงเน่าเฟะเหมือนเดิมอยู่ดี
“ฉันอยากอยู่กับลูกชายของฉันจริงๆนะ ฉันไม่เคยคิดอยากจะใช้ประโยชน์จากนายเลย” (ชิอุน)
“แล้วถ้าอย่างนั้นทำไมคุณถึงได้มาหาผมเอาในตอนนี้กันล่ะ? ทั้งที่ก่อนหน้าคุณมีเวลาตั้งเยอะนี่” (ยูกิโตะ)
“นั่นเป็นเพราะฉันยังไม่มีอำนาจพอน่ะ แต่ว่าตอนนี้ฉันก็ได้เป็นผู้จัดการแล้ว ฉันก็มีลูกชาย—-” (ชิอุน)
“ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมมันเป็นแค่ผมล่ะ แล้วพี่สาวผมล่ะ?” (ยูกิโตะ)
“ฉันไม่คิดว่าซากุระฮานะจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้น่ะ แต่เธอก็น่าจะคิดว่านายคือคนที่……” (ชิอุน)
“–คิดว่าคง ไม่จำเป็นแล้วล่ะ สินะ” (ยูกิโตะ)
แล้วตาลุงนี้กำลังดูราวกับว่าเขากำลังเคี้ยวแมลงที่มีรสขมอยู่เลย ผมเข้าใจแล้ว เขาถึงกับยอมมาคุยกับผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันคงเป็นเพราะว่าเขาได้สืบทำการบ้านมาบ้างแล้วงั้นสิ ผมสงสัยว่าเขาคงจะคิดว่าผมที่น่าจะถูกแม่ทอดทิ้งจะเห็นด้วยกับเขาสินะ อันที่จริงเขาอาจจะพูดถูกก็ได้ และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของตาลุงกับแม่ของผมที่จะต้องตัดสินใจด้วยตัวเองกัน ถ้าหากว่าเธอไม่ต้องการผม ผมก็อาจจะเต็มใจยอมรับฟังเขา แต่มันจะดีกว่ามากเลยถ้าปล่อยให้ผมนั้นอยู่คนเดียว
“นายเองก็ดูเหมือนจะอยู่ในที่ๆหายใจได้ลำบากเหมือนกันใช่ไหม? ถ้าหากนายมีปัญหา ฉันก็อยากจะช่วยนะ” (ชิอุน)
“ผมเองก็มั่นใจนะ ว่าแม่ของผมน่ะดูจะไม่สามารถรับมือผมได้หรอก แต่……” (ยูกิโตะ)
“ดีละถ้าอย่างนั้น!” (ชิอุน)
“แหม~ แหม~ คือผมมีเรื่องอยากจะถามคุณซะก่อนหน่อยน่ะ” (ยูกิโตะ)
“แล้วมันคืออะไรล่ะ?” (ชิอุน)
“ทำไมคุณถึงได้หย่ากับแม่ของผมกันล่ะ?” (ยูกิโตะ)
แล้วผมก็ถามคำถามนี้ออกไป ซึ่งผมนั้นก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว ผมน่ะเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้วแต่ไม่ใช่จากแม่ของผม แต่มันมาจากยูกิกะซัง ตอนเด็กๆ ผมนั้นมัวแต่ยุ่งอยู่กับตัวเองซะจนไม่เคยสนใจเรื่องพ่อเลย แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของการรสนทนากันอย่างสบายๆกับยูกิกะ และเธอก็ได้บอกผมเกี่ยวกับเขา
ผมนั้นกล้าถามคำถามที่ผมเองนั้นก็รู้คำตอบอยู่แล้ว เพราะผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ผมต้องการจะได้ยินจากปากเขาในตอนนี้
“นี่ซากุระฮานะ ไม่ได้บอกอะไรนายเลยเหรอ? ฉันเองก็อายที่จะพูดนะ แต่มันก็เป็นเรื่อง คือฉันเคยมีปมด้อยกับแม่ของนายมาระยะหนึ่งแล้ว ทุกครั้งที่เธอทำบางอย่างได้สำเร็จในหน้าที่การงาน ฉันก็รู้สึกเหมือนถูกเปรียบเทียบน่ะ บางทีฉันอาจจะแค่หวาดระแวงไปว่าฉันมันคงไม่ดีพอสำหรับเธอ และนั่นคือตอนที่ฉันได้พบกับมิกุโมะซัง” (ชิอุน)
“แล้วทำไมคุณถึงพึ่งจะมารู้เรื่องนี้หลังจากที่แต่งงานแล้วกันล่ะ? ผมคิดว่าก่อนที่คุณจะแต่งงาน คุณก็จะต้องสร้างความสัมพันธ์มาก่อนนี่ แล้วทำไมคุณถึงละทิ้งมันได้อย่างง่ายดายล่ะ?” (ยูกิโตะ)
“ฉันคิดว่าทางเดียวที่จะอธิบายมันได้ก็คือมันเหมือนกับมีปีศาจได้เข้ามาสิงในตัวฉันน่ะ” (ชิอุน)
“ผมเข้าใจล่ะ” (ยูกิโตะ)
มันไม่เข้ากัน แล้วมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมนั้นรู้สึกเข้าใจได้มากในตอนนี้ ที่ผมเองนั้นก็เป็นอยู่ มันเห็นได้ชัดเจนว่าผมน่ะเป็นที่ป๊อปปุล่า แต่ว่าผมเองก็ไม่คู่ควรกับใครเลย ผมน่ะไม่สามารถที่จะมีความรู้สึก “รัก” เลยทำให้ไม่สามารถเข้าคู่กับใครได้
แต่ผมก็คงยังไม่เข้าใจ แล้วทำไมคุณถึงแต่งงานล่ะ? มันเป็นการโกง เป็นการทรยศที่เลวร้ายที่สุด มันต้องทำร้ายใครบางคนไปอย่างไม่สามารถจะแก้ไขได้ ไม่ใช่แค่หัวใจเท่านั้น เมื่อคุณแต่งงานแล้ว นี่มันจึงเป็นการผิดสัญญาอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่เรื่องรักๆใคร่ๆที่ยังคงคลุมเครือ แถมยังจะเหมือนกับแขวนป้ายเอาไว้ แล้วตบด้วยด้วยคำว่าหย่าร้างนะ
ถ้าหากคุณได้ตัดสินใจเลือกไปแล้ว เมื่อคุณได้ความรักไปแล้ว นั่นก็คือสิ่งที่คุณได้ตัดสินใจ คุณจะทรยศมันไปอย่างง่ายดายได้อย่างไรกัน? ทำไมมันถึงเป็นเรื่องง่ายที่จะเหยียบย่ำคนอื่นแบบนี้? ความรักมันจะไปจืดจาง เปราะบาง ไร้สาระ แบบนี้ได้ยังไงกัน?
“นี่จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ? มันก็จะไม่น่าแปลกใจเลยนะ ถ้าฉันจะต้องถูกประณามน่ะ และฉันก็คิดว่านั่นล่ะเป็นสาเหตุที่ลูกสาวของฉันถึงเกลียดฉันน่ะ” (ชิอุน)
“─ ก็เพราะผมน่ะไม่มีคุณสมบัติที่จะพูดอะไรกับเรื่องนี้สักหน่อยน่ะสิ” (ยูกิโตะ)
“นายมีสิทธิ์ที่จะพูดอะไรก็ได้นี่ ใช่ไหม?” (ชิอุน)
ตาลุงคนนี้คงจะเข้าใจอะไรผิดไปบางอย่าง แต่ผมก็จะไม่โทษเขากับเรื่องชู้สาวของเขา นี่มันเป็นเรื่องของแม่ผม ไม่ใช่ของผม ที่ต่างฝ่ายต่างก็ได้ตกลงกันไปแล้วในรูปแบบของการหย่าร้าง
และเหตุผลที่ว่าผมนั้นไม่คู่ควรก็เพราะว่าผมยังไม่รู้ว่า “ความรัก” นั้นคืออะไร ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “ความรัก” มันหมายถึงอะไร ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป้าหมายของการแต่งงานนั้นมันคืออะไรกันแน่ ไม่รู้ว่ามันจะต้องน้อยหรือมากเพื่อจะไปให้ถึงที่นั่นได้ ผมก็ยังคงไม่เข้าใจ “ความรัก” หรือ “ความเสน่หา” จึงทำให้เป้าหมายของการแต่งงานนั้นมันอยู่ไกลเกินกว่าความเข้าใจของผม
หากแต่ความรักและความโรแมนติกนั้นมันคือการทำให้ใครบางคนได้มีความสุข ผมก็จะทำให้ใครมีความสุขไม่ได้เลยถ้าหากผมยังไม่เข้าใจพวกเขา แทนที่จะให้ความสุข ผมจะกลับให้แต่ความโชคร้าย และในสถานการณ์เช่นนี้ มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะได้เป็นแฟนกับใครซักคน เพราะหากเป็นเช่นนี้แล้ว ผมก็จะลงเอยด้วยการทรยศและทำร้ายคนอื่นเหมือนอย่างตาลุงคนนี้ ผมน่ะไม่ได้อยากที่จะทำอย่างนั้น เพราะผมน่ะเจ็บมาหลายครั้งแล้ว และผมน่ะก็ไม่อยากที่จะทำร้ายใครอีก
ซึ่งพอหลังจากความเข้าใจผิดถูกแก้ไขให้กระจ่างแล้ว ฮินากิกับผมก็กลับมาเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันอีกครั้ง ส่วนผมกับคามิชิโระก็กลายเป็นเพื่อนสนิทในชมรมได้อีกครั้ง ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับผม ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้แม่และพี่สาวถึงใจดีกับผมมากด้วย แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับผมด้วยเช่นกัน กับในโลกที่ผมนั้นเคยคิดว่า ผมคงจะไม่สามารถแม้แต่จะมีความหวังอะไรได้ มันดูจะเป็นการโลภที่จะหวังให้มากขึ้นกว่านี้ แล้วผมก็ไม่รู้สึกว่าถูกใครปฏิเสธอีกแล้วเหมือนแต่ก่อน กลับมีแต่คนสนับสนุนผม และบอกว่ามันไม่เป็นไรที่จะอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป ผมกำลังเปลี่ยนจากการติดลบไปเป็น 0 อีกครั้ง และนั่นก็เป็นการก้าวไปข้างหน้าครั้งใหญ่
ผมก็เดาว่ามันคงถึงเวลาแล้วที่ผมนั้นจะต้องทำให้มันชัดเจน ตาลุงที่อยู่ข้างหน้าผมนี้เป็นเหมือนกับต้นแบบของผม เพื่อที่จะไม่ให้เป็นแบบนั้น ถ้าหากพวกสาวๆนั้นชอบผม ผมก็ควรจะต้องตอบรับพวกเขา
ผมคงไม่สามารถวิ่งหนีไปได้ตลอด โดยเพียงเอาแต่บอกว่าผมเองนั้นก็ไม่รู้ว่าตัวผมน่ะจะชอบได้อย่างไร นั่นน่ะออกจะโหดร้าย ขี้ขลาด และขาดความรับผิดชอบมาก ซึ่งนี่มันก็เป็นเพียงสถานการณ์เฉพาะของตัวผมเอง ผมคงจะไม่สามารถปล่อยให้สาวๆ ต้องสูญสียเสียช่วงเวลาแห่งความเยาว์วัยอันรุ่งโรจน์นี้ไปกับเรื่องแบบนี้ได้ มันไม่มีทางที่ผมจะมีสิทธ์ที่จะไปบดขยี้ความรู้สึกของคนที่เข้ามาใส่ใจกับพวกผู้หญิงเหล่านี้อย่างจริงจังได้หรอก
ถึงยังไงก็ตาม การที่ผมนั้นสามารถคิดถึงคนอื่นแบบนี้ได้ก็ถือเป็นความก้าวหน้าด้วย สำหรับตอนนี้ ความสัมพันธ์ของพวกเราก็ยังคงไม่มีอะไร และอย่างน้อย ไม่ว่าจะเจ็บปวดสักเพียงใด มันก็ยังดีกว่าการทรยศต่อพวกเธอหลังจากที่เรากลายเป็นคู่รักกัน แต่งงานกัน หรือเปลี่ยนความสัมพันธ์กันไปแล้ว
จริงด้วยสิ ตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมเขาถึงคิดว่าการพาผมเข้าไปจะได้ผลกับลูกติดของเขากันล่ะ? นั่นมันจะไม่ยิ่งทำให้เธอต้องเกลียดเขามากขึ้นไปอีกเหรอ?
ผมขัดจังหวะความคิดของผมเอง และตาลุงก็ได้ถามคำถามพื้นๆออกมา
“นี่นายยังคงจำเธอจากนามสกุลของฉันไม่ได้อีกงั้นเหรอ? เด็กผู้หญิงคนนั้นไปโรงเรียนเดียวกันกับนายนะ เธอน่ะ ยูมิ มิกุโมะ และนั่นก็คือชื่อของเธอ” (ชิอุน)
“ผมไม่อยากได้ยินสักหน่อย” (ยูกิโตะ)
เอ๊ะ? ผู้ชายคนนี้เป็นพ่อของรุ่นพี่มิกุโมะจริงๆงั้นเหรอ? ผมน่ะแน่ใจเลยว่าเขาน่ะเป็นเพียงแค่พ่อบนเอกสาร เพราะเขาก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเพราะเธอเป็นแค่ลูกติดของเขา รุ่นพี่มิกุโมะที่มักจะต้องดิ้นรนอยู่เสมอ แต่คงเป็นเพราะตาลุงคนนี้ เธอนั้นก็คงจะต้องดิ้นรนในขณะอยู่บ้านด้วยเช่นกัน…….
“ดูผมจะเป็นเพียงคนเดียวที่มีสามัญสำนึกมากพอที่จะสามารถควบคุม ความต้องการ ของรุ่นพี่ได้……” (ยูกิโตะ)
“ความต้องการ……? (ชิอุน)
“ผมกำลังพูดถึงเรื่องนี้แหล่ะ ดังนั้นคุณมันก็แค่ต้องการจะใช้ผม คุณมันห่วยแตก” (ยูกิโตะ)
“นี่นายเริ่มหยาบคายไปหน่อยแล้วนะ” (ชิอุน)
มันถึงเวลาที่จะต้องไปแล้ว และผมก็ยืนขึ้นราวกับว่าผมทำทุกอย่างจบหมดแล้ว
“ผมคงไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเองอีกต่อไปแล้วล่ะครับ ผมคิดว่าคุณคงจะต้องไปคุยกับแม่ผม” (ยูกิโตะ)
“ก็ใช่ แต่ว่า…… เธอคงไม่มีวันยกโทษให้ฉัน” (ชิอุน)
“แน่นอน เธอไม่ยอมหรอก งี่เง่าจริง” (ยูกิโตะ)
“นี่นายไปเอาปากไม่ดีแบบนี้มาจากไหนกันนี่” (ชิอุน)
“ก็แม่ของผมไง” (ยูกิโตะ)
“ฉันชักจะกลัวที่จะเจอเธอแล้วสิ……” (ชิอุน)
แล้วผมก็ออกจากร้านกาแฟไป พระอาทิตย์ก็กำลังจะตกดิน เมื่อกำลังมองฝูงชนที่เดินผ่านไปมา ผมก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยกำลังมุ่งหน้ามาหา
“—–ลูกไปพูดคุยอะไรกับผู้ชายคนนั้นมาน่ะ ยูกิโตะ” (แม่)
แต่ว่ากับคนที่อยู่ในตอนนี้ มันไม่เหมือนกับแม่แบบที่ผมนั้นเคยเห็นมาก่อน ดวงตาของเธอลึกและมืดมนมากจนผมนั้นคิดว่าเธอเป็นคนอื่น แถมเพราะใบหน้าของแม่ของผมนั้นเต็มไปด้วยความโกรธในตอนที่เธอปรากฏตัวขึ้นมานั่นเอง