ตอนที่ 641 ความแตก! กู้เชินฝ่าหมอกตามหาลูกสาว (1)
“ตอนหลังผมหาคนขับคนนั้นเจอถึงได้รู้ว่าปีนั้นมีคนให้เงินกับเขา ตั้งใจปล่อยพวกเราไว้กลางทาง ดังนั้นผมจึงให้คนไปสืบ พบว่าตอนนั้นพวกเราเจอเข้ากับโจรลักพาตัวสองคนนั้นไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นคดีลักพาตัวที่วางแผนอย่างรอบคอบไว้ล่วงหน้า”
“เบื้องหลังผู้ร้ายเป็นใคร” อวี๋กานกานถาม
“เวลาผ่านไปนานมากแล้ว หลังจากที่ผมรู้ ให้คนไปสืบ สิ่งที่สืบมาได้น้อยเกินไป ต่อให้ในใจของผมมีข้อสงสัยแต่ว่าผมไม่มีหลักฐาน นอกจากนี้ผมทำให้คุณหายตัวไป ลุงกู้เกลียดผม เพราะงั้นผมหาคุณเจอ ระหว่างที่ยังหาตัวฆาตกรในปีนั้นไม่เจอ ผมไม่อาจให้คุณกลับไปที่บ้านตระกูลกู้ ผมไม่มีทางยอมรับความเจ็บปวดที่สูญเสียคุณไปอีกครั้งหนึ่งได้”
ไม่ให้เธอกลับไปแล้ว นอกจากเขาต้องการจะสืบความจริงตอนนั้น ก็ไม่ต้องการให้มีคนเพิ่มมาอีกหนึ่งคนที่มากระจายความรักกับความสนใจของเธอไป
แรกเริ่มเดิมทีตอนที่หาเธอเจอ เขามีแค่ความรู้สึกดังเมื่อก่อนให้กับเธอ ไม่ชัดเจน คล้ายกับความคิดถึงเสียมากกว่า
แต่ยิ่งเวลาที่ได้รู้จักกันนานยิ่งขึ้น นอกจากความรู้สึกที่คิดถึงเหล่านั้นยังมีความรักชัดเจน มักต้องการเป็นเจ้าของทุกอย่างจากเธอเพียงคนเดียว เอาแต่หวังว่าโลกของเธอนอกจากเขาก็จะไม่มีคนอื่นอีก
แต่เพราะว่ารักเขาถึงอดกลั้นควบคุมตนเองอย่างนี้ ไม่อยากให้เธอลำบากใจใดๆ หวังเพียงในทุกๆ วันเธอจะสดใสงดงามเหมือนดอกทานตะวัน
อวี๋กานกานอยากร้องไห้อีกแล้ว ด่าด้วยนัยน์ตาแดง “คุณมันโง่”
ชายหนุ่มประคองใบหน้าเธอไว้ จูบลงไปที่ดวงตาของเธอ “ใช่ ผมมันโง่ เพราะงั้นถึงได้ทำคุณหายไป ขอโทษ เสี่ยวอวี๋ของผม พี่เจียงไม่ได้ปกป้องเธอให้ดี”
อวี๋กานกานนึกถึงในฝัน หนุ่มน้อยเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดบอกให้เธอรีบหนี เธอเอื้อมมือไปกอดเอวเขาเอาไว้ “ไม่ คุณปกป้องฉันแล้ว ถ้าไม่ได้คุณปกป้องฉัน ตอนนี้จะยังมีชีวิตอยู่ดีได้ยังไงกัน”
เธอสูดจมูก “คนที่คุณสงสัยใช่จูอวี้ลู่หรือไม่”
ฟังจือหันหลุบตาลง “ผมไม่มีหลักฐาน ตอนนั้นคนที่จับคุณก็ตายไปแล้ว เบาะแสทั้งหมดขาดหายไปแล้ว”
“คุณให้ฉันรู้แล้ว ฉันก็ไม่ได้ต้องการกลับไปบ้านตระกูลกู้” มิน่าเธอถึงเกลียดกู้ซูหลิงกับจูอวี้ลู่แต่กลับไม่สามารถเกลียดกู้เชินได้เลย
เพราะว่ามีความสัมพันธ์ทางสายเลือด
เพียงแต่กู้เชินแต่งงานใหม่ไปแล้ว เขามีครอบครัวของตัวเขาเอง เธอไม่จำเป็นต้องกลับไปที่บ้านตระกูลกู้เลยสักนิด
เธอเหลือบตามองเขาพร้อมกับเอ่ย “คุณเคยถามฉันว่าอยากรู้ว่าพ่อแม่ของตัวเองเป็นใครไหม ตอนนั้นถ้าฉันบอกว่าอยากรู้ คุณจะพาฉันกลับไปบ้านตระกูลกู้ไหม”
ฟังจือหันดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด โอบเอาไว้แน่น “ไม่รู้ ผมคงจะคิดดูก่อน”
“ฉันจะไม่กลับไปบ้านตระกูลกู้ แต่ว่าฉันว่าคุณต้องบอกเขาว่ากู้เหยียนอวี๋คนนั้นเป็นตัวปลอม” เธอไม่อยากให้กู้เชินโดนหลอก
“ได้”
ทั้งคู่กอดกัน หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะฟังจือหันก็พาเธอออกจากบริษัทไป
ฟังจือหันยังคงเป็นคนทำมื้อค่ำในวันนี้ และยังคงเป็นสเต๊ก
เห็นฟังจือหันถือแก้วไวน์แดง อวี๋กานกานจึงเอ่ย “ฉันก็อยากดื่มไวน์สักหน่อย”
เธอเอื้อมมือไปหยิบแก้วไวน์ แต่มือถูกฟังจือหันกดเอาไว้ “คุณดื่มไวน์ไม่เป็น”
“ฉันรู้ แต่ว่าวันนี้ฉันอยากดื่มสักแก้วหนึ่งจริงๆ” อวี๋กานกานพูดพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ “ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้ฉันตกใจมากเลย ตอนนี้ฉันรู้สึกอาหารไม่ค่อยย่อย แต่ก็เหมือนกับอาหารบ่อยแล้ว รู้สึกว่าก็ไม่ได้มีอะไร แค่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ยังไงก็ตามอยากจะดื่มสักแก้วหนึ่ง”
ฟังจือหันลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงเอามือออกจากมืออวี๋กานกาน…
ตอนที่ 642 ความแตก! กู้เชินฝ่าหมอกตามหาลูกสาว (2)
ฟังจือหันลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงเอามือออกจากมืออวี๋กานกาน หยิบแก้วไวน์ไปเทให้เธอครึ่งแก้ว “งั้นก็ดื่มเป็นเพื่อนผมสักหน่อยละกัน”
ไวน์สีทองเจือฟองอากาศเล็กๆ กระจายไปตามแก้วส่งกลิ่นหอมเข้มออกมา
อวี๋กานกานถือแก้วแล้วจิบอึกหนึ่ง จากนั้นก็ขมวดคิ้ว คนที่ดื่มไวน์เป็นจะคิดว่าไวน์นี้สดมากจริงๆ ถ้าเป็นเธอกลับรู้เพียงว่าทั้งเผ็ดร้อนทั้งขม
เธอวางแก้วลงแล้วพูดกับฟังจือหัน “คุณรู้ไหม หลังจากที่ฉันคืนดีกับคุณแล้วเคยคิดแบบนี้ด้วย ถ้ามีคนหนึ่งฉันจำเรื่องพี่เจียงได้ทั้งหมด ถ้ามีวันหนึ่งพี่เจียงมาหาฉัน แล้วฉันจะเลิกกับคุณและไปคบกับพี่เจียงหรือไม่”
ฟังจือหันโคลงแก้วในมือ ของเหลวสีทองข้างในเคลื่อนไหวเบาๆ “งั้นตอนนี้คุณดีใจไหม”
“ไม่ดีใจ?” อวี๋กานกานหัวเราะออกมาเบาๆ “เสียโอกาสนอกใจไปแล้ว”
ฟังจือหัน “…”
อวี๋กานกานเงยหน้าดื่มไวน์ในแก้วจนหมด ฟังจือหันขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณค่อยๆ ดื่มสิ”
วางแก้วลง มาหาฟังจือหันและนั่งลงบนตักเขา แขนสองข้างโอบรอบลำคอเขา “ฟังจือหัน ฉันชอบคุณมากจริงๆ ชอบมากๆ…”
จากนั้นก็โน้มตัวจูบไปที่ปากของเขา
แขนของฟังจือหันรัดรอบเอวเธอ กอดเธอพลิกสถานการณ์กลับเป็นได้เปรียบ จากตื้นไปจนลึก คลอเคลียด้วยความร้อนแรง จากห้องรับแขกไปถึงห้องนอน ไปจนถึงห้องน้ำก็ทิ้งร่องรอยความเราของพวกเขาเอาไว้
เหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่แยกจากกันนานมากจึงแนบชิดกันอย่างเร่าร้อน
อวี๋กานกานหอบเบาๆ เล็กน้อย ใบหน้าเปียกชื้นหลังจากสุขใจพลางนอนซบอย่างหมดแรงไปบนตัวของฟังจือหัน แม้แต่นิ้วก็อ่อนปวกเปียกจนยกไม่ขึ้น
เธอมองแผลเป็นบนหน้าอกของชายหนุ่มแล้วเอ่ยถามเบาๆ “แผลเป็นนี้ที่โดนแทงตอนนั้นใช่ไหม”
เธอจำภาพในความฝันได้ หนุ่มน้อยเดินอยู่กับพื้นเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด ตั้งแต่หัวกับตัวเต็มไปด้วยรอยแผล
ชายหนุ่มนอนอย่างเกียจคร้าน นิ้วสางก็ไปตามเส้นผมยาวของเธอเป็นพักๆ แล้วส่งเสียง “อืม” เบาๆ ออกมา
“ขอโทษนะ”
“ทำไมคุณต้องขอโทษผมด้วย”
อวี๋กานกานจูบลงบนรอยแผลนั้นเบาๆ ครู่หนึ่ง นิ้วลูบไปพร้อมกับเอ่ย “ถ้าไม่ใช่เพื่อฉัน คุณก็คงไม่ต้องบาดเจ็บอะไรทั้งนั้น”
“ไม่ใช่ว่าผมช่วยชีวิตคุณ” นิ้วของฟังจือหันลูบแก้มเธอเบาๆ “แต่เป็นคุณช่วยชีวิตผมไว้”
เขาบาดเจ็บ แต่เธอเพื่อช่วยเขาแล้วนำสองคนนั้น หลังจากเขาถูกเธอซ่อนไว้ข้างหลัง ทั้งตัวเป็นเลือด ไม่ขยับเขยื้อน ทำได้เพียงมองตาปริบๆ เห็นเธอหนีไปไกล
จนกระทั่งเขาฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว แต่เธอหายตัวไป ไม่ว่าจะตามหาอย่างไรแต่ก็หาไม่เจอ
ทุกคนต่างบอกว่าเธอตายไปแล้ว แต่เขาไม่เชื่อ เขาเชื่อตนเองว่าจะต้องมีสักวันหนึ่งที่จะหาเธอเจอแน่
“คุณไม่กลัวว่าสุดท้ายแล้วจะยังคงสูญเปล่า” อวี๋กานกานไม่รู้ว่าควรจะซึ้งใจหรือควรจะตลกดีเลยจริงๆ
“ไม่กลัว เพราะว่าคนคนนั้นเป็นคุณ”
อวี๋กานกานดันตัวครึ่งหนึ่งแนบบนลำตัวเขาพร้อมกับยิ้มหวาน “เห็นคุณจมอยู่ในความสวยของฉันตั้งแต่เด็ก ไม่อาจถอนตัวไปได้!”
ฟังจือหันอดหัวเราะออกมาเสียไม่ได้ “ใช่ ผมมัวเมาอยู่กับความสวยของคุณจนไม่มีทางถอนตัวไปได้”
“งั้นถ้าฉันแก่แล้ว ไม่สวยแล้วจะทำยังไง คุณคงจะไม่ลุ่มหลงอยู่ตลอดหรอกสินะ?!”
“ทำไมจะไม่ได้ คุณแก่แล้ว งั้นผมก็แก่แล้ว แก่แล้วยังจะมารักสวยรักงามอะไรอีก”
“เหอะ นั่นก็ใช่ ผู้ชายไม่ว่าจะอายุยี่สิบ หรืออายุสามสิบ สี่สิบ ห้าสิบ…ถึงอย่างไรก็มีงานอดิเรกแบบเดียวกัน ชอบสาวน้อยวัยรุ่นสวยๆ”