เมื่อเย่เฟิงได้ยินอย่างนั้น จึงถึงกับตกใจ แล้วโพล่งออกไปว่า“คุณปู่ครับ จะให้ผมส่งเธอกลับหรอครับ?ผมยังต้องร่วมพิธีไหว้บรรพบุรุษอีกนะครับ!”
เย่โจงฉวนจึงโพล่งออกไปว่า“เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถ้าตระกูลเย่ของเรายังจะให้หมอส่งเฮเลน่ากลับไป จะต้องถูกคนอื่นวิจารณ์อย่างหนักแน่ แกเป็นหลานคนโตของตระกูลเย่ และเป็นคู่หมั้นของเธอด้วย แกสามารถใช้สิทธิ์ในการเป็นผู้แทนของตระกูลเย่!”
“นอกจากนี้ แกยังสามารถไปถึงยุโรปเหนือได้ภายในสี่ชั่วโมง ด้วยเครื่องบินคองคอร์ด แกส่งมอบเธอให้ราชวงศ์ยุโรปเหนือแล้วรีบบินกลับมาทันที คืนนี้หรืออย่างช้าสุดเช้าตรู่ก็กลับมาถึงแล้ว ไม่เสียเวลาแกร่วมพิธีไหว้บรรพบุรุษหรอก”
พูดถึงตรงนี้ เย่โจงฉวนก็กำชับว่า“เฮเลน่าเป็นคู่หมั้นของแก ถ้าแกไม่ไปส่งเธอกลับ ราชวงศ์ยุโรปเหรือก็จะต้องหาเรื่องเราแน่ ถ้าเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไปก็จะมีผลกระทบต่อชื่อเสียงของแก!แกอายุยังน้อย จะแบกรับคำตราหน้าแบบนี้ไม่ได้!”
เย่ฉางโคงที่อยู่ข้างๆจึงรีบกล่าวว่า“จริงด้วยเสี่ยวเฟิง!เรื่องนี้แกต้องเป็นคนออกหน้าเอง!ถ้าไม่เป็นแบบนั้น จากนี้ไปแกก็ต้องถูกตีหน้าก่นด่าสาปแช่ง!”
เย่เฟิงอดที่สบถไม่ได้ว่า“แม่งเอ้ยซวยจริงๆ!”
พูดจบ ถึงพึ่งรู้ตัวว่าตนเองพูดผิดไป จึงรีบกล่าวว่า“ขอโทษครับคุณปู่ ขอโทษครับคุณพ่อ เมื่อกี้ผมใจร้อนไปหน่อย อย่าถือสาเลยนะครับ”
เย่โจงฉวนโบกมือไปมา แล้วพูดว่า“ไม่เป็นไร แกรีบพาเฮเลน่าไปที่สนามบิน ระหว่างทางก็เรียกเธอด้วย อย่าทำให้เธอตื่นเต้นนะ จะต้องให้เธอมีชีวิตกลับไปถึงยุโรปเหนือ เข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้วครับ……”เย่เฟิงรีบพยักหน้า
ตอนนี้ ผู้อำนวยการจ้าวรีบกลับไปห้องไอซียู
เย่โจงฉวนมองไปที่เย่เฟิง แล้วโพล่งออกมาว่า“เสี่ยวเฟง แกเข้าไปกับฉันด้วย ไปปลอบเฮเลน่า!”
เย่เฟิงทำได้แค่พยักหน้า แล้วเข้าไปห้องไอซียูกับคุณท่าน
พอเข้ามาในห้องไอซียู ผู้อำนวยการจ้าวก็พูดกับหมอทุกคนว่า“ทุกท่านครับรีบเตรียมยาช่วยชีวิต เครื่องมือรวมถึงเครื่องทำออกซิเจนและถังออกซิเจนด้วย อีกสิบห้านาทีเราจะมุ่งหน้าไปที่สนามบิน หลังจากก็บินตรงไปยังยุโรปเหนือ!”
เมื่อทุกคนได้ยินอย่างนั้น จึงรีบไปเตรียมการทันที
เฮเลน่านอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยอย่างอ่อนแรง แล้วมองไปที่เย่โจงฉวนกับเย่เฟิง พลางถามอย่างขมขื่นว่า“พวกคุณจะส่งฉันกลับใช่ไหมคะ?”
เย่เฟิงพยักหน้า แล้วพูดอย่างกล้ำกลืนว่า“เฮเลน่า หัวเซี่ยเรามีคำพูดโบราณกล่าวไว้ว่าใบไม้ร่วงสู่ราก อาการของคุณแย่ขนาดนี้ เราจะต้องส่งคุณกลับยุโรปเหนือ ก่อนที่อาการของคุณจะแย่ไปกว่านี้”
เฮเลน่าหลุดขำ แล้วกล่าวว่า“ได้……ขอบคุณในความหวังดีของพวกคุณนะคะ……แต่ฉันกลัวว่าจะไม่สามารถทนต่อไปได้จนถึงเครื่องลงจอดที่ยุโรปเหนือ……”
เมื่อเย่เฟิงได้ยินอย่างนั้น หน้าของเขาเขียวในทันที เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซวยที่สุด ขอแค่เฮเลน่าไม่สามารถอยู่รอจนถึงเครื่องลงจอดที่ยุโรปเหนือ ถึงเธอจะหายใจเฮือกสุดท้ายก่อนหนึ่งวินาที ตระกูลเย่ก็ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้
เย่โจงฉวนรู้หลักการในข้อนี้ดี
ถ้าเฮเลน่าเป็นแค่สมาชิกในราชวงศ์ยุโรปเหนือ ยังพอคุยกันได้ เนื่องจากเหตุผลส่วนตัวของระหว่างสองตระกูล แต่เฮเลน่าเป็นองค์หญิงแห่งราชวงศ์เหนือ ถึงแม่ว่าราชวงศ์จะสูญเสียอำนาจในทางการเมืองไป แต่เพราะเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองของยุโรปเหนือ จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยทางการเมืองได้อย่างสิ้นเชิง
เมื่อเรื่องนี้ขึ้นสู่ระดับการเมือง เรื่องนี้ก็จะไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ!
เย่โจงฉวนรู้สึกหนักใจ
แต่ว่า เมื่อเห็นอาการของเฮเลน่าในตอนนี้ กลัวว่าเธอจะไม่สามารถอยู่ต่อจนกลับไปถึงยุโรปเหนือ
ในตอนที่เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เฮเลน่าก็พูดอย่างอ่อนแรงว่า“คุณ……คุณเอามือถือถ่ายคลิปให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ……ฉันจะ……ฉันจะอธิบายในคลิป ถึงสาเหตุการตายของฉันว่าเป็นโรคหัวใจกำเนิด ไม่เกี่ยวอะไร……กับตระกูลเย่ของพวกคุณ แบบนี้พวกคุณจะได้ไม่ต้อง……ไม่ต้องรีบ……ส่งฉันไปที่สนามบิน……”
เย่เฟิงที่กลัวว่าท้ายที่สุดจะต้องตกเป็นจำเลยของสังคมก็รู้สึกดีใจ แต่ปากกลับพูดว่า“โธ่เฮเลน่า เราไม่ได้หมายความแบบนั้นนะ แค่อยากให้เธอกลับไปประเทศที่ตัวเองรัก ไม่อยากให้เธอเสียใจทีหลังแค่นั้นเอง”
ถึงแม้ปากของเย่เฟิงจะพูดแบบนั้น แต่มือกลับล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เอามือถือออกมา แล้วเปิดกล้อง จากนั้นก็พูดกับเฮเลน่าว่า“แต่ความคิดของคุณก็เข้าท่าเหมือนกัน เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดของสาธารณชน รบกวนคุณอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทุกคนหน่อยนะครับ