ถังซื่อไห่กล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “จริงเหรอ?! มัน…มันเยี่ยมมาก!! ด้วยความสามารถของคุณชายเฉิน เมื่อเวลาผ่านไป เขาจะต้องกลายเป็นผู้นำตระกูลเย่แน่นอน!”
กู้เย้นจงพยักหน้าอย่างหนักแน่น “อย่างที่คุณพูด เฉินเอ๋อเป็นผู้นำตระกูลเย่นั้นเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น การแก้แค้นให้พี่เย่และพี่สะใภ้ และการนำตระกูลเย่ไปสู่จุดสูงสุดของโลกคือเป้าหมายสูงสุด! เมื่อถึงเวลานั้น ผมกู้เย้นจงและตระกูลกู้จะทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุนเฉินเอ๋อ!”
เมื่อถังซื่อไห่ได้ยินประโยคนี้ เขาคุกเข่าทันทีและกล่าวอย่างซาบซึ้งว่า “ประธานกู้ น้ำใจไมตรีที่คุณมีต่อคุณชายฉางอิงนั้นยิ่งใหญ่มาก โปรดยอมรับการคารวะของซื่อไห่ด้วย!”
กู้เย้นจงรีบพยุงเขาลุกขึ้นและกล่าวอย่างจริงจังว่า “ซื่อไห่ คุณไม่จำเป็นต้องคารวะผมเช่นนี้ ต่อไปนี้คุณกับผมจะเป็นสหายและเพื่อนร่วมอุดมการณ์! พวกเราจะทำงานร่วมกัน เพื่อกำจัดอุปสรรคทั้งหมดให้เฉินเอ๋อได้กลายเป็นทายาทผู้สืบทอดของตระกูลเย่!”
ถังซื่อไห่พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ซื่อไห่เข้าใจแล้วครับ! 20 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ผมรอก็คือวันนี้!”
กู้เย้นจงพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะ! ด้วยคำพูดประโยคนี้ของคุณ ผมก็รู้สึกวางใจแล้ว!”
หลังจากนั้น เขากล่าวอีกว่า “เฉินเอ๋อเตรียมตัวพร้อมแล้ว คุณเดินเข้าไปพร้อมกับผมเถอะ”
“โอเค!” ถังซื่อไห่เดินตามกู้เย้นจงเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลกู้
เมื่อเห็นเย่เฉิน ถังซื่อไห่กล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “คุณชาย วันนี้คุณแต่งตัวมีชีวิตชีวามาก!”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย “พ่อบ้านถัง ก่อนหน้านั้นคุณเคยบอกว่าญาติจากต่างประเทศจะมาก่อน 9:00 น. ไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงเปลี่ยนเป็น 9:30 น. อย่างกะทันหันล่ะ?”
ถังซื่อไห่กล่าวอย่างเก้อเขินว่า “เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ดังนั้นคุณท่านจึงเลื่อนเวลาออกไปครึ่งชั่วโมง”
หลังจากนั้น ถังซื่อไห่กล่าวอีกว่า “โรคหัวใจของเจ้าหญิงเฮเลน่ากำเริบอย่างกะทันหันและถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล และไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะพ้นขีดอันตราย”
กู้ชิวอี๋อุทาน “ห๊ะ? โรคหัวใจของเจ้าหญิงเฮเลน่ากำเริบอย่างกะทันหันหรือ?”
ถังซื่อไห่พยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่! ตอนแรกสถานการณ์อันตรายมาก เดิมทีคุณหมอบอกว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ไม่กี่ชั่วโมง แต่สุดท้ายมันก็ดีขึ้น”
กู้ชิวอี๋มองไปที่เย่เฉิน และกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “พี่เย่เฉิน คุณเก่งมาก! เฮเลน่ากัดนิ้วกลางขวาของตนเอง อาการถึงดีขึ้นมาใช่ไหม?”
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องบางเรื่องรู้อยู่ในใจก็พอ ไม่ควรนำมาพูด ถ้าพูดตรง ๆ แบบนี้มันก็น่าเบื่อสิ”
ถังซื่อไห่ที่อยู่ด้านข้างกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เมื่อสักครู่ผมเพิ่งสังเกตเห็นนิ้วขวาของเจ้าหญิงเฮเลน่าถูกกัดจริง ๆ คุณชายเยี่ยมจริง ๆ สามารถทำให้คนที่ใกล้ตายกลับมาหายเป็นปกติ!”
สีหน้าของกู้เย้นจงและหลินหว่านชิวเต็มไปด้วยความมึนงง หลินหว่านชิวอดไม่ได้ที่จะถาม “พวกคุณกำลังพูดเรื่องอะไร? ทำไมฉันถึงฟังไม่เข้าใจ?”
กู้ชิวอี๋กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แม่ เรื่องนี้เล่าแล้วมันยาว หลังจากฉันไปส่งพี่เย่เฉินกลับมาแล้วจะเล่าให้ฟัง!”
ขณะนี้ถังซื่อไห่กล่าวว่า “คุณชายตอนนี้เก้าโมงแล้ว พวกเราต้องรีบออกเดินทางแล้ว”
“โอเค” เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวกับกู้ชิวอี๋ว่า “หนานหนาน ในเมื่อพ่อบ้านถังมาแล้ว คุณไม่ต้องลำบากไปส่งผมอีก”
กู้ชิวอี๋กล่าวปฏิเสธทันที “ไม่! ถึงเป็นเช่นนั้นฉันก็จะไปด้วย! เพราะยังไงมันก็ไม่ไกล!”
กู้เย้นจงกล่าวว่า “หนานหนาน วันนี้เป็นวันที่ตระกูลเย่พบปะญาติ ๆ ซึ่งไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน และไม่ต้อนรับแขกคนอื่น ๆ ดังนั้นคุณอย่าไปประสมโรงเลย”
กู้ชิวอี๋หน้าบึ้งและกล่าวว่า “อย่างมากสุดเมื่อไปถึงที่นั่นแล้วฉันจะไม่ลงจากรถ ฉันจะส่งพี่เย่เฉินไปถึงตระกูลเย่ และฉันจะกลับมากับขบวนรถของพวกเราทันที”
กู้เย้นจงยิ้มอย่างจำใจ “เอาล่ะ ในเมื่อคุณเต็มใจที่จะไปลำบาก งั้นก็ไปเถอะ”
“ฮิ ๆ” กู้ชิวอี๋แลบลิ้นออกมา รีบควงแขนเย่เฉินและกล่าวว่า “พี่เย่เฉิน พวกเราไปกันเถอะ!”