บทที่ 42 – การตอบโต้ของนางร้าย
เช้าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น.. วันนี้ควรจะเป็นวันที่ให้ฉันไปเที่ยวในเมืองได้แท้ๆ แต่เพราะฉันต้องไปแอบตามสตอล์คเกอร์ยัยเซเลน่า
เพื่อส่งยัยเซเลน่าเปลี่ยนรูทไปรูทอื่น เพราะงั้นแหละ ฉันจึงต้องตามติดชีวิตเซเลน่าในวันนี้
ถ้าฉันจำไม่ผิดวันนี้ที่นักเรียนจะไปเที่ยวกัน จะมีเหตุการณ์หนึ่งที่ต้องเจอกับโรงเรียนอื่นที่เป็นโรงเรียนเอเรียสด้วย
แน่นอนว่ารูทนี้เป็นรูทของไอ้องค์ชายนิสัยเสียอเล็กซานนั่น นั่นจึงหมายความว่าเวลากลางวันของสองคนคนนี้พวกเขาจะบังเอิญไปพบกัน
และมีอีเว้นต่างๆ เกิดขึ้น…. แต่เพราะนี่เข้าสู่ช่วงอีเว้นใหญ่ดังนั้นคนที่จะเป็นคนไปเดทกับเซเลน่าจึงมีโอกาสเป็นคนอื่นนอกจากอเล็กซาน
ซึ่งคนที่กำหนดว่าใครจะไปเดทด้วยกันก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซเลน่า เพราะเมื่อคืนตอนเธอฝันนี้จะมีปรนัยมาให้เธอเลือกว่า ถ้าเลือกได้จะเลือกไปเที่ยวกับใคร
ซึ่งไอ้ฉันไม่รู้เรื่องที่เกิดในฝันหรอกนะ.. อีกอย่างนะ นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมเพื่อให้ผู้เล่นง่ายต่อการเปลี่ยนรูทมากขึ้นเท่านั้น
ก็คือการพัฒนาความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นเพื่อเปลี่ยนรูท แต่ปัญหาคือเนื้อเรื่องจะมีแบบ ‘Hidden Story’ ด้วย นี่แหละคือความเข้มข้นของเกมนี้
สมมุติว่าเราเลือกรูทอเล็กซานแล้ว พัฒนาความสัมพันธ์ของอเล็กซานจนถึงจุดจุดหนึ่งหากมีการหักดิบเปลี่ยนรูทดื้อๆ
มันจะมีเนื้อเรื่องเบื้องหลังโผล่มาซึ่งอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งของเป้าหมายในการจีบด้วยกันเองได้ด้วยนั่นแหละ
นอกจากนี้เนื้อเรื่องเบื้องหลังพวกนี้ยังอาจจะทำให้ผู้เล่นได้ไปลงเอยในรูทที่ตัวเองไม่ได้ต้องการได้ด้วยนั้นเอง
ซึ่งสิ่งที่ฉันต้องทำก็คือการ.. แก้ไขทั้งเนื้อเรื่องหลักที่ยัยเซเลน่าเลือกและระวังเนื้อเรื่องเบื้องหลังที่อาจจะนำไปสู่รูทที่ฮาร์ดคอร์ยิ่งกว่าเดิม
แถมตอนนี้เกมกลายเป็นความจริง ไม่รู้ด้วยว่ายัยเซเลน่านางเอกของเกมยังสามารถเลือกปรนัยได้เหมือนเดิมไหม
ถ้าเลือกได้ก็คงง่ายต่อการพยายามเปลี่ยนรูทของฉันนั่นแหละ.. แต่ถ้าเลือกไม่ได้ขึ้นมางั้นฉันก็คงต้องพึ่งการเดาเอาเท่านั้นว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม..
ฉันรู้ว่าหลังจากนี้ยัยนางเอกเซเลน่าจะออกจากที่พักไปคนเดียว แล้วบังเอิญไปเจอกับพวกโรงเรียนเอเรียส แล้วค่อยได้เจอกับเป้าหมายในการจีบซึ่งจะนำพาไปสู่การเดทกันและมีอีเว้นเพิ่มความสัมพันธ์มากมายเกิดขึ้น
ฉันให้เป็นงั้นโดยไม่ได้เด็ดขาด นี่ก็เป็นเวลาประมาณแปดโมงแล้ว ยัยเซเลน่าคงออกจากบ้านไปแล้วล่ะ
สิ่งที่ฉันต้องทำก่อนไปตามติดชีวิตยัยเซเลน่าฉันต้องลองไปทำให้ไอ้พวกเป้าหมายในการจีบออกจากห้องพักในทันทีไม่ได้ อย่างน้อยก็จนกว่าจะผ่านช่วงเช้าไปก่อน
เพราะงั้นฉันจึงแอบย่องออกจากห้องตัวเองและไปที่ห้องพักของไอ้อเล็กซานคนแรกที่อยู่ในชั้นเจ็ด ถามว่าทำไมฉันถึงรู้เพราะก่อนที่ฉันจะถูกพามาห้อง
ฉันเห็นคุณเบต้าบอกเลยว่าห้องไหนเป็นของใครนี่.. แต่พอลงมาชั้นเจ็ดฉันก็เห็นเซเลน่าเดินออกจากห้องพอดี
ขืนยัยนั่นเห็นฉันอยู่แถวนี้คงรู้แผนฉันทันทีแน่ แต่แถวนี้ก็ดันไม่มีที่หลบเพราะเป็นทางเดินยาวไปจนถึงสุดทางเลย
นอกจากแถวๆ ทางเข้าชั้นเจ็ดที่มีทางเดินแยกไปอีกทางเหมือนกัน แต่ด้านข้างก็มีหน้าต่างอยู่นะ… พอยัยเซเลน่าหันไปล็อคประตู
ฉันก็กัดฟัน.. โดดออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับขอบหน้าต่างทันทีซึ่งพอมานั่งคิดดีๆ ก็รู้สึกว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย
ถึงยัยนั่นจะฉลาดก็ไม่น่าฉลาดถึงขั้นอ่านใจคนอื่นได้ขนาดนั้นหรอกใช่ไหมล่ะ แม้แต่ตัวฉันเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่เหมือนกัน
นี่มันชั้นเจ็ดเลยนะ สูงจากพื้นกี่สิบเมตรไม่รู้เนี่ยร่วงคือตายเลยนะ.. อีกอย่าง..
ในขณะที่คิดแบบนั้นเองเซเลน่าก็เดินออกจากห้องมาพร้อมกับเห็นหน้าต่างเปิดอยู่ เพราะนี่ยังไงมันก็ชั้นเจ็ดเลยนะ
นั่นหมายความว่าอากาศมันค่อนข้างเย็นพอสมควรในตอนเช้า มันเป็นธรรมดาอยู่แล้วใช่ไหมที่เธอจะเดินมาดูหน้าต่างที่เปิดอยู่อันเดียวแบบโดดๆ
ฉันเองก็ควรจะคิดเรื่องนั้นได้แท้ๆ
แต่เซเลน่าก็เดินมาปิดหน้าต่างและก็เจอฉันเกาะหน้าต่างอยู่ พวกเราตกอยู่ในความเงียบเหมือนป่าช้า
ฉันก็พูดไม่ออก และได้แต่ด่าตัวเองว่าทำไมทำอะไรไม่เคยคิดให้มากกว่านี้เนี่ย ส่วนทางนั้นฉันก็ไม่รู้หรอกว่าเธอคิดอะไรอยู่
แต่จากสายตาที่มองมาที่ฉันเห็นชัดเจนว่ามีแต่ความงุนงง ก่อนที่ยัยนางเอกเซเลน่าจะถามฉันขึ้นมาว่า
“เอ่อ.. อนาสตาเซีย? เธอทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ?”
ใบหน้าฉันร้อนผ่าวอย่างช่วยไม่ได้ สมองของฉันทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ยัยนี่รู้ว่าเรามีแผนอะไรบางอย่าง
เพื่อไม่ให้ยัยนี่รู้ต้องเป็นคำตอบที่ดูสมเหตุสมผลมากที่สุด
“เอ่อ.. พอดีฉันออกกำลังกายน่ะ!”
ว่าแล้วฉันก็ออกกำลังแขนด้วยการดึงตัวขึ้นดึงตัวลงโดยใช้แค่แขนสองข้างที่เกาะขอบหน้าต่างอยู่แน่นอนว่า ฉันใช้เวทมนตร์เสริมพลังกายอยู่
“ชั้นเจ็ดเนี่ยนะ?”
“พะ.. เพื่อความขยันไงถ้าฉันปล่อยคือตกลงไปตายเลยนะ!”
“….”
เซเลน่าเหมือนจะอึ้งกับคำตอบฉัน เธอก็พูดไม่ออกก่อนที่จะหันหน้านี้พร้อมพูดส่งท้ายว่า “อื้ม.. งั้น.. ฉันไม่กวนแล้ว”
นั่นไง ถึงดูจะเป็นแผนที่ไม่ดีแต่ก็ไล่เซเลน่าให้ไม่สนใจฉันได้ เอ่อ.. ถึงวิธีการมันจะน่าแปลกประหลาดไปหน่อยก็เถอะนะ
แต่เอาเข้าจริงนะ เพราะไอ้เกมบ้านี่มันไม่บอกนั่นแหละว่าเซเลน่าจะออกจากห้องตอนนี้ ตอนเริ่มวันใหม่ในเกมมันระบุแค่ว่าหลังเซเลน่าออกจากห้องคือประมาณแปดโมงเช้า และไปเจอพวกเอเรียสประมาณแปดโมงครึ่ง
นั่นหมายความว่าเซเลน่าจะใช้เวลาเดินทางไปถึงที่นั่นกว่าสามสิบนาที ซึ่งเป็นเวลาที่นานพอสมควรฉันเลยเดาว่าเซเลน่าแอบไปเที่ยวก่อน
แต่พอเห็นยัยนั่นออกจากห้อง ซึ่งตอนที่เธอออกจากห้องก็เป็นเวลา 08:10 น. เลยนะสรุปคือยัยเซเลน่าเรตไปสิบนาที เพราะเกมมันไม่ได้บอกชี้ชัดนั่นแหละว่าออกห้องพักตอนไหน
แต่ตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วเกือบสิบกว่านาที.. ซึ่งหมายความว่าอีกสิบนาทียัยเซเลน่าก็ไปเจอพวกโรงเรียนเอเรียสแล้วสิ
ไม่สิ.. เพราะรอบนี้มีฉันมาขัดขวางการเดินเที่ยวของเซเลน่าไปสิบนาที หมายความว่าก่อนที่เซเลน่าจะไปเจอโรงเรียนเอเรียสคืออีกยี่สิบนาที
เพราะงั้นตอนที่เซเลน่าจะไปเจอพวกโรงเรียนเอเรียสคือ 08:40 น. ไม่ใช่ 08:30 น. ตามเวลาในเกม
แต่อย่างไรก็ตามนั่นหมายความว่าฉันมีเวลาจัดการไอ้พวกเป้าหมายในการจีบให้พวกมันออกนอกห้องไม่ได้แค่ยี่สิบนาทีก่อนไปขัดขายัยเซเลน่าต่อ
เพราะฉันไม่รู้ว่าเซเลน่าเลือกใครในความฝัน ฉันเลยต้องจัดการให้ครบทุกคนทั้งห้า ซึ่งนั่นหมายความว่าจะฉันต้องจัดการพวกเขาให้ได้ไวๆ
ยิ่งเร็วยิ่งดี.. เอาล่ะคนแรกคืออเล็กซานฉันไม่รีรอในการที่เดินไปหยุดอยู่หน้าห้องของอเล็กซานแล้วก็จับลูกบิดเปิดประตูเข้าไป
“ล็อกเหรอ.. ก็แหงสินะ!”
“แต่ฉันจะขอบอกอะไรให้.. พลังเปิดประตูของฉันนั้น ฉันใช้บ่อยจนมาถึงขั้นที่สามารถเปิดประตูที่ล็อกได้แล้วนะเออ! แค่นี้ละก็ง่ายๆ ”
ว่าแล้วฉันก็ใช้พลังมนตราในการเปิดประตูเข้าไปในห้องอเล็กซานก่อนจะปิดประตูห้องเบาๆ แล้วก็แอบย่องเข้าไปในห้องอเล็กซาน
ฉันได้ยินเสียงฝักบัวดังอยู่ในห้องน้ำ เจ้าหมอนี่กำลังอาบน้ำอยู่ละสินะ.. ฉันยิ้มแล้วก็แอบเดินย่องไปที่เก็บเสื้อห้าของอเล็กซาน
ก่อนจะหยิบเอาเสื้อของอเล็กซานไปโยนใส่เครื่องซักผ้าเวทมนตร์ แล้วฉันก็ก้มลงไปลบลวดลายวงแหวนเวทที่ทำให้เครื่องซักแห้งไม่ทำงาน
ฉันรีบออกไปจากห้องหมอนี่ทันทีที่ทำทุกอย่างเสร็จ
แค่นี้เจ้าหมอนี่ก็ไม่มีเสื้อใส่ในเร็วๆ นี้แน่.. แต่ฉันทำเกินไปหรือเปล่านะ.. ต่อให้เรียกคนมาซ่อมก็อาจจะมาเที่ยงๆ เลย
แต่กว่าจะได้ซักแห้งก็บ่าย และพอถึงตอนนั้นงานเลี้ยงก็เริ่มไปก่อนเจ้านี่อาจจะไม่ได้ไปงานเลี้ยงก็ได้..
แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่หมอนี่ทำกับฉัน ฉันก็หงุดหงิดขึ้นมา จนเผลอเตะเครื่องซักผ้าของมันอย่างแรง
“ชิ ช่างมันสิ! สมน้ำหน้ามันเถอะ!”
ฉันสบถออกมา แต่ก็ตามมาด้วยเสียงของอเล็กซานที่อยู่ในห้องน้ำ
“นั่นใครน่ะ!”
อุ้ย เผลอตัวไปหน่อยฉันรีบวิ่งออกจากห้องอเล็กซานทันที