บนซากปรักหักพัง
มนุษย์แสง ราชาเทพแห่งความเย็นยะเยือกและลั่วปิงหลีมองกู่ฉิงซาน
พลังของสามเหรียญเป็นพลังบัญญัติของราชามาร
ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับเขาแล้ว
กู่ฉิงซานจ้องมองไปยังความว่างเปล่าตรงหน้าคล้ายกับกำลังให้ความสนใจบางสิ่ง
เขาไม่พูดอะไรสักคำ สีหน้าค่อยๆ ประหลาดใจเล็กน้อย
ฉับพลันนั้นเอง แสงสีแดงปรากฏขึ้นจากอากาศบางก่อนหลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขา
“นี่มันอะไร เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” ราชาเทพแห่งความเย็นยะเยือกอดที่จะถามไม่ได้
กู่ฉิงซานโบกมือ ส่งสัญญาณว่าไม่เป็นอะไร
ลั่วปิงหลีชำเลืองมองราชาเทพ
ราชาเทพแห่งความเย็นยะเยือกได้สติก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “กู่ฉิงซาน ถ้าเจ้าใช้วิชาหดตัวตอนนี้ ข้อตกลงระหว่างราชาผู้นี้กับเจ้าถือเป็นโมฆะทันที!”
มนุษย์แสงอุทานออกมา “นายท่าน วางใจได้ บัญญัติกำลังมาหาเขา ไม่มีปัญหาอะไร เขาเพียงกำลังสื่อสารกับบัญญัติเป็นครั้งแรกเท่านั้น”
ราชาเทพแห่งความเย็นยะเยือกพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา “อย่างนั้นก็ดี แต่พวกเราต้องรอแบบนี้น่ะหรือ”
มนุษย์แสงตอบว่า “ต้องรออีกพักใหญ่เลยล่ะ”
ราชาเทพแห่งความเย็นยะเยือกหยุดพูด
พวกเขายังคงรอต่อไป
กู่ฉิงซานกำลังสื่อสารกับราชามารแห่งอารัมภบทจริง
ในฐานะผู้มีประสบการณ์ที่เคยโหลดบัญญัติมาแล้วสองครั้ง กู่ฉิงซานรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น
บัญญัติจะตรวจสอบพละกำลังส่วนตัวของเขาในตอนนั้น จากนั้นจึงเริ่มปลดปล่อยภารกิจจำนวนมากออกมา
เมื่อภารกิจดำเนินต่อไปจนเสร็จสิ้น ฟังก์ชันจำนวนมากของบัญญัติจะคลายออก
เมื่อบัญญัติสั่งสมพลังวิญญาณมากพอ มันจะอัปเกรด
บัญญัติที่ถูกอัปเกรดจะมีฟังก์ชันและพลังที่ทรงพลังให้กับผู้โหลดที่มากยิ่งขึ้น
นี่คือกระบวนการที่จะช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกัน แต่ในฐานะราชามารแห่งอารัมภบท มันจะพรากพลังวิญญาณส่วนใหญ่ไป ปฏิบัติกับผู้โหลดด้วยการดูแลเป็นอย่างดีก่อนคืบคลานเข้ามาใกล้
แต่ว่า
ตอนนี้มีน้อยคนมากที่เคยโหลดบัญญัติในโลกสวรรค์ดึกดำบรรพ์
ทันทีที่ใครบางคนโหลด มันจะสังหารทิ้งทันที
แล้วบัญญัติจะเผชิญกับสถานการณ์เช่นนั้นอย่างไรล่ะ
กู่ฉิงซานลอบสงสัย
ระหว่างที่เขาคาดเดา แถวตัวอักษรโลหิตปรากฏขึ้นบนหน้าต่างสีโลหิต
“บัญญัติกำลังดำเนินการตรวจสอบท่านอย่างเต็มรูปแบบ”
“ตรวจสอบพบความผิดปกติ”
“ค้นพบตัวตนพิเศษของท่าน”
“เริ่มยืนยันตัวตนของท่าน!”
ในความว่างเปล่า แสงสีแดงร้อนแรงดูน่าสะพรึงพลันปรากฏขึ้น
แสงสีแดงนี้ไหลหลั่งเข้าสู่ร่างกายของกู่ฉิงซาน จากนั้นหายไปจากตัวเขาเพียงไม่กี่อึดใจ
นี่คือฉากที่ทำให้ราชาเทพแห่งความเย็นยะเยือกอดที่จะส่งเสียงออกมาไม่ได้
สัญลักษณ์โลหิตขนาดเล็กหายไป
แต่เสียงของไฟดังอยู่ในหูของกู่ฉิงซาน
“ผู้ส่งสารแห่งบาปอันทรงเกียรติเอ๋ย ข้ายินดียิ่งที่ท่านจะมาร่วมสู้เคียงบ่ากับบัญญัตินี้”
“บัญญัตินี้จะปรับแต่งภารกิจการรบให้สอดคล้องตามกำลังของท่าน”
เสียงของมันคล้ายกับบ่องบอกถึงความใกล้ชิด
กู่ฉิงซานอดที่จะตกตะลึงไม่ได้
ผู้ส่งสารแห่งบาปหรือ
นี่คือการ์ดประจำตัวไม่ใช่หรือ
เสี่ยวซีเคยมอบตัวตนของนางในรูปแบบการ์ดเช่นกัน คาดไม่ถึงว่าเขาจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากบัญญัตินี่
เมื่อมองย้อนกลับไปยังช่วงชีวิตที่แล้ว มีการ์ดต่างๆ ปรากฏขึ้นมาบ้างประปราย แต่เขาไม่เคยได้ยินว่าจะได้รับสิ่งเดียวกันนี้จากบัญญัติ
ดูท่าตัวตนของเสี่ยวซีจะมีบทบาทพอสมควร
นางมาจากยุคโบราณ แต่นางสูญเสียความทรงจำทั้งหมด จากนั้นนางถูกเผ่าพันธุ์เทพทำให้สับสนจนต้องมารับใช้เผ่าพันธุ์เทพ
ถ้าบัญญัติข้องเกี่ยวกับผู้ส่งสารแห่งบาปมากจริง เช่นนั้นก็สามารถอนุมานได้ว่าในยุคโบราณ ผู้ส่งสารแห่งบาปคือตัวตนที่ไม่ธรรมดา
เมื่อมองย้อนกลับไป การ์ดต่อสู้น่าจะเป็นผลพวงมาจากระบบลี้ลับ
เพราะตัวการ์ดเองคือตัวตนที่ไม่สามารถถูกวัดด้วยสามัญสำนึกใดๆ ได้
แม้กระทั่งระบบเทพสงครามขนาดใหญ่: เทพวารี ก่อนที่จะก้าวไปสู่ “หมื่นสวรรค์สิ้นโลกออนไลน์: กองทัพมนุษย์” นางเองก็เคยอยู่ในรูปแบบการ์ดมาก่อน
ความคิดนี้วูบไหวผ่านจิตใจของกู่ฉิงซานอย่างรวดเร็ว
เขาสูดหายใจเข้าก่อนตอบบัญญัติว่า “ทีนี้พวกเราควรทำอย่างไรต่อ”
“เมื่อใดที่ท่านต้องการสนทนากับข้า จงเรียกข้าด้วยชื่อต้นเพลิง ถึงตอนนั้นข้าจึงจะวิวัฒนาการ” บัญญัติกล่าว
“เอาล่ะ ต้นเพลิง ทีนี้พวกเราควรทำอย่างไรต่อ” กู่ฉิงซานถาม
“ตรวจจับสภาพแวดล้อมปัจจุบันแล้วสร้างภารกิจแรกขึ้นมาก่อน”
“สภาพแวดล้อมปัจจุบันอยู่ในสภาพสมดุล การทำลายอย่างง่ายๆ จะนำไปสู่การแบ่งแยกของตัวตนทรงพลังจนเกิดการทำลายล้างทุกสิ่ง ดังนั้น บัญญัตินี้จะเปลี่ยนกลยุทธชั่วคราว”
“ภารกิจแรกปรากฏขึ้นแล้ว”
บนหน้าต่าง แถวข้อความโลหิตขนาดเล็กค่อยๆ ปรากฏขึ้น
“ภารกิจ: เข้าสู่โลกมาร”
“คำอธิบายหน้าที่: โลกมารดึกดำบรรพ์คือสถานที่ที่สงครามและความโกลาหลคงอยู่อย่างยาวนาน เพราะมันถูกบดขยี้ ทำให้มารทรงพลังเข้าไปฉกฉวยเศษเสี้ยวของโลกมารมา พวกมันแข่งขันกันเพื่อแย่งเศษเสี้ยวของโลกมารจากอีกฝ่ายมา มีความกระตือรือร้นที่จะได้โลกอันทรงพลังจากการหลอมรวมกับเศษเสี้ยวของโลกที่เป็นแหล่งกำเนิดพลัง”
“เพื่อให้ได้พลังแห่งการวิวัฒนาการมา ท่านต้องเข้าร่วมการต่อสู้”
“เป้าหมายภารกิจ: เข้าสู่โลกมาร เข้าร่วมกองกำลัง ชนะการต่อสู้แรก”
“รางวัลจากภารกิจดังกล่าว: ฟังก์ชันแรกของต้นเพลิงจะเปิดให้ใช้งาน”
“เอาล่ะ ภารกิจเริ่มแล้ว!”
“คำอธิบายเพิ่มเติม: เพื่อกลายเป็นมารแห่งบาปในตำนาน โปรดทำตามนี้ด้วย!”
กู่ฉิงซานอ่านทุกข้อความในคราวเดียว
ให้ตายสิ…
ราชามารแห่งอารัมภบทช่างพูดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
เขาส่ายหน้า ละสายตาจากความว่างเปล่าก่อนมองไปที่คนอื่น
“ไปได้สวยหรือไม่” มนุษย์แสงถาม
กู่ฉิงซานมองอีกฝ่าย
มนุษย์แสงไม่แม้แต่จะรู้ว่าเขากลายเป็นผู้ส่งสารแห่งบาปไปแล้ว
เกรงว่าที่พวกเขาถูกเสี่ยวซีผู้เป็นทูตสวรรค์แห่งบาปพบเข้านั้นเป็นเพราะการเชื่อมต่อลับระหว่างเหรียญนั่นกับเสี่ยวซี
ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นผู้ส่งสารแห่งบาป
หรือก็คือ เผ่าพันธุ์เทพไม่รู้ความสัมพันธ์ลับระหว่างผู้ส่งสารแห่งบาปกับบัญญัติเลย
จิตใจของกู่ฉิงซานขยับเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า “ทุกสิ่งราบรื่น ตอนนี้ต้นเพลิงปล่อยภารกิจแรกมาแล้ว เขาขอให้ข้าไปโลกมาร”
“ไปโลกมารงั้นหรือ” หลายคนถามพร้อมกัน
กู่ฉิงซานอธิบายว่า “ใช่ ตอนนี้โลกสวรรค์ดึกดำบรรพ์อยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของวิญญาณกรีดร้อง ไม่เหมาะที่จะทำให้เกิดการต่อสู้ขนาดใหญ่เพื่อเกิดการแตกหักอีก”
“ต้นเพลิงต้องการดึงพละกำลังผ่านการต่อสู้”
“ดังนั้นข้าจะไปโลกมาร เข้าร่วมการจัดอันดับของมารและต่อสู้”
มนุษย์แสงกล่าวว่า “เจ้าเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ยังไงก็ถูกมารปฏิเสธทันทีที่เข้าไปยังโลกมาร นี่เป็นปัญหาใหญ่แน่”
กู่ฉิงซานมองอีกฝ่ายแล้วกล่าวว่า “ขนาดใช้เวลาตั้งนานเจ้ายังจับข้าไม่ได้ เรื่องนี้ข้ามีวิธีแก้ไขเช่นกัน”
ราชาเทพแห่งความเย็นยะเยือกถามว่า “เจ้าต้องการอะไรอีก”
“ตอนนี้ข้ายังไม่ต้องการอะไร แค่ช่วยข้าเปิดโลกมารก็พอแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าว
“ถ้างั้นก็ได้ ข้าเพิ่งได้เศษเสี้ยวของโลกมารเมื่อไม่นานมานี้มาเพื่อทำการตรวจสอบวิธีเข้าโลกมาร” มนุษย์แสงกล่าว
เขาเปล่งเสียงสวดดังสนั่นออกมา
“โลกมารอันคลุมเครือ หุบเหวแห่งความผาสุกที่พวกมารได้สูญเสีย จงเปิดประตูต่อหน้าข้า”
‘ตูม’
ประตูที่มองไม่เห็นพร้อมแสงหมองหม่นปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า
นี่คือทางเข้าสู่โลกวิญญาณมาร
“ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัว” กู่ฉิงซานกล่าว
ราชาเทพแห่งความเย็นยะเยือกอดที่จะกล่าวไม่ได้ว่า “ไม่ เจ้าจะไปเพียงลำพังไม่ได้! ข้า ต้องการจับตาดูเจ้า!”
มนุษย์แสงเกลี้ยกล่อมอีกฝ่าย “นายท่าน ท่านอยู่ในร่างของเทพ ทันทีที่ไปปรากฏตัวในโลกมารจะถือว่าเป็นการคุกคามทันที พวกมารเกลียดพวกเรา พวกมันจะต้องร่วมแรงกันมาฆ่าท่านอย่างแน่นอน”
กู่ฉิงซานขยิบตาให้ราชาเทพแล้วกล่าวว่า “อย่าห่วงไปเลย ในเมื่อเจ้าสัญญาว่าจะช่วยข้าหาดาบศักดิ์สิทธิ์แล้ว ข้าก็ต้องทำสิ่งที่ควรทำด้วยเช่นกัน”
“จะว่าไป ลั่วปิงหลีผู้เป็นนักพรตมนุษย์ เจ้าต้องปกป้องนาง เพราะนางข้องเกี่ยวกับเบาะแสชั้นยอดของดาบศักดิ์สิทธิ์”
“อย่าห่วงไปเลย ราชาผู้นี้มีเหตุผลเสมอ” ราชาเทพแห่งความเย็นยะเยือกกล่าว
มนุษย์แสงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ข้าไปล่ะ”
เมื่อกู่ฉิงซานกล่าว ร่างของเขาแช่เข้าไปในทางเข้าก่อนหายไปจากสวรรค์ดึกดำบรรพ์
ราชาเทพแห่งความเย็นยะเยือกสับสนสักพัก
“นายท่าน” มนุษย์แสงมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไร ข้าแค่คิดอย่างอื่นน่ะ” ราชาเทพกล่าว
“มีอะไรเกิดขึ้นหรือ” มนุษย์แสงถาม
“ที่จริง เจ้าเองก็รู้ว่าพวกเราเกิดมาจากอะไร พวกเราเคยต่อสู้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์มาก่อนด้วย”
“ใช่ ข้ารู้เรื่องนี้” มนุษย์แสงพยักหน้า
น้ำเสียงของราชาเทพเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เพราะมันคือการต่อสู้ ข้าจึงสงสัยว่าพวกเราจะสามารถใช้วิธีนี้เพื่อเอาชนะเผ่าพันธุ์บรรพกาลเหล่านั้นได้หรือเปล่า”
“นายท่านหมายถึง…”
“ใช่ เพื่อทำให้แผนของพวกเราสมบูรณ์ พวกเราถึงต้องลองช่วยกู่ฉิงซาน”
ลั่วปิงหลีฟังอยู่เงียบๆ จนอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้
…
อีกด้าน
กู่ฉิงซานยังคงพุ่งไปข้างหน้าในความว่างเปล่า
เขาใช้พลังวิญญาณทั้งหมดเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นราชาวิญญาณมาร
นี่คือมารรูปงามที่มีสีดำสนิท
เขาดูคล้ายกับมนุษย์มาก เว้นแต่เพียงมีหางยาวอยู่ด้านหลัง
ถ้าไม่ใช่เพราะหางอันแหลมคมนี้ ราชาวิญญาณมารคงจะดูอ่อนแอมากทีเดียว
รูปลักษณ์นี้ทำให้กู่ฉิงซานไม่สบายใจเล็กน้อย
เติบโตมาแบบนี้สินะ…พวกมาร…ช่างน่าสนใจจริงๆ
กู่ฉิงซานขยับร่างกายช่วงล่างอย่างยากลำบากขณะพยายามขับไล่ความนุ่มนวลออกไปจากร่างกาย
เขาเริ่มนึกถึงการมาเยือนโลกมารก่อนหน้านี้
เผ่าพันธุ์มนุษย์สูญพันธุ์ในคราวที่แล้วที่เขามาโลกวิญญาณมาร
นั่นคือจุดจบของยุคโบราณ
ในตอนนั้น โลกวิญญาณมารตกอยู่ในมือของราชามารกระดูกชั่วร้าย ราชาวิญญาณมารเป็นได้เพียงแค่หุ่นเชิด
กู่ฉิงซานกำลังคิดไปมา ฉับพลันนั้นเองมีแสงหนึ่งปรากฏตรงหน้า
เขามาถึงโลกวิญญาณมารแล้ว
กู่ฉิงซานกวาดสายตาไปยังแสงเจิดจ้า
เมื่อสัมผัสกับแสง ความว่างเปล่ารอบข้างพลันหายไป
กู่ฉิงซานพลว่าตัวเองกำลังเข้าสู่ท้องนภาหมองหม่นก่อนตกลงไปอย่างรวดเร็ว
เขาหยุดอย่างรวดเร็วก่อนให้ตัวเองตกลงไปอย่างช้าๆ
ด้านล่างคือปราสาทงดงาม
ฉากนี้ช่างคุ้นเคยนัก
นี่คือปราสาทของราชาวิญญาณมารไม่ใช่หรือ
ในช่วงเวลานี้ เผ่าพันธุ์มนุษย์เพิ่งประสบกับสงครามครั้งใหญ่ เทพล่วงลับเป็นครั้งแรก แถมยังเกิดขึ้นเร็วมากด้วย
แต่เขาไม่รู้ว่าที่ช่วงเวลานี้ ราชาวิญญาณมารกำลังเจอกับอะไร
อืม…นี่คือคำถามสำคัญ ยังไงเสีย ข้าก็ต้องแอบอ้างเป็นเขาอีกในไม่ช้า…
ร่างของกู่ฉิงซานวูบไหว เขาเริ่มหดตัวก่อนมาปรากฏตัวตรงหน้าปราสาท
เขาเห็นมารตนหนึ่งพอดี
กลายเป็นว่านั่นคือราชาวิญญาณมาร!
คาดไม่ถึง เขาจะเจอทันทีที่มาถึง!
เขาเห็นราชาวิญญาณมารคุกเข่าอยู่ตรงอ่างล้างหน้าขณะหันมองไปยังสถานที่อื่นในปราสาทก่อนส่งเสียงร้องดังสั่นนออกมา “ได้โปรดล่ะ เชื่อข้าสักครั้ง ข้าไม่ได้ซ่อนเงินส่วนตัวเอาไว้ที่ไหนเลยนะ!”
กู่ฉิงซานใบ้รับประทาน