คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 36 ความเป็นแม่ของเธอมีไว้ประดับเหรอ

“…”

เมื่อคำพูดนี้ออกมาก็เกิดความเงียบขึ้นในห้องรับแขกทันที

คุณนายจงที่อยู่ในครัวชะโงกตัวออกมา ตวาดเสียงดุก่อนที่ผู้เฒ่าจงจะเอ่ยปาก “หว่านหว่าน อย่าพูดจาเหลวไหล”

จากนั้นก็หันไปพูดกับจงมั่นหวา “หว่านหว่านพูดเหลวไหล ไล่อ่งไล่ออกอะไรกัน อย่าไปสนใจคำพูดเด็กเลยนะ”

จงมั่นหวาฝืนยิ้ม “พี่สะใภ้สามพูดอะไรกันคะ หว่านหว่านเป็นเด็กดีขนาดนี้”

แต่ในใจกลับเดือดปุดๆ ไม่หยุด

ตอนนั้นเพราะคุณนายมู่อยู่ด้วย เธอจึงไม่ได้ถามรายละเอียด รู้แค่ว่าอิ๋งจื่อจินไปทำร้ายคนอื่น

ต่อมาก็ไม่มีสายจากทางนั้นอีก เธอจึงลืมไป

ถ้าอิ๋งจื่อจินถูกไล่ออกจริง เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

ผู้เฒ่าจงไม่พูดอะไร เขาใส่แว่นสายตาของผู้สูงอายุ หยิบโทรศัพท์มือถือแล้วค่อยๆ พูดขึ้น “ฉันจะโทรหาทางชิงจื้อ”

“พ่อคะ อย่าเป็นห่วงไปเลยค่ะ” จงมั่นหวาไม่อยากขายหน้า พูดเสียงเบา “หนูโทรเองดีกว่า”

“คิดว่าฉันไม่รู้นิสัยหัวรั้นของเธอรึ” ผู้เฒ่าจงส่ายมือ “ให้เธอโทร ฉันกลัวว่าเธอจะด่าลูกก่อนน่ะสิ”

จงมั่นหวาทั้งอายทั้งโมโห “พ่อคะ พูดอะไรแบบนั้น”

ผู้เฒ่าจงไม่สนเธออีก ค้นหาเบอร์ของอาจารย์ประจำชั้นคลาสเด็กอัจฉริยะจากบัญชีเบอร์โทรศัพท์แล้วกดโทรออก

ทางนั้นรับสายอย่างรวดเร็ว

“ฮัลโหล สวัสดีครับอาจารย์ ผมเป็นคุณตาของจื่อจิน อยากถามว่าวันนี้จื่อจิน…”

ฟังบทสนทนาของผู้เฒ่าจงกับอาจารย์สวี จงจือหว่านจับแก้วแน่น

ลำพังแค่เรื่องที่อิ๋งจื่อจินทำเมื่อตอนเช้า ไม่มีคนไปดูแล เรื่องถูกไล่ออกเป็นเรื่องชัวร์แน่นอน

ต่อให้ตอนนี้ผู้เฒ่าจงไปก็ไม่ทันแล้ว

เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมปู่ของเธอถึงดีกับหลานที่เป็นลูกเลี้ยงได้ขนาดนั้น ลูกลับๆ ของตระกูลจงหลายคนต่อให้ประสบความสำเร็จแค่ไหนก็ทำให้ผู้เฒ่าจงใจอ่อนไม่ได้แม้แต่น้อย

แล้วลูกเลี้ยงที่ไม่เป็นอะไรสักอย่างมีดีมาจากไหนกัน

“ว่าไงนะครับ!” ขณะที่ผู้เฒ่าจงกำลังคุย สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน “ครับๆๆ ผมเข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากนะครับอาจารย์”

จงมั่นหวานั่งด้วยความกระวนกระวาย ร้อนใจจนทนไม่ไหว

ในที่สุดผู้เฒ่าจงก็วางสายสักที เธอถึงได้เอ่ยขึ้น “คุณพ่อคะ หนูไม่ได้สั่งสอนลูกให้ดี คุณพ่อวางใจได้ค่ะ กลับไปหนูจะ…”

ผู้เฒ่าจงขัดจังหวะ “เมื่อเช้าเธอทำอะไรอยู่”

จงมั่นหวาอึ้ง “หนูกับคุณนายมู่จิบชาอยู่ที่บ้าน คุยเรื่องธุรกิจ คุณพ่อถามแบบนี้คือ…”

“มีเวลาจิบชาแต่ไม่มีเวลาไปโรงเรียนรึ” ผู้เฒ่าจงโมโห “เธอรู้ไหมว่าจื่อจินโดนรังแกถึงขนาดไหนที่โรงเรียน เธอไม่ถามว่าเรื่องราวเป็นมายังไงก็คิดเอาเองว่าเป็นความผิดของลูกอย่างนั้นเหรอ รู้สึกขายหน้าก็เลยไม่ไปงั้นรึ”

“ถ้าไม่ได้เจ้าเด็กตระกูลฟู่ออกหน้า จื่อจินคงได้ถูกไล่ออกจริงๆ แล้ว ความเป็นแม่ของเธอมีไว้ประดับเหรอ หา!”

“แจกันของฉันยังมีประโยชน์กว่าเธอด้วยซ้ำ!”

จงมั่นหวาถูกด่าจนงงไปหมด ใบหน้าแดงก่ำ

จงจื่อหว่านตกใจนิดหน่อย

อิ๋งจื่อจินไม่ได้ถูกไล่ออกเหรอ

แถมฟู่อวิ๋นเซินยังไปช่วยยัยนั่นด้วย

จงจือหว่านเม้มริมฝีปาก เริ่มอารมณ์ไม่ดี

“ลูกสาวตัวเองเธอไม่เชื่อ มีคนเป็นแม่อย่างเธอด้วยเหรอ” ผู้เฒ่าจงโมโหมาก “อีกเดี๋ยวจื่อจินมา ขอโทษลูกซะด้วย”

จงมั่นหวาเงยหน้าทันที “คุณพ่อ!”

ผู้เฒ่าจงไม่มองหน้าเธอ หันหลังให้ จากนั้นก็กดเบอร์โทรอีกครั้ง

ตอนอิ๋งจื่อจินรับสายเธอเพิ่งทำการรักษารอบใหม่ให้เวินเฟิงเหมียนเสร็จ

เธอมองชื่อสายเรียกเข้า กดรับ น้ำเสียงโอนอ่อน “ค่ะ ตอนเย็นหนูไม่มีธุระค่ะ ได้ค่ะ อีกเดี๋ยวหนูไปหาค่ะ”

“มีอะไรเหรอ” เวินเฟิงเหมียนเป็นห่วง “ตระกูลอิ๋งเหรอ”

“ไม่ใช่ค่ะ” อิ๋งจื่อจินจับบ่าของเขา “พรุ่งนี้หนูค่อยกลับมา พ่อต้องกินยาตามเวลาด้วยนะคะ”

“เยาเยา อย่าเหน็ดเหนื่อยเกินไปเลยนะ” เวินเฟิงเหมียนอึกอัก “พ่อยังไม่แก่ ลูกดูแลตัวเองบ้าง ไม่ต้องซื้อยาอะไรมาแล้ว เอาไปหาของดีๆ กินเถอะ”

คนเป็นพ่อแม่มักจะคิดแทนลูกเสมอ

“เรื่องนี้พ่อวางใจได้ค่ะ” อิ๋งจื่อจินแกะช็อกโกแลต “หนูไม่พลาดเรื่องกินแน่นอนค่ะ”

เงินเธอขาดน่ะใช่

เงินไม่มีไปหาเอาได้ แต่เรื่องของอร่อยจะพลาดไม่ได้

“ก็ต้องเอาใจใส่หน่อย” เวินเฟิงเหมียนออกไปส่งพลางกำชับ “ดูแลตัวเองให้ดี อย่าไปมีเรื่องกับเพื่อนๆ ในโรงเรียน เรื่องเรียนให้อวี้อวี้ช่วยก็ได้ อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป”

อิ๋งจื่อจินขานรับ โบกมือให้เขาอย่างเนือยๆ แล้วสะพายกระเป๋าหนังสือก่อนจะเดินออกไป

สี่สิบนาทีต่อมาเธอก็มาถึงคฤหาสน์ตระกูลจง

คฤหาสน์ของตระกูลเศรษฐีทั้งสี่เลือกทำเลที่ตั้งอยู่ในทิศทั้งสี่ของเมืองฮู่เฉิงพอดี ปกติไปหากันทีก็ไกลมาก

“วาน…จื่อจิน มานี่ๆ” ในที่สุดก็ได้เจอตัวแล้ว ผู้เฒ่าจงดีใจมาก กวักมือเรียกหลานสาว “มาให้ตาดูหน่อยว่าช่วงนี้ผอมลงหรือเปล่า”

อิ๋งจื่อจินชะงักฝีเท้าเล็กน้อยแล้วถึงเดินเข้าไป “คุณตา”

“ผอมลงไปหน่อย” ผู้เฒ่าจงลูบคาง พอใจแบบฝืนๆ “แต่สวยขึ้น ดีมากๆ ไว้เดี๋ยวตาซื้อชุดให้ ใส่สีดำไม่ดี”

อิ๋งจื่อจินขานรับ

“นั่งๆๆ” ผู้เฒ่าจงตบเก้าอี้ข้างตัว “วันนี้มีซุปไก่ดำ กินบำรุงหน่อยนะ”

เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้เฒ่าจง บรรดาคนรับใช้ถึงได้นำอาหารขึ้นโต๊ะ คนอื่นๆ ก็เข้ามานั่ง

จงจือหว่านจับตะเกียบ ไม่มีความอยากอาหารแม้แต่น้อย รู้สึกหงุดหงิดใจ

ผู้เฒ่าจงเหลือบมองจงมั่นหวาแวบหนึ่ง ส่งสายตาข่มขู่

จงมั่นหวาอดทน ทำได้เพียงบากหน้าพูดขอโทษ

แต่อิ๋งจื่อจินไม่แม้แต่จะมองเธอ ทำราวกับไม่ได้ยิน กำลังกินผัดข้าวโพดทอด กินอย่างตั้งใจทีเดียว

จงมั่นหวาหน้าบึ้ง

ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้จะไม่ไว้หน้าเธอเลยเหรอ

“ชอบกินอันนี้เหรอ”ผู้เฒ่าจงสังเกตเห็นแล้ว “เดี๋ยวให้พวกเขาทำมาอีกจาน”

อิ๋งจื่อจินส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่ต้องหรอกค่ะคุณตา หนูกินเยอะขนาดนั้นไม่ไหว”

ผู้เฒ่าจงกลัวเธอเกรงใจ พูดแค่ว่า “ชอบอะไรก็บอกมาได้ คนครัวรออยู่”

จงจือหว่านทนดูต่อไปไม่ไหว เธอลุกขึ้น สีหน้าเย็นชา “คุณปู่คะ หนูกินอิ่มแล้ว ขอกลับห้องก่อนนะคะ”

ผู้เฒ่าจงพยักหน้า ไม่พูดอะไร

จงจื่อหว่านสะกดกลั้นอารมณ์เดินขึ้นชั้นบน

ทำไมคุณนายจงจะไม่เข้าใจลูกสาวตัวเอง ยิ้มพลางพูด “ท่านผู้เฒ่าคะ ช่วงนี้คลาสเด็กอัจฉริยะเรียนหนัก หว่านหว่านจะกลับไปตั้งใจอ่านหนังสือน่ะค่ะ อย่ารังเกียจที่เธอไม่ค่อยคุยกับท่านเลยนะคะ”

ประโยคนี้กลับเป็นการเตือนความคิดผู้เฒ่าจง “จื่อจิน ไม่ต้องกดดันเรื่องเรียนมากนะ ให้หว่านหว่านช่วยติวให้เอาไหม”

คุณนายจงเกือบประคองรอยยิ้มไว้ไม่อยู่

จงจือหว่านเป็นที่หนึ่งของชั้นปี มีเวลาว่างมาติวให้ลูกเลี้ยงที่ไหนกัน

“ขอบคุณคุณตาที่หวังดีค่ะ” อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ สีหน้าเอื่อยเฉื่อย “แต่หนูเตรียมย้ายห้องแล้วค่ะ”

“ย้ายห้องเหรอ” ผู้เฒ่าจงอึ้ง “ทำไมล่ะ”

อิ๋งจื่อจินซดน้ำซุป “ไม่อยากอยู่แล้วค่ะ น่ารำคาญ”

จงมั่นหวาทนมาตลอด ในที่สุดก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

เธอวางตะเกียบลงบนโต๊ะดัง ปึ้ก โมโหควันออกหู “คลาสเด็กอัจฉริยะเป็นคลาสที่ดีที่สุดของชิงจื้อ เธอรู้ไหมว่าผลการเรียนแบบเธอเข้าไปอยู่ในห้องนั้นได้ตระกูลอิ๋งต้องลงทุนลงแรงไปเท่าไร”

“บอกจะไม่อยู่ก็ไม่อยู่แล้ว เธอคิดว่าตัวเองเป็นตัวแทนแค่ตัวเธอคนเดียวเหรอ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset