คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 37 อิ๋งจื่อจิน ไม่ใช่เรื่องของเธอ

ทำไมถึงดื้อได้ขนาดนี้

จงมั่นหวาโมโหจนในอกปั่นป่วน พูดเสียงลอดไรฟัน “ถ้าเธอไม่อยากเรียนแล้วก็ลาออก ออกจากคลาสเด็กอัจฉริยะเธอยังจะไปอยู่ไหนได้อีก”

อิ๋งจื่อจินไม่แม้แต่จะมอง ขี้เกียจสนใจ

เธอแกะกุ้งด้วยท่าทางที่สง่างาม สีหน้าไม่แยแสนั้นประหนึ่งมีข้อความเขียนไว้ว่า ‘ไม่ใช่เรื่องของเธอ’

จงมั่นหวาถูกยั่วโมโหกำลังจะระเบิด ผู้เฒ่าจงโมโหอีกครั้ง “จงมั่นหวา เธอพูดจาดีๆ เป็นไหม การอบรมสั่งสอนในช่วงหลายปีมานี้เอาไปเลี้ยงหมาหมดแล้วเหรอ พูดจาไม่เป็นก็ไสหัวออกไป! ออกไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้!”

ต่อหน้าเขายังขนาดนี้ ลับหลังจะขนาดไหน

จงมั่นหวาโกรธมาก แต่ก็พูดอะไรต่อหน้าผู้เฒ่าจงไม่ได้อีก

เธอทำได้เพียงอดกลั้นหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาแล้วเดินออกไปพร้อมสีหน้าเย็นชา

“ออกไปได้ก็ดี วันๆ เอาแต่ปั้นหน้ายโสไม่รู้ทำให้ใครดู” ผู้เฒ่าจงโมโหจนความดันขึ้น ไอออกมาอีกแล้ว

อิ๋งจื่อจินลูบหลังให้เขา ยื่นแก้วน้ำให้ “คุณตา ดื่มน้ำค่ะ”

“อือ” ผู้เฒ่าจงไม่โมโหแล้ว เขายิ้มกว้างรับแก้วมา

หลังจากดื่มน้ำหมด ผู้เฒ่าจงก็รู้สึกว่าเลือดลมไหลเวียนดีขึ้นมาทันที สดชื่นขึ้นไม่น้อย

เขาไม่ได้คิดมาก แค่รู้สึกว่าหลานสาวของเขาช่างดีจริงๆ

“ท่านผู้เฒ่าใจเย็นๆ นะคะ” คุณนายจงรีบกู้สถานการณ์ “มั่นหวาทั้งต้องคุมบริษัททั้งต้องดูแลลูก ใช่ว่าท่านผู้เฒ่าจะไม่รู้ว่าเธอหัวรั้นตั้งแต่เด็ก ก็แค่พูดจารุนแรงไปหน่อย”

ผู้เฒ่าจงไม่รับน้ำใจ “นั่นก็ต้องแยกแยะ ขนาดฉันยังพูดจารุนแรงกับจื่อจินไม่ลง แต่ลูกคนนี้กลับด่าฉอดๆ เรื่องอื่นไม่เห็นจะพูดแบบนี้บ้าง”

“…” ในที่สุดคุณนายจงก็เข้าใจความรู้สึกของจงมั่นหวาแล้ว

ผู้เฒ่าจงดีกับเด็กที่เป็นลูกเลี้ยงขนาดนี้ นี่ต้องการจะให้คนนอกเหยียบย่ำคนในสายเลือดอย่างนั้นเหรอ

อาหารมื้อนี้คุณนายจงกินไม่อร่อย เธอเองก็รีบๆ กินให้เสร็จแล้วหาข้ออ้างขึ้นชั้นบน

หลังจากกินข้าวเสร็จผู้เฒ่าจงก็เรียกอิ๋งจื่อจินไปที่ห้องทำงาน

“วานวาน ตาได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนวันนี้แล้ว วันหน้าถ้าหลานถูกรังแกก็โทรหาตาได้เลย ถึงตาจะเกษียณออกมาแล้ว แต่ก็ยังแข็งแรงดีอยู่”

“หนูทราบค่ะ ขอบคุณค่ะคุณตา” อิ๋งจื่อจินนวดบ่าให้เขา “แต่คุณตาอย่าเรียกหนูแบบนี้เลยค่ะ เรียกชื่อหนูดีกว่าค่ะ”

ผู้เฒ่าจงอึ้ง

ยังไม่ทันถามก็ได้ยินเด็กสาวพูดขึ้น “หนูไม่ค่อยชอบชื่อที่มีคนใช้มาก่อนค่ะ”

วานวานเป็นชื่อเล่นที่ตระกูลอิ๋งตั้งให้ตอนเธอยังไม่เกิด เพียงแต่ตอนนี้ถูกทดแทนแล้ว

ภายในใจของผู้เฒ่าจงเกิดความรู้สึกที่หลากหลายขึ้นมาทันที

ผ่านไปสักพักเขาก็ถอนหายใจ “ตาไม่ได้ดูแลหลานให้ดี”

ถ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ตอนนั้นเขาน่าจะรับเด็กมาเลี้ยงดูที่ตระกูลจงด้วยตัวเอง

เพียงแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อนเขาไปทำงานข้างนอกตลอด เพิ่งจะกลับฮู่เฉิงเมื่อไม่นานมานี้ ได้รู้เรื่องหลานสาวของเขาที่หายตัวไป

พอนึกถึงเรื่องที่หลานสาวของเขาต้องตกระกำลำบากอยู่ข้างนอก ผู้เฒ่าจงก็เจ็บปวดใจ

“แม่ของหลานนิสัยแบบนั้น ไม่ต้องไปสนใจ ปล่อยให้โกรธไป” ผู้เฒ่าจงครุ่นคิด หยิบบัตรออกมาหนึ่งใบจากในลิ้นชัก “ตาไม่รู้ว่าเด็กวัยรุ่นอย่างหลานชอบอะไรกัน จะซื้อให้ก็กลัวไม่ชอบ หลานเอาบัตรใบนี้ไปซื้อเอานะ”

อิ๋งจื่อจินไม่คิดจะใช้ แต่เพื่อรักษาน้ำใจคนแก่ เธอจึงรับมา “ช่วงนี้คุณตานอนไม่ค่อยหลับหรือเปล่าคะ”

“แก่แล้ว ก็อาการแบบนี้แหละ” ผู้เฒ่าจงนวดขมับ ถอนหายใจ “คนเราน่ะ ยังไงก็ต้องยอมจำนนให้ความชรา”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า พอจะเข้าใจแล้ว

ช่วงนี้เธอว่าง กลับไปจะปรุงยาสักหน่อย

แต่สุขภาพของผู้เฒ่าจงถือว่าแข็งแรงมากแล้วถ้าเทียบกับคนวัยเดียวกัน บำรุงให้ดีหน่อยก็อายุยืนถึงร้อยปีได้สบายๆ

“วันนี้ค้างที่นี่สิ นานแล้วที่หลานไม่ได้กลับมา” ผู้เฒ่าจงไอเล็กน้อย แสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ “พรุ่งนี้ตาจะให้คนขับรถไปส่งที่โรงเรียน”

อิ๋งจื่อจินมองผู้เฒ่าจงที่ตื่นเต้นจนอยากถูมือ “…”

เธอรู้สึกจนปัญญา “ค่ะ” ต่อให้ผู้เฒ่าจงไม่เอ่ยปากเธอก็จะค้างอยู่แล้ว

“ดีๆๆ ขาดเหลืออะไรก็บอกตาได้” ผู้เฒ่าจงพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง “ไว้ตาจะพาหลานไปขอบคุณเจ้าเด็กนั่นที่บ้านตระกูลฟู่”

แม้เขาจะไม่ค่อยชอบเจ้าเด็กคนนี้ก็ตาม

เสเพลไม่เป็นโล้เป็นพาย อย่ามาจีบหลานสาวของเขา

ผู้เฒ่าจงส่งหลานสาวของเขาออกไปด้วยความกังวล จากนั้นก็นั่งอยู่ในห้องทำงานอีกสักพัก ค่อยๆ กดเบอร์โทร “ฮัลโหล ตาเฒ่าฟู่ แกจะสนทำไมว่าดึกดื่นป่านนี้ฉันโทรหาทำไม ฉันแค่อยากบอกว่า…”

ในเวลายังไม่ถึงวัน

เรื่องที่อิงเฟยเฟยทำได้ลือไปทั้งระดับชั้นมอห้า แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไร

เพราะความลำเอียงของผู้เฒ่าจง จงจือหว่านจึงหลับไม่สบายทั้งคืน ตอนทบทวนบทเรียนตอนเช้าก็นั่งเหม่อ สายตาเหลือบมองตำแหน่งที่ว่างอยู่ตรงมุมห้องตลอด

มีเพื่อนร่วมห้องหลายคนพากันซุบซิบ

“ได้ยินว่าเมื่อเช้าพอมาถึงโรงเรียนก็ไปที่ห้องผู้อำนวยการ ไม่รู้ไปทำไม”

“สงสัยจะออกจากคลาสเด็กอัจฉริยะ ในที่สุดพวกเราก็กำจัดแมงกินฟันที่เป็นตัวถ่วงได้แล้ว”

จงจือหว่านฟังอยู่ ในที่สุดก็อารมณ์ดีขึ้น

เธอวางหนังสือลง ออกจากห้องเรียน เตรียมเดินไปดูที่ตึกอำนวยการ

จงจือหว่านไม่รู้ว่าเวลานี้ภายในห้องผู้อำนวยการ นอกจากผู้อำนวยการแล้วยังมีอาจารย์อีกหลายคน

“เรื่องเมื่อวานพวกคุณก็รู้กันหมดแล้ว” ผู้อำนวยการครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะแล้วเอ่ยขึ้น “ผมกับผู้ปกครองของนักเรียนอิ๋งปรึกษากันแล้ว เตรียมจะให้เธอย้ายห้อง”

อาจารย์สวีอึ้ง “ผู้อำนวยการ?”

ผู้อำนวยการแค่พูดอย่างคลุมเครือ “คลาสเด็กอัจฉริยะไม่ค่อยเหมาะ”

เขาเองก็ปวดกบาล

ในฮู่เฉิงมีคนตั้งเท่าไรที่อยากเข้าคลาสเด็กอัจฉริยะ ปรากฏว่าเด็กคนนั้นไม่อยากอยู่

อาจารย์สวีเข้าใจแล้ว “ย้ายห้องก็ดีครับ จะได้เรียนทัน ไม่ต้องรู้สึกกดดันมากด้วย”

“ผมต้องการแบบนั้นแหละ” ผู้อำนวยการพยักหน้า “ดังนั้นผมคิดว่าจะให้นักเรียนอิ๋งย้ายไปอยู่คลาสนานาชาติ” เขายังไม่กล้าถึงขั้นย้ายหลานสาวของผู้เฒ่าจงไปอยู่คลาสทั่วไป เกิดผู้เฒ่าคนนี้อาละวาดขึ้นมาจะเอาไม่อยู่

ถึงแม้คลาสนานาชาติจะมีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่ความยากของบทเรียนต่ำกว่าคลาสเด็กอัจฉริยะ เน้นไปที่ปฏิบัติมากกว่า

นักเรียนของคลาสนานาชาติก็เป็นลูกหลานเศรษฐีในฮู่เฉิงเหมือนกัน เป็นคนเก่งที่ในอนาคตจะไปเรียนต่อต่างประเทศ

เขาได้ยินอาจารย์เติ้งบอกว่าเด็กคนนี้ภาษาอังกฤษดี โดยเฉพาะการพูด

พอฟังถึงตรงนี้ ในที่สุดเฮ่อสวินที่อยู่ข้างๆ ก็รู้แล้วว่าทำไมผู้อำนวยการถึงเรียกเขามา

เขาเงยหน้าอย่างไร้อารมณ์ ดวงตาภายใต้แว่นกรอบทองฉายแววไม่แคร์เย็นชาดุจสายน้ำ

“ได้ครับ ย้ายเธอมา ผมลาออก”

ผู้อำนวยการตกใจ “อาจารย์เฮ่อ คุณ…”

เฮ่อสวินเรียนจบจากมหาวิทยาลัยนอร์ตันที่เป็นอันดับหนึ่งของโลก ปีนี้อายุเพิ่งยี่สิบห้าก็ได้ตำแหน่งศาสตราจารย์มาแล้ว เขาสอนทุกวิชาของคลาสนานาชาติมอห้า

โรงเรียนมัธยมชิงจื้อทุ่มเทไปมากกว่าจะเชิญเฮ่อสวินมาสอนได้ ให้เขาดูแลคลาสนานาชาติ ทั้งนี้ก็เพื่อให้มีเด็กของชิงจื้อสอบติดได้เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนอร์ตันบ้าง

ศาสตราจารย์ที่จบจากมหาวิทยาลัยนอร์ตันกับนักเรียนที่ไม่ได้เรื่องสักอย่าง ยังต้องคิดอีกเหรอว่าจะเลือกใคร

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset