และที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ด้านหลังแอคเคาท์ทีมสนับสนุนอิ๋งลู่เวยยังมีแอคเคาท์แฟนคลับอีกหลายคน
นี่ก็แสดงว่าแอคเคาท์เวยปั๋วพวกนี้ล้วนถูกใช้โดยคนคนเดียว
ในรูปที่ยาวมากหนึ่งรูป มีแต่แฟนคลับของอิ๋งลู่เวยทั้งนั้น สามสี่พันแอคเคาท์เลยทีเดียว
นี่ยังไม่พอ
สำนักงานทนายความซีเฟิงกลัวแฟนคลับบางคนอ่านหนังสือไม่แตก จึงโพสต์อีก
แอทสำนักงานทนายความซีเฟิง : [ขอสรุปอย่างง่ายๆ นะครับ ขอเพียงแต่มีคดีติดตัว หน่วยงานของรัฐบาล ธนาคาร รัฐวิสาหกิจ ก็จะไม่มีทางรับคุณเข้าทำงาน อาชีพอย่างรับราชการ ทนายความ เจ้าหน้าที่ศาล เป็นต้น เลิกคิดไปได้เลยครับ หนุ่มๆ สาวๆ นี่ก็คือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของพวกคุณ (อีโมติคอนหน้ายิ้ม)]
เนื่องจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ถึงได้ด่าทอปั่นข่าวของเด็กสาวที่อายุยังไม่ถึงสิบแปดอย่างคึกคะนอง
เวยปั๋วสองโพสต์ต่อเนื่องประหนึ่งเป็นไม้กระบองฟาดเข้ามาที่หัว เล่นเอาพวกแฟนคลับสมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ แม้แต่จะกดพิมพ์ก็ทำไม่เป็นแล้ว
ประหนึ่งฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ
พวกชาวบ้านมุงดูแตกต่างจากแฟนคลับ ติดตามดูเงียบๆ มาตลอด
พอเห็นสถานการณ์พลิกแล้วก็กดเข้าไปดูคลิปบ้าง
[ฮ่าๆๆ ไม่ไหวแล้วขำเป็นบ้า ที่แท้เจียงมั่วหย่วนก็มโนไปเองคิดว่าน้องคนนี้ชอบเขางั้นเหรอ แถมยังวิ่งไปหาน้องคนนี้เองด้วย นี่มันตาแก่ลามกหรือเปล่า]
[น้องคนนี้นิสัยดีสุดๆ ถ้าเป็นฉันนะ ตบไปหลายฉาดแล้ว เอาให้ตื่น]
[อย่าว่างั้นงี้เลยนะ น้องคนนี้สวยขนาดนี้ เจียงมั่วหย่วนไม่คู่ควรเลยจริงๆ]
[น้องเขาเพิ่งจะสิบเจ็ด กำลังอยู่ในวัยสวยสะพรั่ง สวยขนาดนี้คิวรอจีบยาวเป็นหางว่าวแล้วมั้ง อยู่ว่างๆ จะไปอ่อยชายแก่ทำไม แฟนคลับอิ๋งลู่เวยช่วยฉลาดหน่อย คิดว่าพี่เขยของพวกเธอเป็นของล้ำค่าในโลกเหรอ]
พออิ๋งจื่อจินโพสต์ยืนยันความบริสุทธิ์ สองโพสต์ของอิ๋งลู่เวยกับอิ๋งซื่อกรุ๊ปจึงกลายเป็นเรื่องตลก
มีคนตาแหลมยิ่งกว่าที่สังเกตเห็นความตั้งใจเรื่องเวลาโพสต์
มีคนไปคอมเมนต์ที่ด้านล่างของสองโพสต์ทันที
[นี่หมายความว่าไง แน่ใจแล้วว่าน้องคนนี้ไปยั่วคู่หมั้นของคุณงั้นเหรอ เห็นคลิปยัง ตบหน้าเลยไหมล่ะ]
[พูดตามตรงนะ ฉันยังอายแทนเธอเลย ถึงจะบอกว่าไม่ใช่หลานสาวแท้ๆ ของเธอ แต่อย่างน้อยก็บริจาคเลือดให้เธอนะ เห็นแฟนคลับบอกว่าเธอดีกับหลานสาว แบบนี้เหรอ แบบนี้เหรอ]
[จงใจใส่ร้ายว่าน้องเขาอ่อยสินะ น่าขยะแขยงสิ้นดี ชาติที่แล้วคงเป็นนังงูพิษใสซื่อ]
ด้านล่างโพสต์ของแอคเคาท์ทางการอิ๋งซื่อกรุ๊ปเดิมทีมีแต่คอมเมนต์ชื่นชมของแฟนคลับอิ๋งลู่เวย ตอนนี้ถูกคอมเมนต์ของคนทั่วไปกลบหมดแล้ว
[ขอร้องล่ะช่วยอยู่ห่างๆ น้องคนนี้ไปเลยนะ น้องเขาอุตส่าห์บริจาคเลือดให้แล้วยังจะมาถูกพวกคุณใช้ศีลธรรมเป็นข้ออ้างอีก แถมพวกคุณยังเป็นตระกูลเศรษฐี ช่วยอายหน่อย]
[ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะเอาอย่างแฟนคลับของอิ๋งลู่เวย ต่อไปฉันจะเลิกซื้อของในเครืออิ๋งซื่อกรุ๊ป ใครจะไปรู้ว่าเงินเข้ากระเป๋าอิ๋งลู่เวยด้วยหรือเปล่า]
[คอนเมนต์บนฉันเอาด้วย พวกเราเป็นพลเมืองดี ไม่ด่าคน พูดแต่ความจริง]
หลังจากประชดประชันเสร็จ บรรดาคนพวกนี้ก็พากันกดเข้าไปดูแอคเคาท์เกษียณแล้วอย่ากวนด้วยความสนใจ เริ่มเลื่อนดูโพสต์ของอิ๋งจื่อจินในช่วงนี้
ต่อไปนี้เป็นโพสต์เวยปั๋วของเกษียณแล้วอย่ากวน
วันที่ยี่สิบห้ากุมภาพันธ์
[หมาล่ากุ้งมังกรน้อยอร่อยจัง โลครึ่งไม่พอกิน]
วันที่ยี่สิบแปดกุมภาพันธ์
[ชีวิตเกษียณสิ้นสุดแล้ว ชุดนักเรียนน่าเกลียดมาก]
วันที่หนึ่งมีนาคม
[ช็อกโกแลต มันฝรั่งทอดรสแตงกวา แท่งเผ็ด ได้ยินว่าอันนี้เรียกว่าน้ำแฮปปี้ของชาวติดบ้าน]
แนบรูปขนมกองพะเนิน
วันที่สามมีนาคม
[ความสุขของพวกเด็กๆ]
แนบรูปสนามกีฬามัธยมชิงจื้อกับกลุ่มนักเรียนที่กำลังเล่นบาส
วันที่สี่มีนาคม
[ไปเดินเล่นที่ร้านสัตว์เลี้ยง อยากเลี้ยงหมู]
แนบรูปลูกหมูสีชมพูตัวหนึ่ง
ทุกคนที่ไม่คิดว่าน้องเขาจะเป็นคนแบบนี้ “…”
[เดี๋ยวนะๆๆ ดูจากคลิปเหมือนเป็นผู้หญิงที่เย็นชา เชิดๆ หยิ่งๆ พูดจาแรงๆ อะไรทำนองนั้น ทำไมโพสต์เวยป๋อปกติมันแบ๊วได้ขนาดนี้ล่ะ]
[ตรวจสอบเสร็จเรียบร้อย น้องสาวคนนี้เป็นคนกินจุ]
[น่ารักซะงั้น หลงเข้าแล้ว วันนี้ฉันขอสมัครเป็นแฟนคลับน้องคนนี้]
นี่มันนางฟ้าชัดๆ พวกเขาโดนตกเข้าแล้ว!
…
กระแสวิจารณ์ในเน็ตกลับตาลปัตร ถึงขนาดที่ร้อนระอุยิ่งกว่าก่อนหน้านี้
[แฟนคลับคนอื่นเขามีแต่ขอหลักฐานได้หลักฐาน เป็นครั้งแรกที่เห็นท้าฟ้องเจอฟ้อง แฟนคลับอิ๋งลู่เวยดีใจกันไหม]
[สนับสนุนให้น้องฟ้องเอาเรื่องจนถึงที่สุด ไม่ใช่แค่ครั้งแรกแล้ว ฉันเป็นแค่คนตามข่าว ปีนี้มุงดูไปแล้วอย่างน้อยห้าครั้ง เจอแฉในเน็ตสนุกไหมล่ะ]
[จะว่าไปพวกเธอไม่รู้เหรอว่าสำนักงานทนายความซีเฟิงคืออะไร ผมในฐานะที่เป็นคนตี้ตูแท้ๆ จะช่วยสาธยายให้ฟัง นับตั้งแต่สำนักงานทนายความซีเฟิงก่อตั้งเป็นต้นมายังไม่เคยว่าความแพ้สักคดี อีกทั้งยังทำให้อีกฝ่ายถูกลงโทษอย่างสาหัสสากรรจ์ ยินดีกับแฟนคลับบ้านอิ๋งลู่เวยด้วยนะคร้าบ ความปรารถนาของพวกคุณเป็นจริงแล้ว]
บรรดาแฟนคลับอิ่งลู่เวยเลิ่กลั่กกันหมด
พอมีคนหวังดีช่วยสาธยายให้ฟัง มีหรือที่พวกเขายังจะไม่รู้ถึงความรุนแรงของเรื่องนี้
ท่าทีข่มขู่เมื่อครู่ยังจะหลงเหลืออีกที่ไหนกัน แต่ละคนก้มหน้าก้มตาเริ่มส่งข้อความส่วนตัวหาอิ๋งจื่อจิน
[น้องคะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่มีคดีติดตัวไม่ได้ วันหน้าพี่อยากสอบราชการจริงๆ (อีโมติคอนร้องไห้)]
[น้องคะ พวกเราก็ไม่รู้ความจริง ไม่ได้มีเจตนาร้าย ได้โปรดยกโทษให้ด้วยนะ ถอนฟ้องเถอะนะ (อีโมติคอนคุกเข่า) (อีโมติคอนคุกเข่า)]
[พี่คะ หนูเพิ่งอายุสิบหก (อีโมติคอนร้องไห้ยกใหญ่) อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ]
พอเห็นข้อความพวกนี้ซิวอวี่ก็แสยะยิ้ม “ก่อนหน้านี้ทำอะไรไว้ ทำมาเป็นสลด ก่อนหน้านี้ด่าซะกะไม่ให้ผุดให้เกิด แถมยังส่งรูปพวกนั้นมาด้วย ถ้าพ่ออิ๋งเป็นโรคหัวใจไม่เข้าโรงพยาบาลแล้วเหรอ”
ซิวอวี่แชร์คอมเมนต์ของแฟนคลับคนหนึ่ง
แอทนี่เจ๊อวี่ของเธอไง : [ยังไม่ถึงวันเกิดครบสิบเจ็ดของเธอเลยด้วยซ้ำ เรียกพงเรียกพี่อะไร ทำไมต้องให้อภัยด้วย]
เจียงหรานงง “ทำไมกระแสตีกลับรุนแรงขนาดนี้”
เดิมทีเขาคิดว่าอย่างมากก็แค่ล้างมลทิน นึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะกลับกลายเป็นแบบนี้
“ช่วงเวลาทองของการเล่นสื่อคือยี่สิบสี่ชั่วโมง” อิ๋งจื่อจินแกะเกาลัดให้ตัวเอง พูดอย่างใจเย็น “เกินกว่าเวลานี้จะไม่ทัน กระแสสั้นเกินไปก็จะตีไม่ขึ้น ก่อนหน้านี้กดไว้มากแค่ไหน ตอนนี้ก็จะมีแรงตีกลับที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า”
ผลลัพธ์ที่เธอต้องการก็คือแบบนี้
ซิวอวี่โยนโทรศัพท์ทิ้ง กวักมืออย่างใจป้ำ “ไปพ่ออิ๋ง เดี๋ยวฉันเลี้ยงเนื้อย่าง”
…
เจียงซื่อกรุ๊ป
เลขาอ่านเวยปั๋ว มือสั่นอยู่ตลอด แทบจะถือโทรศัพท์ไว้ไม่อยู่
เขามองประตูห้องประชุมที่ปิดสนิทอยู่เรื่อยๆ ไม่กล้าเข้าไปรายงานสถานการณ์
เจียงมั่วหย่วนมีเวยปั๋ว แต่เขาเป็นคนดูแลมาตลอด ปกติไม่ได้โพสต์อะไร แค่แชร์งานของบริษัท
ตอนนี้คอมเมนต์ในเวยปั๋วกับกล่องข้อความส่วนตัวของเจียงมั่วหย่วนมีแต่คนมาแขวะ แถมยังเป็นแบบที่มีมารยาทพอสมควร
ไม่ว่าอย่างไรเลขาก็นึกไม่ถึงว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้
เพราะไม่ได้ออกไปยืนยันความบริสุทธิ์ ตอนนี้เจียงมั่วหย่วนจึงกลายเป็นเป้าหมายให้ชาวเน็ตรุมประชดไปแล้ว
เลขากลืนน้ำลาย กดโทรเบอร์หนึ่ง พูดเสียงสั่น “คุณลู่เวย คุณ คุณเห็นเวยปั๋วหรือยังครับ”
ตอนรับสายนี้อิ๋งลู่เวยเพิ่งนวดเสร็จ
เธอยิ้ม พูดอย่างอารมณ์ดี “ยังเลยค่ะ เดี๋ยวจะดูตอนนี้”
พูดจบเธอก็ไม่ได้สนใจว่าดูเหมือนเลขายังอยากพูดอะไรต่อ กดตัดสายทันที
อิ๋งลู่เวยหยิบลิปสติกพลางเปิดเวยปั๋ว