เนี่ยเฉาปาไปสุดกำลัง
หลังจากที่เขาซื้อไข่ไก่มายังไม่ได้เอาใจใส่ถึงขั้นกะเทาะให้เปลือกร้าว
พอปาออกไปแบบนี้ ไข่ก็แตกหมดทุกฟอง
“พลั่ก!”
อิ๋งลู่เวยกรีดร้อง งงไปหมดที่ถูกทำร้าย
เหตุการณ์นี้เสียงค่อนข้างดัง ดึงดูดความสนใจของคนที่ยังไม่ออกไปจากตรงนั้น
พวกเขาต่างมองมาด้วยความตกใจ
โดยเฉพาะใบหน้าที่เต็มไปด้วยผื่นแดงของอิ๋งลู่เวย พอเจอกับไข่ขาวไข่แดงก็ยิ่งดูแย่เข้าไปใหญ่
“ผู้หญิงคนนั้นหน้าตาน่าเกลียดจัง หน้าเป็นอะไรน่ะ”
“อัปลักษณ์ หน้าแย่ขนาดนี้ยังจะออกมาข้างนอก มาหลอกใครน่ะ”
“เดี๋ยวนะ นั่นมันอิ๋งลู่เวยไม่ใช่เหรอ หน้าคล้ายอยู่นะ…”
เสียงถ่ายรูปดังขึ้นไม่หยุด มีคนเปิดเวยปั๋วเตรียมโพสต์แล้ว
“ห้ามมองนะ! ห้ามมอง!” อิ๋งลู่เวยใกล้คลั่งเต็มที เธอเอากระเป๋าบังหน้า “หลบไป ไปให้พ้น!”
ลู่จื่อรีบเดินเข้ามาหา จับมือเธอไว้ “ลู่เวย เราไปกันเถอะ”
มีเหรอที่อิ๋งลู่เวยยังจะกล้าอยู่ต่อ ก้มหน้าวิ่งหนีทันที
“หึ บ้าซะให้พอ” เนี่ยเฉาปัดมือ หันไปขอคำชมจากอิ๋งจื่อจิน “บอส ไม่เลวใช่ไหมล่ะ”
สมกับเป็นเขา
“อืม” อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “แนะนำว่าครั้งหน้าใช้ขยะดีกว่า”
“หา?”
“มันเปลือง” เห็นไข่ไก่ที่แตกเละเต็มพื้น อิ๋งจื่อจินรู้สึกเสียดายอย่างสุดซึ้ง “ฟักเป็นลูกเจี๊ยบได้ตั้งหลายตัว”
เนี่ยเฉา “…”
ยุคสมัยนี้ ทำไมบอสถึงเอาแต่คิดใช้ชีวิตเกษตรกรล่ะ
ไม่เหมือนใครเลยจริงๆ
“บอส ฉันว่าเธออาจจะทำนายดวงเป็นจริงๆ” เนี่ยเฉาเกาหัว “งั้นทำนายให้ฉันหน่อยสิ ว่าเมื่อไรฉันถึงจะเจอคู่แท้ที่ไม่เขี่ยฉันทิ้ง”
ฟู่อวิ๋นเซินเพิ่งกลับมาจากข้างนอก ได้ยินคำพูดนี้พอดี
เขาเหลือบมองเนี่ยเฉา “ไปทำความสะอาด”
เนี่ยเฉารีบออกไปทันที
“เรื่องเรียบร้อยหมดแล้ว” ฟู่อวิ๋นเซินลูบศีรษะของเด็กสาว ริมฝีปากยกขึ้น “ไม่ต้องกังวล พวกเขาไม่มีโอกาสฟ้องหรอก”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ตระกูลเนี่ย…”
“ไม่ต้องสนใจ เขาแค่อยู่ว่างๆ พอดี” ฟู่อวิ๋นเซินตอบอย่างเนือยๆ “เมื่อกี้ดูอะไรอยู่เหรอ”
“ไม่ได้สำคัญอะไรหรอก ก็แค่ฉันรู้สึกว่า…” อิ๋งจื่อจินเงียบไปเล็กน้อยแล้วถึงพูดต่อ “ประหยัดเงินคุณตาของฉันเป็นความคิดที่ผิดมหันต์”
ฟู่อวิ๋นเซินขมวดคิ้ว “หืม?”
เขาก้มตัวเล็กน้อย มองข้อความในโทรศัพท์มือถือ
ในนั้นเป็นโพสต์เวยปั๋วสดๆ ร้อนๆ
[แอทเด็กลงทุกวัน : แชร์โพสต์นี้ สุ่มแจกเงินหนึ่งหมื่นให้ผู้โชคดีหนึ่งร้อยคน ประกาศผลวันที่ 24 มี.ค. ถ้าจับได้แฟนคลับของอิ๋งลู่เวยจะจับใหม่ จับได้คนที่มีส่วนเรื่องข่าวลือจะจับใหม่ ไม่ได้ต้องการอะไร แค่รวย เรามอบความสุขกันดีกว่า (อีโมติคอนเชียร์)(อีโมติคอนเชียร์)]
ฟู่อวิ๋นเซิน “…”
ผู้เฒ่าจงตามติดกระแสจริงๆ แม้แต่อีโมติคอนอันใหม่ในเวยปั๋วก็ใช้เป็น หัวไวมาก
ทำไมปู่ของเขาถึงปลงไม่ได้สักที คิดแต่จะเป็นศัตรูกับผู้เฒ่าจง
แบบนี้ไม่เท่ากับโดนเล่นหรอกเหรอ
“ฉันจะไปโรงพยาบาลเซ่าเหรินหน่อย” อิ๋งจื่อจินยื่นขวดยาให้เขา “คุณไปทำธุระของคุณ ไว้วันหลังฉันจะไปดูปู่ฟู่ที่บ้านให้”
ขนตาของฟู่อวิ๋นเซินขยับเล็กน้อย ดวงตานุ่มลึกดุจมหาสมุทร
เขายิ้มเล็กน้อย “ได้ พี่ชายจะรอนะ”
…
เวลานี้พอผู้เฒ่าจงโพสต์เวยปั๋วไปแบบนั้น ก็ดึงดูดความสนใจจากชาวเน็ตทันที
แอคเคาท์ส่วนตัวของผู้เฒ่าจงจะโพสต์คลิปตลกทุกวัน ดึงดูดชาวเน็ตได้ไม่น้อย
ถึงแม้ชาวเน็ตจะไม่รู้จักตัวตนของเขา แต่ก็รู้ว่าเขาเป็นคนแก่ที่อายุมากพอสมควรแล้ว
ดังนั้นพอเห็นโพสต์นี้ต่างก็ตะลึง
[โอ้โห ปู่เศรษฐี! หมื่นหยวน จับให้ได้ผมนะ!]
[ใครที่แห้วรางวัลจับฉลากตลอด เชิญต่อคิว]
[ถ้าจับได้ฉันนะ ฉันจะซื้อขนมเส้นเผ็ดให้คนที่ไลก์ฉันคนละห่อ]
[มาแว้ว ฉันมาช่วยลดโอกาสได้รางวัลแว้ว]
ยอดแชร์ถล่มทลาย ไม่ถึงสิบนาทีก็สูงถึงสองหมื่น ติดอันดับคำค้นยอดฮิตทันที
แฟนคลับของอิ๋งลู่เวยไม่มีทางที่จะไม่เห็น
โดยเฉพาะตอนเห็นประโยคที่ว่า ‘ถ้าจับได้แฟนคลับของอิ๋งลู่เวยจะจับใหม่’ ก็โกรธจนดวงตาแดงก่ำ ควบคุมแป้นพิมพ์ของตัวเองไม่ได้
[ไม่เอาหรอก แค่หมื่นเดียว ซื้อลิปสติกชาแนลได้หรือเปล่าน่ะ]
[หึหึ มีเศรษฐีหนุนหลังจริงด้วยสินะ มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเราชาวลู่สุ่ยไม่เสียดายหรอก]
[ดูก็รู้ว่าเป็นพวกเศรษฐีใหม่ที่เพิ่งโผล่มา ลู่เวยเป็นสาวไฮโซตัวจริง ไม่นับเป็นพวกเดียวกันด้วยหรอก ฉันไม่เห็นจะเสียดาย]
[คงเป็นเด็กอายุน้อย ลูกเศรษฐีที่ไม่เคยเรียนหนังสือ ถึงได้สิ้นเปลืองเงินขนาดนั้นมาจับฉลาก ขยะ]
พอเห็นคอมเมนต์พวกนี้บรรดาชาวเน็ตที่เข้าร่วมจับฉลากต่างก็โมโห
กล้ารังแกคนแก่เลยเหรอ
ปรากฏว่ายังไม่ทันที่พวกเขาจะถกแขนเสื้อเตรียมทำศึกนักเลงคีย์บอร์ด พวกเขาก็เห็นเจ้าของแอคเคาท์เด็กลงทุกวันลงมาด่ากลับด้วยตัวเอง
[ไม่ได้อยากจับได้เธอหรอก ไม่ต้องมาทำเป็นสูงส่ง แหวะๆๆ]
[เจ็บใช่ไหมล่ะ ก็อยากให้เจ็บ โกรธไหมๆ เฮอะ โกรธก็ไม่ให้ร่วมสนุกหรอก เชิญอกแตกตายไปเลย]
[ฉันไม่ซื้อหรอกลิปสติกชาแนล เวลาฉันให้ของขวัญ ต่ำๆ ก็ลาแมร์สิบชุด เธออาจจะไม่รู้ว่าลาแมร์คืออะไรใช่ไหมล่ะ เด็กน้อยที่น่าสงสาร]
ชาวเน็ต “…”
ขอโทษที่มารบกวนค่ะ
พลังทำลายล้างของปู่เด็ดกว่าพวกเขาอีก
พวกเขาไร้เดียงสาเกินไป
ผู้เฒ่าจงด่าแฟนคลับของอิ๋งลู่เวยเสร็จก็อารมณ์ดีมาก ถึงกับเปิดไวน์ฉลองโดยเฉพาะ
จงมั่นหวานั่งอยู่ที่โซฟา มองผู้เฒ่าจงฉีกยิ้มกว้าง เธอถามด้วยความสงสัย “คุณพ่อยิ้มอะไรเหรอคะ”
วันนั้นเธอกับผู้เฒ่าจงแยกย้ายกันอย่างที่จบไม่สวยเท่าไร วันนี้ผู้เฒ่าจงเรียกเธอมาอีกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร
“เปล่า” ผู้เฒ่าจงพยายามกลั้นยิ้ม สีหน้ากลับมาเคร่งขรึม กระแอมหนึ่งที “ที่ฉันเรียกแกมาเพราะมีเรื่องสำคัญจะปรึกษาด้วย”
ผู้เฒ่าจงยอมสนใจเธอ จงมั่นหวาก็ไม่มีความจำเป็นต้องวางมาดต่อ
เธอยิ้ม “ว่ามาสิคะ”
“วันนี้วันที่สิบเจ็ดแล้ว อีกไม่กี่วันก็จะวันที่ยี่สิบสี่ เป็นวันเกิดของจื่อจิน” ผู้เฒ่าจงมองปฏิทิน “ปีที่แล้วพวกแกรับเธอกลับมาไม่ได้จัดงานเลี้ยงให้ งานฉลองวันเกิดในปีนี้แกต้องจัดให้ดี”
“ไม่ว่างค่ะ” จงมั่นหวาปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หนูกับเจิ้นถิงคุยกันแล้วว่าจะไปฉลองวันเกิดให้วานวานที่ยุโรป อีกไม่กี่วันก็จะบินแล้วค่ะ”
ยังจะว่างจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดที่ไหนกัน