คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 126 ให้เฮ่อสวินไสหัวออกไปจากสนามสอบ

เฮ่อสวินทำงานอย่างเต็มที่ ตั้งใจมาตลอด

ตอนสอนหนังสือก็ต้องการให้นักเรียนพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อน จึงจริงจังเข้มงวด

ดังนั้นเวลาสอนเขาจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ที่นักเรียนใจลอยเป็นอันขาด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องปล่อยให้หลับเวลาเรียน

แล้วเรื่องที่สำคัญอย่างการสอบจะมาเขียนส่งเดชแบบนี้ได้อย่างไร

แบบนั้นจะสอบไปทำไม

เสียเวลาทุกคน

เดิมทีเขายังคิดอยู่ว่าอิ๋งจื่อจินเลือกที่จะสอบข้อสอบของคลาสเด็กอัจฉริยะเพราะตั้งใจเปลี่ยนตัวเองแล้วจริงๆ

ดูท่าก็เป็นการทำเพียงผิวเผิน อย่างไรก็สอบได้ไม่ดี พอถึงเวลายังสามารถออกไปโอ้อวดได้ว่าตัวเองทำมาแล้วแม้กระทั่งข้อสอบของคลาสเด็กอัจฉริยะ

สีหน้าของเฮ่อสวินเย็นชาลงมาก ไม่มองอิ๋งจื่อจิน

แต่พอเขายื่นมือออกไปจะดึง แต่กลับแตะไม่ได้แม้แต่มุมกระดาษข้อสอบ

พลั่ก!

เสียงโต๊ะเคลื่อนกะทันหัน กระแทกถูกขาของเขา

แค่ฟังเสียงก็รู้แล้วว่าแรงขนาดไหน

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงแผ่ซ่าน ทำให้เฮ่อสวินเจ็บจนต้องงอตัว

เขาเซถอยหลังไปหลายก้าว ถ้าไม่ใช่เพราะด้านหลังมีโต๊ะรับไว้ เขาคงไม่มีแม้แต่แรงจะยืนอยู่ได้

เสียงนี้ได้ทำให้นักเรียนที่อยู่รอบบริเวณสะดุ้งตกใจ โดยเฉพาะนักเรียนโต๊ะที่เฮ่อสวินเซไปเกาะ

นักเรียนคนนั้นสะดุ้งจนปากกาในมือตก กระดาษคำตอบยังถูกขีดเป็นเส้นยาว

พวกนักเรียนในห้องมองมากันหมด ทั้งตกใจทั้งงุนงง ต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

อาจารย์คุมสอบอีกคนกำลังติดบาร์โค้ดให้นักเรียน ก็ตกใจเหมือนกัน

อิ๋งจื่อจินเงยหน้าขึ้น

แววตาเย็นชาดุจหิมะ สีหน้าเอาเรื่อง

ราวกับมีลมเย็นที่แปรเปลี่ยนเป็นคมมีดพัดผ่าน ทำให้ทั้งห้องเรียนเข้าสู่ดินแดนหิมะอันเย็นยะเยือก

จากนั้นทุกคนในคลาสเด็กอัจฉริยะก็ได้ยินเสียงแข็งกร้าวของเด็กสาว “ถ้าสมองไม่มีประโยชน์ ฉันช่วยเด็ดทิ้งได้นะ”

“…”

ประโยคเดียวทำให้ทั้งห้องเงียบกริบ

จงจือหว่านตะลึงงัน

อิ๋งจื่อจินบ้าไปแล้วเหรอ

ถึงกับกล้าพูดแบบนี้กับเฮ่อสวินเลยเหรอ

ไม่รู้หรือไงว่าเฮ่อสวินจบจากมหาวิทยาลัยนอร์ตัน

ไม่ว่าจะเป็นคนเก่งของวงการไหนต่างก็ไม่อยากล่วงเกินนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนอร์ตัน

อย่างไรเสียชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยนอร์ตันก็โด่งดังมาก

หลายปีมานี้ชิงจื้อเชิญนักศึกษามากความสามารถของมหาวิทยาลัยนอร์ตันมาได้แค่เฮ่อสวิน ย่อมต้องยอมให้ทุกอย่าง

แม้แต่ผู้อำนวยการโรงเรียนก็ต้องถามความเห็นของเฮ่อสวินเป็นหลัก คนอื่นไว้ทีหลัง

เฮ่อสวินมาอยู่ชิงจื้อได้สองปี ทุกอย่างราบรื่นดี ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นไม่เคยเจอการปะทะแบบนี้

เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตาภายใต้แว่นกรอบทองแฝงด้วยความโกรธ

อิ๋งจื่อจินกลับไม่มองเขาอีก

เธอลุกขึ้น ถือกระดาษข้อสอบกับกระดาษคำตอบของตัวเองแล้วเดินออกจากสนามสอบ เร็วจนอาจารย์คุมสอบอีกคนยังไม่ทันได้ห้าม

เขามองไปที่เฮ่อสวิน “อาจารย์เฮ่อ เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมคุณถึงได้มีปัญหากับเด็กนักเรียนในสนามสอบล่ะครับ”

ขณะเดินพวกเขาไม่กล้าส่งเสียงด้วยซ้ำ เพื่อให้นักเรียนได้สอบกันอย่างสงบ

เฮ่อสวินไม่พูดอะไร แค่ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “เรื่องนี้อาจารย์หลี่ไม่ต้องสนใจหรอกครับ”

เขาอยากยันโต๊ะลุกขึ้น แต่กลับพบว่าขาเจ็บปวดอย่างรุนแรงมากกว่าเดิม

ถ้าไม่ติดว่ายังมีความรู้สึก เขาคงคิดว่าขาของเขาพิการไปแล้ว

ถึงขนาดที่ยังมีอีกหลายส่วนในร่างกายก็เจ็บมากเช่นกัน

เฮ่อสวินผ่อนลมหายใจ สีหน้าเย็นชายิ่งกว่าเดิม

อารมณ์รุนแรงขนาดนี้ อนาคตไปไม่ได้ไกลหรอก

เขาเองก็ไม่จำเป็นต้องไปชี้แนะตักเตือนอะไรแล้ว

เสียเวลาของเขา

อาจารย์คุมสอบอีกคนทั้งร้อนใจทั้งโมโห “อาจารย์เฮ่อ มีความแค้นอะไรส่วนตัวไปจัดการกันเองไม่ได้เหรอครับ”

สายตาของเฮ่อสวินดุดัน “อาจารย์หลี่คิดว่าผมทำเพราะความแค้นส่วนตัวเหรอครับ”

“ถ้าไม่ใช่อย่างงั้น” อาจารย์คุมสอบคนนี้โมโหจนหัวเราะ “แล้วนักเรียนคนนี้จะเป็นฝ่ายหาเรื่องคุณก่อนได้เหรอครับ”

เฮ่อสวินเม้มริมฝีปาก ไม่ตอบ

อิ๋งจื่อจินย่อมไม่ได้เป็นฝ่ายหาเรื่องเขาก่อน แต่เขาก็แค่ทนเห็นเธอไม่ตั้งใจ ทำข้อสอบส่งเดชไม่ได้

เฮ่อสวินไม่อธิบายอะไรอีก

อย่างไรเสียอิ๋งจื่อจินก็รู้ตัวและเดินออกจากสนามสอบไปแล้ว ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน

จงจือหว่านละสายตากลับมา เบนความสนใจกลับมาที่กระดาษคำตอบอีกครั้ง รอยยิ้มในดวงตากลับปิดบังไม่อยู่แล้ว

เธอรู้อยู่ก่อนแล้วว่า เอาแค่ท่าทีของอิ๋งจื่อจินที่มีต่อการทำข้อสอบครั้งนี้ จะต้องมีปัญหากับเฮ่อสวินในไม่ช้าก็เร็ว

การสอบวิชาวิทยาศาสตร์จะเสียเวลาไปไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว อีกทั้งอิ๋งจื่อจินยังโมโหเดินออกไป ก็เท่ากับการสอบครั้งนี้เป็นหมันแล้ว

แต่ในเวลาไม่ถึงสามนาทีอิ๋งจื่อจินก็กลับมา

เธอไม่ได้กลับมาคนเดียว ด้านหลังมีอาจารย์ฝ่ายวิชาการที่เดินตามมาอย่างรีบร้อน

พอเข้ามาอาจารย์ฝ่ายวิชาการก็มีสีหน้าเคร่งขรึม “อาจารย์เฮ่อ หมายความว่าไงครับ”

เฮ่อสวินอึ้งไปชั่วขณะ เขาขมวดคิ้ว “มีอะไรเหรอครับ”

“อยู่ๆ คุณไปดึงข้อสอบของผู้เข้าสอบ ยังจะถามอีกเหรอครับว่ามีอะไร” อาจารย์ฝ่ายวิชาการพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่าบอกผมนะครับว่า คุณไม่ได้อยากขัดขวางการสอบของนักเรียนอิ๋ง”

“อยาก” เฮ่อสวินไม่ปฏิเสธ “เธอไม่ตั้งใจตอบ เขียนส่งเดช เปลืองข้อสอบ ผมถึงได้หยิบไป”

อาจารย์ฝ่ายวิชาการรู้สึกว่าเขาไร้เหตุผลสิ้นดี “เด็กอยากตอบยังไงก็ปล่อยเขาไป เกี่ยวกับคุณตรงไหน ต่อให้วาดกวีตู้ฟู่ลงบนกระดาษคำตอบแล้วมันเกะกะคุณตรงไหน”

“ทำไมครับ อาจารย์เฮ่อเป็นคนออกข้อสอบหรือควักเงินค่าถ่ายเอกสารเหรอครับ หรือนักเรียนอิ๋งไม่ได้จ่ายค่าเทอมไม่มีสิทธิ์มีกระดาษข้อสอบ”

เดิมทีข้อสอบก็เป็นสิ่งที่นักเรียนควรได้รับ ต่อให้ลาหยุดก็ตาม

คิดจะดึงก็ดึงได้เหรอ

เขาเป็นอาจารย์ฝ่ายวิชาการมายี่สิบปีแล้ว ทำไมไม่เคยเจออาจารย์แบบนี้

หรือว่าคิดว่าตัวเองจบมาจากมหาวิทยาลัยนอร์ตันเลยเอาใหญ่ได้มากกว่าคนอื่นเหรอ

เฮ่อสวินถูกไล่บี้ถามก็พูดไม่ออก

โดยเฉพาะต่อหน้านักเรียนจำนวนมากขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเสียหน้าอย่างสิ้นเชิง

ในที่สุดอาจารย์คุมสอบก็เข้าใจที่มาที่ไปแล้ว และก็รู้สึกเหลือเชื่อ

“อาจารย์เฮ่อ เอาแบบนี้นะครับ คุณไม่ต้องคุมสอบวิชานี้กับวิชาภาษาอังกฤษหลังจากนี้แล้ว” อาจารย์ฝ่ายวิชาการพูดด้วยน้ำเสียงประชด “ผมกลัวว่าเกิดคุณเห็นนักเรียนคนไหนกำลังนั่งคิดจะคิดว่าเด็กเหม่อลอยแล้วดึงข้อสอบมาอีก”

คำพูดนี้ทำให้นักเรียนคนอื่นต่างตะลึง

อาจารย์ฝ่ายวิชาการไม่ได้มองว่าสีหน้าของเฮ่อสวินแย่ขนาดไหน เขาไปเรียกให้อาจารย์คนอื่นมาที่นี่

จากนั้นก็หันหน้ามาพูดกับเฮ่อสวินอีกครั้ง “อาจารย์เฮ่อ กรุณาออกจากสนามสอบเดี๋ยวนี้ครับ”

เฮ่อสวินก็เริ่มมีอารมณ์แล้ว เขาดันแว่นตา หันตัวจะเดินออก

แต่ความเจ็บปวดที่ขากลับทำให้เขาลุกขึ้นยืนไม่ได้

สุดท้ายก็รวบรวมแรงเฮือกใหญ่แล้วเดินกะเผลกออกไป

นักเรียนหญิงจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในสนามสอบต่างรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก

เฮ่อสวินยังหนุ่ม โตกว่าพวกเธอแค่ไม่กี่ปี อีกทั้งยังหน้าตาดี ย่อมเป็นชายในฝันของนักเรียนหญิงจำนวนไม่น้อย

แต่เรื่องในวันนี้ค่อนข้างทำลายภาพลักษณ์ของเฮ่อสวินที่อยู่ภายในใจของพวกเธอ

“คนอื่นๆ ทำข้อสอบต่อ” อาจารย์ฝ่ายวิชาการพูด “เวลาที่เสียไปอีกเดี๋ยวครูจะชดเชยให้”

การสอบวิชาวิทยาศาสตร์เล่นเอานักเรียนคลาสเด็กอัจฉริยะที่อยู่รอบตัวอิ๋งจื่อจินประหนึ่งถูกย่างอยู่บนกองไฟ

พวกเขาเห็นอิ๋งจื่อจินแค่เปิดข้อสอบดูผ่านๆ จากนั้นก็เขียนบนกระดาษคำตอบ

แม้จะเสียเวลาไปไม่น้อย แต่เธอใช้เวลาตอบตั้งแต่ต้นจนจบไม่เกินสามสิบนาที

แต่เวลาสามสิบนาที พวกเขายังทำข้อสอบแบบตัวเลือกไม่เสร็จด้วยซ้ำ

ต่อให้พวกนักเรียนรู้ว่าอิ๋งจื่อจินตอบส่งเดช แต่วิธีการทำข้อสอบแบบนี้ได้ส่งผลกระทบต่อพวกเขา

ตอนที่ออดหมดเวลาทำข้อสอบดังขึ้น พวกนักเรียนยังไม่ทันจะได้ดูโจทย์สามข้อใหญ่ที่ให้เลือกทำ แต่อิ๋งจื่อจินหลับไปแล้วหนึ่งตื่น

พวกเขาตะลึง แต่อีกใจก็รู้สึกโชคดี

ตะลึงที่สภาพจิตใจของอิ๋งจื่อจินดีขนาดนี้ โชคดีที่เธอทำไม่ได้

จงจือหว่านเม้มริมฝีปาก อารมณ์ไม่ค่อยดี

ความยากของฟิสิกส์ในครั้งนี้เกินกว่าที่เธอคาดการณ์ แม้เธอจะเตรียมตัวมาเยอะก็ตาม แต่ก็คาดว่าได้คะแนนไม่สูง น่าจะพอเกินผ่านมาสิบคะแนน

แต่โชคดีที่ชีวะกับเคมีเธอทำได้ไม่แย่ คะแนนรวมวิชาวิทยาศาสตร์น่าจะได้สองร้อยห้าสิบคะแนน

เดิมทีจงจือหว่านอยากเอาเรื่องที่เกิดขึ้นตอนสอบวิชาวิทยาศาสตร์ไปบอกจงมั่นหวา แต่คิดๆ ดูแล้วก็ล้มเลิกความคิดดีกว่า

เธอถือกระเป๋าเครื่องเขียนออกจากห้องสอบ

ตอนเที่ยง เฮ่อสวินกลับมาที่ห้องพัก สีหน้ายังคงดูแย่

เขาไปโรงพยาบาลมา หมอกลับบอกว่าเขาก็แค่ถูกกระแทกที่ขา ไม่มีปัญหาอย่างอื่น สุดท้ายก็สั่งแผ่นแปะแก้ปวดมาให้

เฮ่อสวินเปิดแอปฉลามไลฟ์สดตามปกติ แต่ตรงช่องที่กดติดตาม รูปโปรไฟล์ของช่องไลฟ์การเรียนนั้นกลับยังคงมืดอยู่

พอเขากดเข้าไปก็พบว่าไลฟ์ครั้งล่าสุดตั้งแต่เมื่อสิบสามวันก่อน ในใจรู้สึกกระวนกระวาย

เขาเองก็เคยติดต่อทางแอปฉลามไลฟ์สดไป อยากได้ช่องทางติดต่อเจ้าของไลฟ์คนนี้ แต่ทางแอปกลับปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้

เฮ่อสวินก็ทุ่มเงินซื้อของขวัญไปเยอะพอสมควร อย่างน้อยก็ห้าแสนได้

เขาเคยส่งข้อความส่วนตัวหาเจ้าของไลฟ์ แต่ก็เหมือนหินที่จมอยู่ในมหาสมุทร ไม่มีการตอบกลับใดๆ

ใกล้ถึงวันสอบของมหาวิทยาลัยนอร์ตันเข้ามาทุกทีแล้ว เฮ่อสวินยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าตัวเองจะผ่านแน่นอน

ในขณะที่ความคิดของเฮ่อสวินกำลังตีกัน ทันใดนั้นรูปโปรไฟล์ที่มืดอยู่ก็สว่างขึ้น

เขามองไป

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset