Tobioriru Chokuzen no Dokyusei ni xxx Shiyo! to Teian Shite mita
ชื่อไทย : เพื่อนร่วมชั้นกำลังจะกระโดดตึกตาย ผมจึงตะโกนออกไปว่า Seggg
Chapter : 10 ไปห้องแนะแนวกับสาวงาม!
.
.
.
เมื่อมาถึงห้องเรียน พวกเราถูกจ้องเขม็งยิ่งกว่าเดิม
“พวกเธอ นี่สายแล้วนะ”
“ขอโทษครับ”
“ข-ขอโทษค่ะ”
“ช่างเถอะ รีบไปนั่งที่ซะ”
เราไปนั่งที่ของตัวเองตามที่อาจารย์โมโนเบะ ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำชั้นกล่าว
ระหว่างทางเดินไปที่นั่ง ฉันเดินผ่านนักเรียนคนหนึ่ง ที่จริงก็ไม่ได้อยากเฉียดแตะเท่าไหร่ แต่เส้นทางนี้เป็นระยะทางที่สั้นที่สุดไปยังที่นั่ง ขณะเดินผ่าน ฉันเหลือบมองสาวผมบลอนด์
หญิงสาวที่ฉันเกลียด โอกุระ
วันก่อน ฉันพยายามใช้ความรุนแรงกับเธอ แม้การกระทำนั้นจะจบลงด้วยความล้มเหลว แต่หากฉันทำมันสำเร็จก็ไม่รู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย นั่นก็เพราะฉันเกลียดผู้หญิงที่ชื่อโอกุระคนนี้มาก
ขณะที่ฉันเหลือบตามอง——โอกุระก็มองมาที่ฉันเช่นกัน ทันทีที่เราสบสายตา ใบหน้าของโอกุระก็ซีดเผือดและหันหลังกลับ
ไม่ได้จ้องปานจะฆ่าแกงสักหน่อย แต่ก็ยอมรับว่าไหล่ฉันสั่นขณะกำหมัดที่ชุ่มเหงื่อเย็นแน่น
ฉันทำเกินไปไหมนะ?
ฉันคิดแบบนั้นครู่หนึ่ง แต่ถึงอย่างไร เธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ต้อนให้คุรุมิซังจนมุม ดังนั้น ฉันจะไม่ระรานไปกว่านี้——แต่ก็จะไม่อ่อนโยนด้วยเช่นกัน เพราะบางทีคุรุมิซังคงไม่ยอมให้ฉันกดดันโอกุระไปมากกว่านี้แล้ว
เธอเป็นคนแบบนั้นแหละ ไม่น่าแปลกใจเลยหากเธอยื่นมือออกไป จะว่าเป็นคนดีเกินไปหรือยังไงล่ะ แต่นั่นก็เป็นจุดที่ฉันชอบเธอนั่นแหละนะ
ฉันละสายตาจากโอกุระและนั่งลงบนเก้าอี้
โฮมรูมแสนน่าเบื่อของอาจารย์โมโนเบะจบลง ทุกคนเริ่มเตรียมตัวสำหรับคาบต่อไป ไม่ก็พูดคุยกับเพื่อนๆ ฉันเองก็คุยกับคุรุมิซังด้วยเช่นกัน
“รักทางไกลเนี่ยลำบากจังเนอะ”
“ห้องเรียนนี่มันไม่กี่เมตรเองนะ”
ขณะพูดคุยกับคุรุมิซังตามปกติ ฉันมองไปรอบๆเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันในห้องเรียน ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้เพราะอยู่ระหว่างโฮมรูม แต่ตอนนี้เป็นเวลาพัก『บรรยากาศ』ของชั้นเรียนซึ่งจะไม่ปรากฏต่อหน้าอาจารย์ก็ได้เริ่มขึ้น เดาได้ไม่ยากจากปฏิกิริยาของโอกุระ ว่าเหตุการณ์เมื่อวานต้องมีผลกระทบบางอย่าง ดังนั้นฉันจึงตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงนั้น
——ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกประหลาด
ขณะกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันก็ได้ยินเสียงแว่วจากด้านหลังก่อนจะได้หาคำตอบ นั่นคืออาจารย์โมโนเบะที่ควรจะออกจากห้องเรียนไปแล้ว เขามองลอดผ่านหน้าต่างจากโถงทางเดินโดยถือหนังสือไว้ข้างหนึ่ง
“เฮ้ เจ้าพวกมาสาย ฉันต้องสอบปากเรื่องหนีเรียนเมื่อวาน มาที่ห้องแนะแนวในช่วงพักเที่ยงด้วย”
“คือว่า ขออภัยด้วยจริงๆครับ ผมมีแผนจะสานสัมพันธ์รักกับคุรุมิซังให้ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิมในช่วงพักเที่ยง เพราะงั้นช่วยละเว้นกันหน่อยได้ไหมครับ…”
“ลึกซึ้งอะไร!? ว่าแต่มันไม่ได้มีความสัมพันธ์รักอะไรนั่นมาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก!?”
“จริงเหรอ?”
“อ-อะไรล่ะ?”
“ไม่มีความรักที่ลึกซึ้งกันจริงๆน่ะเหรอ?”
ฉันจ้องมองพลางค่อยๆยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ เธอหน้าแดงระเรื่อและส่ายหน้า
“ม-ไม่มีหรอก! ไม่ได้ต้องการสักหน่อย!”
อย่างกับเด็ก แต่น่ารักเป็นบ้า คุรุมิซังเป็นสาวงามมากกว่าน่ารัก ดังนั้นการแสดงออกแบบเด็กไร้เดียงสาของเธอจึงทำให้หัวใจฉันเต้นแรงอย่างประหลาด หรือที่อยากจะพูดก็คือ——
“คุรุมิซัง สาบานเลยว่าจะทำให้เธอมีความสุขให้ได้อย่างแน่นอน”
“จู่ๆอย่ามาตัดสินใจอะไรประหลาดๆสิยะ!”
“อ่า ขอโทษที่ขัดจังหวะการจู๋จี๋นะ โคกะ เธอก็มาด้วย พวกเธอหนีตามกันไปสองคนนี่นะ?”
“ถ้ากับคุรุมิซังล่ะก็ที่ไหนก็จะบุกน้ำลุยไฟไป ห้องแนะแนวสินะ เข้าใจแล้วครับ”
“ม-แม้แต่อาจารย์ก็ด้วย…น้ำตามัน น้ำตามันนน…”
เมื่อเหลือบไปด้านข้างซึ่งคุรุมิซังกำลังกุมศีรษะลงบนโต๊ะ อาจารย์โมโนเบะทาบมือไว้ระหว่างคิ้วและถอนหายใจ พลางพูดขณะหันหลังให้เราและเดินออกจากห้องเรียนไป
“เฮ้อ…ยังไงก็บอกแล้ว อย่าลืมมาล่ะทั้งสองคน”
ฉันมองอาจารย์โมโนเบะซึ่งโบกมืออย่างหน่ายใจแล้วสนทนากับคุรุมิซังต่อ
***
ในช่วงพักกลางวัน ฉันกับคุรุมิซังเดินไปที่ห้องแนะแนวนักเรียน
เมื่อเคาะประตู อาจารย์โมโนเบะก็ส่งเสียงตอบ ฉันจึงเข้าไปนั่งบนเก้าที่ถูกเตรียมเอาไว้ เขาเริ่มพูดด้วย “อย่างที่พูดไปเมื่อเช้า” และเริ่มสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์โดดหนีเรียนเมื่อวาน
ครู่หนึ่ง ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายว่ายังไงดี
รู้ดีว่าคุรุมิซังถูกกลั่นแกล้ง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพียงแค่รู้เท่านั้น ในแง่ของจุดยืน คิดว่าคงใกล้เคียงกับคิริชิมะคุงที่สุด รู้และต้องการหยุดมัน เพียงแต่ไม่สามารถหาวิธีได้
แม้จะพูดว่า “หยุดการกลั่นแกล้งได้แล้ว” กับการกลั่นแกล้งในชั้นเรียน ก็ไม่มีผลแม้แต่น้อย และหากใช้วิธีแปลกๆ การกลั่นแกล้งอาจทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก ดังนั้นจึงทำได้เพียงเฝ้ามองดูเงียบๆ
หากต้องการจะทำจริงๆ ต้องลงมือด้วยความเตรียมใจที่จะต้องเป็นศัตรูกับทุกคนที่ไม่ใช่บุคคลนั้น อย่างที่ฉันทำอยู่ตอนนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ศัตรูกลับไม่ใช่ 『ผู้กลั่นแกล้ง』แต่เป็น『บรรยากาศที่กลั่นแกล้ง』
ฉันควรบอกกับเขาถึงจุดไหนดี?
เรื่องการกลั่นแกล้ง เรื่องโอกุระ เรื่องที่ถูกเทน้ำใส่——หรือเรื่องพยายามฆ่าตัวตาย
เรื่องอะไรควรพูด เรื่องอะไรไม่ควรพูด ขณะที่กำลังคิดเรื่องนั้น คุรุมิซังก็กุมมือฉันไว้ ฉันที่กำลังจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น——เธอกลับเปิดปากและเริ่มอธิบาย
เธอไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย ตัวสั่นเครือขณะพูดเรื่องการกลั่นแกล้ง พลางจับมือฉันแน่น ดังนั้นฉันจึงส่งแรงนั้นกลับไป เป็นสัญญาณว่าฉันอยู่เคียงข้างเธอ
ไม่นานนักการจับก็เปลี่ยนรูปร่าง และก่อนจะรู้ตัว เรียวนิ้วเราก็ประสานกัน——เป็นสิ่งที่เรียกว่าการจับมือแบบคู่รัก
“——เพราะงั้น เขาจึงพาฉันที่ตัวเปียกโชกกลับบ้านค่ะ”
แม้จะได้พูดอะไรมากมาย แต่คุรุมิซังเหนื่อยล้ามาก ฉันจึงพูดได้เพียงปลอบโยน
“พยายามได้ดีมาก”
“…ฉันไม่อยากโดนช่วยเหลืออยู่ฝ่ายเดียวนี่นา”
นี่ล่ะคุรุมิซัง
“ก่อนอื่น ฉันเข้าใจสถานการณ์แล้ว ใช่ว่าทุกอย่างจะได้รับความชื่นชม แต่——โคกะ ขอโทษนะที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย”
อาจารย์วางมือลงบนเข่าและก้มโค้งศีรษะลงต่ำ
“ม-ไม่หรอกค่ะ เรื่องนั้น…”
หลังคำนับให้คุรุมิซัง อาจารย์ก็ปรับท่าทางแล้วหันมาทางฉัน
“เธอก็ด้วยนะ ขอบคุณที่ช่วยโคกะไว้”
“…ครับ”
เป็นความรู้สึกที่ซับซ้อน ฉันเป็นเพียงคนที่ทำได้เพียงมองดูคุรุมิซังเสียจุดยืนในห้องเรียน แม้ตอนนี้ฉันตัดสินใจที่จะรักและช่วยเหลือคุรุมิซังมากกว่าสิ่งอื่นใด แต่จนกระทั่งไม่นานมานี้ ฉันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากอาจารย์เลย
นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นคนที่สมควรได้รับคำขอบคุณหรือไม่
“…ไม่รู้หรอกนะว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่อย่างน้อยนายก็ทำได้ดีแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้น ผลลัพธ์นี่ในตอนนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นหรอกมาจริงไหม?”
อาจารย์เลิกคิ้วข้างหนึ่งแล้วชี้ระหว่างฉันกับคุรุมิซัง
เมื่อมองไปที่จุดนั้นก็พบกับมือที่กุมแน่น ฉันมองแล้วหันไปหาคุรุมิซัง จากนั้นก็สบสายตากับเธอ
“…อะ”
ใบหน้าของคุรุมิซังค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ และพยายามผละมือออกจากฉันอย่างบางเบา แต่ฉันไม่สนใจกลับคว้าไว้แน่นและกล่าวกับอาจารย์
“นั่นสินะครับ…ถ้าอย่างงั้นก็ดีแล้วล่ะ! จะแสดงให้เห็นเองว่าเราสามารถเอาชนะฝ่าฟันวิกฤตินี้ไปได้ ด้วยพลังแห่งความรักของพวกเรา! แล้วจากนั้นเราก็จะแต่งงานกัน! เดี๋ยวจะส่งบัตรเชิญงานแต่งให้ เพราะฉะนั้นต้องมาให้ได้นะครับ!”
“เรานี่อะไร!? ฉ-ฉันไม่ได้รักอะไรสักหน่อย! ว่าแต่ฉันไม่แต่งงานด้วยหรอกย่ะ!”
“ยังขี้อายเหมือนเดิมเลยน้า~”
“มะ ไม่ได้อายสักหน่อย!?”
“เฮ้ย พวกเธอ อย่ามาเป็นคู่รักการเลาะกันแถวนี้สิ”
“อาจารย์!?”
อาจารย์พูดต่อโดยไม่สนใจคุรุมิซังที่กำลังประหลาดใจ
“ยังไงก็ตาม ครั้งนี้ฉันไม่โทษว่าพวกเธอผิดหรอก ทั้งคู่กลับไปที่ห้องเรียนเถอะ”
“ค้าบ”
ขณะขานตอบอย่างยืดยาว ฉันก็ออกมาจากห้องแนะแนวกับคุรุมิซังซึ่งพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่ไม่มีใครได้ยิน
“ค-คู่รักทะเลาะกัน…? …ม-ไม่ได้มีความสุขหรอกนะ ไม่ได้มีความสุขอะไรสักหน่อย”
—————
แต่งอย่าลืมส่งบัตรเชิญมาด้วยล่ะ
(╬▔皿▔)╯
ปล.ผมอาจจะไม่ค่อยได้อัพบนเว็บเท่าไหร่ อาจจะลงดองในเพจก่อนแล้วลงทีเดียวแบบครั้งนี้ ถ้าถามว่าทำไม ก็เพราะขี้เกี้ยจลงหลายที่ครับ
คนเหงาและง่วง | Facebook
—————
แปลผิดตรงไหนขออภัย พอดีไม่ช่ำ