บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 593 ชิงชัย

ตอนที่ 593

ชิงชัย

เปรี้ยง!!

“เฮ……….” เสียงร้องตะโกนอย่างตื่นเต้นของเหล่าผู้ชมในสนามประลองที่จัดขึ้นด้วยฝีมือท่านจิ๋นจี้หลง เพราะข่าวลือเรื่องอาวุธที่สามารถทำร้ายเจี่ยหุนได้ทำให้มียอดฝีมือเข้าร่วมการประลองมากกว่าปีก่อนๆหลายเท่า ทำเอาการแข่งขันดุเดือดตั้งแต่รอบ 10 คนสุดท้าย เรียกได้ว่าการแข่งขันคราวนี้แทบจะเป็นการแข่งขันตัดสินผู้แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรซานไปเลยก็ว่าได้

“ท่านพี่ เป็นอะไรไปเจ้าคะ การประลองสนุกออกขนาดนี้ท่านทำไมเอาแต่นั่งซึมแบบนั้นล่ะ”ชุนชิงถามพลางมองพี่ชายของตัวเองที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาตั้งแต่กลับมาจากการเก็บทรายดำแล้ว

“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก”ชุนถังตอบเช่นเดิมพลางนั่งหม่นหมองต่อไปราวกับมีความในใจบอกใครไม่ได้ แน่ล่ะสาวงามที่มันหลงรักหัวปักหัวปำกลับเป็นชายแท้ทั้งดุ้น แถมตัวหลินเฟยยังบอกแล้วบอกอีกมาหลายครั้งแล้วด้วยว่าตนเองเป็นชาย เพราะแบบนั้นหลินเฟยจึงไม่ผิดอะไร กลับเป็นฝ่ายตนเองต่างหากที่ทึกทักเอาเองว่าอีกฝ่ายเป็นหญิงจนเจอภาพติดตาเข้าให้ แต่เพราะไม่อายเกินไปชุนถังเลยยังไม่ได้บอกใครเรื่องหลินเฟยเลยแม้แต่คนเดียว

“พี่ฟาน ท่านว่าพี่ชายข้าอาการแปลกๆไปหรือเปล่า”ชุนชิงถามพลางเดินมานั่งข้างๆไป๋ฟานที่มาร่วมงานด้วย วันนี้ร้านตระกูลชุนปิดทำการหนึ่งวันเพื่อพาคนในครอบครัวรวมทั้งพนักงานของร้านมาร่วมชมงานประลองเลยทีเดียว เพราะผู้จัดหาแร่มาให้ท่านจิ๋นจี้หลงคือร้านตระกูลชุนนั่นเอง

“นั่นสิ ข้าเห็นคุณชายซึมมาหลายวันแล้วนะ ตั้งแต่กลับมากับน้องหลินเฟย”ไป๋ฟานตอบพลางมองไปทางชุนถังกับหลินเฟย ตัวหลินเฟยนั้นไม่มีท่าทีอะไรผิดปกติเลย ตรงกันข้ามชุนถังแทบจะไม่มีอะไรปกติเลย ช่างเป็นเรื่องน่าขบคิดจริงๆ

“หรือว่าท่านพี่จะสารภาพรักกับพี่หลินเฟยแล้วโดนนางปฏิเสธกัน”ชุนชิงถามพลางส่งสายตาไปทางไป๋ฟาน พอกลับมาแล้วหลินเฟยก็ยังช่วยงานที่ชั้น 1 อยู่นางน่าจะทราบอะไรบางอย่างมากกว่าตนเองแน่ๆ

“ก็เป็นไปได้นะเจ้าคะ ตั้งแต่กลับมาคุณชายก็ไม่มาดูหน้าร้านอีกเลย แต่น้องหลินเฟยก็ยังทำตัวปกตินี่สิ”ไป๋ฟานว่าพลางแสดงสีหน้าครุ่นคิดออกมา หลินเฟยนั้นยังทำตัวเหมือนปกติอย่างที่นางว่าจริงๆ มันยังทักทายชุนถังเช่นเดิม แม้ชุนถังจะตอบอย่างอ้อมแอ้มก็ตาม

“หรือว่าจะโดนพี่หลินเฟยปฏิเสธแบบสุภาพมา”ชุนชิงเสนอความคิด หากบทมันออกมาว่านางไม่อาจตอบรับความรักจากคุณชายชุนถังได้และขอเป็นเพียงสหายหรือเจ้านายกับลูกน้องต่อไปสภาพที่ออกมาก็ดูสมเหตุสมผลอยู่

“……….”อีกด้านหนึ่งทางฝั่งชุนเจ๋อบิดาของทั้งสอง ตั้งแต่หลินเฟยกลับมาตนเองก็ยุ่งกับการเตรียมหาวัตถุดิบมาใช้กับอาวุธที่หลินเฟยเสนอมาจนไม่มีเวลาเข้าไปหาหลินเฟยเลย วิชาที่หลินเฟยให้มานั้นถูกใจท่านหัวหน้าผู้ตรวจการอย่างมาก ถึงขนาดท่านผู้ตรวจการหรือพี่ภรรยาของชุนเจ๋อต้องตามมาที่ร้านและสอบถามว่าจริงๆแล้วชุนเจ๋อไปนำวิชาแบบนี้มาจากไหนกันแน่อีกรอบเลยทีเดียว และผลของมันนั้นก็น่าตื่นตาเป็นอย่างมาก เพราะหลังจากที่ได้วิชาจากชุนเจ๋อไป หัวหน้าผู้ตรวจการก็ฝึกฝนวิชาทวนดาวตกอย่างเต็มที่ตลอด 3 เดือนก่อนประลอง ถึงขั้นยอมเปลี่ยนอาวุธจากดาบเป็นทวนเลยทีเดียว และในตอนนี้ผู้ชนะรอบก่อนชิงชนะเลิศนั้นก็เป็นพี่ภรรยาของตนเองอย่างท่านหัวหน้าผู้ตรวจการนั่นเอง

วิชาทวนนั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าทำให้ท่านหัวหน้าผู้ตรวจการกลายเป็นม้ามืดในการแข่งขันนี้ไปโดยปริยาย นอกจากจะชนะเหล่าแม่ทัพที่แต่เดิมฝีมือสูงกว่าไปทีละคนแล้ว ยังสร้างความหวาดกลัวให้กับเจี่ยหุนที่กำลังจะต้องแข่งขันกันในรอบชิงชนะเลิศอีกต่างหาก

“วิชาที่ท่านหัวหน้าผู้ตรวจการใช้ เป็นวิชาที่ข้ามอบให้นายท่านสินะขอรับ”หลินเฟยถามพลางมองไปยังลานประลอง วิชาทวนดาวตกเป็นวิชาที่หลินเฟยพึ่งคัดลอกให้ชุนเจ๋อไปไม่นาน ทำให้หลินเฟยเพียงดูไม่กี่ครั้งก็มองออกแล้วว่าวิชาที่ท่านหัวหน้าผู้ตรวจการใช้นั้นเป็นวิชาที่ตนเขียนเองกับมือ

“ถูกแล้ว ท่านเป็นพี่ชายของภรรยาข้า ทันทีที่ข้าเอาให้ท่านดูท่านก็ขอซื้อทันที”ชุนเจ๋อตอบออกไปตามความจริงเพราะไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้ว การที่พ่อค้าขายสินค้าให้ญาติตนเองก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรืออย่างไร

“อย่างนั้นหรือขอรับ”หลินเฟยพยักหน้าช้าๆด้วยท่าทีเข้าใจ แน่นอนว่าหลินเฟยไม่ได้จะทักท้วงเรื่องที่ชุนเจ๋อจะขายวิชาไปให้ใครหรอก เพียงแต่หัวหน้าผู้ตรวจการคนนั้นเป็นคนที่หลินเฟยเคยพบมาก่อนเท่านั้นเอง แถมยังเป็นคนที่พบก่อนจะถูกขับไล่ออกมาจากตระกูลไป๋อีกต่างหาก

“ไม่นึกเลยว่าวิชาของตระกูลเจ้าจะยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ เจ้าคิดว่ารอบชิงใครจะเป็นผู้ชนะอย่างนั้นหรือ”ชุนเจ๋อถามพลางมองลงไปบนสนามประลอง พอฝึกฝนวิชาทวนดาวตกพี่ภรรยาของมันก็เอาชนะแม่ทัพคนอื่นๆได้อย่างง่ายดายจนมีคนเชื่อว่าท่านจะกลายเป็นผู้ชนะเสียด้วยซ้ำ แต่เจี่ยหุนที่กำลังจะมาเป็นคู่ต่อสู้ก็ไม่ธรรมดาเลย ฝีมือของท่านสูงกว่าแม่ทัพคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด

“น่าเสียดายนะขอรับ พี่ภรรยาของท่านพึ่งฝึกไปได้แค่ 2 ส่วนเท่านั้น แม้จะได้เปรียบแต่เกรงว่าพี่ภรรยาของท่านจะพ่ายแพ้ขอรับ”หลินเฟยตอบตามที่ตนคิด น่าเสียดายวิชาร่างเหล็กไหลของเจี่ยหุนนั้นแข็งแกร่งไม่น้อย หากท่านหัวหน้าผู้ตรวจการไม่ฝึกวิชาทวนดาวตกให้ถึงส่วนที่ 8 เกรงว่าคงเอาชนะไม่ได้ เพราะกระบวนท่าหลังๆมีกระบวนท่าที่ใช้เจาะทะลวงเป็นพิเศษ หากเป็นท่าพวกนั้นต่อให้อาวุธเป็นอาวุธธรรมดาก็มีโอกาสทำร้ายเจี่ยหุนได้อยู่

เปรี้ยง!!

หลังจากนั้นอีกครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดคำพูดของหลินเฟยก็กลายเป็นความจริง หลังจากเริ่มประลองเจี่ยหุนก็เสียเปรียบอย่างชัดเจน เพราะตัวหัวหน้าผู้ตรวจการสามารถใช้กระบวนท่าของทวนดาวตกออกมาได้อย่างแน่นหนา เรียกได้ว่ากดเจี่ยหุนจนไม่ได้แสดงพลังเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นเจี่ยหุนก็ทราบถึงจุดแข็งของตนดี มันยื้อเวลาและคอยโอกาสที่หัวหน้าผู้ตรวจการจะพลาดหรือหมดแรงและสวนกลับไปเต็มแรงจนเป็นผลให้มันชนะไปในที่สุด แม้ท่านหัวหน้าผู้ตรวจการจะแพ้แต่หลังจากนี้ชื่อของท่านจะยิ่งใหญ่กว่าเดิมอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นจึงไม่มีอะไรต้องเสียดายเลย

“ยอดเยี่ยมมากท่านแม่ทัพเจี่ยหุน นี่คือของรางวัลของท่าน”หลังจากจบพิธีกล่าวปิดงานและประกาศชัยชนะต่างๆนาๆที่กินเวลาไปอีกเกือบชั่วโมงแล้ว ในที่สุดเจี่ยหุนก็ขึ้นมารับรางวัลกับท่านจิ๋นจี้หลงด้วยท่าทีสง่าผ่าเผย

“เท่านี้ก็จะได้รู้เสียทีว่าเจ้าพูดถูกหรือไม่”เจี่ยหุนพูดพลางมองมาทางหลินเฟย แม้แต่เดิมเป้าหมายของมันจะเป็นการพิสูจน์ว่าเรื่องที่หลินเฟยพูดจริงหรือไม่เท่านั้น แต่เพราะการประลองครั้งนี้เกิดเรื่องเหลือเชื่อขึ้นหลายอย่างรวมทั้งตัวเจี่ยหุนได้ประลองกับยอดฝีมือที่แม้แต่ตัวมันเอง็ไม่คาดคิดนับว่าคราวนี้มันอารมณ์ดีมากทีเดียว

“แน่นอนขอรับ นอกจากนี้ท่าจิ๋นจี้หลงยังได้สั่งให้นายท่านของข้าและตัวข้าให้เตรียมวัตถุดิบอื่นๆเอาไว้แล้ว และยังได้จัดเตรียมช่างทำอาวุธรอเอาไว้แล้วด้วยขอรับ ไม่ทราบว่าท่านแม่ทัพต้องการให้นำแร่เศษนภาชิ้นนี้ไปสร้างเป็นอาวุธชนิดใดดีขอรับ”หลินเฟยถามพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีปลอดโปล่ง น่าเสียดายที่งานของหลินเฟยเสร็จไปหมดแล้ว ต่อให้อาวุธไม่สามารถทำอะไรเจี่ยหุนได้จริงอย่างมากก็โดนเจี่ยหุนหัวเราะเยาะเท่านั้น แต่สินค้าที่ร้านขายไปให้กับท่านจิ๋นจี้หลงในวันนี้นับว่าเป็นรายได้เกือบทั้งปีของร้านเลยก็ว่าได้

“เตรียมพร้อมขนาดนี้เชียว….ดีข้าอยากได้ทวนเล่มหนึ่งสร้างมันให้ข้าหน่อยแล้วกัน”ท่านแม่ทำเจี่ยหุนตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีท้าทาย การที่ท่านเลือกทวนนั้นแน่นอนว่าท่านคงไม่คิดจะเปลี่ยนไปใช้ทวนเอาตอนนี้ แต่เพราะตนเองพึ่งเจอวิชาทวนที่ยอดเยี่ยมของท่านหัวหน้าผู้ตรวจการมาหมาดๆ ก็เลยเริ่มสนใจว่าหากท่านหัวหน้ามือปราบมีทวนที่สามารถทำร้ายมันได้ การประลองต้องสนุกกว่านี้แน่ๆ

“ขอรับ เมื่อเสร็จแล้วข้าจะนำทวนไปส่งมอบให้ท่านขอรับ”หลินเฟยตอบพลางประสานมือคารวะอย่างนอบน้อม

.

.

“อะไรนะ นี่เจ้าให้รองเจ้าสำนักเหยี่ยวทะเลทรายเป็นคนสร้างอาวุธให้งั้นหรือ”ชุนเจ๋อที่ตามหลินเฟยเข้ามาในสำนักเหยี่ยวทะเลทรายถามด้วยท่าทีตกใจ วันที่ให้ชุนถังพาหลินเฟยมาตามหาช่างทำอาวุธนั้นตนเองก็ไม่ได้ถามว่าได้ช่างคนไหน แต่ไม่นึกเลยว่าจะให้ท่านรองเจ้าสำนักเหยี่ยวทะเลทรายซึ่งเป็นสำนักอันดับ 9 ของอาณาจักรซานเป็นผู้สร้างให้

“หลินเฟย ท่านมาแล้วงั้นหรือ”ทันทีที่เข้ามาในห้องของรองเจ้าสำนัก ตัวรองเจ้าสำนักเองถึงกับรีบออกมาต้อนรับหลินเฟยด้วยตนเอง หลังจากได้วิชาควบคุมเพลิงจากหลินเฟยตัวรองเจ้าสำนักก็มาขอคำชี้แนะจากหลินเฟยเป็นระยะ ในช่วงนั้นทำให้ท่านรองเจ้าสำนักเหยี่ยวทะเลทรายนับถือในตัวหลินเฟยอย่างมาก เรียกได้ว่าเลื่อมใสเลยทีเดียว

“ท่านรองเจ้าสำนัก ท่านเตรียมพร้อมแล้วสินะขอรับ”หลินเฟยถามพลางมองรองเจ้าสำนักด้วยท่าทีมั่นใจ ท่านรองเจ้าสำนักมีพรสวรรค์ไม่น้อย เพียง 2 เดือนวิชาสร้างอาวุธก็พัฒนาจนหลินเฟยพึงพอใจแล้ว เรียกได้ว่าหลินเฟยวางใจให้ท่านรองเจ้าสำนักสร้างอาวุธชิ้นนี้ได้อย่างเต็มใจเลยทีเดียว

“ขอรับ แน่นอนว่าข้า….”

“นี่มันอะไรกัน”รองเจ้าสำนักยังไม่ตอบ อยู่ๆชายแก่คนหนึ่งก็เดินเข้ามามองชุนเจ๋อและหลินเฟยด้วยท่าทีไม่พอใจ

“ท่านเจ้าสำนัก”รองเจ้าสำนักเห็นเจ้าสำนักเดินมาก็รีบประสานมือคารวะทันที แต่ดูเหมือนการคารวะจากท่านรองเจ้าสำนักกลับไม่ได้ทำให้เจ้าสำนักพึงพอใจเลยแม้แต่น้อย

“คนพวกนี้มันอะไรกัน ไม่ขออนุญาตแต่กลับเข้ามาเองงั้นหรือ”เจ้าสำนักว่าพลางจ้องมองรองเจ้าสำนักด้วยท่าทีดุดัน เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าสำนักผู้นี้ไม่ชอบใจรองเจ้าสำนักเสียเท่าไหร่ ส่วนสาเหตุนั้นก็เพราะแต่เดิมทั้งคู่ก็เป็นรองเจ้าสำนักด้วยกัน และทำงานแก่งแย่งกันเรื่องเป็นเจ้าสำนักมาตลอด ยามนี้อีกฝ่ายเป็นเจ้าสำนักไปแล้วก็ยังถือความแค้นแต่เก่าก่อนพยายามขับไล่ตนเองออกจากสำนักอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน หากไม่ใช่เพราะคนของตนเองมีเกือบครึ่งในสำนักคงโดนเจ้าสำนักคนนี้ไล่ไปนานแล้ว

“ท่านเจ้าสำนัก ท่านทั้งสองเป็นแขกของข้ามาหารือเรื่องอาวุธขอรับ”รองเจ้าสำนักตอบพลางสงบสติอารมณ์เอาไว้

“อาวุธ อาวุธอะไร”เจ้าสำนักถามด้วยท่าทีสงสัย ก็พอทราบอยู่หรอกว่ารองเจ้าสำนักมีรสนิยมชอบสร้างอาวุธอยู่ แต่ปกติไม่เห็นรับงานทำอาวุธนี่นา

“ท่านเจ้าสำนักคงพอจะได้ยินข่าวมาแล้ว พวกข้าต้องการให้ท่านรองเจ้าสำนักสร้างอาวุธที่สามารถทำร้ายท่านเจี่ยหุนได้ขอรับ”หลินเฟยประสานมือพลางตอบคำถามของเจ้าสำนักในทันที

“ฮ้าๆๆ อย่ามาทำให้ข้าขำหน่อยเลย อาวุธที่ทำร้ายท่านเจี่ยหุนได้เนี่ยนะ ต่อให้เป็นกระบี่เขี้ยวมังกรของราชวงศ์ก็ยังทำร้ายท่านไม่ได้ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกเจ้าจะสร้างได้จริง”เจ้าสำนักได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะจนน้ำตาเล็ด ทำเอารองเจ้าสำนักที่ได้ฟังถึงกับหน้าแดงเพราะความโกรธ ตนเองกับหลินเฟยศึกษาเรื่องนี้มาตลอดหลายเดือนถึงขั้นมั่นใจว่าอาวุธชิ้นนี้จะต้องทำสำเร็จเป็นแน่ แต่อีกฝ่ายไม่ทราบเรื่องอะไรกลับมายืนหัวเราะเช่นนี้

“หากท่านไม่เชื่องั้นมาพนันกันหน่อยดีหรือไม่”หลินเฟยถามด้วยสีหน้าเย็นยะเยียบ

“พนัน..พนันอะไร”เจ้าสำนักถามพลางมองมาทางหลินเฟยด้วยท่าทีท้าทาย เด็กหญิงผู้นี้คิดจะท้าทายอะไรกัน

“หากอาวุธชิ้นนี้ทำร้ายท่านเจี่ยหุนได้จริง สำนักท่านข้าขอก็แล้วกัน”หลินเฟยตอบพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีเอาจริง ท่าทีขัดแย้งกันก่อนหน้านี้ของเจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักหลินเฟยเห็นอย่างชัดเจน ไหนๆรองเจ้าสำนักก็เป็นสหายของหลินเฟยแล้ว ชิงตำแหน่งเจ้าสำนักมาให้มันก็ไม่เลวเลย